Chapter 260 : เลื่อนสู่ขอบเขตที่ 8 – ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้น (3)
ถ้าอีกฝ่ายมีศักยภาพไร้ขอบเขตจริงๆเธอจะไม่เคยพบไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนได้อย่างไร
หลินเซวียนที่ใช้จังหวะที่สาวงามผู้นั้นถูกมังกรอัสนีรั้งเอาไว้รีบทิ้งระยะห่างหนีจากไปทันที
“โชคยังดีๆที่ความแข็งแกร่งของเธอในบรรดานักสู้ขอบเขตที่9ยังถือว่าอ่อนแอดังนั้นเลยไล่มาไม่ได้”
หลังจากวิ่งมาได้ราวๆสี่ถึงห้ากิโลในชั่วลมหายใจเดียวและเข้ามาหลบในถ้ำแห่งหนึ่งแล้วในที่สุดหลินเซวียนก็ถอนหายใจยาวออกมา
หนนี้ในที่สุดเขาก็มีเวลาได้สงบจิตสงบใจและตรวจสอบค่าสถานะอีกครั้งซักที
เนื่องจากเขาเลื่อนขอบเขตมาเป็นนักสู้ขอบเขตที่8แล้วทำให้สกิลประจำอาชีพเดิมอย่าง [ค่าสถานะสืบทอด] แข็งแกร่งขึ้นมาเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้สกิลนี้เพิ่มค่าสถานะเพียง30%จากค่าสถานะสูงสุดให้กับค่าสถานะอื่นอีก3ค่าที่เหลือแต่ตอนนี้จาก30%ได้เพิ่มเป็น40%แล้ว
ดังนั้นค่าสถานะเปลือยๆของเขาตอนนี้คือ : ความอดทน 532 , ความแข็งแกร่ง 350 , พลังจิต 30 , ความเร็ว 355!
“อัพเกรดแค่ครั้งเดียวแต่ผลประกอบการกลับมหาศาลขนาดนี้!” หลินเซวียนถอนหายใจ
“ตอนนี้ในเมื่อความแข็งแกร่งของเราเพิ่มมากขึ้นแล้วก็ได้เวลาออกล่านักสู้ขอบเขตที่8ขององค์กรอื่นซักที” เขาแค่นเสียงในลำคอ
องค์กรผู้กู้โลก ภาคีอัศวินแห่งความจริงและทุ่งราบมหาสวรรค์ใช้โอกาสในช่วงเวลานี้ไล่ล่าสังหารคนจากกองพลก่อสร้างและกองทัพขั้วโลก
ก่อนหน้านี้เขาทำได้เพียงหลบหนีเท่านั้นแต่ตอนนี้เขาสามารถเอาคืนได้แล้ว!
ในตอนที่เขากำลังจะหาเป้าหมายโดยใช้ [ห้าสัมผัสเชื่อมสวรรค์] อยู่นั้นเขาก็พลันสัมผัสได้ถึงเงาร่างสี่ร่างที่กำลังไล่ล่าเงาร่างอีกสองร่างอยู่
เงาร่างทั้งสองที่กำลังหลบหนีนั้นเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากับเขาดี
พวกเขาทั้งสองคนคือฮอลล์กับโคโดนั่นเอง
สถานการณ์ของโคโดตอนนี้ค่อนข้างน่าสังเวชอย่างผิดปกติยิ่ง
ร่างกายครึ่งซ้ายของเขาหายไปเกือบจะหดจนมองเห็นกระดูกซี่โครงกับอวัยวะภายในได้อย่างชัดเจน
กระทั่งลำไส้เองก็ทำได้เพียงแบกเก็บใส่กระเป๋าและห้อยติดเอาไว้กับเอวโดยมีฮอลล์แบกโคโดวิ่งหนีอีกทีหนึ่ง
อย่างไรก็ตามตัวของฮอลล์นั้นหาใช่นักฆ่าแต่อย่างใด
ค่าความว่องไวของเขาไม่สูงนักและนอกจากนี้บนร่างของเขาเองก็ยังเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย
ระยะห่างระหว่างพวกเขากับผู้ไล่ล่านั้นค่อยๆหดสั้นลงเรื่อยๆ
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
คุไนนับสิบเล่มพุ่งทะลวงชั้นบรรยากาศปักลงที่พื้นเบื้องหน้าของฮอลล์
ฮอลล์ไร้ทางเลือกได้แต่ต้องหักเลี้ยวอย่างฉับพลันถึงจะฝืนหลบการโจมตีนี้ไปได้
หากแต่เมื่อครู่ตัวเขานั้นวิ่งมาด้วยความเร็วสูงมากและเนื่องจากการหักหลบอย่างฉับพลันนี้ทำให้ร่างของเขาเสียสมดุลย์
ร่างของเขาล้มลงพาให้ร่างของโคโดบนหลังของเขากระเด็นออกไปราวกับตุ๊กตายัดนุ่น
ผู้ไล่ล่าทั้งสี่ค่อยๆสาวเท้าเดินเข้ามาพร้อมด้วยรอยยิ้มเย็น
เสื้อผ้าของพวกเขานั้นชัดเจนว่า2คนนั้นมาจากทุ่งราบมหาสวรรค์ขณะที่อีก2คนนั้นมาจากองค์กรผู้กู้โลก
“ไม่คิดเลยว่าคนที่จะลงมือฆ่าฉันวันนี้จะเป็นคนจากองค์กรเดียวกันแถมยังเป็นสหายเก่าเสียด้วย” โคโดหัวเราะขมขื่นพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้าย
“จอร์นเอ๋ยมิตรภาพหลายปีที่ผ่านมานี้ของพวกเรามันเป็นของปลอมงั้นรึ?”
นักสู้ขอบเขตที่8จากองค์กรผู้กู้โลกนามจอร์นตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “มิตรภาพของพวกเรามันขึ้นอยู่กับความภักดีที่มีต่อองค์กร ถ้านายจะโทษใครก็จงโทษตัวเองเถอะ ในเมื่อนายไม่ทำตามคำสั่งขององค์กรแล้วนายจะยังมีประโยชน์อะไร?”
นักสู้ขอบเขตที่8อีกคนหนึ่งขององค์กรผู้กู้โลกที่มีชื่อว่าไพทอนเอ่ยขึ้นเสียงเย็นเยียบ “ยิ่งไปกว่านั้นความคิดของนายมันยังเอนเอียงไปทางกองพลก่อสร้างอีกด้วย องค์กรไม่ต้องการคนทรยศหรอกนะ”
ฮอลล์หัวเราะขม “ก่อนที่จะตายฉันขอถามหน่อยเถอะ แจ็คได้จัดแจงให้พวกเรามากับพวกเซี่ยงเฉียนหยานแล้วก็คนอื่นๆโดยคิดจะส่งพวกเรามาตายในเงื้อมมือของมังกรสุริยันสินะ?”
จอร์นตะโกนตอบ “เรียกท่านด้วยสิวะ! แผนการของท่านแจ็คนั้นทั้งหมดก็เพื่อองค์กร!”
“ถ้าพวกนายยินดีจะทำภารกิจและล่อพวกเซี่ยงเฉียนหยานไปยังจุดที่ต้องตายแน่นอนเพื่อพิสูจน์ความภักดีที่มีต่อองค์กรพวกนายก็คงไม่ต้องมาตายแบบนี้แต่ตอนนี้...เฮอะ!”
โคโดส่ายหัว
“ฉันเข้าใจแล้ว...” หลังจากกล่าวจบเขาก็ดูเหมือนจะแก่ลงนับสิบปีในชั่วพริบตาราวกับชีวิตเดินทางมาถึงปลายทางแล้ว
“ลงมือเถอะได้เวลาส่งคนทรยศไปตามทางแล้ว” ไพทอนจุดบุหรี่สูบและเงื้อขวานขึ้นสูง