บทที่ 33 : เพลิงบัวแดง!
บทที่ 33 : เพลิงบัวแดง!
"ยังไม่รีบไสหัวกลับไปอีก!"
ซูเหอมองดูกลุ่มคนที่นั่งหมดอาลัยตายอยาก…แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาต่อ
"ครับ!"
พวกมันสิ้นหวังจนถึงขีดสุด, ดังนั้นพวกมันจึงไม่คิดจะต่อต้านแม้แต่น้อย
ทุกคนลุกขึ้นเเล้วเดินโซเซกลับไปยังที่พักอย่างหมดอาลัยตายอยาก!
"อย่าลืมเอาหินหลางหยาที่สำนักต้องการออกมาให้ข้าด้วย!"
ภารกิจของหลินเสวียนในครั้งนี้ก็คือการนำหินหลางหยากลับไป
"ครับ!"
ผู้อาวุโสรีบนำหินหลางหยาที่รวบรวมได้ทั้งหมดมามอบให้หลินเสวียนอย่างรวดเร็ว
หลินเสวียนรับมา, แล้วเก็บเข้าไปในแหวนมิติของสำนัก
เขาต้องแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องของสำนักออกจากกัน
หลินเสวียนไม่มีทางเก็บหินหลางหยาไว้ในแหวนมิติของตัวเองเด็ดขาด
………
"ลุงไห่, เซียวจี๋เซียงกง, ข้ายังมีธุระ…พวกเจ้ากลับบ้านไปก่อนนะ!"
เมื่อหลินเสวียนจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว, เขาก็หันไปพูดกับลุงไห่และเซียวจี๋เซียง
"ตกลง!" ลุงไห่พยักหน้า
ด้านเซียวจี๋เซียงมองหลินเสวียนด้วยความตื่นเต้นแล้วถามว่า
"คุณชายสาม, เเล้วท่านจะกลับมาเมื่อไหร่?"
"ถ้าท่านพ่อของท่านรู้ว่าตอนนี้ท่านเก่งกาจขนาดไหน…ท่านจะต้องดีใจมากแน่ๆ!"
"ไม่ต้องห่วง!"
"ข้าไปทำธุระไม่นานหรอก" หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม
เเละทันใดนั้นเอง ซูเหอก็พูดขึ้นมาว่า
"ข้าแจ้งสำนักไปแล้ว, อีกไม่นานคนของหอลงทัณฑ์ก็คงมาจัดการพวกมัน…พวกท่านไม่ต้องกังวลใดๆอีกเเล้ว"
ซูเหอเป็นคนช่างสังเกต
เขาเห็นว่าลุงไห่เอาแต่จ้องมองไปที่พักของสำนักเทียนเซียว…เขาจึงรีบพูดปลอบใจ
แน่นอนว่าเขาไม่ได้สนใจลุงไห่หรอก…แต่ท่าทีของหลินเสวียนต่างหากที่เขาให้ความสำคัญ
เเละเรื่องนี้หลินเสวียนก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร
เพราะป้ายประจำตัวมีไว้สำหรับการติดต่อสื่อสารอยู่แล้ว
มันสะดวกมากสำหรับการขอความช่วยเหลือจากศิษย์ที่ออกไปทำภารกิจข้างนอก
"ถ้าอย่างนั้น พวกเรากลับก่อนนะ"
ลุงไห่กับเซียวจี๋เซียงได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกโล่งใจ
พวกเขาจึงพากันถือโอสถทั้งสามขวดเดินจากไป
"ศิษย์น้องหลิน!"
"พวกเราก็ไปกันเถอะ!"
"แม้ว่าที่ๆมีเพลิงโอสถจะค่อนข้างลับตาคน แต่เราก็อย่าประมาทกันจะดีกว่า" ซูเหอพูดด้วยรอยยิ้ม
"ตกลง!" หลินเสวียนพยักหน้า
อย่างไรก็ตาม, ตอนนี้ม้าของทั้งสองคนได้มอบให้ลุงไห่กับเซียวจี๋เซียงไปแล้ว…ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเดินทางด้วยวิชาตัวเบา
เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงถึงความสามารถของซูเหอ
แม้ว่าเขาจะไม่ผ่านการประเมินระดับยากเเละไม่ได้ติดท็อปอันดับห้าสิบ
แต่เขาก็เข้าสำนักมานานแล้วเเละมีพลังของขอบเขตหลอมรวมลมปราณขั้นที่หก…วิชาตัวเบาของเขาย่อมไม่ธรรมดา!
ส่วนหลินเสวียน แม้จะมีพลังเพียงขอบเขตหลอมรวมลมปราณขั้นที่ห้า…แต่เขาก็ได้ฝึกฝนวิชาทะยานเหนือคลื่นเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น, การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งของเขาจึงราวกับเหยียบคลื่นลม
ความเร็วของเขาไม่ด้อยไปกว่าซูเหอเลย
จากนั้นเพียงครึ่งชั่วยาม…ทั้งสองคนก็มาถึงเขตชั้นในของภูเขาหลางหยา
เมื่อมาถึงที่นี่ หลินเสวียนสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าอากาศบริเวณโดยรอบร้อนขึ้นจนมีลมร้อนพัดมาเป็นระลอก
"ศิษย์น้องหลิน ดูเหมือนว่าเพลิงโอสถจะยังอยู่ที่นี่!"
ซูเหอพูดด้วยความยินดี
[ใช่!]
[เพลิงโอสถยังอยู่!]
[นายท่าน…ข้าอยากได้เพลิงโอสถนี้!]
คัมภีร์เตาหลอมโลหิตส่งเสียงเรียกร้องอย่างตื่นเต้น
"ใจเย็นๆ!" หลินเสวียนพูดกับคัมภีร์เตาหลอมโลหิตในใจ
"เพลิงโอสถอยู่ข้างหน้า!" ซูเหอเร่งฝีเท้าเเละพาหลินเสวียนอ้อมผ่านป่าทึบไป!
"นั่นคือเพลิงโอสถหรือ?"
เมื่อหลินเสวียนอ้อมผ่านป่าทึบเเล้ว…ภาพที่ปรากฏต่อหน้าเขาก็คือรัศมีสีแดงฉาน
เบื้องหน้าเขา!
มันมีก้อนหินสีแดงเพลิงกองรวมกันอยู่!
เเละตรงกลางของก้อนหิน, มันมีเปลวเพลิงขนาดเท่าฝ่ามือที่มีรูปร่างเหมือนดอกบัวที่กำลังเบ่งบาน
พื้นดินใต้เพลิงโอสถนี้มีลาวาไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา
เห็นได้ชัดว่ามันร้อนแรงมาก!
เเน่นอนว่าต้องเป็นพลังที่ร้อนแรงเช่นนี้เท่านั้น…ถึงจะสามารถขจัดสิ่งเจือปนในสมุนไพรและหลอมโอสถที่ยอดเยี่ยมออกมาได้
"เพลิงโอสถนี้…น่าจะเป็นเพลิงบัวแดง!"
"ระดับน่าจะเป็นเพลิงโอสถระดับเหลืองขั้นกลาง!"
ซูเหออธิบาย
"เพลิงโอสถก็มีระดับด้วยหรือศิษย์พี่?" หลินเสวียนถามอย่างประหลาดใจ
คัมภีร์เตาหลอมโลหิตไม่ได้บันทึกเรื่องนี้เอาไว้มากนัก…ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบ
"แน่นอนซิ!"
"จริงๆแล้วเพลิงโอสถก็เหมือนกับอาวุธวิญญาณ…ดังนั้นการแบ่งระดับพวกมันจึงเหมือนกับการเเบ่งระดับของอาวุธวิญญาณ" ซูเหออธิบาย
"อ้อ…ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!" หลินเสวียนพยักหน้ารับ
"แต่ศิษย์น้องหลิน เจ้าต้องจำไว้อย่างหนึ่ง!"
"แม้ว่าเพลิงโอสถจะดี…แต่ก็ต้องระมัดระวัง"
"ถ้าเจ้าอยากจะเก็บเพลิงโอสถ เจ้าต้องเป็นคนที่สอดคล้องกับเพลิงโอสถนั้นๆโดยธรรมชาติ…หรือก็คือเจ้าต้องมีพรสวรรค์ในการหลอมโอสถ"
"หรือไม่ก็ต้องมีวิธีปราบปรามเพลิงโอสถโดยเฉพาะ!"
"ไม่งั้น ถ้าไปทำให้เพลิงโอสถโกรธ….ต่อให้มีพลังของขอบเขตหลอมรวมลมปราณขั้นที่เก้า เจ้าก็ยังต้องเสี่ยงอันตรายอยู่ดี!" ซูเหอพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น
ถ้าเขามีวิธีปราบปรามหรือมีพรสวรรค์ในการปรุงโอสถ…เขาก็คงจะเก็บเพลิงโอสถนี้ไปใช้เองนานแล้ว
จะมีเหตุผลอะไรที่เขาต้องมาขายแผนที่เเบบนี้ล่ะ?
"ศิษย์พี่โปรดวางใจ…ข้าจะระมัดระวังให้มาก"
"ส่วนเรื่องเงินท่านพี่ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะปราบได้หรือไม่…ข้าจะให้ท่านครบทุกบาททุกสตางค์" หลินเสวียนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
เเละเเน่นอนว่าหลินเสวียนมีวิธีปราบเพลิงโอสถ!
ซึ่งนั้นก็คือวิชา "การควบคุมเพลิงด้วยเลือด" ยังไงล่ะ!
เเละนี่ความสามารถในการควบคุมเพลิง ที่คัมภีร์เตาหลอมโลหิตได้เข้าใจในงานพบปะแลกเปลี่ยน!
"ดี!"
"ในเมื่อศิษย์น้องอยากลอง, งั้นศิษย์พี่จะคอยคุ้มกันให้เอง!"
"ข้าจะป้องกันไม่ให้มีสัตว์อสูรตัวใดมารบกวนศิษย์น้องในระหว่างนี้" ซูเหอพูดด้วยรอยยิ้ม
เพลิงโอสถเป็นสิ่งที่ดึงดูดสัตว์อสูรได้เช่นกัน!
ยกตัวอย่างเช่นจิ้งจอกเพลิงแดงที่ปรากฏตัวบนภูเขาหลางหยาก่อนหน้านี้
มันก็ถูกเพลิงโอสถดึงดูด, แล้วมาอาศัยพลังของเพลิงโอสถในการฝึกฝน
"ขอบคุณศิษย์พี่!"
หลินเสวียนยกยิ้ม, แล้วใช้วิชาทะยานเหนือคลื่นพุ่งเข้าหาเพลิงโอสถ!
"ฟู่ๆๆ!"
เพลิงโอสถรู้สึกถึงภัยคุกคามจึงสั่นไหวเบาๆ…เพื่อส่งเปลวไฟเล็กๆกระจายออกมา
เมื่อเปลวไฟเหล่านี้ตกลงบนพื้น
หินบริเวณนั้นก็จะละลายกลายเป็นลาวาทันที!
"วิชาระฆังทองคำอมตะ!" หลินเสวียนร้องตะโกนเบาๆ
ทันใดนั้น, ระฆังใบใหญ่ก็ห่อหุ้มร่างของหลินเสวียนเอาไว้…ซึ่งเเน่นอนว่ามันสามารถป้องกันความร้อนแรงของเพลิงโอสถได้
"สุดยอด!"
"ศิษย์น้องหลินฝึกฝนวิชาระฆังทองคำอมตะจากม้วนคัมภีร์ที่ไม่สมบูรณ์ได้สำเร็จจริงๆด้วย!"
"พรสวรรค์เช่นนี้ ช่างน่าอิจฉาจริงๆ!"
ซูเหอมองวิชาระฆังทองคำอมตะด้วยความอิจฉา
โครม!
อีกด้าน, ในที่สุดหลินเสวียนก็เข้าใกล้เพลิงโอสถได้สำเร็จ!
"ควบคุมเพลิงด้วยเลือด!"
หลินเสวียนรวบรวมสมาธิ เเละบังคับให้เลือดหยดหนึ่งพุ่งเข้าหาเพลิงโอสถ!
เลือดหยดนี้มีพลังปราณเเฝงอยู่
ดังนั้น, เลือดหยดนี้จึงสามารถฝ่าคลื่นความร้อนจนตกลงบนเพลิงโอสถ แล้วถูกดูดซับได้อย่างรวดเร็ว!
"มา!"
หลินเสวียนใช้ทักษะควบคุมเพลิงด้วยเลือด…เพื่อเชื่อมโยงกับเพลิงโอสถทันที!
หลังจากนั้น, ทันทีที่หลินเสวียนยื่นมือออกไป….เพลิงโอสถก็ลอยขึ้นมา แล้วเข้ามาหลอมรวมกับร่างกายของเขา
"อะไรน่ะ?"
"วิชาควบคุมเพลิง?"
"เพลิงโอสถยอมรับเจ้าของ?"
"ศิษย์น้องหลินไม่เพียงมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนสูงส่งเท่านั้น…เเต่พรสวรรค์ในการหลอมโอสถก็ยังน่าทึ่งขนาดนี้เชียวหรือ?"
ซูเหอที่กำลังคอยคุ้มกันหลินเสวียนอยู่…ถึงกับตะลึงงันอย่างสุดชีวิต!
…………………