บทที่ 41 โอสถเป่ยหมิง (II)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 41 โอสถเป่ยหมิง (II)
เมื่อเห็นเหมิงฉีมองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เจ้าของร้านที่พานางมาจึงอธิบายอย่างรวดเร็ว "เรือนและลานของเรือนที่นี่เป็นของแดนเหนือสวรรค์ทั้งหมด แต่ยิ่งผู้ประเมินมีตำแหน่งสูงเท่าไร ก็ยิ่งเลือกเรือนได้ดีขึ้นเท่านั้น" เขาเสริมด้วยรอยยิ้ม "ถ้าเจ้าไปที่หอประมูลสวรรค์ ลานของเรือนที่นั่นจะดูเหมือนสวนภูมิทัศน์ งดงามยิ่งนัก"
"ข้าเข้าใจแล้ว" เหมิงฉีพยักหน้า "นี่เป็นกฎที่เจ้าของแดนเหนือสวรรค์ตั้งไว้หรือ?"
"ใช่" เขาตอบ "เจ้าแดนเหนือสวรรค์เคยกล่าวไว้ว่า ยิ่งทักษะของคนผู้นั้นสูงเท่าไร ก็ยิ่งควรได้รับการปฏิบัติที่ดีขึ้นเท่านั้น"
"เป็นเช่นนั้นเอง" เหมิงฉีพยักหน้า
"ดังนั้นจึงมีผู้บ่มเพาะจากทั่วสามภพจำนวนมากที่เต็มใจทำงานที่นี่"
"ข้าเข้าใจแล้ว" เหมิงฉีพยักหน้าอีกครั้ง อันที่จริงสิ่งนี้เพิ่มความอยากรู้อยากเห็นอีกอย่างหนึ่ง คนที่ทำงานที่นี่ใช้แผ่นหยกเหมือนกับนางหรือไม่? กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พวกเขารู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วแดนเหนือสวรรค์ตั้งอยู่ที่ไหน?
แต่นางไม่ได้ถามต่อ และเพียงแค่มองดูเจ้าของร้านก้าวไปข้างหน้าเพื่อเคาะประตูของเสวี่ยจินเหวิน
"เชิญเข้ามา" เสียงของผู้หญิงที่ไพเราะและมีความเกียจคร้านแฝงเล็กน้อยดังมาจากอีกฝั่งของประตู
เจ้าของร้านเปิดประตูและยิ้ม "คุณหนูรองเสวี่ย สหายเต๋าจากเมื่อวันก่อนนี้มาเยี่ยมอีกครั้ง"
"โอ้?!" เสียงที่ฟังดูเกียจคร้านเมื่อครู่นี้ จู่ๆ ก็มีชีวิตชีวาขึ้น ก่อนที่เหมิงฉีจะตอบสนอง เสวี่ยจินเหวินก็ปรากฏตัวต่อหน้านางแล้วพร้อมด้วยอาภรณ์คลุมสีแดง
"พี่สาวรอให้เจ้ามาอีกครั้งนานแล้ว โอสถชิงเฟิงเมื่อวันก่อนนี้... เฮ้อ..." เสวี่ยจินเหวินถอนหายใจพลางมองเหมิงฉีขึ้นๆ ลงๆ ผมยาวสีดำขลับของผู้หญิงคนนั้นถูกมัดเป็นมวยหลวม ๆ และทิ้งไว้บนไหล่ของนาง นางเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์และงดงามยิ่ง จากนั้นนางก็ชมด้วยรอยยิ้มมาว่า "เจ้าช่างมีสมองที่ปราดเปรื่องจริงๆ"
เหมิงฉียิ้มตอบกลับไป นางไม่แปลกใจเลยกับท่าทีของเสวี่ยจินเหวิน หากเปลี่ยนเป็นตัวเอง ถ้าเหมิงฉีเห็นโอสถแบบนี้เป็นครั้งแรก คงเอากลับไปวิจัยไม่ได้ทันทีแน่
ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นศิษย์จากสำนักใหญ่ของแดนประจิมจริงๆ ก็คงมีหลายวิธีที่จะได้โอสถเร็วที่สุด ยิ่งกว่านั้น นางยังเป็นสมาชิกของหอประมูลสวรรค์และทำงานให้กับแดนเหนือสวรรค์ ดังนั้นนางต้องมีช่องทางของตัวเอง
"เจ้ามาที่นี่ในวันนี้มีธุระอะไรหรือ? ข้าได้ยินมาว่าเซี่ยงหลินโม่บอกว่าเจ้าต้องการหญ้าอีกาเหมันต์? มีคนจากแดนเหนือจำนวนมากในสถานที่แห่งนี้ พวกเขาเปิดร้านค้ามากมายในแดนเหนือสวรรค์ เจ้าอาจพบมันในร้านขายโอสถแบบนั้นได้"
"ข้าซื้อมาแล้ว" เหมิงฉีพูด "ข้าเห็นบันทึกเกี่ยวกับหญ้าอีกาเหมันต์ในหนังสือและอยากทำวิจัยด้วยตัวเอง"
รอยยิ้มของเสวี่ยจินเหวินไม่ลดลง "แล้วถ้างั้นเรื่องที่เจ้ามาหาข้าวันนี้คือ..."
เหมิงฉีเซียนขยับมือของนางและหยิบขวดกระเบื้องออกจากกำไลเก็บของ ซึ่งมันบรรจุโอสถที่นางเพิ่งกลั่นในวันนี้
เสวี่ยจินเหวินเอื้อมมือไปหยิบขวดจากนาง "โอสถเป่ยหมิง?" นางประหลาดใจเล็กน้อย
"เอ่อ... โอสถเป่ยหมิงขั้นที่สอง..." เสวี่ยจินเหวินไม่ได้ดูถูกโอสถระดับต่ำเช่นนี้ เพราะโอสถเป่ยหมิงเป็นโอสถที่ใช้ได้ทั่วไปกับผู้บ่มเพาะทุกคน มันสามารถใช้ได้ตั้งแต่ขั้นกลั่นลมปราณไปจนถึงขั้นหลุดพ้น ผู้บ่มเพาะทางการแพทย์หลายคนล้วนเคยผลิตมัน แต่โดยทั่วไปแล้ว ทุกคนจะสามารถกลั่นโอสถเป่ยหมิงได้เท่ากับระดับการบ่มเพาะทางการแพทย์ของตนเอง ประสิทธิภาพของโอสถนี้ล้วนเชื่อมโยงกับระดับของผู้บ่มเพาะ
ส่วนขั้นที่สอง มันจะใช้ได้กับผู้บ่มเพาะระดับขั้นสร้างรากฐาน เสวี่ยจินเหวินจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายที่นางต้องการโอสถที่ระดับต่ำเช่นนี้คือเมื่อไหร่ คนที่เข้าสู่แดนเหนือสวรรค์ได้โดยทั่วไปแล้วจะต้องมีระดับบ่มเพาะสูงกว่าแก่นทองคำสิ
นางตรวจดูโอสถบนฝ่ามือของนาง มันเป็นสีฟ้าเหมือนทะเล จากนั้นนางก็หันไปมองเหมิงฉี หญิงสาวผู้นี้นำโอสถชิงเฟิงขั้นแรกมาเมื่อวานนี้ และวันนี้เป็นโอสถเป่ยหมิงขั้นที่สอง... ดูเหมือนว่านางจะยังอยู่ในขั้นกลั่นลมปราณหรือสร้างรากฐาน
ความคิดนี้ทำให้เสวี่ยจินเหวินได้แต่อยากหัวเราะเยาะตัวเอง คนที่เข้าไปในแดนเหนือสวรรค์จะยังอยู่ในขั้นกลั่นลมปราณได้ยังไง?! แม้แต่ผู้บ่มเพาะแก่นทองคำก็หายากพอแล้ว
"โอสถเป่ยหมิง นี้...หา?" หลังจากตรวจสอบเล็กน้อย นางก็พบความแตกต่างของ โอสถเป่ยหมิง นี้ทันที
"เอ๊ะ" เสวี่ยจินเหวินสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเงยหน้ามองเหมิงฉีด้วยความไม่อยากจะเชื่อ "เจ้าใส่คาถาลงในโอสถเป่ยหมิงั้นหรือ?"
"ใช่" เหมิงฉีพยักหน้า
"ผลลัพธ์คืออะไร?" เสวี่ยจินเหวินถามอีกครั้ง อันที่จริงนางเดาได้อย่างคลุมเครือ แต่ก็ยังรอคำตอบของเหมิงฉีอย่างกระตือรือร้น
"มันสามารถฟื้นฟูกลิ่นไอวิญญาณของผู้บ่มเพาะในขั้นเดียวกันได้ทันทีหนึ่งในสี่ จากนั้นค่อย ๆ ฟื้นฟูอีกหนึ่งในสี่ภายในช่วงเวลาหนึ่งก้านธูป"
"อา" เสวี่ยจินเหวินยกโอสถสีฟ้าในมือขึ้นสูงและตรวจดูภายใต้แสงแดด "โอสถชิงเฟิงกับคาถาชิงเฟิงสินะ ถึงแม้จะเป็นวิธีคิดที่ฉลาด ทว่าหากมันไม่ใช่โอสถขั้นห้าหรือหก ก็คงจะไม่เป็นประโยชน์มากนัก แต่โอสถเป่ยหมิงที่มีคาถาเป่ยหมิง ซึ่งสามารถฟื้นฟูกลิ่นไอได้ทันทีเนี่ยนะ... อา!" เสวี่ยจินเหวินร้องเบา ๆ "สำนักแพทย์พวกนั้นคงจะรีบซื้อและนำกลับไปวิจัยอย่างแน่นอน ข้าเกรงว่า แม้แต่สำนักใหญ่ๆ ก็จะมาร่วมวงแย่งชิงด้วย! พวกเขาอาจเต็มใจที่จะซื้อมันในราคาที่สูงและในปริมาณมาก น้องสาว ถ้าเจ้ากลั่นโอสถเป่ยหมิงนี้ในอาณาจักรที่สามถึงห้าได้ งั้น..."
เสวี่ยจินเหวินหรี่ตาลงแล้วหันไปมองเหมิงฉี มุมหางตาของนางยกขึ้นเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ดูมีเสน่ห์มากขึ้นทีเดียว "ถ้าในอดีตเจ้ายังขาดหินวิญญาณ ในวันข้างหน้าเจ้าจะไม่มีวันขาดเหลืออะไรแน่!"
"ไปกันเถอะ" นางคืนขวดกระเบื้องให้เหมิงฉี "ครั้งนี้ เอาไปไว้ที่ชั้นประมูลกัน"
"ขอบคุณพี่สาว" เหมิงฉียิ้มหวาน "แต่ตอนนี้ข้าสามารถกลั่นโอสถเป่ยหมิงได้แค่ขั้นที่สองเท่านั้น"