ตอนที่แล้วดาบที่รอการลับคม (ุ11)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปดาบที่รอการลับคม (ุ13)

ดาบที่รอการลับคม (ุ12)


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

<เรื่องราวของอารอน  ตอนที่ 12>

2. ดาบที่รอการลับคม (ุ12)

****

"...ฉันรู้ว่ามันยากที่จะเชื่อ ฉันเองก็คงเป็นเหมือนกัน"

ไคนิลก้มหัวลง

"แล้วฉันเองก็รู้คำตอบของนายแล้วด้วย"

“.....”

“แต่ได้โปรดคิดใหม่อีกครั้งเถอะนะ ฉันจะยอมรับเงื่อนไขทุกอย่างที่นายเสนอ…”

“ไม่ว่าเงื่อนไขอะไรก็ได้งั้นเหรอ?”

ชึ้บ!

เขาดึงกริชที่ติดอยู่บนโต๊ะตรงหน้าออกมา

ใบมีดหมุนวนไปมาแล้วแตะลูกกระเดือกของไคนิล

"นายกล้าเสียสละคอของนายไหมล่ะ?"

"...!"

"คิดฉะว่านายเพื่อฉัน ยังไงนายก็ตั้งใจจะตายอยู่แล้วหนิ และจากการวางแผนของนาย ฉันเองคงเป็นกำลังที่สำคัญกว่านายใช่ไหม?"

เขาขยับกริชออกมาเล็กน้อย

ใบมีดฉีกผ่านชั้นผิวหนัง

เลือดเริ่มไหล

"นั่นคือ..."

"ไม่ใช่เงื่อนไขที่แย่ใช่ไหม? นายจะได้รับความไว้วางใจจากฉันเพื่อแลกกับชีวิตของนาย เพราะคนที่พูดพล่อยๆ นั้นมันไว้ใจไม่ได้"

"..."

"ตอนนี้นายคิดจะจะหาข้ออ้างต่างๆ นานา ใช่ไหม? ถ้าไม่ใช่นาย ก็ยากที่จะควบคุมเพื่อนๆของนาย นายเป็นผู้นำ ดังนั้นนายจึงไม่ควรตาย...นายกำลังคิดที่จะหาเหตุผลเข้าข้างตนเองด้วยวิธีนี้ใช่ไหม?"

ไคนิลหลับตาลง

“นายกำลังพยายามยืมชีวิตของฉันไม่ใช่เหรอ? งั้นก็ให้ชีวิตของนายกับฉันก่อนสิ”

"ทำตามที่นายต้องการ... ทำเลย"

“โอ้”

“ถ้านายต้องการคอฉันเป็นเครื่องหมายแห่งความไว้วางใจ ก็จงเอาไป แต่โปรดรักษาสัญญา”

"ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่ปฏิเสธ"

เขาออกแรงดันด้ามกริชไปที่ลำคอทันที

ใบมีดของกริชเจาะเข้าที่คอของไคนิล

ถ้าใบมีดเคลื่อนไปอีกนิดก็จะโดนเส้นเลือดแดงและเลือดจะพุ่งออกมาเป็นน้ำพุ

แต่ว่า

ช้า

มันช้ามาก

ผิวหนังที่ถูกแยกออกและเผยให้เห็นกล้ามเนื้อบางๆ

ตรงหน้าคือธรณีประตูแห่งความตาย

"..."

ไคนิลกัดริมฝีปากแน่น

"หยุด หยุด!"

เขาหยุดมือทันที

พร้อมกับนั้น เหล่ากลาดิเอเตอร์ที่อยู่นอกประตูก็กรูกันเข้ามา

สามคน

พวกเขาทั้งหมดคุกเข่าต่อหน้าเขาพร้อมๆกัน

เขามองดูคนกลุ่มนั้นด้วยสายตาที่ไม่แยแส

“ถ้านายต้องการชีวิตก็ฆ่าพวกเราเถอะ!”

“นายจะฆ่าเราทั้งหมดก็ได้! แต่ได้โปรดทิ้งกัปตันไว้!”

"ได้โปรด!"

พวกนั้นเงยหน้าขึ้นมองเขาทั้งๆที่กำลังคุกเข่าอยู่

“แปลกดีนะ”

เขาพึมพำเบาๆ

“นายมีเจตนาอะไรกันแน่?”

“ฉันไม่มีเจตนาอะไรแอบแฝง ฉันแค่ต้องการความแข็งแกร่งของนายเท่านั้น”

“นายต้องการฉันแม้ว่าจะทำแบบนี้งั้นเหรอ?”

เขาได้แสดงความตั้งใจที่จะปฏิเสธอย่างชัดเจน

มันชัดเจนจนมันมากเกินไปด้วยซ้ำ

หากมีคนหยาบคายถึงระดับนี้ เป็นเรื่องปกติที่จะโกรธ สบถ และถอยกลับไป

“ไม่รู้สึกอายเลยเหรอ?”

“นั่นไม่สำคัญ กัปตันบอกว่าเขาต้องการพลังของนาย ถ้าอย่างนั้นเราก็สามารถทนกับความอับอายเช่นนี้ได้”

“ถ้านายต้องการหัวก็ตัดหัวของเราซะ!!”

นั่นมันไม่น่าพอใจเอาซะเลย

เขาคิด

พวกนั้นกำลังบังคับเขา

พวกเขาบุกเข้ามาอย่างเปิดเผยและประท้วงโดยที่บอกว่าไม่เป็นไรถ้าจะฆ่าพวกเขา

"ลุกขึ้นได้เล้ว มันน่ารำคาญ"

“...”

“พากัปตันของพวกนายออกไปได้แล้ว”

เหล่ากลาดิเอเตอร์ลุกขึ้นยืนอย่างลังเล

พวกเขาพยุงกัปตันที่กำลังคุกเข่าให้ลุกขึ้นยืน

เลือดไหลออกมาจากแผลที่คอของไคนิลเรื่อยๆ

"จนกว่านายจะยอมรับคำขอของเรา...!"

"เสียงนายมันดังเกินไปแล้ว ถ้านายเสียงดังกว่านี้ พวกทหารยามจะได้ยินแน่ นายรู้ใช่ไหม?"

ไคนิลเงียบไปทันที

สีหน้าไคนิลไม่มีความสุข เพราะคิดว่าไม่สามารถโน้มน้าวใจได้ชายตรงหน้าได้

"ขอโทษ"

"..."

"ถ้าเป็นไปได้... ฉันก็ไม่อยากยืมพลังจากนายหรอก"

ไคนิลก้มหัวลง

และลุกขึ้นจากที่นั่ง

"ไปกันเถอะ"

"แต่ว่า...!"

"เราไม่ได้มาเพื่อบังคับเขา"

เมื่อไคนิลพูดจบเพื่อนของเขาก็ลุกขึ้นยืน

"ขอโทษที่เสียมารยาท ขออภัยในความหยาบคาย"

ไคนิลโค้งคำนับแล้วพูดต่อว่า

“หากนายเปลี่ยนใจ….ติดต่อฉันได้ตลอดเวลา ฉันจะรอ”

ทันทีที่ไคนิลจากไปกับเพื่อนของเขา

ความเงียบเข้ามาในห้อง

เขาคิดพร้อมกับหลับตาลงแน่น

'แล้ว…นายอยากรู้ไหม?'

ไคนิลได้กล่าวไว้ว่า

เขาเองใช้ชีวิตที่สกปรกกว่าใครๆ

เขาขายเผ่าพันธุ์ของเขาเพื่อความบันเทิงของขุนนางผิวขาว

ดังนั้น ในท้ายที่สุดแล้ว….ไคนิลอยากรู้จักเกียรติยศ

เกียรติยศ

ตัวเขาเองก็ไม่รู้ความหมายของคำนั้น

แม้ในวรรณกรรมอัศวิน เกียรติยศก็มีความหมายต่างกันไปในแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่เหมือนกัน

แกว่งดาบเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อคนอื่น

แน่นอนว่ามันแตกต่างจากนักสู้แบบเขาหรือโจรที่ฆ่าเพื่อเอาชีวิตรอด

เพราะผู้ที่มีเกียรติจะซื่อสัตย์ต่อตนเอง

ผู้ที่มีเกียรติจะไม่มีความรู้สึกเน่าเฟะอย่างการเกลียดชังตนเอง

แม้ว่าเขาจะตายในวันรุ่งขึ้น เขาก็สามารถจบชีวิตลงได้โดยไม่เสียใจ

ดังนั้น ดาบของผู้ที่มีเกียรติจึงไม่ใช่เครื่องมือสำหรับฆ่า

มันเป็นแสงสว่างที่แสดงเจตจำนงของผู้ที่มีเกียรติ

“....”

เขามองดูมือของตัวเอง

เขาฆ่าเผ่าพันธ์ุของเขาเองเพื่อเอาชีวิตรอด

มันไม่ใช่เพื่อตัวเขาเอง

เเต่เพื่อเป็นความบันเทิงแก่ขุนนางพวกนั้น

เขาใช้ดาบเพราะถูกคนอื่นควบคุมด้วยเหตุผลของการเอาชีวิตรอด

แบบนี้จะเรียกสิ่งนี้ว่าเกียรติยศได้ไหม?

จะเหลืออะไรถ้าตายไปแบบนี้?

ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความเสียใจเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่

เฮ้อ

เขาถอนหายใจ

เเล้วพูดว่า

"เข้ามา"

เสียงฝีเท้าที่เดินไปมาข้างนอกประตูก็หยุดลง

ในไม่ช้าก็มีเสียงเคาะประตูแล้วประตูก็เปิดออก

"เอ่อ ขอโทษครับ”

ไม่ใช่ไคนิล

ชายคนนี้หนึ่งในเพื่อนร่วมงานของเขาที่อยู่ข้างๆ เขา

เขาดูเหมือนเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กหนุ่ม

"ผม…ผมชื่อเบียนครับ”

เบียนโค้งคำนับ

"มีธุระอะไร?"

“เอ่อ…คือถ้าคุณเปลี่ยนใจ ผมก็พร้อมจะช่วยเสมอนะครับ…”

“นายซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง?”

“อา นี่คือแผนปฏิบัติการครับ!”

เขามีไหวพริบหรือเปล่านะ?

เบียนเปลี่ยนสีหน้าทันทีแล้วกางแผนที่ลงบนโต๊ะ

นี่ก็เป็นแผนที่ของเมืองเช่นกัน แต่มีบันทึกและภาพวาดอยู่ทั่วไป

"คุณ คุณกำลังจะช่วยแผนของเราใช่ไหมครับ?"

"ฉันจะลองฟังและลองคิดดู"

ใบหน้าของเบียนสดใสขึ้นมาทันที

"ตกลงครับ งั้นผมจะเริ่มเลยนะ!"

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด