ตอนที่ 28 : อย่างที่ทุกคนรู้
ตอนที่ 28 : อย่างที่ทุกคนรู้
ณ ห้องรับรองของหน่วยสี่
ออทรัคเดินเข้ามาและยื่นถุงเงินที่เขาเพิ่งได้มาให้กับหวู่เหิง
“ค่าหัวของอาชญากรจะถูกส่งให้กับหน่วยที่สามารถจัดการกับพวกมันได้ เจ้ารับรางวัลนี้ไปก่อนเลย นอกจากนี้เจ้ายังจะได้รับไอเท็มระดับต่ำอีกหนึ่งอันด้วย ไว้เจ้าค่อยไปถามที่โต๊ะหน้าดูละกัน”
วิธีการส่งภารกิจเป็นไปตามความเห็นพ้องต้องกันของทั้งสามคน
การส่งภารกิจในนามหน่วยนั้นหมายความถึงความสำเร็จร่วมกันมาจากทั้งสามคน
สิ่งนี้สอดคล้องกับความคิดของหวู่เหิง เนื่องจากการสังหารอาชญากรสามคนด้วยตัวคนเดียวก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย
ดังนั้นการส่งภารกิจในนามของหน่วยสี่จึงสะดวกกว่า
สำหรับเรื่องที่หน่วยสองรู้เรื่องนี้ มันก็เกินกว่าการควบคุมของเขาไปแล้ว
นอกจากนี้ แม้ว่าจะมีคนมาสืบสวน แต่พวกเขาก็คงจะไม่พบอะไรที่ผิดปกติแน่ๆ
“ขอบคุณมากหัวหน้า คืนนี้ขอข้าเลี้ยงข้าวหน่อยนะ” หวู่เหิงพูดออกมาด้วยความสุภาพ
“ไม่จำเป็นหรอก เมื่อเร็วๆ นี้ท่านมัคนายกได้มอบหมายภารกิจให้หน่วยต่างๆ ให้ช่วยเหลือทหารติดตามพวกอาชญากรและทหารรับจ้างอันธพาล ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่ใช่เวลามาฉลอง” ออทรัคนั่งลงและรินชาให้กับตัวเอง
“ภารกิจติดตามงั้นเหรอ?”
“หน่วยของพวกเราก็ได้รับมอบหมายภารกิจนี้เหมือนกัน แต่เนื่องจากเจ้าได้สังหารอาชญากรไปถึงสามคนแล้ว พวกเราจึงบรรลุเป้าหมายไปโดยปริยาย ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในภารกิจนี้อีก มิฉะนั้นพวกเราก็คงต้องออกไปลาดตระเวนร่วมกับพวกทหารแล้ว” ออทรัคอธิบาย
พระเจ้า
มันมีเรื่องวุ่นๆ เข้ามาจนทำให้เขาต้องออกไปลาดตระเวนด้วยเหรอ?
แต่การสังหารคนร้ายสามคนนี้ก็ช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้พอดี
“งั้นวันอื่นก็ได้ขอรับ” หวู่เหิงคิดก่อนที่จะพูดต่อ “หัวหน้า ข้าสงสัยว่าจะสามารถอัญเชิญโครงกระดูกตัวที่สองออกมาได้ไหม เพราะข้างนอกค่อนข้างอันตรายเลย”
ออทรัคจิบชาและคิดอยู่สักพัก ก่อนที่จะตอบว่า “ข้าจะไปคุยกับเบื้องบนให้เอง แต่มันจะได้รับการอนุมัติหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์นะ”
“ขอรับ”
ออทรัคพยักหน้าและถามต่อ “เจ้ารู้ได้ยังไงว่าพวกมันจะลงมือกับเจ้า?”
การที่สามารถเตรียมการล่วงหน้าได้ย่อมหมายความว่าหวู่เหิงรู้ล่วงหน้าว่าคนพวกนี้จะลงมือกับตน
คาวิน่าเองก็มองมาที่เขาด้วยความสงสัยและรอคำตอบจากเขา
จากนั้นหวู่เหิงก็เล่าเรื่องที่มีคนเข้ามาในที่พักของเขา รวมถึงปัญหาที่เขาได้พบระหว่างการสนทนากับเจ้าของบ้านด้วย
“ข้าเองก็ไม่ได้มั่นใจ ข้าแค่คิดว่าพวกมันน่าจะลงมือก็เท่านั้น”
“แล้วเจ้าสังหารพวกมันได้ยังไงกัน?” คาวิน่าถามต่อ
คำถามนี้เป็นคำถามที่เขายังไม่ได้ตอบเพราะทุกคนต่างก็มีความลับกันทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม หวู่เหิงก็เตรียมคำอธิบายไว้นานแล้ว
เขากล่าวว่า “เมื่อรู้ว่าพวกมันจะลงมือกับข้า ข้าจึงเตรียมการไว้ล่วงหน้า เมื่อพวกมันเดินเข้ามา ข้าก็ได้ปาระเบิดควันออกไป อย่างที่ทุกคนรู้กัน โครงกระดูกนั้นไม่ได้พึ่งพาสายตา ดังนั้นความมืดและควันจึงไม่อาจบดบังวิสัยทัศน์ของมันได้ และโครงกระดูกบาเซนก็จัดการกับพวกมันไปทีละคน”
อย่างที่ทุกคนรู้กันเหรอ?
ใครจะไปรู้เรื่องนี้!
พวกเราไม่ได้รู้เรื่องอันเดดขนาดนั้นสักหน่อย!
เหตุผลของหวู่เหิงฟังดูสมเหตุสมผล เพราะการต่อสู้ในตอนกลางคืน หากได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า การสังหารอาชญากรสามคนก็ดูจะไม่ใช่ปัญหาอะไร
แต่มันก็มีบางสิ่งที่ทำให้รู้สึกแปลกๆ
จากนั้นทั้งสามก็คุยกันต่อสักพัก และออทรัคก็จากไปยังห้องฝึกฝน ส่วนคาวิน่าและหวู่เหิงก็ลุกขึ้นและลากัน
หวู่เหิงเดินมาที่โถงหน้า
เขาใช้รางวัลไอเท็มระดับต่ำเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นหนังสือทักษะระบำแสงก่อนที่จะออกมาจากสมาคม
...
ณ ย่านการค้า ภายในร้านขายอาวุธ
“สนใจสินค้าชิ้นไหนเหรอ?” เจ้าของร้านที่มีกล้ามและผิวเรียบเนียนถามด้วยรอยยิ้ม
หวู่เหิงไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก แต่เจ้าของร้านก็ยังจำเขาได้
“ข้าอยากได้หอกหน่อยน่ะ”
“ทางนี้เลย เชิญเลือกดูได้เลย”
หอกนานาชนิดถูกแขวนอยู่บนผนังด้านข้าง
อันที่มีราคาถูกที่สุดนั้นมีราคา 4 เหรียญเงิน 70 เหรียญทองแดง ส่วนอันที่มีราคาสูงที่สุดก็มีราคามากถึง 75 เหรียญเงิน
พวกมันแตกต่างกันไปตามประเภทและความยาว
หวู่เหิงมองดูและชี้ไปยังหอกที่มีราคาถูกที่สุด “ข้าเอาอันนี้ละกัน”
หัวหอกมีความยาวประมาณ 40 เซนติเมตร ส่วนตัวด้ามทำจากไม้สีเข้ม
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากความประณีตของหัวหอกแล้ว มันก็ถือว่าดีกว่าหอกจากตลาดมาก
เจ้าของร้านเหลือบมองเขาและกล่าวว่า “ด้ามหอกทำมาจากไม้แอช มันสามารถหักได้ง่ายๆ ในการต่อสู้ หอกนี้เหมาะสำหรับการไล่สัตว์ป่าในหมู่บ้านหรือเพื่อการฝึกเท่านั้นนะ”
“ข้าอยากจะเอาไปใช้ไล่สัตว์ในหมู่บ้านพอดีเลย”
เจ้าของร้านพยักหน้าเข้าใจ “งั้นก็ไม่มีปัญหา”
“ถ้าข้าซื้อเยอะมีส่วนลดไหม?” หวู่เหิงถาม
“นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะซื้อเยอะแค่ไหน”
หวู่เหิงคิดถึงจำนวนที่เขาสามารถนำไปด้วยได้โดยไม่ดึงดูดความสนใจ
“สัก 10 อันละกัน”
“10 อันไม่ถือว่าเยอะ ส่วนลดคงจะไม่ได้มากอะไร”
“ไว้ข้าจะกลับมาซื้อเพิ่มอีก”
ทั้งสองต่อรองกันสักพัก และเจ้าของร้านก็ให้ส่วนลดกับเขา 50 เหรียญทองแดง
เมื่อจ่ายเงินแล้ว หวู่เหิงและบาเซนก็ขนหอกกลับไปยังที่พัก
...
เมื่อกลับมาถึงที่พักแล้ว บาเซนก็จัดห้อง ทำความสะอาดคราบเลือดบนพื้น
การต่อสู้เมื่อคืนนี้รุนแรงมาก
เฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่น้อยชิ้นก็เสียหายอย่างรุนแรง ผนังและพื้นก็ถูกฟันด้วยดาบอยู่หลายครั้ง
เจ้าของบ้านอาจจะให้เขาจ่ายค่าเฟอร์นิเจอร์เมื่ออีกฝ่ายได้เห็นสภาพเช่นนี้
หวู่เหิงนั่งลงที่โต๊ะและเปิดดูหนังสือทักษะอันใหม่
เขาพลิกหนังสือดูทีละหน้าเพื่อปลดล็อคทักษะ ในเวลาเดียวกัน เขาก็พยายามทำความเข้าใจกับหลักการของเวทมนตร์ในโลกนี้
ถ้าในอดีตเขามีความพยายามเช่นนี้ เขาก็อาจจะได้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ไปแล้ว
เมื่อเวลาผ่านไป เสียงการแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้น
[ปลดล็อคทักษะ: ทักษะระบำแสง]
[ทักษะระบำแสง: ท่านสามารถสร้างแหล่งกำเนิดแสงขึ้นมาได้]
เขาเพ่งความคิดและปลดปล่อยทักษะระบำแสงออกมา
ทันใดนั้น แสงไฟหลายดวงก็ปรากฏขึ้น และส่องสว่างบางๆ
เขาพยายามบังคับให้แสงสว่างเหล่านี้ไปสัมผัสสิ่งของที่อยู่ข้างๆ เขา แต่พวกมันก็วนเวียนอยู่รอบตัวของเขาเท่านั้น
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถใช้มันเป็นวิธีการในการโจมตีได้
“ถือว่าใช้แทนไฟฉายได้ล่ะนะ”
หลังจากเลิกใช้งานทักษะนี้แล้ว เขาก็เก็บของและออกเดินทางไปยังโลกซอมบี้พร้อมกับบาเซน
...
บนชั้นดาดฟ้า เขากางแผนที่ของบริเวณนี้เพื่อศึกษาตำแหน่ง
ต้องขอบคุณเจ้าของบ้านที่ชอบปั่นจักรยาน เพราะห้องของเขานั้นมีแผนที่สถานที่ต่างๆ มากมาย รวมถึงแผนที่เมืองและแผนที่เส้นทางของเมืองนี้ด้วย
ซอมบี้ส่วนใหญ่ในเขตที่พักถูกจัดการไปแล้ว
แต่มันก็ยังมีซอมบี้บางส่วนที่เตร็ดเตร่ไปมาอยู่ ซึ่งพวกมันก็ไม่ใช่ภัยคุกคามอะไร
แผนการขั้นต่อไปของเขาก็คือการออกไปสำรวจด้านนอกเขตที่อยู่อาศัยและสำรวจพื้นที่ต่างๆ
หลังจากคิดอย่างละเอียดแล้ว หวู่เหิงก็มีเป้าหมายสามเป้าหมายอยู่ภายในใจ
เป้าหมายแรกคือตำแหน่งที่เหล่าผู้รอดชีวิตพยายามจะใช้รถบัสหลบหนีไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
เขาใช้ปากกาวงตำแหน่งที่รถบัสคว่ำเอาไว้
พวกเขากล้าเสี่ยงออกมาบนถนน ดังนั้นพวกเขาก็น่าจะต้องมีจุดหมายอยู่ในใจแน่ๆ
มันอาจจะเป็นฐานที่มั่นหรือสถานที่ปลอดภัยก็ได้
และภายในรถบัส มันก็อาจจะมีเงื่อนงำบางอย่างอยู่
จากนั้นเขาก็ใช้ปากกาวงกลมไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศเหนือ
มันมีถนนคนเดินทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีร้านทอง 2 แห่ง และธนาคาร 1 แห่งตั้งอยู่
เขาไม่มั่นใจว่าธนาคารจะมีทองคำเก็บเอาไว้ไหม แต่ร้านทองต้องมีแน่ๆ
หากเขาสามารถนำอัญมณีเหล่านี้กลับไปยังเมืองหินดำได้ มันก็อาจจะทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีได้ในชั่วข้ามคืน
ส่วนวงกลมอีกวงหนึ่งทางด้านทิศเหนือ มันก็เป็นตำแหน่งของสถานีตำรวจ
เขาสามารถไปตรวจสอบดูว่ามันมีกระสุนอยู่ไหม
และวงกลมทั้งสามวงนี้ก็คือเป้าหมายต่อไปของเขานั่นเอง
มันมีซอมบี้ยักษ์ตัวหนึ่งอยู่ใกล้ๆ รถบัส ซึ่งสามารถพลิกคว่ำรถบัสได้เลย ทำให้มันเป็นปัญหาที่ยากจะรับมือ
นอกจากนี้เขายังจะต้องเผชิญหน้ากับสุนัขกลายพันธุ์หากจะมุ่งหน้าไปยังถนนคนเดิน ซึ่งความเร็วของมันก็เป็นเรื่องยากที่จะรับมือเหมือนกัน
งั้นก็เหลือแค่สถานีตำรวจแล้ว
“ถ้าเมื่อคืนมีกระสุนอยู่ มันก็คงจะไม่ยุ่งยากขนาดนี้”
หากเขามีกระสุนอยู่ในมือ เรื่องเมื่อคืนคงไม่วุ่นวายขนาดนี้
“งั้นก็เริ่มจากสถานีตำรวจก่อนละกัน”