ตอนที่แล้วบทที่ 27 การรับชำระเงิน (I)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 29 – "คนรวยที่สุด" ที่ยากจนจนไม่สามารถซื้อหญ้าได้แม้แต่หญ้าเส้นเดียว (I)

บทที่ 28 การรับชำระเงิน (II)


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

บทที่ 28  การรับชำระเงิน (II)

ประโยคนี้ฟังดูคุ้นหู เหมิงฉีอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฉู่เทียนเฟิง ผู้อาวุโสท่านนี้กำลังชักชวนนางอยู่หรือ?

“และ……” ซุนเหยียนพูดต่อ “…ศิษย์ทั่วไปจากห้องโถงแพทย์จะได้รับหินวิญญาณขั้นสามสิบก้อนเป็นเงินค่าตอบแทนทุกวัน หากพวกเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น หรือยกขั้นการบ่มเพาะวิชาแพทย์ขึ้นเป็นขั้นที่สูงขึ้น เงินค่าตอบแทนรายวันของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน”

หินวิญญาณขั้นสามสิบก้อนทุกวัน เมื่อเทียบกับหินวิญญาณขั้นหกห้าก้อนที่เหมิงฉีเพิ่งได้รับ นั่นไม่มีค่าอะไรเลย แต่มันจ่ายทุกวัน ดังนั้นหลังจากเวลาผ่านไป จำนวนที่ได้ก็ยังถือว่ามากมายมหาศาล

ซุนเหยียนมองไปที่เหมิงฉีด้วยความคาดหวังบางอย่าง ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่แผ่นไม้ไผ่ในมือของเหมิงฉี “เรายังมีหอตำราวิชาแพทย์พิเศษอีกด้วย”

เขากระแอมไอ “อะแฮ่ม...จากผู้นำข้างบนถึงศิษย์ข้างล่าง สำนักของเราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับห้องโถงแพทย์ หนึ่งในห้ายอดเขาของวังสวรรค์เฟินเทียน เป็นสถานที่ที่มีความหนาแน่นของกลิ่นไอวิญญาณสูงที่สุดในสำนักทั้งหมด ที่นั่นเป็นห้องโถงแพทย์ สมาชิกทั้งหมดของห้องโถงแพทย์สามารถเข้าหอตำราได้อย่างอิสระ ยกเว้นแผ่นไม้ไผ่จำนวนเล็กน้อยที่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าสำนักก่อนเพื่ออ่าน แต่ว่าส่วนใหญ่ก็สามารถเข้าถึงได้ตามต้องการ”

เหมิงฉีคล้ายถูกล่อลวง วังสวรรค์เฟินเทียนเป็นสำนักขนาดใหญ่ที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของดินแดนบูรพา ประกอบกับประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปี ตำรามากมายที่พวกเขาสะสมไว้นั้นย่อมเห็นได้ชัดว่าเหนือกว่าหุบเขาชิงเฟิงมาก

แต่...

นางลังเล เพราะฉู่เทียนเฟิงอยู่ที่นั่นด้วย

“แม่หนูไม่ต้องกังวลไป” ซุนเหยียนเป็นท่านผู้อาวุโสที่มีประสบการณ์ เขามองเห็นความลังเลของเหมิงฉีได้ในทันที “เจ้ามีเวลาให้คิดอย่างรอบคอบได้เลย”

“ขอบคุณสำหรับความกรุณาของท่านผู้อาวุโส” เหมิงฉีคารวะอย่างสุภาพ

ท่าทางของเหล่าศิษย์หุบเขาชิงเฟิงยิ่งน่าพิศวงมากขึ้น ทุกคนต่างมีความคิดเล็กๆ น้อยๆ พวกเขาล้วนต้องการให้สำนักของตนเข้าร่วมภายใต้ร่มธงของวังสวรรค์เฟินเทียน เพื่อแสวงหาการปกป้องจากสำนักที่ใหญ่กว่า ยกเว้นเจ้าสำนัก ศิษย์ส่วนใหญ่ล้วนยินดีรับข้อเสนอนี้ เมื่อเทียบกับหุบเขาชิงเฟิง สำนักที่เล็กมากจนไม่มีใครในดินแดนบูรพาสนใจ พวกเขาจะต้องดีขึ้นกว่าเดิมมากแน่หากได้รับสถานะเป็นศิษย์ของวังสวรรค์เฟินเทียน

เดิมทีพวกเขาคิดว่าลู่ชิงหรัน ซึ่งฉู่เทียนเฟิงพากลับมาจะได้รับเกียรติจากวังสวรรค์เฟินเทียน ดังนั้นเมื่อก่อนพวกเขาจึงนินทาเหมิงฉีอย่างรุนแรง พวกเขาล้วนเอาอกเอาใจลู่ชิงหรันด้วย เพราะไม่มีใครเชื่อว่าเหมิงฉีจะสามารถรักษาฉู่เทียนเฟิงได้ นางแค่พยายามดึงดูดความสนใจของว่าที่เจ้าสำนักวังสวรรค์เฟินเทียนในอนาคตต่างหาก

ใครจะไปคิดกันเล่าว่าในเวลาเพียงไม่กี่วัน สถานการณ์จะกลับตาลปัตร? ศิษย์น้องเหมิงฉีรักษาคุณชายฉู่ได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้อาวุโสขั้นสูงของวังสวรรค์เฟินเทียน ปรมาจารย์ที่ไปถึงจุดสูงสุดของขั้นกำเนิดวิญญาณแล้ว ได้เชิญศิษย์น้องเหมิงเข้าร่วมวังสวรรค์เฟินเทียนด้วยตัวเอง และยังเสนอเงื่อนไขที่ใจกว้างเช่นนี้

สายตาของเหล่าศิษย์ที่มองเหมิงฉีก็ยิ่งกระตือรือร้นมากขึ้น

หลังจากที่ซุนเหยียนพูดคุยอย่างสุภาพกับเจ้าสำนักหลายคำ คนในห้องโถงก็สลายตัว

เหมิงฉีเดินตามหลังเหยียนหมิงเฟิงไปทางห้องสมุด

“เจ้าอยากไปไหม?” เหยียนหมิงเฟิงมองดูศิษย์ที่เงียบขรึม มีรอยยิ้มจาง ๆ ในดวงตาของเขา

“ศิษย์ผู้นี้รู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย” เหมิงฉีตอบ “วังสวรรค์เฟินเทียนเป็นสำนักขนาดใหญ่ สิ่งของที่รวบรวมอย่างตำราของพวกเขาคงมีมากมายมหาศาลแน่ๆ”

เหยียนหมิงเฟิงพยักหน้า “โอกาสแบบนี้หาได้ยากจริงๆ”

เหยียนหมิงเฟิงไม่อาจมองทะลุศิษย์คนนี้ได้เลย เขานึกถึงตอนที่เด็กสาวคนนี้ขอเงินต่อหน้าธารกำนัล ทำให้ผู้อาวุโสขั้นกำเนิดวิญญาณถึงกับลนลาน

รอยยิ้มในดวงตาของเหยียนหมิงเฟิงลึกซึ้งขึ้น “ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังแจกหินวิญญาณขั้นสามสิบก้อนทุกวัน วังสวรรค์เฟินเทียนเป็นสำนักที่ร่ำรวยเงินทองจริงๆ” เขาพูดติดตลกกับเหมิงฉีอย่างที่ไม่ค่อยทำ “เจ้าควรไปนะ”

แก้มของเหมิงฉีแดงก่ำ แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะดูสงบ ไม่กลัวและตรงไปตรงมากับผู้อาวุโสขั้นก่อกำเนิด แต่นางก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย

“เจ้ารู้หรือไม่ว่านอกจากตำหนักเซียนเมฆาแล้ว สามภพยังมีสถานที่ที่เรียกว่าแดนเหนือสวรรค์อยู่อีก?” เหยียนหมิงเฟิงเห็นแก้มแดงของเหมิงฉีและเปลี่ยนเรื่อง มือของเขาอยู่ข้างหลัง เขายังคงพูดต่อไป “แดนเหนือสวรรค์ค่อนข้างลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าที่อยู่แท้จริงของมันอยู่ที่ใด แต่ของหายากหลายอย่างที่ไม่สามารถหาได้ในตำหนักเซียนเมฆาก็มีขายในแดนเหนือสวรรค์ ตราบใดที่เจ้ามีหินวิญญาณเพียงพอ ไม่มีอะไรที่เจ้าซื้อไม่ได้”

“ศิษย์เคยได้ยินมาบ้าง” ความอยากรู้อยากเห็นของเหมิงฉีเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือว่าแดนเหนือสวรรค์นั้นลึกลับมาก เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำ มิฉะนั้นอาจจะหาทางเข้าไม่เจอด้วยซ้ำ ในชีวิตก่อนหน้านี้ เหมิงฉีไม่เคยมีโอกาสไปเยี่ยมชมที่นั่น

เหยียนหมิงเฟิงขยับมือเบา ๆ และแผ่นหยกเล็ก ๆ ก็ตกลงบนฝ่ามือของเขา

“รับไปสิ” เขายื่นแผ่นหยกให้เหมิงฉี “หลังจากที่เจ้าประทับตราประสาทสัมผัสทางวิญญาณลงไปในนั้นแล้ว เจ้าสามารถเข้าสู่แดนเหนือสวรรค์ผ่านแผ่นหยกนี้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ”

“ขอบคุณท่านผู้อาวุโส แต่ถ้าท่านให้ข้าแล้ว ท่าน...”

“ไม่ต้องห่วง” เหยียนหมิงเฟิงโบกมือ “ข้ายังมีอีกหนึ่ง”

เหมิงฉีกระพริบตา ท่านผู้อาวุโสเหยียนเป็นผู้อาวุโสที่น่านับถือของหุบเขาชิงเฟิง เป็นผู้บ่มเพาะแก่นทองคำที่ทรงพลัง แต่สถานที่อย่างแดนเหนือสวรรค์ แม้แต่เจ้าสำนักเองก็อาจไม่เคยเข้าไป มีคนกล่าวไว้ว่าในสามพันโลกทั้งหมด มีผู้บ่มเพาะเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้าสู่แดนเหนือสวรรค์ได้ และส่วนใหญ่มีระดับอย่างน้อยในขั้นก่อกำเนิด

เหมิงฉีก้มหน้าลง ศึกษาแผ่นหยกอุ่นๆ ในมือของนาง จากนั้นนางมองไปทางท่านผู้อาวุโสเหยียนที่กำลังเดินช้าๆ ผู้อาวุโสสงบนิ่งและสุขุม ไม่ได้ดูสูงส่งแม้แต่น้อย เหมิงฉีได้ยินประสบการณ์ของเขาเพียงบางส่วนและมีความเคารพอย่างมากต่อผู้อาวุโสผู้นี้ซึ่งมีขั้นระดับการบ่มเพาะทางการแพทย์สูงที่สุดในสำนักทั้งหมด ดังนั้นนางจึงชอบขอคำแนะนำและคำชี้แนะจากท่านผู้อาวุโสเหยียน ทั้งก่อนและหลังการเกิดใหม่ของนาง

นางไม่เคยคาดคิดเลยว่า...

“ถ้ามีอะไรที่เจ้าไม่เข้าใจในแผ่นไม้ไผ่นั้น เจ้าสามารถมาที่ห้องสมุดในวันพรุ่งนี้ได้”

“เจ้าค่ะ ท่านผู้อาวุโส” เหมิงฉีคารวะด้านหลังของเขา นางเก็บแผ่นหยกอย่างระมัดระวังและหันกลับไปที่ห้องของนาง

ประตูปิดสนิทเหมือนเดิม เมื่อเหมิงฉีผลักประตูเปิด เสือขาวตัวน้อยที่นอนอยู่บนเตียงก็เงยหน้าขึ้นทันที หลังจากเห็นว่าเป็นเหมิงฉี เจ้าตัวน้อยก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้งอย่างเกียจคร้าน

“เสี่ยวฉี” เหมิงฉีก้าวไปข้างหน้า นางถูขนนุ่มของเสือน้อยอย่างมีความสุขอยู่ครู่หนึ่ง เพลิดเพลินกับสัมผัสที่สบายบนฝ่ามือของนาง

เสือขาวน้อย “...”

ดูเหมือนว่ามันจะยอมแพ้ไปแล้ว ดวงตาของมันหรี่ลงด้วยความสิ้นหวัง

“ข้าอาจจะพอมีหนทางรักษาพิษที่อุ้งเท้าของเจ้าแล้ว” เหมิงฉีบอกเขา นางหยิบแผ่นไม้ไผ่ออกมาอีกครั้ง “วันนี้ข้าเก็บหินวิญญาณจากฉู่เทียนเฟิงได้ ดังนั้นตอนนี้ข้ามีเงินซื้อสมุนไพรที่จำเป็นสำหรับยารักษาของเจ้าได้” เหมิงฉียิ้มและบีบหูเสือขาวตัวน้อย แม้ว่าความกังวลของนางยังคงอยู่ แต่นางควรจดจ่อกับสิ่งที่นางทำได้ในตอนนี้

เหมิงฉีหยิบแผ่นหยกที่ท่านผู้อาวุโสเหยียนให้มา หากจะซื้อส่วนผสมโอสถที่หายาก มีแต่ต้องไปยังแดนเหนือสวรรค์เท่านั้น

เสือขาวตัวน้อยนอนหงาย ปล่อยให้นางจับตัว เมื่อมันเห็นแผ่นหยก แววตาประหลาดใจก็แวบขึ้นมาในดวงตาสีฟ้า

แดนเหนือสวรรค์? เสือขาวน้อยมองไปที่เหมิงฉี จากนั้นมองไปที่แผ่นหยก ดูเหมือนว่าหุบเขาชิงเฟิงคงจะไม่ได้ธรรมดาอย่างที่มันคิดเอาไว้

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด