บทที่ 157 สตรีใจอำมหิต!
“ช่างเป็นเพลงกระบี่ที่รวดเร็วยิ่งนัก…”
โจวจินซวนรู้สึกเย็นวาบที่หว่างกลางหน้าผาก ภาพซึ่งเขาได้เห็นอยู่เบื้องหน้ายามนี้ ก็เพียงแค่หลัวเฉิงจี้กระบี่ชี้มาทางหน้าผากเท่านั้น แต่ครั้งที่เขาต้องการจะชักดาบหมายปัดป้อง ร่างกายนั้นกลับไม่ตอบสนองจนรู้สึกแปลกพิกล
ฉัวะ!
ความรู้สึกพิลึกพิลั่นนี้ปรากฏขึ้นมาเพียงชั่วแล่น ทันใดโจวจินซวนก็ไม่อาจควบคุมร่างได้อีกต่อไป ร่างนั้นล้มฟุบลงบนพื้นม่านตาเบิกกว้างไม่ทราบว่าตนตายไปตั้งแต่เมื่อใด
“อะไร!”
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่หวงซางกำลังจะเข้าโจมตีหลัวเฉิง นางก็ได้เห็นโจวจินซวนตายลงไปต่อหน้าพานให้รู้สึกตื่นผวาเป็นที่สุด
“เจ้า! เจ้ามิใช่ผู้มีวิญญาณยุทธ์ขยะหรอกหรือ! ที่ได้ยินมาเจ้ามันเป็นเพียงแค่คนไร้ค่าเท่านั้น ไยจึงแข็งแกร่งได้มากถึงขนาดนี้!”
นางรู้ดีว่าความแข็งแกร่งของโจวจินซวนนั้นไม่เป็นรองใครในขั้นเดียวกัน หาไม่แล้วไหนเลยนางจะยอมมาคบค้าเป็นสหายกับเขากัน
แต่ทว่าชายผู้ที่นางมาดมั่นว่าแข็งแกร่ง กลับถูกหลัวเฉิงสังหารตายทันทีด้วยกระบี่เดียว!
หลัวเฉิงไม่สนใจสีหน้าตื่นกลัวนางแต่กลับถามด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “เจ้ารู้หรือไม่ ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวเร่งเร้าให้มาสังหารข้า”
แววตาของหวงซานยังเปล่งประกาย ยามตระหนักได้ว่าหลัวเฉิงยังคงต้องการเจรจา ใบหน้าก็เผยให้เห็นรอยยิ้มหยาดเยิ้มงดงาม
“ศิษย์พี่หลัวเฉิง ข้าไม่ทราบแน่ชัดว่าผู้ใดเป็นคนปล่อยข่าว แต่มีความเป็นไปได้มากว่า ผู้ที่สามารถกระทำการเช่นนี้ได้ต้องเป็นผู้อาวุโสที่ดูแลการทดสอบเป็นแน่!”
“พี่ชาย ท่านเป็นผู้ช่วยชีวิตของข้า ข้าไหนเลยจะมีจิตคิดปองร้ายต่อท่าน สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความคิดของโจวจินซวนคนเดียว เขาต้องการนำศีรษะผู้มีพระคุณเช่นท่านไปแลกกับตำแหน่งศิษย์ฝ่ายนอก”
“คนนิสัยเช่นนี้ ที่ตอบแทนผู้มีพระคุณด้วยการคิดมุ่งร้ายหมายชีวิต ตายไปก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว!”
หวงซางสบโอกาส โยนความผิดทุกอย่างให้กับโจวจินซวน
เพราะนางรู้ดีว่าคนที่ตายไปแล้วไม่อาจเผยอปากขึ้นมาเอ่ยค้านได้
สุดท้ายก็ไร้สิ่งพิสูจน์!
“โอ้”
หลัวเฉิงพยักหน้าโดยไม่กล่าวอันใดอีก
“ถ้าเช่นนั้นแล้ว พี่ชายข้าต้องขอตัวก่อน ไว้ข้าจะกลับมาตอบแทนที่ท่านช่วยชีวิตในภายหลัง”
เมื่อเห็นว่านี่เป็นช่วงเวลาประจวบเหมาะ หวงซางก็แสยะยิ้มอย่างงดงาม พลางก้าวเท้าถอยหลังสองก้าว แล้วรีบสืบเท้ากำลังจะวิ่งเข้าไปในป่าลึกอย่างรวดเร็ว
ขณะที่นางกำลังเอี้ยวตัว แววตาก็เป็นประกายวูบวาบอย่างแปลกประหลาด
นางได้วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะต้องกระจายข่าวที่หลัวเฉิงนั้นอยู่ตรงนี้ เพื่อให้ผู้อื่นได้ทราบ
เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้หลัวเฉิงจะมีสามหัวหกแขน สุดท้ายก็ต้องตายอย่างไร้ที่กลบฝัง!
“ข้าบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจะปล่อยเจ้าไป?”
สุ้มเสียงเยือกเย็นประดุจเสียงเพรียกหาจากขุมนรกแผดดังมาจากฝั่งของหลัวเฉิง สิ้นเสียงก็สะอึกกายเข้าไปหาหวงซางทันที ครั้นบรรลุถึงก็ตวัดมือฟาดเข้าใส่ฉับพลัน
หวงซางสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ แววตาประกายความโกรธแค้น นางยกกระบี่ขึ้นทันควันหมายปกป้อง
ปัง!
กระบี่ของนางทั้งเล่มถึงกับสั่นสะท้าน ด้วยแรงมหาศาลเช่นนี้พานให้หวงซางรู้สึกราวกับถูกค้อนใหญ่ทุบกระหน่ำ นางเปิดปากถึงกับพ่นโลหิตออกมาคำโต ร่างละลิ่วออกไปก่อนล้มลงบนพื้นแล้วกลิ้งอีกหลายตลบ
ครั้นยกศีรษะขึ้นก็พบว่าหลัวเฉิงยังคงสืบเท้าเข้าหานางทีละก้าว หวงซางผวาตื่นกลัวไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงสงบอารมณ์อย่างรวดเร็ว ทันใดก็เอื้อมมือไปคว้าชายกระโปรงของตนกระตุกขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าเปลี่ยนเป็นออดอ้อนน่าสงสารคล้ายกับลูกแมว แล้วกล่าวน้ำเสียงกระเส่าว่า
“พี่หลัวเฉิง ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของโจวจินซวนจริงๆ หากท่านปล่อยข้าไป ถ้าจะตอบแทนน้ำใจท่านอย่างงาม แม้นกลายเป็นทาสก็ยินดี อีกทั้งข้าจะยอมพลีกายสนองความต้องการของท่านทุกประการ…”
“มันสายไปแล้ว”
หลัวเฉิงมองนางด้วยแววตาเย็นชา
เมื่อรับรู้ว่าในแววตาของหลัวเฉิงยังคงเปี่ยมด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า หวงซางก็ประหวั่นกลัวเป็นที่สุด
ด้วยว่านางคงเข้าใจว่าตัวเองนั้นงามพิลาศล้ำ ชายใดเห็นก็เป็นต้องใจสั่นทุกครา แต่ทว่าหลัวเฉิงผู้นี้กลับไม่ใยดีต่อความงามของนางด้วยซ้ำ!
“ต่อให้วันนี้ข้าต้องตาย ข้าก็จะไม่มีทางปล่อยให้เจ้ามีชีวิตที่ดี!”
ความมุ่งมั่นฉายประกายในดวงตาของหวงซาง
ทันใดนั้น
“มาเร็วเข้า! หลัวเฉิงอยู่ที่นี่! หากเจ้าฆ่าเขา เจ้าก็สามารถเป็นศิษย์ฝ่ายนอกได้!”
เสียงแหลมแผดคมชัดของหวงซาง แพร่กระจายไปไกลคล้ายสะท้านทั่วทั้งปาก
หลัวเฉิงขมวดคิ้วลิ่วหน้าแล้วสะบัดกระบี่ทลายสวรรค์ในมือพลัน
ฉัวะ!
เสียงหวีดแหลมชะงักกะทันหัน แล้วศีรษะของหวงซางก็เกลือกกลิ้งไปบนพื้นทันที
“เจ้าช่างเป็นสตรีใจอำมหิตนัก!”
หลัวเฉิงส่ายศีรษะพร้อมเหลือบมองบาดแผลที่แขนตน ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจว่าทำไมปู่ของเขาจึงได้กล่าวว่าโลกภายนอกนั้นอันตรายนัก การจะประสบความสำเร็จในหนทางอันยิ่งใหญ่ต้องไม่ปรานีผู้ใด! แม้นต้องฆ่าคนผิดก็ยังดีกว่าปล่อยให้เป็นปัญหาในภายหลัง!
โดยเฉพาะสตรีที่เป็นโฉมงามยิ่งควรพึงระวัง!
หากเขาเพลี่ยงพล้ำแม้เพียงก้าว มาตรว่าชีวิตตนก็ไม่อาจหลงเหลือ!