บทที่ 248 สมรู้ร่วมคิด
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 248 สมรู้ร่วมคิด
ความรู้สึกถึงวิกฤตที่ไม่อาจอธิบายได้เกิดขึ้นในใจของซุนเฉิงอย่างกะทันหัน ทำให้เขารู้สึกขนลุกอย่างมาก!
รอบๆ ตัวเขารู้สึกราวกับว่ามีดวงตาที่มองไม่เห็นจ้องมองเขาเขม็ง!
ความรู้สึกนี้แย่มาก แม้ว่าจะเป็นเพียงชั่วครู่ แต่แกนหลักของเขากลับไม่ตอบสนอง
แต่ซุนเฉิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีสายตาแปลกๆ จ้องมองมาที่เขาจริงๆ
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความกระสับกระส่ายและความไม่สบายใจในใจของเขา เขารู้ตัวแล้วว่าตอนนี้สายเกินไปที่จะเสียใจแล้ว
สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือเขาต้องพิสูจน์สิ่งหนึ่งว่าเมกะทรอนตายแล้ว และทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสัมผัสได้มันเป็นเพียงภาพลวงตาของเขา เป็นภาพหลอนที่เกิดจากการอยู่ในส่วนลึกของทะเลนานเกินไป
ด้วยเหตุนี้ ซุนเฉิงจึงกำอาวุธไว้แน่นแล้วรีบเดินไปยังซากศพของเมกะทรอน
ระยะทางหนึ่งกิโลเมตรนั้นไม่ไกลนัก ต่อให้จะอยู่ใต้ทะเลลึกก็ตาม
เมื่อเขาเห็นซากศพเครื่องจักรที่เสียหายอย่างหนักและน่ากลัวนอนนิ่งอยู่ไม่ไกล ซุนเฉิงก็กำอาวุธไว้แน่นโดยสัญชาตญาณ
เมกะทรอนตายแล้วจริง ๆ !
หลังจากได้เห็นศพของเมกะทรอนด้วยตาของเขาเอง เขาก็รู้ทันทีว่าเมกะทรอนตายแล้ว!
ในโคลนที่สกปรกของก้นทะเล สิ่งมีชีวิตที่ครั้งหนึ่งเคยปกครองกองทัพดีเซปติคอนเป็นเวลาหลายล้านปี นำดีเซปติคอนมาครอบครองจักรวาลอันกว้างใหญ่และเอาชนะออโต้บอตส์ ได้รับสมญานามว่า "ราชา" กำลังนอนสงบอยู่ไม่ไกลข้างหน้า
เห็นได้ชัดว่าจุลินทรีย์ที่กินซากสัตว์ในทะเลลึกได้เกาะติดอยู่ซากของเมกะทรอนให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของพวกมันไปแล้ว จุลินทรีย์พวกนี้แพร่กระจายและเกาะติดอยู่ลงบนร่างจักรกลของเขา ทำให้เกิดเปลือกแข็งหนาบนพื้นผิวจักรกลของซากเมกะทรอน
พอเมื่อซุนเฉิงเหลือบมองมันครั้งแรก เขานึกว่าร่างจักรกลของเมกะทรอนได้ผุพังไปแล้ว
รูปลักษณ์ที่น่าเวทนานี้ เป็นสิ่งที่เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าทรราชอย่างเมกะทรอจะตกสภาพเป็นอย่างนี้
มันจึงมีคำตอบเดียว!
เมกะทรอนตายแล้วจริงๆ!
"แกนหลักกำลังสแกน...ไม่พบสัญญาณของสิ่งมีชีวิต...กำลังวิเคราะห์โครงสร้างร่างกายเครื่องจักร...คำเตือน ไม่สามารถสแกนได้...กำลังเปลี่ยนวิธีการสแกน...ยืนยันความเสียหายร้ายแรงต่อออลสปาร์ค...ไม่สามารถซ่อมแซมได้..."
เมื่อเข้าใกล้ศพ แสงสแกนสีฟ้าสว่างสองดวงพุ่งออกมาจากดวงตาของซุนเฉิง จ้องมองไปยังร่างไร้ชีวิตของเมกะทรอนที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร
หลังจากรอหลายนาที เขาก็ขมวดคิ้วและละสายตาออกไป
เขาคิดว่าอีกฝ่ายสมกับที่เป็นอดีตผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพดีเซปติคอนจริงๆ แม้ว่าเมกะทรอนจะตายแล้ว แต่เขากลับต้องใช้ความพยายามอย่างมาก กว่าแกนหลักของเขาจะสแกนและวิเคราะห์โครงสร้างร่างกายของเมกะทรอนได้อย่างสมบูรณ์
ซึ่งหลังจากการสแกนเสร็จสิ้น ซุนเฉิงก็ไม่รีบร้อนไปไหน
แทนที่จะเดินหน้าต่อไป เขากลับยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าศพของเมกะทรอน รอคอยอย่างอดทน
รอคอยสายตาที่น่าขนลุกที่เคยเหลือบมองเขาอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้มันกลับหายวับไปในพริบตา!
ซุนเฉิงรู้สึกผิดหวังมาก เขายืนอยู่หน้าซากศพของเมกะทรอนเป็นเวลาสี่ชั่วโมงเต็ม แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร
ความผันผวนแปลก ๆ ที่เคยระบุพิกัดของตำแหน่งนี้มาก่อนหน้าไม่ได้ปรากฏขึ้นอีก แม้แต่สายตาที่เหมือนเฝ้ามองเขาก็หายไป
ทุกอย่างดูเหมือนกับเป็นเพียงจินตนาการของซุนเฉิงเท่านั้น..
หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง สภาวะจิตใจที่สงบของเขาก็เริ่มปั่นป่วนอีกครั้ง
ซุนเฉิงขมวดคิ้ว สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของร่องลึกมาเรียนา ซึ่งมืดมิด มีแรงดันสูง และเงียบสงัดอย่างที่สุด
เมื่อใช้เวลานานมากอยู่ที่นี่ เขาจึงเริ่มสงสัยว่าสิ่งที่เขารับรู้ก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตาหรือไม่
เขาไม่สามารถระงับความใจร้อนได้อีกต่อไป ในที่สุดเขาก็ลงมือทำ
หลังจากวนรอบศพของเมกะทรอน เขาค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้หัวและนั่งยองๆ ลง เขาใช้มือข้างหนึ่งกดลงบนหน้าผากของเมกะทรอนอย่างแรง
ในเวลาต่อมา แกนหลัก ของเขาทำงาน และข้อต่อโลหะเหลวจำนวนมาก คล้ายกับงูโปร่งแสง เริ่มยื่นออกมาจากร่างกายเครื่องจักรของเขา เลื้อยไปตามน้ำทะเลอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงหัวของเมกะทรอน
จากนั้น เมื่อได้รับคำสั่งจากซุนเฉิง พวกมันก็รีบเข้าไปในหัวของเมกะทรอนผ่านปาก จมูก และช่องหู
ในทันใดนั้นเอง ร่างจักรกลของเมกะทรอนก็สั่นสะท้านอย่างกะทันหัน แสงสีฟ้าสว่างวาบในดวงตาของซุนเฉิง
"... ฟังก์ชั่นการสแกนเปิดใช้งาน... ฟังก์ชั่นการบุกรุกเริ่มต้น... ตำแหน่งชิปหน่วยความจำถูกกำหนด... ฟังก์ชั่นการวิเคราะห์ข้อมูลเปิดใช้งาน... ตรวจพบโปรแกรมป้องกันที่ไม่รู้จัก กำลังสร้างแพ็คเกจไวรัสโดยอัตโนมัติ เตรียมถอดรหัสโดยใช้กำลัง... ฟังก์ชั่นสกัดกั้นเชิงรุกตื่นขึ้น... ระบบป้องกันออนไลน์... เข้ารหัสข้อมูลหลัก..."
"คำเตือน สกัดกั้นไวรัส ไม่สามารถข้ามระบบป้องกัน... กำลังเปลี่ยนและสร้างแพ็คเกจไวรัสใหม่... กำลังวิเคราะห์ข้อมูล... ติ๊ง ไม่พบข้อมูล..."
"...สร้างไวรัสเสร็จสมบูรณ์...เปิดใช้งานฟังก์ชันการบุกรุกอีกครั้ง...เริ่มการสแกน...ฟังก์ชันการวิเคราะห์ข้อมูลเปิดใช้งาน...เริ่มปล่อยไวรัส..."
"คำเตือน สกัดกั้นไวรัส ไม่สามารถข้ามระบบป้องกัน... กำลังเปลี่ยนและสร้างแพ็คเกจไวรัสใหม่... กำลังวิเคราะห์ข้อมูลล้น... ติ๊ง ไม่พบข้อมูลล้น..."
...
ซุนเฉิงรู้สึกประหลาดใจมากที่แม้ว่าเมกะทรอนจะตายไปนานแล้ว แต่ชิปหน่วยความจำของเขายังคงได้รับการปกป้องด้วยระบบป้องกันที่แข็งแกร่งมากภายในหัวของเขา
กลไกการป้องกันนี้มีความซับซ้อนมากกว่าระบบป้องกันที่ซุนเฉิงเคยเจาะเข้าไปในนายพลบีสต์เมื่อไม่นานมานี้เสียอีก..
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องใช้เวลาไปสามวันเต็ม จากนั้นซุนเฉิงจึงสามารถเจาะระบบป้องกันของเขาได้เสียที
"...เจาะระบบป้องกันสำเร็จ..."
ด้วยการแจ้งเตือนที่น่าพึงพอใจจากแกนหลัก ซุนเฉิงก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา
ในเวลาต่อมา ข้อมูลความทรงจำที่ไม่มีที่สิ้นสุดหลั่งไหลเข้าสู่แกนหลักของเขา
...
"เมกะทรอน เราทั้งคู่ต่างรู้ว่าสงครามครั้งนี้มันผิด ดีเซปติคอนไม่สามารถกำจัดออโต้บอตส์ได้ ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าจะไม่มีวันรวมไซเบอร์ตรอนได้ ออโต้บอตส์ยังคงมีความสามารถในการต่อต้านและสงครามจะดำเนินต่อไป... ดังนั้น วันนี้ ข้ามาพร้อมกับความหวังที่ปรารถนาสันติภาพ ไซเบอร์ตรอนต้องการความสงบสุข... "
"เงียบไปเลย เซนติเนลไพร์ม กองทัพของข้าได้ล้อมฐานที่มั่นสุดท้ายของเจ้าแล้ว การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มขึ้นและเจ้าหนีไปไหนไม่พ้นหรอก... "
“หึ น่าหัวเราะชะมัด! เมกะทรอน ถึงเจ้าจะเปลี่ยนชื่อ แต่นิสัยต่ำ ๆ ของเจ้าก็เปลี่ยนไม่ได้หรอก ลืมไปแล้วหรือไงว่าเจ้าเคยเป็นแค่ทาสแรงงานก่อนจะมาเป็นนักสู้ในสังเวียน? ทำไมสภาที่ทรงอำนาจถึงถูกโค่นล้ม.. หรือว่าเจ้าลืมไปแล้ว แม้กระทั่งคนที่สอนเจ้า... ข้าบอกเจ้าได้อย่างมั่นใจว่าเขายังมีชีวิตอยู่...”
"...ข้อเสนอของข้าคือ สงครามครั้งนี้ต้องยุติลง มิเช่นนั้น ไซเบอร์ตรอนจะต้องพินาศไปกับเปลวเพลิงแห่งสงคราม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีฝ่ายใดอยากเห็น เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ข้าจะยอมถอนตัวและปล่อยให้เจ้าเป็นผู้ชนะ นอกจากนี้ ข้าจะเปิดเผยที่อยู่ของออลสปาร์คให้เจ้าด้วย... แต่มีข้อแม้ว่า ข้าจะขอเก็บเมททริกซ์แห่งจิตพลังผู้นำไว้ จากจุดนั้นไปจะไม่มีดีเซปติคอนหรือออโต้บอตส์ มีแต่ไซเบอร์ตรอนเท่านั้น... "