ตอนที่แล้วตอนที่ 197 เก็บเกี่ยว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 199 ต่อไป ขอเชิญท่านประธานของเรา ท่านประธานเย่ ขึ้นมาบนเวที ขอเสียงปรบมือต้อนรับด้วยครับ

ตอนที่ 198 คุณเป็นใครสำคัญไหม?


ซู หนิงซวง ในวันนี้ดูแตกต่างไปจากทุกวัน เธอสวมชุดราตรีสีดำ

ซึ่งในค่ำคืนนี้ ซู หนิงซวง แต่งกายอย่างเป็นทางการ และดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

ชุดราตรีสีดำเน้นให้เห็นถึงส่วนเว้าส่วนโค้งที่น่าดึงดูดของเธอได้เป็นอย่างดี กอปรกับริมฝีปากสีแดงเย้ายวนชวนให้หลงใหล และผิวพรรณที่ขาวผุดผ่องราวกับหิมะ ทำให้ ซู หนิงซวง ในเวลานี้ดูมีเสน่ห์ในแบบที่ต่างออกไป…

“สวยไหม?”

เมื่อเจอ เย่เฉิน ซู หนิงซวง ยกชายกระโปรงขึ้นแล้วหมุนตัวรอบหนึ่ง

เย่เฉิน พยักหน้า หลังจากที่เคยชินกับการแต่งตัวของ ซู หนิงซวง แบบเดิมๆ แต่ทันใดนั้นการได้มาเห็นเธอในลุคที่แตกต่างออกไปเช่นนี้

ทำให้ เย่เฉิน รู้สึกตะลึง ..ไปเลย

เมื่อเห็นว่า เย่เฉิน พยักหน้า ซู หนิงซวง ก็เผยรอยยิ้มกว้างที่สดใสขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ

การแต่งตัวของเธอครั้งนี้คุ้มค่าแล้ว

เดิมทีเย็นวันนี้เธอตั้งใจจะไปกับคุณพ่อของเธอ และเธอก็คิดว่าจะสวมแค่เสื้อผ้าธรรมดาๆ ก็พอ

แต่เมื่อคุณพ่อของเธอบอกว่า เย่เฉิน จะมาร่วมงานด้วย เธอจึงเปลี่ยนใจทันที และเริ่มแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน

เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่เธอ และเย่เฉิน ได้เข้าร่วมงานในสถานที่ใหญ่โตแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงต้องเตรียมตัวอย่างดี

หลังจากทักทายพ่อแม่ของ ซู หนิงซวง และพูดคุยกันเล็กน้อย เย่เฉิน ก็พา ซู หนิงซวง ตรงไปยังงานประมูลเพื่อการกุศลทันที

ประมาณยี่สิบนาทีต่อมา ทั้งสองคนก็ได้มาถึงสถานที่จัดงานประมูล ฟู่หยุน

เมื่อเข้าไปข้างใน พวกเขาก็หาที่นั่งของตนซึ่งอยู่แถวหน้าแต่ค่อนไปทางขอบ(ด้านข้าง)เล็กน้อย

เนื่องจาก เย่เฉิน มาแทน ลุงซู ที่ซึ่งเป็นพ่อของ ซู หนิงซวง และไม่ใช่ตัวเขาที่มาเอง ดังนั้นที่นั่งจึงอยู่ห่างจากตรงกลางไปนิดนึง

แต่ เย่เฉิน ก็ไม่ได้สนใจอะไร และไม่ได้ไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อขอเปลี่ยนตำแหน่งที่นั่ง

ในเวลาต่อมา แขกที่เข้ามาร่วมงานประมูล ฟู่หยุน เริ่มทยอยมากันมากขึ้น และมีอยู่สองสามคนที่รู้จักกับ เย่เฉิน

เมื่อพวกเขาเห็น เย่เฉิน พวกเขาก็เริ่มเข้ามาทักทายเขาทันที

ในหมู่พวกเขานั้นมี เฉิน จินจง ที่ เย่เฉิน รู้จักมานาน และเขาเองก็มีฐานะที่ไม่ธรรมดา

เฉิน จินจง จงใจเปลี่ยนที่นั่ง และให้ที่นั่งที่ดีกับคนอื่น แล้วจึงย้ายมานั่งข้างๆ เย่เฉิน

ขณะที่ เย่เฉิน พูดคุย กับซู หนิงซวง จู่ๆ มีชายหนุ่มที่ใบหน้าหยิ่งยโสคนหนึ่งเดินเข้ามา

“ที่นั่งของคุณนี่เท่าไหร่ บอกราคาฉันมาได้เลย”

ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่งทันทีที่เข้ามา

เขาต้องการจะซื้อตำแหน่งที่นั่งของตัวเอง ..งั้นหรือ?

ตอนแรก เย่เฉิน ไม่ค่อยเข้าใจ แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นจ้องมองไปทาง ซู หนิงซวง ที่อยู่ข้างๆ เขาเป็นระยะๆ เขาก็เข้าใจทันที

“ไม่ขาย”

เย่เฉิน ปฏิเสธโดยไม่ลังเล

“คุณไม่คู่ควรที่จะนั่งตรงนี้..”

เมื่อเจอคนแบบนี้ เย่เฉิน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องสุภาพด้วยอยู่แล้ว

“แก……”

เมื่อได้ยิน เย่เฉิน พูดเช่นนี้ ชายหนุ่มที่หยิ่งยโสก็ดูจะโมโหขึ้นมาทันที

“แก.. รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้?!”

ชายหนุ่มถาม เย่เฉิน

“คุณเป็นใครมันสำคัญไหม?”

เย่เฉิน ถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

คุณเป็นใครมันสำคัญไหม?!!

ชายหนุ่มแทบจะระเบิดออกมา นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีคนกล้าพูดกับเขาแบบนี้

“ฉันคือลูกชายของ ฟางรุ่ย, ฟาง ซิงอัน”

ชายหนุ่มที่หยิ่งยโสประกาศตัวตนออกมาอย่างไม่เกรงกลัว

“ขอโทษฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน”

เย่เฉิน ยักไหล่

เมื่อ เฉิน จินจง ที่นั่งข้างๆ ได้ยินชื่อ ‘ฟางรุ่ย’ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

“ไอ้เด็กนี่...”

ฟาง ซิงอัน กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ในตอนนั้นเองที่ผู้ดําเนินรายการของงานประมูล ฟู่หยุน ได้ขึ้นมาบนเวที

“ทุกท่านกรุณากลับไปยังที่นั่งของตัวเองด้วยครับ งานประมูลในคืนนี้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”

พิธีกรประมูล ฟู่หยุน เตือน

งานประมูลการกุศลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

แต่ ฟาง ซิงอัน ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปที่นั่งของตัวเอง

“คุณชายฟาง”

“คุณชายฟาง กลับที่นั่งกันก่อนเถอะ”

หลายๆ คนที่รู้จัก ฟาง ซิงอัน พูดขึ้น

“แกคอยดูเถอะ”

เมื่อเห็นคนเยอะ ฟาง ซิงอัน ก็ไม่อยากจะสร้างปัญหาต่อไป ดังนั้นเขาจึงทิ้งคำพูดข่มขู่ไว้หนึ่งประโยคก่อนจะกลับไปที่นั่งของตัวเอง

“คุณเย่ ฟาง ซิงอัน คนนี่ไม่ใช่คนที่ควรไปมีปัญหาด้วยเลยนะ”

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เฉิน จินจง ก็เข้ามากระซิบ กับเย่เฉิน อย่างตั้งใจ

“หืม?”

เมื่อได้ยิน เฉิน จินจง พูดแบบนี้ เย่เฉิน ก็เริ่มสนใจขึ้นมาแล้ว

เฉิน จินจง ที่เป็นถึงมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ในเมืองเจียงโจว ทำไมเขาถึงดูระวังเป็นพิเศษขนาดนี้?

“คุณเย่ คุณรู้ไหมว่าพ่อของ ฟาง ซิงอัน ฟางรุ่ย นั่นคือใคร?”

“ไม่ทราบว่าใครเหรอครับ?”

“ฟางรุ่ย เป็นมหาเศรษฐีที่อันดับหนึ่งในเมืองหนานเจียง(南江)ที่อยู่ติดกัน และทรัพย์สินของเขานั้นมหาศาลมาก”

เฉิน จินจง อธิบายด้วยน้ำเสียงที่ดูเกรงกลัว

การจะเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งในพื้นที่หนึ่งได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

การที่มีพ่อเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง ก็ไม่แปลกที่ ฟาง ซิงอัน จะหยิ่งผยอง และไร้มารยาทได้ขนาดนี้

“อ้อ ที่แท้ก็เป็นลูกชายของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง..นี่เอง”

เย่เฉิน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า :

“ไม่เป็นไรหรอกครับ”

ไม่ใช่แค่ ฟาง ซิงอัน ต่อให้ ฟางรุ่ย เองมาที่นี่ก็..แล้วไง?

อย่าลืมว่า ที่นี่คือบริษัท ประมูล ฟู่หยุน ซึ่งเป็นถิ่นของเขาเอง!

และที่นี่คือเมืองเจียงโจว ไม่ใช่หนานเจียง ไม่ใช่ที่ที่ ฟาง ซิงอัน จะมาระรานใครก็ได้ตามใจชอบ

เมื่อเห็นว่า เย่เฉิน ยังคงใจเย็นอยู่ เฉิน จินจง ก็พยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาคิดมากเกินไป

ใช่แล้ว ฟางรุ่ย ไม่ใช่คน..ธรรมดา แต่ คุณเย่ เองก็ไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?

อีกด้านหนึ่ง แม้ว่าจะนั่งลงไปแล้ว แต่ ฟาง ซิงอัน ก็ยังคงมองไปทาง ซู หนิงซวง เป็นระยะๆ

ในฐานะลูกชายของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองหนานเจียง เขาแทบจะทำอะไรตามใจก็ได้.. และเขาคือคนที่ทุกคนต้องเกรงใจ

แม้ว่าตอนนี้เขาจะมาอยู่ในเมืองเจียงโจว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาลดท่าทีหยิ่งยโสของตัวเองเลย

ที่เขามาร่วมงานประมูลในคืนนี้ จุดประสงค์หลักของเขาไม่ใช่การทำการกุศล แต่เพื่อมาดูว่ามีสาวสวยสักคนมาเข้าร่วมงานบ้างหรือไม่

หลังจากที่เขาสังเกตไปรอบๆ เวลานี้เขาก็สังเกตเห็น ซู หนิงซวง

ซึ่งเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในงานอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาจึงพุ่งตรงไปหา เย่เฉิน เพื่อ ‘ซื้อที่นั่ง’ โดยหวังว่าจะได้นั่งข้าง ซู หนิงซวง แล้วทำความรู้จัก ..กับเธอ

แต่ผลที่ได้กลับเป็นการโดนปฏิเสธแบบไม่ใยดี

จีบสาวไม่สำเร็จแล้วไม่พอ ยังหน้าแตกกลับมาอีกแบบนี้ ทำให้ ฟาง ซิงอัน รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก

ต่อหน้าผู้คนมากมาย และในฐานะลูกชายมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งอย่างเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?!

เรื่องนี้เขาไม่ยอมจบง่ายๆ แน่…

บนเวที ผู้จัดการงานประมูล ฟู่หยุน กำลังกล่าวเปิดงาน

หลังจากนั้น งานประมูลก็เริ่มต้นขึ้น

“สิ่งของชิ้นแรกที่เราจะประมูล คือสิ่งที่ทางเราตั้งใจคัดเลือกมาเป็นพิเศษโดยบริษัท ประมูล ฟู่หยุน ของเรา……”

เนื่องจากเป็นงานประมูลการกุศล แขกที่มาร่วมงานล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

หลายคนที่มาร่วมงานในวันนี้ล้วนต้องการอวด และต้องการเป็นที่สนใจ ดังนั้นการแข่งขันจึงเป็นไปอย่างดุเดือดมาก

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ การประมูลได้ดำเนินมาถึงครึ่งทางแล้ว

ในฐานะเจ้าของบริษัท ประมูล ฟู่หยุน เย่เฉิน ก็ไม่อยากนั่งดูอยู่เฉยๆ

เขาก็เลยตั้งใจจะประมูลของสักชิ้น ถือเป็นตัวแทนของบริษัท ประมูล ฟู่หยุน เพื่อทำการกุศล

ในที่สุด ก็มีการนำพระโพธิสัตว์กวนอิมที่สลักจากหยกเฮอเถียนอันวิจิตรประณีตชิ้นหนึ่งออกมา

“นี่คือหยกชั้นดีจากเหมืองหยกเฮอเถียน ถูกแกะสลักโดยปรมาจารย์ด้านการแกะสลัก มีอายุประมาณสามร้อยกว่าปี และยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่ ซึ่งหายากมาก……”

พิธีกรประมูลกำลังอธิบายอยู่บนเวที

“ราคาเริ่มต้นที่ 12 ล้านหยวน ตอนนี้เริ่มได้เลยครับ”

ไม่นานนัก ราคาก็ถูกเสนอขึ้นไปถึง 18 ล้านหยวน

“20 ล้าน”

เย่เฉิน เสนอราคา

“สุภาพบุรุษท่านนี้เสนอราคา 20 ล้าน……”

เมื่อมองไปตามเสียงของ เย่เฉิน พิธีกรก็ต้องรู้สึกงงงวยไปอยู่พักหนึ่ง

บอส?

ทำไมบอสถึงมาอยู่ที่นี่?

แถมเขายังนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เด่นอีก?

พิธีกรรู้สึกประหลาดใจ และอยากจะทักทาย

แต่ในตอนนั้นเอง เย่เฉิน ก็โบกมือส่งสัญญาณอย่างเงียบๆ

เมื่อเห็นเช่นนี้ พิธีกรก็เข้าใจ และไม่ได้พูดอะไรอีก ก่อนจะดำเนินรายการต่อไป

“21 ล้าน”

ทันใดนั้น ฟาง ซิงอัน ก็เสนอราคาขึ้นมาเช่นกัน

เมื่อครู่ ฟาง ซิงอัน ยังคิดอยู่ว่าจะจัดการกับ เย่เฉิน อย่างไร..

แต่ตอนนี้พอได้ยิน เย่เฉิน เสนอราคา ฟาง ซิงอัน ก็ผุดไอเดียขึ้นมาทันที

ในงานประมูลคืนนี้ ไอ้เด็กนี่มันต้องไม่ได้เข้าร่วม

สิ่งของทุกชิ้นที่มันอยากได้ เขาจะซื้อมันมาให้หมดเอง..

หากแกคิดจะซื้ออะไร แกก็จงทำได้แค่ฝันต่อไปซะ!

ฟาง ซิงอัน มีความมั่นใจในทรัพย์สินของตัวเองมาก

“23 ล้าน”

เย่เฉิน เสนอราคาอีกครั้ง

“25 ล้าน”

“28 ล้าน”

“30 ล้าน”

เย่เฉิน ลองเสนอราคาไปหลายครั้ง และผลก็เป็นไปตามที่เขาคิดไว้ ทุกครั้งที่เขาเสนอราคา ฟาง ซิงอัน ก็จะเสนอราคาตาม

เห็นได้ชัดว่า ฟาง ซิงอัน ตั้งใจที่จะทำตัวเป็นศัตรูกับเขา ..อย่างชัดเจน

เมื่อ เย่เฉิน รู้แน่แล้วว่าเป็นแบบนั้น ไม่เพียงแต่เขาจะไม่โกรธ แต่กลับแสยะยิ้มร้ายกาจออกมา

เขาบังเอิญมีความคิดดีๆ อยู่ในหัวแล้ว

อย่างไร..เป้าหมายของเขาก็ไม่ใช่การมาร่วมประมูลอะไรจริงจังอยู่แล้ว

ในเมื่อ ฟาง ซิงอัน ตั้งใจจะทำแบบนี้ แล้วทำไมเขาถึงไม่ใช้โอกาสนี้ ‘รีดไถ’ เงินจาก ฟาง ซิงอัน ซะเลย..ล่ะ?

เงินที่ได้ก็จะได้ถูกนำไปทำการกุศลในนามของบริษัท ประมูล ฟู่หยุน

นี่ถือเป็นการทำประโยชน์สองต่อเชียวนะ

ในเมื่อเขาเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง และมีเงินมากมายไม่ใช่เหรอไง?

งั้นมาเลย…

“35 ล้าน”

เย่เฉิน เสนอราคาขึ้นอีกครั้ง

เขาตั้งใจเสนอราคาขึ้นไปสูงๆ เพื่อให้ ฟาง ซิงอัน ต้องเสนอราคาที่สูงกว่า

“40 ล้าน!”

ฟาง ซิงอัน เสนอราคาอีกครั้ง

ในท้ายที่สุด หยกเจ้าแม่กวนอิมที่มีมูลค่าโดยประมาณอยู่ที่ 15 ล้านหยวน ก็ถูก ฟาง ซิงอัน ประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 60 ล้านหยวน

คนทั้งงานต่างตกตะลึง ราคานี้มันสูงเกินไปจริงๆ

ฟาง ซิงอัน ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อยที่ต้องสูญเสียเงินจำนวนมากไป แต่เขาก็รู้สึกมีความสุขอยู่ในใจไม่น้อยเช่นกัน

เขาเพิ่งขัดขวางไม่ให้ไอ้เด็กนั่นได้ของที่มันอยากได้ไป

ตอนนี้ไอ้เด็กนั่นมันคงจะโมโหสุดๆ จนหัวเสียไปแล้ว

เงินของไอ้เด็กนั่นเองคงจะไม่มากเท่ากับของเขาแน่นอน และการที่ต้องมาเห็นของที่อยากได้ถูกเขาซื้อไปต่อหน้าต่อตา โดยไม่สามารถทำอะไรได้ มัน..คงจะเจ็บใจน่าดู

ฮ่าฮ่าๆๆ จงสิ้นหวังไปซะ!

แค่ใช้เงิน 60 ล้าน ก็ทำให้ไอ้เด็กนั่นมันอารมณ์เสียได้ เขาก็ยินดีที่จะทำ

ฟาง ซิงอัน มองไปที่ เย่เฉิน ด้วยท่าทีโอ้อวด เหมือนเขากำลังโชว์ให้เห็นว่าตัวเองเหนือกว่า

ซึ่งดูเหมือนว่าการประมูลหลังจากนี้…จะต้องสนุกแน่ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด