ตอนที่แล้วบทที่ 42 การประมูล (I)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44 ซูจุนโม่ (I)

บทที่ 43 การประมูล (II)


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

บทที่ 43 การประมูล (II)

เหมิงฉีกลับมาที่หอนอนของนางอย่างรวดเร็ว เสือขาวตัวน้อยยังคงนอนตะแคงอยู่ มันยื่นอุ้งเท้าหน้าที่บาดเจ็บออกไปอย่างชาญฉลาด ขณะที่ดวงตาหรี่ลงอย่างเกียจคร้าน เมื่อเหมิงฉีลืมตาขึ้น เจ้าตัวน้อยก็เงยหน้าขึ้นมองนางเช่นกัน

"เสี่ยวชี" เหมิงฉีลูบหัวและบีบหูของมันอย่างมีความสุข ทำไมนางถึงไม่เคยมีความคิดที่จะเลี้ยงสัตว์วิญญาณขนฟูมาก่อนนะ?

น่ารักจริงๆ

ยิ่งเห็นแล้ว ยิ่งติดใจมาก!

"ข้าจะไปเอาหญ้าอีกาเหมันต์เร็วๆ นี้" เหมิงฉีบอกเสือตัวน้อย นางกระโดดลงจากเตียงและเดินไปที่ประตู "ข้าจะไปที่หอตำรา ส่วนเจ้านอนอยู่ในหอนอนของข้าอย่างว่าง่ายนะ"

ผู้อาวุโสเหยียนไม่อยู่ในหอตำรา หากไม่ได้รับอนุญาตจากเขา ศิษย์จะไม่สามารถขึ้นไปชั้นสี่หรือหยิบตำราที่นั่นออกมาได้ เหมิงฉีรู้สึกผิดหวังและถามศิษย์ที่เฝ้าประตูว่า "ศิษย์พี่ ผู้อาวุโสเหยียนอยู่ที่ไหน? ท่านบอกข้าได้ไหมว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่?"

"ศิษย์น้องไม่รู้หรือ?“วันนั้นในห้องโถงใหญ่ ผู้อาวุโสหยวนอิงจากวังสวรรค์เฟินเทียนได้เชิญเหมิงฉีเป็นการส่วนตัวให้เข้าร่วมสำนักของพวกเขา เกือบทุกศิษย์ของหุบเขาชิงเฟิงต่างเห็นดีเห็นงามด้วย ดังนั้นศิษย์ที่รับผิดชอบเฝ้าประตูหอตำราและช่วยเหลือผู้อาวุโสเหยียนจึงปฏิบัติต่อเหมิงฉีอย่างสุภาพ”ผู้อาวุโสของเราทุกคนกำลังออกไปกับเจ้าสำนักและผู้อาวุโสจากวังสวรรค์เฟินเทียน คุณชายฉู่ก็อยู่กับพวกเขาด้วย พวกเขากำลังจะไปกำจัดมารกัน"

"กำจัดมาร?" เหมิงฉีแข็งค้างไป

"ถูกต้อง" ศิษย์พยักหน้า "ผู้อาวุโสซุนเหยียนจากวังสวรรค์เฟินเทียนเป็นผู้นำกลุ่ม ก่อนออกเดินทาง พวกเขาคาดว่าจะไม่อยู่ประมาณสิบวันถึงครึ่งเดือน"

"ข้าเข้าใจแล้ว" เหมิงฉีพยักหน้า นางจำเรื่องนี้ได้ แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้าของนาง แต่ในเวลานี้นางก็ยังคงถูกขังอยู่ในคุกใต้ดิน หลังจากได้รับการปล่อยตัว มีคนบอกนางว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานั้น กำลังเสริมจากวังสวรรค์เฟินเทียนมาถึงตรงเวลา ทั้งหุบเขาชิงเฟิงทั้งหมดและแม้แต่ชาวเมืองชิงเฟิงธรรมดาก็ได้รับการช่วยเหลือจากการถูกทำลายล้าง

หลังจากเหตุการณ์นั้น หุบเขาชิงเฟิงผนวกรวมเข้ากับวังสวรรค์เฟินเทียนและกลายเป็นสาขาเล็กๆ ของสำนักใหญ่ แน่นอนว่าเพราะลู่ชิงหรัน ทุกคนในวังสวรรค์เฟินเทียนจึงใจดีต่อศิษย์ของหุบเขาชิงเฟิง พวกเขายังได้รับสถานที่ใกล้กับยอดเขาหลักของวังสวรรค์เฟินเทียน โดยมันเป็นสถานที่ซึ่งมีกลิ่นไอวิญญาณเหนือกว่าหุบเขาชิงเฟิงมาก

ในชีวิตนี้ ฉู่เทียนเฟิงฟื้นตัวเร็วขึ้น และผู้อาวุโสซุนเหยียนเป็นผู้นำกลุ่มด้วยตัวเอง คาดว่าการต่อสู้คงจะราบรื่นขึ้นอย่างยิ่ง

เหมิงฉีโล่งใจจึงคำนับศิษย์พี่ "ขอบคุณเจ้าค่ะศิษย์พี่ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน"

ผู้อาวุโสเหยียนไม่อยู่ที่นี่ ดังนั้นเหมิงฉีจึงอ่านตำราบนชั้นสี่ไม่ได้ นางท่องตำราทั้งหมดตั้งแต่ชั้นหนึ่งถึงชั้นสามจบแล้ว เหมิงฉีลงเขาไปที่เมืองชิงเฟิงโดยตรง วางแผนที่จะส่งโอสถเป่ยหมิงทั้งสามเม็ดให้เสวี่ยจินเหวินโดยเร็วที่สุด

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ เหมิงฉีก็กลับไปที่หอนอนของนาง เสี่ยวชียังคงนอนอยู่บนเตียงไม้ไผ่อย่างเกียจคร้าน มันเงยหน้าขึ้นมองเหมิงฉีเมื่อได้ยินเสียงนางผลักประตูเข้ามา เหมิงฉีไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการบาดเจ็บของมันหรือเปล่า แต่เสี่ยวชีนั้นดูเกียจคร้านอยู่เสมอเลย

เหมิงฉีตรวจดูบาดแผลที่อุ้งเท้าหน้าของมัน มันยังคงมีเลือดออกอย่างช้าๆ ภายในบาดแผล แสงสีเงินวูบวาบอย่างน่ากลัว

เหมิงฉีบีบอุ้งเท้าปุยๆ ของเสี่ยวชีอย่างเบามือด้วยความทุกข์ใจ "วันนี้พักผ่อนแต่หัวค่ำนะ" นางรีบนอนลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว

เสี่ยวชี "???"

มันไม่มีเวลาถอยกลับไปที่ผนัง เหมิงฉีผู้ซึ่งคุ้นเคยกับการทำเช่นนี้แม้ผ่านไปเพียงคืนเดียว ก็ได้อุ้มมันขึ้นมาแล้วกักขังร่างเล็ก ๆ ของมันไว้ในอ้อมแขนของนางแล้ว "พรุ่งนี้จะมีการประมูล ข้าต้องตื่นแต่เช้า...อย่าซนล่ะ!"

เส้นผมนุ่มสลวยของหญิงสาวกระจายอยู่บนเตียงไม้ไผ่ ปะปนกับขนสีขาวนุ่มของเสือตัวน้อย ลมหายใจของนางค่อยๆ เป็นปกติ และร่างกายของนางก็มีกลิ่นโอสถจางๆ ตามเดิม

ร่างกายของเสี่ยวชีแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง แต่ค่อยๆ ผ่อนคลายลง เหมิงฉีระวังตัวมากแม้ในขณะที่นางกอดเขา นางก็ยังหลีกเลี่ยงบาดแผลของมันอย่างระมัดระวัง

แค่……

เสือสีขาวตัวน้อยค่อยๆ ยื่นอุ้งเท้าออกไปวางบนข้อมือเรียวของเหมิงฉี กับผู้บ่มเพาะที่ยังไม่ได้สร้างรากฐาน แค่การโจมตีเพียงเล็กน้อยจากมันก็จะสามารถสะบั้นชีวิตของนางได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นมันจึงไม่ได้กลัวนางเลย! แค่เพียงเพราะว่าอาการบาดเจ็บของมันรุนแรงเกินไปต่างหาก มันจึงไม่อยากทำอะไร เสือขาวตัวน้อยได้ค่อยๆ หลับตาลง ระดับลมหายใจของมันก็เริ่มกลับเป็นปกติ

วันรุ่งขึ้น เหมิงฉีตื่นแต่เช้า ในเวลาที่นัดหมายกับเสวี่ยจินเหวิน นางมาถึงนอกลานเรือนบนเกาะลอยน้ำของหอประมูลสวรรค์ทันที

"ไปกันเถอะ"

การประมูลเริ่มอย่างเป็นทางการเวลายามเช้า เสวี่ยจินเหวินพาเหมิงฉีไปที่ชั้นประมูลซึ่งตั้งอยู่กลางเกาะและอธิบายสั้นๆ บนถนน "กฎการประมูลของแดนเหนือสวรรค์นั้นเหมือนกันสำหรับทั้งสามภพประมูล ได้แก่  โลก สวรรค์ และ ห้วงลึก"

"รายการที่มีอันดับต่ำที่สุดจะถูกประมูลก่อน และจะไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับสูงสุด" นางกล่าวว่า "สิ่งดึงดูดใจหลักมักจะถูกเก็บไว้เป็นรอบสุดท้าย เป็นเวลานานแล้วที่ไม่มีการประมูลสำหรับของที่ระดับต่ำอย่างโอสถขั้นที่สอง..." เสวี่ยจินเหวินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "ดังนั้น โอสถเป่ยหมิงของเจ้าจะเป็นของชิ้นแรกในวันนี้"

เหมิงฉีพยักหน้า "ขอบคุณท่านพี่มากเจ้าค่ะ"

"พวกเรามาถึงแล้ว" เสวี่ยจินเหวินหยุด "ที่นี่คือหอประมูลสวรรค์ของแดนเหนือสวรรค์ ไม่มีใครรู้เลยว่ามีสมบัติจากสามภพไหลเข้าและออกจากที่นี่มากมายแค่ไหน"

ในขณะที่ฟังคำพูดของเสวี่ยจินเหวิน เหมิงฉีเงยหน้าขึ้นมอง ตรงหน้าของนางมีลานเรือนที่ดูไม่โอ่อ่า เมื่อมองจากภายนอก ก็ไม่ได้ใหญ่เท่าลานเรือนที่เสวี่ยจินเหวินอาศัยอยู่ด้วยซ้ำ แต่อาคารนั้นเก่าแก่และเรียบง่าย ล้อมรอบด้วยเมฆและหมอก ดูเหมือนตำหนักสวรรค์ลึกลับ

อาจเป็นเพราะการประมูลในวันนี้ ไม่นานหลังจากที่เหมิงฉีและเสวี่ยจินเหวินมาถึง ก็มีผู้บ่มเพาะจำนวนมากเดินไปที่ลานของเรือนอย่างต่อเนื่อง สถานที่ดังกล่าวดูเหมือนจะไม่กว้างใหญ่นัก แต่ไม่ว่าจะมีคนเข้าไปมากแค่ไหน ก็ยังไม่มีสัญญาณของความแออัดอยู่เลย

สายตาของเหมิงฉีมองไปรอบๆ ผู้บ่มเพาะ เสวี่ยจินเหวินอธิบายต่ออีกว่า "เพื่อปกป้องตัวตนของผู้ซื้อที่เข้าร่วมในการประมูล ระบบที่นี่จะกำหนดพื้นที่แยกต่างหากสำหรับแต่ละคน" นางเดินไปข้างหน้าและพูดว่า"เจ้ามากับข้าสิ"

เหมิงฉีตกใจและกำลังจะตามเสวี่ยจินเหวินไป ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งผ่านนางไป

ชายคนนั้นตัวสูง สวมอาภรณ์คลุมสีขาวและเดินเร็วมาก เหมิงฉีไม่เห็นเขาเดินหลายก้าว แต่ร่างของเขากลับพุ่งผ่านนางไปทันที นางมองเห็นเพียงด้านหลังที่สูงและโปร่งของบุคคลนั้น ผมสีดำของเขาถูกมัดไว้บนศีรษะด้วยผ้าโพกศีรษะหยกสีขาว และแขนอาภรณ์ยาวของเขาโบกสะบัดเหมือนเทพเซียน

ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายรู้สึกถึงสายตาของเหมิงฉี ชายอาภรณ์สีขาวก็หันกลับมามองเล็กน้อย เผยให้เห็นกรามที่บอบบางของเขา ถึงอีกฝ่ายจะรีบร้อนเพียงใด ใบหน้าของเขาท่ามกลางผู้คนที่สวยงามและหล่อเหล่านับไม่ถ้วนในสามภพก็ยังถือได้ว่าเป็นใบหน้าขั้นสูง น่าดึงดูดและดูสูงส่งมาก หลายคนเพียงเห็นอาจต้องหลงเสน่ห์รูปลักษณ์ของเขาไปแล้ว

เหมิงฉีเบิกตากว้างทันที

นั่นมัน-

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด