ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 อ่านซ้ำอีกครั้ง

บทที่ 1 บังคับให้ฉันเกิดใหม่อย่างนั้นเหรอ


บริษัทอีคอมเมิร์ซแห่งหนึ่งในเมืองอู่

เฉิงจูออกจากห้องไลฟ์สดที่กำลังมีสตรีมเมอร์สาวไลฟ์ขายของอยู่ แล้วกลับเข้าไปในออฟฟิศของตัวเอง

เขาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ คาบบุหรี่อย่างคล่องแคล่ว แล้วหยิบไฟแช็คดยี่ห้อดูเผิงที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา นิ้วโป้งของเฉิงจูดีดขึ้นเพียงครั้งเดียว ฝาไฟแช็คก็เปิดออกพร้อมส่งเสียงดัง "ติ้ง!" อย่างชัดเจน

ไฟแช็คดูเผิงรุ่นนี้ของเขา ราคาขายจากทางการอยู่ที่ 13,200 หยวน

ตามคำพูดของเขา ซื้อมาก็เพื่อฟังเสียงนี้เท่านั้นแหละ

ในออฟฟิศ เฉิงจูสูบบุหรี่อย่างไม่สนใจสิ่งใด ยังเอาเท้าขึ้นวางบนโต๊ะทำงานด้วย เขาหยิบมือถือขึ้นมา เปิดแอพ Tiktok สิ่งแรกที่เห็นคือสตรีมเมอร์สาวในสังกัดของเขากำลังขายของอย่างขะมักเขม้น

เฉิงจูดูอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เลื่อนผ่านไป

"ฝีมือการทำงานของอีอี้ ฉันวางใจได้"

อีอี้เป็นสตรีมเมอร์อันดับหนึ่งในบริษัทของเขา เป็นคนที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง แค่เธอคนเดียวก็ทำเงินให้เขาได้เกือบร้อยล้านต่อปีแล้ว

แน่นอนว่ายังห่างชั้นกับพวกสตรีมเมอร์ระดับท็อปที่ขายของเก่ง

แต่ก็เพียงพอให้เฉิงจูทำเงินได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว

เฉิงจูก็ดีกับเธอเช่นกัน บางครั้งเขาก็จะคุยงานโปรเจกต์มูลค่าหลายร้อยล้านกับเธอในห้องสวีทของโรงแรมระดับห้าดาว

ช่วยไม่ได้ เฉิงจูเป็นประธานบริษัท อีอี้ก็รู้จักโตเร็ว

ส่วนคลิป Tiktok ถัดไปที่เขาเลื่อนมาเจอ เป็นแบบโต้ตอบ

ในภาพเขียนประโยคว่า

"ถ้าให้โอกาสคุณย้อนเวลากลับไปเกิดใหม่ คุณอยากได้ไหม?"

คลิปนี้มีคอมเมนต์ทั้งหมดกว่าสองพันคอมเมนต์

เฉิงจูที่กำลังเบื่อๆ คลิกเข้าไปดู ส่วนใหญ่ก็บอกว่าอยากได้อย่างที่คาด

บางคนอยากย้อนกลับไปแก้ไขเรื่องความรัก บางคนอยากกลับไปหาเงิน บางคนอยากตั้งใจเรียน... มีครบทุกแบบ

เฉิงจูคาบบุหรี่พลางพิมพ์คอมเมนต์ว่า

"ไม่อยาก"

แล้วยังแนบรูปภาพด้วย

เป็นภาพสกรีนช็อตยอดเงินในบัตรเครดิตใบหนึ่งของเขา แค่บัตรใบนี้ใบเดียวก็มีเงินกว่าหกล้านแล้ว

อายุน้อยแต่รวยเป็นเศรษฐี แค่บัตรใบเดียวก็มีเงินกว่าหกล้าน จะย้อนเวลาทำไม! ย้อนกลับไปตอนจนๆ ไปเป็นไอ้โง่เหรอ?

ในกลุ่มเพื่อนๆ เฉิงจูได้รับการยอมรับว่าเป็นราชาโม้ มีลีลาโอ้อวดเก่งที่สุด

แม้ว่าการโม้จะเป็นสัญชาตญาณของคนส่วนใหญ่ แต่ไอ้นี่มันโม้ได้เก่งจริงๆ ว่ะ!

เขาใช้ชีวิตอย่างสบายกว่าคนส่วนใหญ่ ยังมีความเป็นตัวของตัวเองอีกต่างหาก

ไม่เหมือนเพื่อนบางคนของเขา ที่อยากจะโม้ยังต้องอ้อมค้อมก่อน

ส่วนคอมเมนต์ของเขา ก็โดดเด่นสะดุดตาท่ามกลางคอมเมนต์นับพันเหล่านั้น ไม่นานเขาก็ได้รับการตอบกลับหลายข้อความ

"หารูปมาจากไหนเนี่ย ดูเหมือนจริงด้วย"

"พวกเบลอๆ แบบนี้ถือว่าเป็นภาพปลอมหมด"

"ถ้าเป็นในชีวิตจริง คุณมีเงินหกล้านในบัตรใบเดียวผมจะเรียกคุณว่าพี่ใหญ่ แต่นี่มัน Tiktok ผมขอบอกว่าคุณยังทำได้ไม่ถึงไหนเลย"

"เฮ้ย โดนมันโม้เข้าให้แล้ว!"

"ลบซะ แล้วให้ผมโพสต์แทน!"

"รูปแบบนี้กูมีในมือถือเป็นหมื่นภาพ!"

เฉิงจูดับบุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่ ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ ไม่สนใจตอบคอมเมนต์พวกนี้

เมื่อแสงไฟของบุหรี่ดับสนิท เขาก็รู้สึกมึนงงขึ้นมาทันที

จากนั้นก็หมดสติไป

...

...

"เฉิงจู! เฉิงจู!"

เสียงผู้หญิงดังขึ้นข้างหูเขา

สายตาค่อยๆ กลับมาชัดเจน เขาเห็นสาวน้อยผมยาวสีน้ำตาลคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าโกรธจัด

ส่วนบนพื้นก็มีบุหรี่กระจัดกระจายอยู่

ภาพตรงหน้าทำให้เฉิงจูรู้สึกคุ้นเคย แต่นึกไม่ออกในทันที

รอบๆ เขากับสาวน้อยยังมีชายสองคนหญิงหนึ่งคนยืนอยู่ด้วย

ชายคนหนึ่งพูดกับเฉิงจูว่า

"เฉิงจู นายจะมาแสดงเป็นคนเศร้าทำไม? สูบบุหรี่มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ แล้วนายก็ไม่ควรพูดกับหลี่ ซินเยว่แบบนั้นด้วย"

ในทันใดนั้น เฉิงจูก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา ความทรงจำมากมายที่เลือนรางไปแล้วเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ - เฮ้ย ความทรงจำที่ตายไปแล้วกำลังโจมตีฉัน!

เขานึกออกว่านี่คือช่วงฤดูร้อนปี 2014 ช่วงปิดเทอมหลังจบมัธยมปลาย ตัวเขาเพิ่งคบกับสาวที่ชื่อหลี่ ซินเยว่คนนี้ เป็นความรักครั้งแรกในชีวิต

ตอนนี้เป็นการทะเลาะกันครั้งใหญ่ครั้งแรก หลี่ ซินเยว่ขอเลิก

วัยรุ่นช่วงวัยนี้มักมีความเป็นวัยแสบและไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่บ้าง เฉิงจูที่เสียใจสุดๆ ก็เริ่มหัดสูบบุหรี่ และยังจงใจสูบให้หลี่ ซินเยว่เห็นด้วย

มันคล้ายกับพวกผู้หญิงที่เลิกกับแฟนแล้วไปดื่มเหล้าเมา จงใจโทรหาผู้ชายตอนเมาเพื่อแสดงความเจ็บปวดของตัวเอง

ภายหลังเมื่อนึกถึงว่าตัวเองเริ่มสูบบุหรี่มาแบบนี้ ทำประโยชน์ให้ค่าภาษีของประเทศ เขาก็รู้สึกว่าช่างโง่เหลือเกิน

ส่วนผู้ชายที่เพิ่งว่าเฉิงจูไปเมื่อกี้ เป็นหัวหน้าห้องของพวกเขา ชื่อหลี่ รุ่ย

เรียนเก่งไม่เลว ที่บ้านก็รวย พ่อขับรถเบนซ์ S350 แต่จริงๆ แล้วเป็นรุ่น S300 เอาป้ายมาแปะเป็น S350

หลี่ รุ่ยชอบหลี่ ซินเยว่มาตลอด พ่อแม่ของทั้งสองบ้านดูเหมือนจะเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

แต่มีคำพูดหนึ่งบอกว่ายังไงนะ?

เพื่อนเล่นวัยเด็กสู้คนที่โผล่มาทีหลังไม่ได้

หลี่ รุ่ยตัวไม่สูง หน้าตาก็ไม่หล่อ ไม่เหมือนเฉิงจูที่สูง 182 หน้าตาดีมีเสน่ห์แบบเจ้าเล่ห์ ในความรักครั้งแรกนี้ สิ่งที่เฉิงจูรำคาญที่สุดคือหลี่ รุ่ย

อ้างว่าเป็นเพื่อนสนิท ทุกวันก็หาเรื่องคุยกับหลี่ ซินเยว่ ทุกครั้งที่คู่รักทะเลาะกัน เขาก็จะรีบไปหาหลี่ ซินเยว่ทันที คอยปลอบโยนสารพัด ยังชวนไปกินข้าวดูหนังด้วย แต่อ้างว่าเป็นเพราะพวกเราโตมาด้วยกัน

พอมีโอกาส เขาก็จะพยายามแสดงให้เห็นว่าตัวเองอ่อนโยนเอาใจใส่แค่ไหน เป็นสุภาพบุรุษอบอุ่นอย่างแท้จริง

น่าเสียดายที่หลี่ ซินเยว่ในตอนนี้ยังเป็นสาวติดคนหล่อ ยังไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นสายรักเงินอย่างเต็มตัว

ความทรงจำเก่าๆ ยังคงโจมตีเฉิงจูไม่หยุด เขานึกออกว่าหลังจากทะเลาะกันครั้งนี้ เขาก็ต้องกลับไปขอโทษหลี่ ซินเยว่อีกครั้งอย่างน่าอับอาย

ทั้งๆ ที่สาเหตุของการทะเลาะครั้งนี้เป็นเพราะเธอทำตัวน่ารำคาญเกินไป แต่สำหรับเฉิงจูในตอนนั้น พอเธอพูดคำว่าเลิกกัน เขาก็จะยอมแพ้อย่างโง่เขลาทันที

แน่นอนว่าผลสุดท้ายคือทั้งคู่ก็คืนดีกัน ส่วนหลี่ รุ่ยก็เหมือนเครื่องมือ หลังจากปลอบหลี่ ซินเยว่อยู่สามวัน ก็ถูกเธอเตะออกไปอีกครั้ง และได้รับบัตรเพื่อนแทนพี่ชายที่ดี ยุคนั้น พวกนักเรียนยังนิยมรับพี่รับน้องกันอยู่

เหมือนกับที่เสี่ยวซงยังร้องเพลงว่า

"เธอเป็นแค่น้องสาวของฉัน~~"

ตอนนี้ หลี่ รุ่ยเห็นเฉิงจูยังคงไม่พูดอะไร จึงอดไม่ได้ที่จะพูดอีกว่า

"เฉิงจู นายมาหัดสูบบุหรี่ก็ไม่ถูกอยู่แล้ว นายไม่เห็นหรือว่าซินเยว่โกรธขนาดไหน?"

จากชายหญิงอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ชายคนหนึ่งผิวคล้ำและมีสิวบนใบหน้าพูดว่า

"พี่จู เราอย่าสูบบุหรี่เลยครับ มันไม่ดีต่อสุขภาพจริงๆ นะ"

เฉิงจูมองชายที่ชื่อหวัง อันเฉียนคนนี้ สายตาอ่อนโยนลงเล็กน้อย

พ่อของหวัง อันเฉียนเป็นนักดับเพลิง ตามคำพูดที่ว่า

"ความปลอดภัยต้องมาก่อน" จึงตั้งชื่อลูกชายสุดที่รักแบบนี้ (อันเฉียน แปลว่า ปลอดภัย)

เขาเป็นเพื่อนนั่งโต๊ะเดียวกับเฉิงจูในโรงเรียนมัธยมปลาย ทั้งคู่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ถือเป็นเพื่อนสนิทในวัยเรียน

ส่วนผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหวัง อันเฉียน ชื่อเฉิน หรงหรง เป็นเพื่อนสนิทของหลี่ ซินเยว่

แม้จะบอกเฉิงจูอย่างเดียวกันว่าอย่าสูบบุหรี่ แต่หลี่ รุ่ยพูดเพื่อฉวยโอกาสเหยียบย่ำเขา ส่วนหวัง อันเฉียนพูดเพราะเป็นห่วงจริงๆ

เขาหันไปมองหลี่ รุ่ย มองหัวหน้าห้องคนนี้ที่พยายามไม่ลดละในการเอาจอบมาขุด หวังจะทำลายกำแพงและขึ้นมาแทนที่ทุกวัน แล้วหรี่ตายิ้มพูดว่า

"นายรู้จักประโยคนี้ไหม: ผู้ชายอบอุ่นต้องเรียงหลังหมาเลีย"

แกมันอยู่ระดับไหน กล้ามาแย่งแฟนเขา

ถ้าเรียงลำดับตามสถานะ ผู้ชายอบอุ่นยังต้องเรียงหลังหมาเลียอีก

ถึงแม้ครั้งนี้จะไม่ได้คืนดีกับหลี่ ซินเยว่จริงๆ ก็ไม่ถึงคิวแกหรอกไอ้แกะเดือด

แต่ยุคนั้นคงยังไม่มีความคิดแบบนี้ ดูเหมือนคำว่าผู้ชายอบอุ่นจะยังเป็นคำชมอยู่เลย หลี่ รุ่ยแม้จะไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของเฉิงจูทั้งหมด แต่ใครไม่โง่ก็รู้ว่าเขากำลังด่า

"เฉิงจู แกมัน... แก..."

ต่อหน้าหลี่ ซินเยว่ เขาถึงกับกลั้นคำว่า "แกมันไอ้..." เอาไว้ได้ พยายามรักษาภาพลักษณ์สุภาพบุรุษและผู้ชายอบอุ่นของตัวเอง

สุดท้ายเขาก็แค่พูดเสียงดังขึ้นนิดหน่อยว่า

"นายหมายความว่าไง!?"

"หมายความว่าไงน่ะเหรอ? ยังต้องถามอีกเหรอ?" เฉิงจูเลิกคิ้วเล็กน้อย

เขายิ้มกว้างแล้วพูดว่า

"ปกติฉันไม่ค่อยพูดอะไรที่ทำให้คนอื่นอับอาย แต่ถ้าฉันพูดแล้วล่ะก็..."

เฉิงจูหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วยิ้มกว้างขึ้นอีก

"นั่นก็แปลว่าฉันอยากทำให้นายอับอายจริงๆ น่ะสิ"

-----------

LuLu Talk :

สวัสดีค่า ผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ลองเอาแนวใหม่มาลองแปลดู เป็นแนวยุคปัจจุบันบ้าง (แต่พระเอกย้อนอดีตกลับมานะ 55555) ชอบไม่ชอบยังไงฟีดแบคได้นะคะ ฝากติดตามด้วยค่า

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด