ตอนที่ 199 ต่อไป ขอเชิญท่านประธานของเรา ท่านประธานเย่ ขึ้นมาบนเวที ขอเสียงปรบมือต้อนรับด้วยครับ
ในช่วงการประมูลต่อๆ มา ความสนใจของ ฟาง ซิงอัน ไม่ได้อยู่ที่ของสะสมต่างๆ เลย แต่กลับเป็นการสังเกต เย่เฉิน อย่างลับๆ
เขากำลังรอให้ เย่เฉิน เสนอราคา
แต่รออยู่นานเขาก็ไม่ได้ยินเสียง เย่เฉิน เปิดปากเสนอราคาอะไร
หรือว่า เย่เฉิน ไม่สนใจของสะสมพวกนี้แล้ว?
ในขณะที่ ฟาง ซิงอัน กำลังคิดว่าแผนของเขาอาจจะล้มเหลว เย่เฉิน ก็เปิดปากเสนอราคาขึ้นมา :
“50 ล้าน”
“60 ล้าน”
เมื่อได้ยินเสียงของ เย่เฉิน ฟาง ซิงอัน รีบเสนอราคาเพิ่มทันทีโดยไม่ดูด้วยซ้ำว่าสิ่งของที่ประมูลนั้น.. คืออะไร
หลังจากเสนอราคาแล้ว ฟาง ซิงอัน จึงหันไปดูสิ่งของที่ประมูล
ที่แท้ของสะสมชิ้นสุดท้ายที่ประมูลมันคือเครื่องลายครามชั้นเลิศจากเตาราชสำนักที่วิจิตรงดงามมาก
“65 ล้าน”
เย่เฉิน ดูเหมือนต้องการสิ่งนี้อย่างมาก เขาเสนอราคาขึ้นไปอีกครั้ง
“70 ล้าน”
เมื่อ ฟาง ซิงอัน สังเกตเห็นสีหน้าของ เย่เฉิน ที่ดูมุ่งมั่น.. ดูเหมือนเขาจะต้องการได้ของสิ่งนี้อย่างมาก ซึ่งเขามั่นใจมากว่า เย่เฉิน ต้องชอบสิ่งนี้มากแน่นอน
ซึ่งตัวเขาคิดว่าเขาต้องได้สิ่งนี้มาให้ได้
….....
ผ่านไปไม่กี่นาที ราคาของสิ่งของชิ้นนี้พุ่งขึ้นจาก 40 เป็น 50 ล้านไปจนถึง 180 ล้าน
“190 ล้าน”
เย่เฉิน ทำท่าทีลังเลเหมือนราคานี้ใกล้ถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว โดยเขาลังเลอยู่นานก่อนจะเสนอราคาออกไปอย่างระมัดระวัง
“200 ล้าน”
ฟาง ซิงอัน ที่คอยสังเกตสถานการณ์ทางฝั่งของ เย่เฉิน มาตลอด
เขายิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อเห็นว่า เย่เฉิน กำลังใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว
เขาคิดว่า เย่เฉิน คนนี้มันต้องบ้าไปแล้วที่มาท้าทายความมั่งคั่งของเขา?
ซึ่งสิ่งนี้ย่อมจะต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน
ข้างๆ ฟาง ซิงอัน บรรดาเศรษฐีที่รู้จัก ฟาง ซิงอัน ต่างก็ลังเลใจ
ไม่รู้ว่าควรจะเตือน ฟาง ซิงอัน ดีหรือไม่
พวกเขาทั้งหมดต่างก็สังเกตเห็นว่า ฟาง ซิงอัน ดูหลงระเริงเกินไปแล้ว
สิ่งของที่เดิมทีมีมูลค่าจริงเพียง 70-80 ล้าน กลับถูกประมูลไปในมูลค่าสูงถึง 200 ล้าน
แม้ว่านี่จะเป็นการประมูลเพื่อการกุศล แต่คนทั่วไปก็มักชอบแข่งขันกันเสนอราคาให้สูงขึ้นเพื่อเป็นหน้าเป็นตา แต่ก็ไม่ควรจะไปไกลขนาดนี้
ในขณะที่บรรดาเศรษฐีเหล่านี้กำลังลังเลอยู่นั้น
“ตึง!”
พิธีกรประมูลบนเวทีก็เคาะค้อนลงไปแล้ว
“ขอแสดงความยินดีกับ คุณชายฟาง ฟาง ซิงอัน ที่ประสบความสำเร็จในการประมูลไปด้วยราคา 200 ล้านหยวนครับ”
หลังจากที่ ฟาง ซิงอัน ชนะการประมูล เขาก็แสดงสีหน้าที่ย่ามใจแล้วหันไปมอง เย่เฉิน อย่างหยิ่งผยอง
อีกด้านหนึ่ง เย่เฉิน ทำสีหน้าดูผิดหวังเหมือนไม่พอใจที่ไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการมาครอบครอง
เย่เฉิน ไม่มีความสุข แต่เขา ฟาง ซิงอัน รู้สึกมีความสุขมาก!
เขารู้สึกปลื้มมากที่สามารถแย่งของที่ เย่เฉิน อยากได้ไปได้
ฟาง ซิงอัน อารมณ์ดีถึงกับฮัมเพลงออกมา
เขาเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในหนานเจียง ไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆ ถ้าหากใครมาทำให้เขาไม่พอใจ อย่าง.. งานประมูลนี้ เย่เฉิน คงไม่มีทางได้มีส่วนร่วมแน่ๆ
ไอ้เด็กนั่นคิดจะร่วมประมูล และได้ของที่ชอบไปงั้นเหรอ?
แก..คิดมากเกินไปแล้ว
แต่ ฟาง ซิงอัน ไม่ได้ทันสังเกตเห็นเลยว่าใบหน้าที่แสดงความผิดหวังของ เย่เฉิน มันได้หายไปนานแล้ว และเขาก็กำลังยิ้มแย้มพูดคุยกับ ซู หนิงซวง อยู่
บรรดาเศรษฐีที่รู้จัก ฟาง ซิงอัน ก็เริ่มพูดเตือนให้เขาใจเย็นๆ ลง
พวกเขารู้ว่าถ้า ฟางรุ่ย(พ่อของ ฟาง ซิงอัน) รู้เรื่องนี้ เขาจะต้องโกรธมากแน่ๆ
“คุณชายฟาง คือว่า......”
ในเวลาเดียวกัน การประมูลสิ่งของชิ้นสุดท้ายในการประมูลเพื่อการกุศลครั้งนี้ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ซึ่งแตกต่างจากการประมูลทั่วไป
ในงานประมูลทั่วไป สิ่งของประมูลชิ้นสุดท้ายมักเป็นสมบัติที่ล้ำค่า และหายากที่สุดในการประมูลทั้งหมด
แต่ในการประมูลการกุศลวันนี้ สิ่งของประมูลชิ้นสุดท้ายกลับแตกต่างออกไป
สิ่งของชิ้นสุดท้ายวันนี้คือภาพเขียนอักษรภาพหนึ่ง ซึ่งเพิ่งถูกเขียนขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ อาจจะยังไม่ถึงครึ่งเดือนเลยด้วยซ้ำ
ภาพเขียนอักษรชิ้นนี้เป็นผลงานร่วมกันของนักสะสม และบุคคลสำคัญอีกหลายคน
ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดคือเป็นผลงานการเขียนอักษรของเจ้าของบริษัท ประมูล ฟู่หยุน
พูดง่ายๆ คือ สิ่งของประมูลชิ้นสุดท้ายนี้เป็นสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ ใช้เพื่อแสดงความสามารถ และดูว่าใครมีอำนาจมากที่สุด และสามารถบริจาคเงินได้มากที่สุด
และสิ่งของประมูลชิ้นนี้เริ่มต้นในราคาเพียง 10,000 หยวนเท่านั้น
แต่ในพริบตาเดียวก็มีการประมูลขึ้นไปถึง 30 ล้านหยวนแล้ว
ทุกคนรู้ดีว่าสิ่งของชิ้นนี้ไม่ได้มีมูลค่าสูงมากนัก แต่หากใครได้ไปครอบครอง มันจะทำให้พวกเขาดูดีมีเกียรติ และเป็นที่สนใจในงานนี้แน่นอน
คนในงานล้วนแล้วแต่ไม่ขาดแคลนเงิน สิ่งที่พวกเขาต้องการคือหน้าตา และความรู้สึกของการเป็นจุดสนใจ
“60 ล้าน”
ในเวลานี้ เย่เฉิน พูดขึ้น
“คุณชายฟาง ช้าก่อน…”
เมื่อเห็นว่า เย่เฉิน พูดขึ้นมา ฟาง ซิงอัน ก็ไม่รั้งรอให้บรรดาเศรษฐีคนอื่นๆ พูดจบ เขารีบผลักพวกเขาออกไปข้างๆ และรีบเสนอราคาตามทันที
“70 ล้าน!”
“80 ล้าน!”
.........
“200 ล้าน”
ราคาได้ถูกประมูลขึ้นไปถึง 200 ล้านหยวนโดย เย่เฉิน และฟาง ซิงอัน
“คุณชายฟาง ราคานี้สูงเกินไปแล้ว”
“คุณชายฟาง อย่าประมูลต่อเลย”
บรรดาเศรษฐีหลายคนทนไม่ไหวแล้ว และรีบช่วยกันพูดเพื่อเกลี้ยกล่อมเขา
พวกเขารู้ดีว่า สิ่งของประมูลชิ้นสุดท้ายนี้ แม้ว่าจะไม่มีมูลค่าสูง แต่ก็เป็นที่จับตามอง และเป็นจุดสนใจของการแข่งขันสำหรับใครหลายคนแน่นอน
ในงานประมูลการกุศลที่ผ่านมา ก็เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
แต่โดยปกติราคาจะหยุดอยู่ที่หลายสิบล้านหยวน หรือไม่ก็ประมาณหนึ่งร้อยล้านหยวน
แต่วันนี้ ราคากลับพุ่งสูงขึ้นไปถึง 200 ล้านหยวนอย่างไม่น่าเชื่อ
“210 ล้าน”
ในตอนนี้ ฟาง ซิงอัน เหมือนได้เสียสติไปแล้ว เขาไม่สนใจเรื่องราคาอีกต่อไป
สิ่งที่เขาต้องการคือ ชัยชนะ!
ราคาไม่สำคัญ ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง
ในท้ายที่สุด ภาพเขียนอักษรที่เขียนโดยเจ้าของบริษัท ประมูล ฟู่หยุน นี้ก็ถูก ฟาง ซิงอัน ประมูลไปด้วยราคาที่สูงถึง 250 ล้านหยวน
หลังจากที่ชนะการประมูล ฟาง ซิงอัน มองไปที่ เย่เฉิน ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
แต่ในวินาทีถัดมา ฟาง ซิงอัน กลับต้องรู้สึกแปลกใจ
เขาพบว่าในขณะนี้นั้น เย่เฉิน ก็มองกลับมาทางเขาเช่นกัน และมีรอยยิ้มที่มีความหมายแอบแฝงอยู่บนใบหน้าของเขา
ฟาง ซิงอัน ไม่ค่อยเข้าใจ? แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
“คุณชายฟาง 250 ล้านหยวนมันมากเกินไปแล้ว”
“ใช่แล้ว.. คุณชายฟาง”
ในที่สุด บรรดาเศรษฐีหลายคนก็มีโอกาสได้พูด
อืม?
ไม่ใช่?
แบบนี้.. มันไม่ถูกต้อง?
ฟาง ซิงอัน เริ่มได้สติกลับมา เขาเพิ่งประมูลภาพเขียนอักษรที่ถูกเขียนโดยเจ้าของบริษัท ประมูล ฟู่หยุน ไปในราคา 250 ล้านหยวนอย่างนั้นเหรอ?!
ของแบบนี้แทบไม่มีค่าอะไรเลย..
แต่เขากลับใช้เงินไปถึง 250 ล้านหยวน
ฟาง ซิงอัน พลันรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก!!!
อย่าว่าแต่พ่อของเขาที่เป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองหนานเจียงเลย แม้แต่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองใหญ่ๆ หลายเมืองก็ยังไม่เต็มใจจ่ายเงินจำนวนมากขนาดนี้ได้
“ไม่..ไม่เป็นไร”
“อย่างน้อยๆ ฉันก็สามารถเอาชนะไอ้เด็กนั่น และทำให้มันรู้สึกหงุดหงิด และไม่สบายใจได้”
เมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ฟาง ซิงอัน.. ก็ไม่สามารถถอยหลังกลับได้แล้ว
เขาทำได้เพียงกัดฟัน และปลอบใจตัวเองว่าการทำให้ เย่เฉิน รู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจ และไม่ประสบความสำเร็จในการประมูลได้ ..นี่แหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
หลังจากนั้นไม่นาน เนื่องจากการที่ ฟาง ซิงอัน ประมูลสิ่งของชิ้นสุดท้ายไปได้ เขาจึงถูกเชิญให้ขึ้นไปบนเวที
“ขอขอบคุณ คุณชายฟาง ฟาง ซิงอัน สำหรับการบริจาคในค่ำคืนนี้ ขอเสียงปรบมือให้เขาด้วยครับ”
พิธีกรประมูลกล่าวแสดงความยินดีกับ ฟาง ซิงอัน
แปะแปะแปะ!
เสียงปรบมือดังขึ้นมาจากทั่วทุกมุม
ขณะที่ ฟาง ซิงอัน รู้สึกเพลิดเพลินกับความรู้สึกเป็นที่ชื่นชม และการได้รับความสนใจจากทุกคน ความรู้สึกเช่นนี้พอทำให้เขาลืมความเจ็บปวดจากการใช้เงินไป 250 ล้านหยวนได้บ้าง
ความรู้สึกในการโอ้อวดเช่นนี้.. มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ
มุมปากของ ฟาง ซิงอัน ยกขึ้นด้วยรอยยิ้มที่สดใสมาก
มันแค่ 250 ล้านหยวนเองไม่ใช่หรือไง?
เขาจ่ายได้สบายอยู่แล้ว
ฟาง ซิงอัน รู้สึกพึงพอใจถึงขีดสุด
ขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินกับความรู้สึกในการโอ้อวด เขาก็แอบหันไปมอง เย่เฉิน อย่างเย้ยหยันด้วยความภาคภูมิใจ
ความรู้สึกในการเป็นจุดสนใจเช่นนี้ เย่เฉิน คงไม่มีวันได้สัมผัส..
ในขณะนั้น พิธีกรประมูลได้พูดขึ้นอีกครั้งว่า :
“ต่อไป ขอเชิญท่านประธานของเรา ท่านประธานเย่ ขึ้นมาบนเวที ขอเสียงปรบมือต้อนรับด้วยครับ”