บทที่ 34 – ราคาที่ยุติธรรม (II)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 34 – ราคาที่ยุติธรรม (II)
เสี่ยวหลินโม่ "..."
"เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน ข้าจะจ่ายเอง หินวิญญาณขั้นหกสิบก้อน!" เขารีบหยุดเหมิงฉีและส่งป้ายชื่อให้เจ้าของร้านที่ประตู
หญิงสาวคนนี้ช่างงดงาม แต่ใจนางช่างโหดร้ายนัก!
"ข้าควรทำอย่างไรต่อหรือ?" เหมิงฉีหันไปถามเจ้าของร้าน
"ก่อนอื่น โปรดให้ท่านเสี่ยวประทับตราประสาทสัมผัสวิญญาณของเขาลงบนโอสถห้าเม็ดที่เขาซื้อ จากนั้นสหายเต๋าสามารถไปที่สถานีถ่ายทอดของตำหนักแดนเหนือสวรรค์ในเมืองของท่านและส่งมอบสิ่งของให้กับลูกน้องที่ทำงานอยู่ที่นั่น หลังจากตรวจสอบตราประสาทสัมผัสวิญญาณของท่านเสี่ยวแล้ว พวกเขาจะมอบหินวิญญาณที่เขาเป็นหนี้ให้ท่าน"
เหมิงฉีพยักหน้า ขั้นตอนนี้น่าสนใจทีเดียว เนื่องจากพวกเขาอาศัยเพียงตราประทับสัมผัสวิญญาณในการยืนยันรายการ เจ้าหน้าที่ของตำหนักแดนเหนือสวรรค์คงจะไม่สามารถรู้ได้แน่ว่ามีการซื้อและขายอะไรกัน
"เสียงดังอะไรกัน? พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน?"
ในขณะที่เหมิงฉีกำลังชื่นชมกระบวนการที่สนุกและปลอดภัยที่ตำหนักแดนเหนือสวรรค์สร้างขึ้นเพื่อส่งมอบสินค้าที่ซื้อ เสียงของผู้หญิงที่เกียจคร้านก็ดังมาจากประตูทันที เหมิงฉีหันศีรษะไปเห็นผู้บ่มเพาะหญิงที่สวยงามและสง่ายืนอยู่พร้อมรอยยิ้ม
หญิงสาวดูมีอายุมากกว่าเหมิงฉีเล็กน้อย นางสวมอาภรณ์สีเขียวอมฟ้า ผูกหลวม ๆ ด้วยเข็มขัดเรียว เอวของนางเพรียวบางมีหลังเล็ก และรูปร่างของนางค่อนข้างเรียว
ผู้บ่มเพาะหญิงคนนี้ก็สวยมากเช่นกัน อันที่จริง เมื่อมองดูลักษณะใบหน้าเพียงอย่างเดียว นางก็ไม่ได้สวยงามไปกว่าลู่ชิงหรัน แต่เมื่อนางหัวเราะ ใบหน้าของนางกลับสดใสมาก บวกกับความเกียจคร้านที่ไม่อาจมองข้ามบนใบหน้าของนาง ผู้หญิงคนนั้นจึงดูสง่างามและมีเสน่ห์พอสมควร มันเป็นเสน่ห์ที่อธิบายไม่ได้แบบที่เหมิงฉีไม่เคยเห็นมาก่อน
"ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่?!" เสี่ยวหลินโม่ดูเหมือนจะกลัวผู้บ่มเพาะหญิงคนนี้เล็กน้อย เขากระโดดขึ้นและถอยหลังไปหนึ่งก้าวใหญ่ "ข้ากำลังทำงานอยู่ตอนนี้ อย่ามารบกวนข้า"
หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ รอยยิ้มแวบวาบในดวงตาที่ใสกระจ่างของนาง สายตาที่มองเสี่ยวหลินโม่ราวกับเห็นน้องชายคนเล็ก แม้ว่าจริง ๆ แล้วนางดูเด็กกว่าผู้ชายคนนั้นมาก
"น้องสาวคนนี้..." ดวงตาที่มีเสน่ห์ของนางจับจ้องที่เหมิงฉี "นางเป็นหน้าใหม่เหรอ? น่ารักจัง!"
"ข้ามาขายโอสถกลั่นเอง" เหมิงฉีตอบอย่างตรงไปตรงมา ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับผู้บ่มเพาะหญิงคนนี้และยังไม่ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่เหมิงฉีกลับรู้สึกชอบพอขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นสวยมาก แต่ความงามของนางกลับแตกต่างจากลู่ชิงหรันโดยสิ้นเชิง การได้เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนี้จึงทำให้เหมิงฉีมีความสุข
"โอ้?" ดวงตาของหญิงสาวเป็นประกาย "โอสถเม็ดชนิดไหน? ให้พี่สาวคนนี้ดูได้ไหม?"
"ได้สิ" เหมิงฉีตอบและส่งโอสถชิงเฟิงให้นาง
"เสวี่ยจินเหวิน!" ก่อนที่ผู้บ่มเพาะหญิงจะหยิบโอสถ เสี่ยวหลินโม่ก็ตะโกนด้วยความโกรธ "ข้าซื้อไปแล้ว!"
"เจ้าประทับตราเสร็จแล้วหรือยัง?" นิ้วเรียวของเสวี่ยจินเหวินกำลังหมุนผมของนางอย่างไม่ใส่ใจ "ถ้ายังไม่ได้ คนอื่นก็ยังมีโอกาสเสนอราคาที่สูงกว่าได้ ใช่ไหม?" นางยิ้มให้เสี่ยวหลินโม่ก่อนหันไปหาเหมิงฉี "เจ้าทำงานที่นี่มานานแล้ว ยังไม่เข้าใจกฎของการประมูลรึ เอ๊ะ?! โอสถชิงเฟิงขอบเขตแรก?"
แม้แต่ผู้บ่มเพาะหญิงที่ชื่อ 'เสวี่ยจินเหวิน' ก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ นางจ้องมองเหมิงฉีด้วยความสับสน จากนั้นจึงเบนสายตาไปที่โอสถเม็ดสีฟ้า "ดูเหมือนว่า...หือ?"
เสวี่ยจินเหวินถอนหายใจ "ช่างเป็นหญิงสาวที่ฉลาดอะไรอย่างนี้!" นางชี้นิ้ว "น้องสาว เขาเสนอราคาเท่าไหร่ให้เจ้า? พี่สาวจะให้ราคาเป็นสองเท่า"
"เสวี่ยจินเหวิน!" เสี่ยวหลินโม่ระเบิด "อย่าล้ำเส้นไปหน่อย!"
"ใครให้ราคาสูงสุดก็ได้ไป" เสวี่ยจินเหวินหัวเราะเบา ๆ และเก็บโอสถไว้ "เจ้าจะละเมิดกฎนี้หรือ?"
"หึ!" เสี่ยวหลินโม่แค่นเสียงเย็นชา แต่เขารีบพูดว่า "โอสถชิงเฟิงนี้ ข้าจ่ายหินวิญญาณขั้นหกต่อเม็ด เจ้ายังอยากได้เพิ่มเป็นสองเท่าอีกหรือ?"
"โอ้?" เสวี่ยจินเหวินเลิกคิ้ว "ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?"
"เจ้า?!" เสี่ยวหลินโม่พูดไม่ออก เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดในที่สุดว่า "ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้หินวิญญาณขั้นหก สิบห้าก้อนแก่เจ้า! ซื้อ... ซื้อสามเม็ดไปเลย!" เอาเถิด ยังไงเสียเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อมันเพื่อบริโภคสักหน่อย หากเขาใช้โอสถดี ๆ สามเม็ดคงเพียงพอ...ไม่งั้น ยัยผู้หญิงอย่างเสวี่ยจินเหวินคนนี้คงจะเอาไป!
"ไม่" เหมิงฉีตอบด้วยเสียงทื่อ หินวิญญาณขั้นหกสองก้อนก็ราคาสูงพอแล้ว นางหยิบโอสถห้าเม็ดออกจากกำไลเก็บของของนางและส่งให้เสี่ยวหลินโม่ "ราคายังเท่าเดิม รวมเป็นหินวิญญาณขั้นหกสิบก้อน"
เสี่ยวหลินโม่ตะลึง ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนขายของที่ใจเหี้ยม ซึ่งต้องการเพียงแค่รีดเงินให้ได้มากที่สุด ถ้าเขาต้องแข่งกับเสวี่ยจินเหวิน ผู้หญิงที่ไม่เคยสนใจเรื่องหินวิญญาณ กระเป๋าของเขาคงจะทะลุแน่ แต่จะให้ยอมแพ้ เสี่ยวหลินโม่ก็ไม่ยอมเด็ดขาด! แต่ไฉนเลยสตรีนางนี้กลับไม่คิดฉวยโอกาสขึ้นราคา?!
เสี่ยวหลินโม่ประทับตราประสาทสัมผัสวิญญาณของเขาลงบนโอสถห้าเม็ดที่เหมิงฉียื่นให้เขาอย่างงุนงง เมื่อส่งคืนกลับ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างครุ่นคิด ใบหน้าที่งดงามเช่นนี้ มีท่าทางสง่างาม จมูกของนางโด่งและสง่างาม นางมีดวงตาที่สวยงามซึ่งส่องประกายราวกับดวงดาวที่สว่างไสวและเย็นชา คล้ายมีอารมณ์มากมายแฝงอยู่ในใบหน้า
ช่างเป็นหญิงสาวที่แปลกประหลาดอะไรเช่นนี้!