ตอนที่แล้วบทที่ 30 "คนรวยที่สุด" ที่ยากจนจนไม่สามารถซื้อหญ้าได้แม้แต่หญ้าเส้นเดียว (II)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32 – การประเมินโอสถ (II)

บทที่ 31 การประเมินโอสถ (I)


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

บทที่ 31  การประเมินโอสถ (I)

เจ้าของร้านหนุ่มเดินอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตา เขาหยิบกล่องที่มีหญ้าอีกาเหมันต์ออกมาแล้ว

“ขอโทษด้วยเจ้าค่ะ” เหมิงฉีโบกมืออย่างรวดเร็ว “ราคาสูงเกินไป ตอนนี้ข้าซื้อไม่ไหว”

ชายคนนั้นผงะไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่สีหน้าสงบของเหมิงฉีแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ไม่เป็นไร สหายเต๋า ดูสินค้าก่อนก็ได้” เจ้าของร้านเปิดกล่องอย่างกระตือรือร้น

ภายในกล่องไม้ มีหญ้าอีกาเหมันต์ประมาณสิบเส้นวางอย่างเป็นระเบียบ สีดำบริสุทธิ์ มีรูปร่างเหมือนหญ้าอีกาเหมันต์มีขนเล็ก ๆ มากมายบนพื้นผิว นอกจากนี้ เมื่อมองใกล้ๆ เหมิงฉียังเห็นจุดสีเงินหลายจุดกระพริบบนพื้นผิวเป็นครั้งคราว

“สำนักของเราคือตำหนักเซียนเมฆาจากตำหนักแดนเหนือสวรรค์” ชายคนนั้นแนะนำ “หากสหายเต๋าต้องการสมุนไพรอื่นๆ จากตำหนักแดนเหนือสวรรค์ เจ้าสามารถมาที่ร้านของเราได้” เขาพูดอย่างภูมิใจเล็กน้อย “เรามีสมุนไพรและส่วนผสมโอสถมากมาย ผลิตภัณฑ์ของเราดีที่สุดในดินตำหนักแดนเหนือสวรรค์ทั้งหมด”

“เข้าใจแล้ว” เหมิงฉีพยักหน้า “ขอบคุณ เจ้าค่ะ”

“ด้วยความยินดี” ศิษย์ของตำหนักเซียนเมฆาเก็บกล่องอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็มองไปที่เหมิงฉี หญิงสาวดูเหมือนจะอายุไม่ถึงยี่สิบและมีท่าทางสง่างาม ใบหน้าของนางก็ละเอียดอ่อนมากเช่นกัน นางมีคิ้วและจมูกที่สวยงาม และมีความกล้าหาญ และเยือกเย็น หาได้ยากในหมู่สตรีทั่วไป

ตำหนักเซียนเมฆาสามารถเปิดร้านขายโอสถในตำหนักแดนเหนือสวรรค์ได้ พวกเขาจึงเป็นหนึ่งในสำนักแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนเหนืออย่างแน่นอน เจ้าของร้านอดไม่ได้ที่จะสงสัย "ทำไมสหายเต๋าถึงมองหาหญ้าอีกาเหมันต์หรือ?"

“ข้าอ่านบันทึกเกี่ยวกับหญ้าอีกาเหมันต์ในหนังสือเล่มหนึ่ง” เหมิงฉีจะไม่บอกคนแปลกหน้าเกี่ยวกับเสือขาวตัวน้อยแน่นอน “ดังนั้นข้าจึงต้องการซื้อมาศึกษาสรรพเจ้าทางโอสถของมัน”

“ฮ่าๆ…” ชายหนุ่มอดหัวเราะไม่ได้ แม้ว่าเขาจะทำงานเป็นเจ้าของร้านขายโอสถในตำหนักแดนเหนือสวรรค์ แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นหนึ่งในผู้บ่มเพาะแก่นทองคำ

“จริงด้วย การกระทำของเจ้าเหมือนพวกเราเลย” เจ้าของร้านครุ่นคิด “ถ้าอย่างนั้น หญ้าอีกาเหมันต์นี้ ถ้าเจ้ายังอยากซื้อ ข้าจะลดราคาให้เหลือสิบแปดก้อนหินวิญญาณระดับหก หลังจากที่สหายเต๋ามีเงินพอแล้ว ก็กลับมาหาข้าอีกครั้ง”

“ตกลง ขอบคุณเจ้าค่ะ” เหมิงฉีพยักหน้า แม้จะลดราคาเหลือสิบแปดก้อนหินวิญญาณระดับหก เงินทุนของนางก็ยังไม่เพียงพอ และนางยังไม่มีหนทางหาเงินเลย

เหมิงฉีมองไปรอบๆ ร้านขายโอสถนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และดูเหมือนว่าเจ้าของร้านจะไม่ได้คุยโวโอ้อวด ตำหนักเซียนเมฆาดูเหมือนจะมีอำนาจพอสมควร นางประเมินว่าวัตถุดิบโอสถที่สามารถขายได้ในตำหนักแดนเหนือสวรรค์ไม่ควรเป็นระดับต่ำ ดังนั้นสินค้าของร้านนี้จึงราคาไม่ถูก

“หากตอนนี้สหายเต๋ามีหินวิญญาณไม่เพียงพอ เราก็รับแลกเปลี่ยนสิ่งของด้วย” เจ้าของร้านกล่าว เขาค่อนข้างชอบหญิงสาวสวยคนนี้ที่เรียบง่ายนัก แม้ว่าตำหนักแดนเหนือสวรรค์จะไม่ได้กำหนดระดับการบ่มเพาะขั้นต่ำที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าประตู แต่ผู้บ่มเพาะที่สามารถเข้าถึงสถานที่แห่งนี้ได้โดยทั่วไปก็ไม่ได้อ่อนแอ เท่าที่เจ้าของร้านคนนี้รู้ ผู้บ่มเพาะที่อ่อนแอที่สุดที่สามารถมาที่ตำหนักแดนเหนือสวรรค์ได้อย่างน้อยก็ประมาณขอบเขตที่ห้าหรือหกของขั้นแก่นทองคำ

ผู้บ่มเพาะในขั้นกลั่นลมปราณและขั้นสร้างรากฐานจะมีอายุมากขึ้นตามปกติ ซึ่งความเร็วในการแก่ชราของพวกเขาจะช้าลงอย่างมากหลังจากเข้าสู่ขั้นแก่นทองคำและกลับสู่ภาวะปกติหลังจากผ่านไปสิบปีในขั้นแก่นทองคำ กล่าวโดยสรุปคือ หากผู้บ่มเพาะต้องการรักษารูปลักษณ์ของตนไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปตามวัย อย่างน้อยพวกเขาต้องไปถึงขั้นกำเนิดวิญญาณ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง รูปลักษณ์ของผู้บ่มเพาะจะใกล้เคียงกับตอนที่พวกเขาเข้าสู่ขั้นแก่นทองคำ แน่นอนว่าถ้าผู้บ่มเพาะมีความสามารถจำกัดจนไม่สามารถฝ่าขั้นกำเนิดวิญญาณได้หลังจากผ่านไปสิบปี ท้ายที่สุดกายหยาบภายนอกพวกเขาก็จะแก่ลงไป

ศิษย์ชายของตำหนักเซียนเมฆามองดูรูปร่างหน้าตาของเหมิงฉี นางดูเหมือนหญิงสาววัยรุ่นอย่างชัดเจน เขาครุ่นคิดในใจ คนที่สามารถสร้างแก่นของนางได้ตั้งแต่อายุยังน้อยถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะ ไม่รู้ว่านางเป็นศิษย์ของสำนักใด แม้ว่านางอาจจะไม่ได้นำหินวิญญาณมาเยอะ แต่นางก็ควรจะมีสมบัติล้ำค่าอยู่บ้าง ถ้าอย่างน้อยก็ในระดับห้า คงคุ้มที่จะแลกเปลี่ยน

หลังจากมีความคิดนี้ เจ้าของร้านก็ยิ้มอย่างกระตือรือร้นมากขึ้นเล็กน้อย “หากสหายเต๋า มีคาถา วัสดุโอสถ โอสถเม็ดกลั่นที่ไม่ต้องการ รวมถึงเปลวไอควบคุมไฟ... รวมถึงสิ่งประดิษฐ์และอาวุธวิเศษก็สามารถใช้แลกเปลี่ยนกับสมุนไพรของเราได้เช่นกัน”

“ข้าเข้าใจแล้ว” เหมิงฉีพยักหน้า ตอนนี้นางซื้อหญ้าไม่ได้ แต่นางก็เตรียมใจกลับบ้านมือเปล่าในวันนี้แล้ว

“ขอบคุณนะเจ้าค่ะ” นางพยักหน้าให้ชายหนุ่มแล้วหันไปออกจากร้าน

เหมิงฉีไม่ได้ไปร้านอื่นต่อ นางประเมินว่าผลคงไม่ต่างกันมากนัก ก่อนหน้านี้เหมิงฉีไม่เคยต้องกังวลเรื่องหินวิญญาณ เพราะนางไม่ได้ใช้จ่ายอะไรมากก่อนออกจากหุบเขาชิงเฟิง ต่อมานางได้พบกับอาจารย์ของนาง เมื่อมองย้อนกลับไป การบ่มเพาะบนเส้นทางการแพทย์นั้นจำเป็นต้องใช้ส่วนผสมทางการแพทย์จำนวนมากเพื่อปรับแต่งโอสถและรักษาผู้ป่วย เพื่อให้ผู้บ่มเพาะสามารถเลื่อนขั้นไปสู่ขอบเขตที่สูงขึ้นได้ ยิ่งต้องใช้ทรัพยากร สรุปก็คือ ต้องใช้หินวิญญาณจำนวนมากเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดเหล่านั้น

เหมิงฉีเดินช้าๆ บนถนนที่ราบเรียบและกว้าง นางไม่เคยกังวลเรื่องส่วนผสมโอสถและหินวิญญาณมาก่อน ไม่ใช่เพราะนางรวย แต่เพราะเคยมีผู้หนึ่งคอยจัดหาให้นางเพื่อที่นางจะได้มีสมาธิกับการบ่มเพาะโดยไม่ต้องกังวลต่างหาก

อาจารย์…

เหมิงฉีพึมพำอย่างเงียบๆ นางเริ่มฮึดขึ้นสู้ ไม่ว่ายังไง นางก็จะรักษาเสี่ยวฉี ไม่สำคัญหรอกว่าชายอาภรณ์สีขาวจะเป็นอาจารย์ของนางหรือไม่ นางไม่สนใจด้วยว่าเสือขาวตัวน้อยจะเป็นสมาชิกในครอบครัวของเสือขาวเจ้าผู้ครองนภาที่ฉู่เทียนเฟิงพูดถึงหรือไม่ นางแค่ไม่อยากพลาดแม้แต่ความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อย

นางจะรักษาเสี่ยวฉีให้จงได้!

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น สิ่งที่นางต้องทำอันดับแรกในตอนนี้คือการหาหินวิญญาณให้เพียงพอ หญ้าอีกาเหมันต์หนึ่งเส้นมีราคาหินวิญญาณระดับหกยี่สิบก้อน ในการขจัดพิษของเสี่ยวฉี นางยังต้องการส่วนผสมอื่นๆ ด้วย และมันก็แค่สำหรับอาการบาดเจ็บภายนอกของเจ้าตัวน้อยเท่านั้น อีกอย่างหนึ่ง อาการบาดเจ็บภายในของเขายังคงเป็นปริศนาสำหรับนาง ดังนั้นนอกจากจะได้รับหินวิญญาณแล้ว เหมิงฉียังต้องพัฒนาการบ่มเพาะของนางโดยเร็วที่สุด ขั้นกลั่นลมปราณนั้นอ่อนแอเกินไป และการบ่มเพาะทางการแพทย์ระดับสองก็ยังไม่เพียงพอ

จู่ๆ เหมิงฉีก็เงยหน้าขึ้น นางก้มหน้าลงและลูบข้อมือของนาง พื้นที่เก็บของกำไลของนางยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม ตามคำอธิบายของคนงานภายในตำหนักแดนเหนือสวรรค์ ของที่อยู่ในที่แห่งนี้ได้แค่ดูเท่านั้น ไม่สามารถใช้หรือส่งมอบได้ หากจะเอาของมีแต่ต้องไปเอาในสามภพ

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด