บทที่ 45 ซูจุนโม่ (II)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 45 ซูจุนโม่ (II)
"การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้น" เสวี่ยจินเหวินเตือนนาง
"เจ้าค่ะ" เหมิงฉีพยักหน้า นางสงบสติอารมณ์และหยุดคิดถึงซูจุนโม่
ในเวลาเดียวกัน ที่ยอดเขาสูงล้อมรอบหอประมูลแดนเหนือสวรรค์ มีลานขนาดใหญ่ครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ของกำแพงภูเขาที่ล้อมรอบด้วยเมฆและหมอก สถานที่แห่งนี้อยู่ในส่วนที่สูงที่สุดของเรือนประมูลและมีลานทั้งหมดสองแห่ง
ลานเรือนนี้แตกต่างจากห้องเล็กๆ ที่เหมิงฉีและเสวี่ยจินเหวินอยู่โดยสิ้นเชิง มันกว้างขวางและมีสวนดอกไม้อยู่ด้วย มีสระน้ำที่สวยงามภายในสวน และบางครั้งก็มีปลาทองสีสันสดใสกระโดดขึ้นจากน้ำ มีการปลูกดอกไม้และพืชแปลกใหม่มากมาย ทำให้ลานเรือนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมจางๆ มันทั้งดูสดชื่นและสบายมาก
ข้างนอกประตู ซูจุนโม่ยืนอยู่ด้วยความเคารพ ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความเคารพ ความเย็นชาและความภาคภูมิใจที่เหมิงฉีเห็นเมื่อครู่นี้หายไปจากใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาทันที
"นายท่านขอรับ" ซูจุนโม่เรียก เสียงใสของเขาสั่นเล็กน้อย ราวกับไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง "ตั้งแต่ท่านหายตัวไป พวกเราทุกคนต่างตามหาท่าน ตอนนี้ตระกูลต่างๆ กำลังต่อสู้กันอีกครั้ง อีกเก้าปี จะมีการเลือกตั้งเจ้าแห่งมารคนต่อไป คนโง่หลายคนคิดว่าพวกมันจะสามารถใช้ประโยชน์จากการหายตัวไปของท่านได้ พวกมันจึงกำลังเริ่มรวบรวมกำลังพลและเคลื่อนไหวกันแล้ว..."
"ข้ารู้แล้ว" เสียงของชายคนหนึ่งที่ดูขี้เกียจและเฉยเมยขัดจังหวะคำพูดของซูจุนโม่ทันที "ปล่อยให้พวกมันสู้กัน"
เสียงฝีเท้าดังมาจากห้อง และไม่นานนัก ชายในอาภรณ์คลุมสีขาวก็เดินออกมาอย่างช้าๆ ซูจุนโม่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เขาก้มมองพื้นและยืนอยู่ข้างชายคนนั้นด้วยความเคารพ ซูจุนโม่ติดตามท่านมานานและสามารถแยกแยะนิสัยของอีกฝ่ายได้บ้าง เขารู้ว่าถึงภายนอกเจ้านายดูขี้เกียจและเฉยเมย แต่แท้จริงแล้วเขากำลังโกรธอยู่
"เรื่องของตระกูล..."
"การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว" ชายอาภรณ์ขาวยกมือขึ้นและหยุดคำพูดของซูจุนโม่
"ขอรับ" ซูจุนโม่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังปิดปากอย่างเชื่อฟัง หอประมูลแดนเหนือสวรรค์จัดการประมูลสามครั้งต่อเดือน แม้ว่าบางครั้งจะยังมีสมบัติหายากและมีค่า แต่ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น ซูจุนโม่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้านายของเขาถึงให้เกียรติมาที่นี่ หากนายท่านไม่เรียกมาที่นี่ เขาคงไม่มีทางมายังหอประมูลแดนเหนือสวรรค์หรอก
"นายท่านสนใจในสิ่งของประมูลงั้นหรือขอรับ?" ซูจุนโม่ถามด้วยความเคารพ ตอนที่เขาดูรายชื่อประมูลอย่างรวดเร็ว มันดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษเลย บางทีสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคืออันแรกกระมัง มันเป็นโอสถเป่ยหมิงขั้นที่สอง ซูจุนโม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นรายชื่อประมูลของวันนี้ ไม่ต้องพูดถึงหอประมูลแดนเหนือสวรรค์ ต่อให้เป็นหอประมูลอื่น มันก็เป็นเวลานานมากแล้วที่จะมีโอสถขั้นต่ำเช่นนี้มาประมูลขาย
ชายในอาภรณ์สีขาวไม่ตอบ แต่มีแสงแวววับในดวงตาของเขา เขายกคิ้วขึ้นอย่างละเอียด คำถามของซูจุนโม่ดูเหมือนจะทำให้เขานึกถึงบางสิ่ง รอยยิ้มจางๆ พลันปรากฏขึ้นในดวงตาที่เหมือนดวงดาวของเขา สีหน้าเกียจคร้านบนใบหน้าของเขาหายไป มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
ในแง่ของรูปลักษณ์ภายนอก ซูจุนโม่ถือได้ว่าหล่อเหลามาก อาจจะมากกว่าคุณชายของวังสวรรค์เฟินเทียนด้วยซ้ำไป แต่ต่อหน้าชายอาภรณ์สีขาว เขานั้นดูจืดชืดมากหากเปรียบกัน ยิ่งกว่านั้น อีกฝ่ายยัง...
ชายอาภรณ์สีขาวโบกแขน และเมฆก็ค่อยๆ หายไป บนชานชาลาสูงที่ทำจากหินสีฟ้า มีผู้บ่มเพาะวัยกลางคนยืนอยู่ตรงกลางแล้ว
การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้น และความสนใจของเหมิงฉียังมุ่งไปที่ผู้บ่มเพาะวัยกลางคนบนเวที นางดูผ่อนคลาย ราวกับว่านางไม่รู้สึกประหม่าเลย แต่เสวี่ยจินเหวินกลับเหลือบมองชายที่ดูแลการประมูลก่อนจะหันไปหาเหมิงฉี
"เสี่ยวชี" นางเรียกชื่อที่เหมิงฉีใช้สำหรับป้ายชื่อของนาง "เจ้าไม่กังวลเหรอ?"
"นิดหน่อย" เหมิงฉีส่ายหัวก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง ตั้งแต่เมื่อครู่ที่ผ่านมา นางรู้สึกแปลกๆ ตามที่เสวี่ยจินเหวินกล่าว ผู้บ่มเพาะที่เข้าร่วมการประมูลไม่ควรเห็นคนในห้องอื่น แต่นางรู้สึกเสมอว่ามีคนกำลังมองนางอยู่ และสายตานั้นมาจากเบื้องบน ราวกับว่าคนๆ นั้นกำลังตรวจสอบนางด้วยความสนใจ
เป็นแค่นึกฝันไปเองหรือเปล่า? เหมิงฉีค่อยๆ ถอนสายตา
"พี่สาวเสวี่ย" เหมิงฉีหันกลับมาถามเสวี่ยจินเหวิน "สหายเต๋าซูจุนโม่อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?"
"ใช่" เสวี่ยจินเหวินพยักหน้า "ซูจุนโม่มีชื่อเสียงมากในแดนเหนือสวรรค์" นางกล่าวว่า "อย่ามองรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ของเขา ชายคนนั้นอยู่ในขั้นที่หนึ่งของขั้นตัดวิญญาณแล้ว"
เหมิงฉีพยักหน้า นางเหลือบมองเสวี่ยจินเหวิน รู้สึกแปลกๆ ไม่น่าแปลกใจที่นางจะรู้ว่าซูจุนโม่อยู่ในขั้นตัดวิญญาณ เหมิงฉียังเห็นหางทั้งห้าของชายคนนั้น
อย่างไรก็ตาม… เสวี่ยจินเหวินไม่รู้หรือว่าซูจุนโม่เป็นจิ้งจอกขาว เป็นมารที่ฝึกตน?
"เขาเคยจัดงานเลี้ยงในร้านอาหารแดนเหนือสวรรค์ กลิ่นหอมจากงานเลี้ยงสามารถได้กลิ่นไปทั่วเมืองแดนเหนือสวรรค์ ทุกคนที่นี่มีสัมผัสวิญญาณที่เฉียบแหลม อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถเดาได้ว่ามีส่วนผสมล้ำค่าอะไรบ้างที่ใช้ในจาน" เสวี่ยจินเหวินบอกกับเหมิงฉี แม้แต่คุณหนูรองเสวี่ย ซึ่งมาจากสำนักใหญ่ของแดนบูรพา ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงและละสายตาเมื่อพูดถึงซูจุนโม่ แต่ใครจะคิดว่าขุนนางมารที่หล่อเหลาและทรงพลังเป็นพิเศษคนนี้จะตกอยู่ภายใต้กระโปรงของลู่ชิงหรัน?
สวรรค์โปรดปรานธิดาแห่งสวรรค์อย่างแท้จริงก็ไม่อาจประมาทได้
"บางคนบอกว่า..." เสวี่ยจินเหวินลดเสียงลง "เขารู้จักเจ้าของที่นี่"
"โอ้?" เหมิงฉียกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ
"แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข่าวลือ และไม่มีใครรู้ความจริง" เสวี่ยจินเหวินยิ้มและลูบผมของนาง "มักจะมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเจ้าของแดนเหนือสวรรค์ และพวกเราทุกคนก็คุ้นเคยกับมันแล้ว"
หลังจากที่เสวี่ยจินเหวินพูดจบ เสียงใสก็ดังขึ้นจากเวที ผู้บ่มเพาะวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงกลางอ้าปากตะโกนว่า "การประมูลเริ่มขึ้น"