ตอนที่แล้วบทที่ 29 – "คนรวยที่สุด" ที่ยากจนจนไม่สามารถซื้อหญ้าได้แม้แต่หญ้าเส้นเดียว (I)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31 การประเมินโอสถ (I)

บทที่ 30 "คนรวยที่สุด" ที่ยากจนจนไม่สามารถซื้อหญ้าได้แม้แต่หญ้าเส้นเดียว (II)


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

บทที่ 30  "คนรวยที่สุด" ที่ยากจนจนไม่สามารถซื้อหญ้าได้แม้แต่หญ้าเส้นเดียว (II)

“ขอบคุณ ท่านสหายเต๋า” เหมิงฉีละสายตาและคารวะชายคนนั้นอีกครั้ง

“สหายเต๋าเองก็สุภาพเกินไปแล้ว”

ขณะที่พูดกัน ทั้งสองก็มาถึงประตูเมือง เมื่อยืนอยู่ที่นี่ เหมิงฉีสามารถรับรู้ถึงความกว้างใหญ่ของเมืองได้จริงๆ

“นอกจากนั้น...” ชายผู้บ่มเพาะกล่าว “ยังมีปริศนานับไม่ถ้วนในเหนือสวรรค์แห่งนี้ ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้มีถ้ำสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดและคล้ายได้รับพรมากที่สุดในสามภพทั้งหมด แต่มันก็ยังไม่ได้มีการสำรวจอย่างเต็มที่ หากเจ้าผ่านการทดสอบได้ สหายเต๋าสามารถเข้าร่วมทีมสำรวจ ออกล่าสมบัติในดินแดนลับกับคนอื่น ๆ ได้”

ชายคนนั้นส่ายหัวด้วยความละอายเล็กน้อย “ทว่า มันจำเป็นต้องมีพลังมากพอที่จะเข้าร่วมเสียก่อน อย่างน้อยต้องอยู่ในขั้นตัดวิญญาณ จึงจะสามารถใช้วิญญาณที่แยกออกมาเพื่อเข้าสู่ดินแดนลับได้ ข้าเพิ่งฝ่าขั้นแก่นทองคำและเข้าสู่ขั้นก่อกำเนิด ยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ”

ถ้าอย่างนั้น เหมิงฉีก็ยิ่งห่างไกลออกไปอีก! นางเคยได้ยินมาว่าแดนเหนือสวรรค์มีโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้บ่มเพาะขั้นกำเนิดขึ้นไป ดูเหมือนว่าโอกาสที่ว่าจะหมายถึงดินแดนลับเหล่านั้นกระมัง

ซึ่งหากรวมทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันแล้ว เจ้าของแดนเหนือสวรรค์อาจจะทรงพลังมากจริง ๆ เขาถึงขั้นทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ค้าขายเสรีที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้บ่มเพาะ แถมยังสามารถสร้างเมืองใหญ่เช่นนี้ แม้แต่เกาะลอยน้ำเจ็ดเกาะ เจ้าของแดนเหนือสวรรค์คงไม่ใช่คนเพียงผู้เดียว แต่อาจเป็นสำนักที่ทรงพลังมาก

เหมิงฉีมองไปที่ถนนสายหลักที่เป็นระเบียบเรียบร้อยภายใน นางรู้มาตลอดว่าสามภพนั้นกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ แม้กระทั่งก่อนที่นางจะเกิดใหม่ นางเคยเห็นเพียงมุมเล็กๆ ของโลกเท่านั้น ตอนนี้ สิ่งที่อยู่ตรงหน้านางเหมือนดั่งยักษาลึกลับไม่มีผิด

เหมิงฉีอดถอนหายใจไม่ได้ ไม่น่าแปลกใจที่มันถูกเรียกว่า 'แดนเหนือสวรรค์' สถานที่แห่งนี้เป็นอีกโลกหนึ่งอย่างแท้จริง เหนือกว่าสามภพเสียอีก

“ถ้าสหายเต๋าไม่มีคำถามอื่น ข้าจะขอลาไปก่อน” ชายคนนั้นพูดกับเหมิงฉี

“เจ้าค่ะ” เหมิงฉีคำนับตอบ “ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำของท่านสหายเต๋า”

มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่หลายคน ณ ประตูเมือง ตามคำแนะนำของชายผู้บ่มเพาะชายคนเมื่อครู่ เหมิงฉีก้าวไปข้างหน้าและขอแผนที่เมือง เมืองใหญ่แห่งนี้มีร้านค้ามากมายนับไม่ถ้วน และชื่อของมันคือ 'เมืองเหนือสวรรค์' เมืองนี้แบ่งออกเป็นเก้าพื้นที่ ได้แก่ อาวุธ สิ่งประดิษฐ์ อาภรณ์คลุม ส่วนผสมการกลั่นต่างๆ สัตว์วิญญาณ คาถา... แน่นอนว่ายังมีพื้นที่ที่เชี่ยวชาญด้านการขายโอสถ พิษ และโอสถเม็ดกลั่น

นอกจากนี้ ส่วนกลางยังเป็นสถานที่สำหรับการค้าขายแบบเสรี หากผู้มาเยือนไม่ทราบวิธีจัดประเภทสินค้าของตนเอง หรืออาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนมันกับผู้อื่นในตลาดเสรีได้

หากใครต้องการไปที่เรือนประมูลใหญ่สามแห่งของสวรรค์ โลก และห้วงลึก พวกเขาสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเมืองได้โดยตรง ซึ่งก็จะแนะนำต่อให้พวกเขาไปพบเจ้าหน้าที่ประมูล จากนั้นผู้เชี่ยวชาญจะประเมินมูลค่าของสินค้าและตัดสินใจว่าจะยอมรับการประมูลหรือไม่ และจะส่งไปที่เรือนประมูลใด

เหมิงฉีทำตามคำแนะนำอื่นของชายคนนั้นและขอป้ายชื่อ ป้ายนี้มักจะไม่มีประโยชน์อันใดกับแดนเหนือสวรรค์ แต่สิ่งของที่ซื้อภายในแดนเหนือสวรรค์ไม่สามารถนำออกไปข้างนอกได้โดยตรง ดังนั้นมันจึงจำเป็นต้องมีป้ายชื่อ นางสามารถใช้มันเพื่อรับสินค้าที่นางซื้อได้ที่เมืองใหญ่ๆ ส่วนหินวิญญาณก็จ่ายตอนรับของด้วย แดนเหนือสวรรค์รับประกันความลับของผู้ใช้ แถมยังมีบริการจัดส่งที่รวดเร็วและปลอดภัยอีก

เหมิงฉีคิดและเขียนคำว่า 'เสี่ยวฉี' ลงบนป้ายชื่อ ตอนนี้นางมีหินวิญญาณระดับหกห้าก้อนและเป็นศิษย์ที่ร่ำรวยที่สุดในหุบเขาชิงเฟิงแล้ว ทว่า ตัวนางยังไม่ทราบราคาตลาดของสถานที่แห่งนี้

เหมิงฉีตรวจดูแผนที่และตัดสินใจไปที่บริเวณที่ขายส่วนผสมโอสถ เมืองนี้ใหญ่มาก แต่มีเขตแดนเคลื่อนย้ายมากมายนับไม่ถ้วนในทุกมุม เหมิงฉีทักทายเจ้าหน้าที่คนหนึ่งและก้าวเข้าไปในเขตแดนหนึ่ง จากนั้นนางก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังเขตตะวันออก

ก่อนที่นางจะก้าวเข้าไป กลิ่นโอสถหอมก็อบอวลไปทั่วรูจมูกของนางแล้ว นี่เป็นกลิ่นที่เหมิงฉีชอบที่สุดและอารมณ์ของนางก็ดีขึ้นมาก พื้นที่นี้โดยพื้นฐานแล้วขายส่วนผสมโอสถ พิษ และเม็ดโอสถกลั่นทุกชนิด เหมิงฉีนึกถึงเนื้อหาของแผ่นไม้ไผ่ที่ท่านผู้อาวุโสเหยียนมอบให้และก้าวเข้าไปในร้านค้าแห่งหนึ่งแบบสุ่ม

“ยินดีต้อนรับ” ไม่มีแขกคนอื่นในร้าน มีเพียงชายร่างกำยำอยู่หลังโต๊ะ

“สหายเต๋าต้องการอะไรหรือ?” ชายคนนั้นทักทายด้วยรอยยิ้ม

“มีหญ้าอีกาเหมันต์ไหม?” เหมิงฉีถาม ตามที่บันทึกไว้ในแผ่นไม้ไผ่ หญ้าอีกาเหมันต์ทำให้เกิดแผลที่เลือดออกไม่หยุด ทิ้งรอยสีเงินไว้บนนั้น ทว่า เหมิงฉีไม่กล้าสรุปว่าเสือขาวตัวน้อยถูกพิษจากหญ้าอีกาเหมันต์ นางจึงวางแผนที่จะซื้อมันมาแล้วนำกลับไปตรวจสอบด้วยตนเอง

“มี” เจ้าของร้านถาม “ต้องการเท่าไหร่?”

“ราคาเท่าไหร่?” เหมิงฉีถามอีกครั้ง

“หินวิญญาณระดับหกยี่สิบก้อน” เจ้าของร้านตอบ

เหมิงฉี “?????”

ตามแผ่นไม้ไผ่ หญ้าอีกาเหมันต์เป็นสมุนไพรระดับหก เหมิงฉีเดาไว้แล้วว่ามันคงไม่ถูก แต่นางไม่คิดว่าศิษย์ที่รวยที่สุดในหุบเขาชิงเฟิงจะไม่สามารถซื้อได้แม้แต่เส้นเดียว และนั่นคงเป็นเพียงราคาของส่วนผสมอย่างเดียว ถ้าเหมิงฉีต้องการรักษาเสี่ยวฉีจริงๆ นางเกรงว่าแม้แต่หินวิญญาณระดับหกร้อยก้อนก็คงไม่พอ

นางไม่รู้สึกว่ามันแพงเกินไป และนางก็ไม่ได้วางแผนที่จะไม่ซื้อมัน เพียงแต่ในขณะนั้น เหมิงฉีรู้สึกเสียใจอย่างมากที่นางคิดราคาฉู่เทียนเฟิงเพียงสิบเท่าของราคารักษา…

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด