ตอนที่แล้วบทที่ 26 ผู้อาวุโสแห่งวังสวรรค์เฟินเทียน( II)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 28 การรับชำระเงิน (II)

บทที่ 27 การรับชำระเงิน (I)


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

บทที่ 27 การรับชำระเงิน (I)

“เหมิงฉี!” เจ้าสำนักของหุบเขาชิงเฟิงหน้าแดงก่ำและตำหนิเหมิงฉีอย่างรวดเร็ว “อย่าหยาบคาย”

ห้องโถงใหญ่ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจในทันที เหล่าศิษย์หุบเขาชิงเฟิงมองดูฉากที่คุ้นเคยกำลังแสดงซ้ำต่อหน้าต่อตาพวกเขา ไม่กี่วันก่อน พวกเขาดูเหมือนจะเห็นฉากที่คล้ายกัน พวกเขาต่างกำลังสับสน เพราะพวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าศิษย์น้องหญิงเหมิงฉีจะสามารถรักษาคุณชายฉู่ได้จริง ๆ

ผู้อาวุโสแห่งวังสวรรค์เฟินเทียนมองหลานชายของเขาอย่างครุ่นคิด ใบหน้าของฉู่เทียนเฟิงดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้โกรธ ผู้อาวุโสหันไปมองเหมิงฉีอีกครั้ง ในฐานะผู้บ่มเพาะขั้นก่อกำเนิดวิญญาณที่ทรงพลัง เขาย่อมไม่มีของไร้ค่าอย่างหินวิญญาณติดตัวอยู่แล้ว

“อืม...แม่หนูสหายเต๋าคนนี้น่าสนใจจริง ๆ” ผู้อาวุโสกระแอมเบา ๆ เขาส่งสัญญาณให้ศิษย์ของเขาหยิบแผ่นไม้ไผ่ทั้งสองขึ้นมา

“อาจารย์” ศิษย์รีบมองไปที่แผ่นไม้ไผ่และพูดอย่างสับสนเล็กน้อย “รวมทั้งหมดได้หินวิญญาณขั้นหกห้าก้อนและหินวิญญาณขั้นสามจำนวนสามก้อนขอรับ”

ฉู่เทียนเฟิงมองไปยังเหมิงฉี แผ่นไม้ไผ่อันที่สองที่เขาให้ไปไม่มีจำนวนหินวิญญาณที่เฉพาะเจาะจง ดังนั้นนางสามารถใส่จำนวนตามที่นางต้องการได้เลย ทว่าเหมิงฉีไม่ได้เอาเปรียบเขาและใส่ราคาตามที่นางแจ้งเขาไว้ก่อนหน้านี้

นางไม่ได้กรรโชกเขาเลย ซึ่งมันกลับทำให้ฉู่เทียนเฟิงรู้สึกไม่สบายใจ เหมิงฉีช่วยชีวิตคุณชายแห่งวังสวรรค์เฟินเทียนได้ บุญคุณแบบนี้มันถูกเกินไปที่จะจ่ายด้วยหินวิญญาณเพียงไม่กี่ชิ้น แต่มันก็ไม่สำคัญสักนิด ฉู่เทียนเฟิงจ้องมองเหมิงฉีอย่างเงียบ ๆ ใบหน้าที่แดงก่ำของเขาเมื่อครู่นี้สงบลงแล้ว มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มบาง ๆ

หินวิญญาณขั้นหกห้าก้อนมีความหมายอะไรกันในสามภพ? เหล่าศิษย์ของหุบเขาชิงเฟิงจะได้รับรางวัลเมื่อทำภารกิจสำนักสำเร็จ โดยปกติแล้วรางวัลจะอยู่ที่ประมาณสิบถึงหนึ่งร้อยหินวิญญาณขั้นหนึ่ง ส่วนภารกิจที่ยากขึ้น อาจได้หินวิญญาณขั้นสองสูงสุดหนึ่งร้อยก้อน ทว่า ภารกิจที่มีรางวัลสูงเช่นนี้ มันมักใช้เวลาหนึ่งเดือนหรือมากกว่าในการทำให้สำเร็จ และยังมาพร้อมกับอันตรายมากมาย

หินวิญญาณขั้นหนึ่งหนึ่งพันก้อนสามารถแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณขั้นสองหนึ่งก้อน หินวิญญาณขั้นสองหนึ่งพันก้อนสามารถแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณขั้นสามหนึ่งก้อน และระดับสูงก็มีหลักการเช่นนั้น การได้รับหินวิญญาณขั้นหกเพียงก้อนเดียวคงจำเป็นต้องให้ศิษย์ทั้งหมดของหุบเขาชิงเฟิงทำภารกิจเป็นเวลาหลายปี

นอกประตูสำนัก เช่น ภายในเมือง หากมีหินวิญญาณจำนวนมากขนาดนี้ ผู้ที่มีมันคงมั่งคั่งมหาศาล ในพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองและปลอดภัยที่สุดในดินแดนบูรพาอย่าง สิบเมืองที่ติดกับสิบสำนักหลัก หินวิญญาณขั้นหกห้าก้อนก็สามารถซื้อที่อยู่อาศัยอันงดงามพร้อมลานกว้างสามแห่งได้เลย แน่นอนว่าสิ่งนี้มันมีความสำคัญเพียงเล็กน้อยสำหรับผู้บ่มเพาะ ผู้บ่มเพาะขั้นสูงไม่สนใจหินวิญญาณมากนัก สิ่งที่พวกเขาต้องการคือสมบัติขั้นสูงต่างหาก

เหล่าศิษย์ของหุบเขาชิงเฟิงเฝ้ามองเหมิงฉีอย่างเงียบ ๆ ผู้ยืนอยู่ข้าง ๆ ท่านผู้อาวุโสเหยียน นางยังคงสวมอาภรณ์คลุมสีฟ้าเรียบ ๆ ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของนางไม่มีร่องรอยของแป้งเหมือนเช่นเคย แต่ใครจะไปคิดกันเล่าว่าศิษย์น้องคนนี้ที่เพิ่งเข้าสำนักได้ครึ่งปี จะกลายเป็นศิษย์ที่ร่ำรวยที่สุดในหุบเขาชิงเฟิงในทันที?!

พวกเขารู้สึกอิจฉาและค่อนข้างขมขื่น ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเขาหลายคนหัวเราะเยาะเหมิงฉีลับหลัง พวกเขาคิดว่านางประเมินความสามารถของตนสูงเกินไป คิดว่านางคงแค่กำลังใช้คำพูดของนางเพื่อดึงดูดความสนใจของคุณชายจากสำนักใหญ่โดยมีเจตนาแอบแฝง แต่ตอนนี้ หินวิญญาณได้ตกลงไปในย่ามของเหมิงฉีจริง ๆ ซึ่งนั่นคือจำนวนความมั่งคั่งที่ศิษย์ส่วนใหญ่คงไม่อาจหามาครองได้เลยตลอดชีวิต แต่วังสวรรค์เฟินเทียนกลับจ่ายมันให้นางจริง ๆ !

ในขณะเดียวกัน สีหน้าของศิษย์น้องลู่ชิงหรันก็ดูไม่ค่อยดีนัก ดูเหมือนคุณชายฉู่จะไม่ค่อยชอบนางเท่าไร

เหมิงฉีไม่สนความคิดของศิษย์ร่วมสำนัก หลังจากรวบรวมหินวิญญาณ จิตใจของนางก็วางแผนง่าย ๆ ไว้แล้ว ตอนนี้นางสามารถเปลี่ยนกำไลเก็บของของนางเป็นกำไลที่ดีกว่าได้ นางยังสามารถไปที่ตำหนิกเซียนเมฆาเพื่อซื้อสมุนไพรที่นางต้องการ

เสียอย่างเดียว เหมิงฉียังคงอ่อนแอเกินไป นางจึงควรซื้อสิ่งประดิษฐ์ช่วยชีวิตไว้บ้าง ด้วยแผนการมากมายขนาดนี้ที่วางไว้ในหัว หินวิญญาณขั้นหกอาจไม่เพียงพอ...อีกทั้งมันยังมีบางอย่างที่นางต้องทำก่อน

หลังจากได้รับเงินแล้ว เหมิงฉีก็ละสายตาและเดินกลับไปยืนข้าง ๆ ท่านผู้อาวุโสเหยียนอย่างเงียบ ๆ นางยังอ่านแผ่นไม้ไผ่ไม่จบ สาเหตุที่นางทำเช่นนี้ เพราะนางคิดว่าผู้อาวุโสแห่งวังสวรรค์เฟินเทียนและฉู่เทียนเฟิงคงไม่อยากคุยกับนางในตอนนี้

ผู้อาวุโสแห่งวังสวรรค์เฟินเทียนมีชื่อว่า ซุนเหยียน เขาอยู่ในขั้นสูงสุดของขั้นก่อกำเนิดวิญญาณและดูเหมือนจะอยู่ในวัยสี่สิบ แต่แท้จริงแล้วปีนี้เขาอายุ 90 ปี เขาเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของสำนักที่เก่งในการสื่อสารกับผู้อื่น จึงได้ถูกส่งตัวมายังหุบเขาชิงเฟิงเพื่อช่วยเหลือฉู่เทียนเฟิง

ซุนเหยียนเห็นว่าศิษย์สาวแห่งหุบเขาชิงเฟิงผู้นี้นับหินวิญญาณและเก็บไว้อย่างระมัดระวัง ก่อนจะยืนอย่างว่าง่ายข้าง ๆ เหยียนหมิงเฟิง แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าผู้บ่มเพาะนั้นก็ต้องการทั้งเงินและอำนาจ แต่การกระทำของเด็กสาวทำให้เขาสับสนเป็นอย่างยิ่ง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ไม่สามารถหาคำพูดใด ๆ ได้ บรรยากาศที่สนุกสนานและกลมเกลียวในตอนแรกกลับแปรเปลี่ยนกลายเป็นความอึดอัด

ซุนเหยียนเห็นแผ่นไม้ไผ่ในมือของเหมิงฉีเรืองแสงอีกครั้ง เขารู้ได้เลยว่าถ้าเขาไม่พูดอะไรตอนนี้ หญิงสาวจะต้องอ่านต่ออย่างแน่นอน เขาจึงรีบไอ “แม่นางเหมิง”

เหมิงฉียกตาขึ้นอย่างเลื่อนลอย “ท่านผู้อาวุโสยังมีอะไรอีกหรือไม่?”

“แค่ก แค่ก...” ซุนเหยียนไออีกครั้ง เขาพยายามดึงเรื่องให้เข้าร่องเข้ารอย “สำนักของเราซาบซึ้งในตัวเจ้ามาก”

“ท่านผู้อาวุโสกล่าวเกินไปแล้ว” เหมิงฉีตอบอย่างไม่ใส่ใจ “การได้รับค่าตอบแทนและการรักษาคนไข้เป็นเรื่องปกติสำหรับหมอทุกคน”

นางโบกมือกล่าวปัด ๆ ไป “ดังนั้น ท่านผู้อาวุโสไม่จำเป็นต้องรู้สึกขอบคุณเลย”

เจ้าสำนักหุบเขาชิงเฟิง “...”

เหล่าศิษย์หุบเขาชิงเฟิง “...”

ศิษย์น้องหญิงคนนี้โง่หรือเปล่า? หินวิญญาณไม่กี่ก้อนจะไปเทียบอะไรกับหนี้บุญคุณจากวังสวรรค์เฟินเทียนได้?!

ใบหน้าของลู่ชิงหรันซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เจ้าสำนักซีดเผือดลงทันที นางมองไปที่เหมิงฉีด้วยความไม่เชื่อ นางไม่เข้าใจศิษย์น้องหญิงคนนี้ ฉู่เทียนเฟิงทำให้นางขายหน้าสองครั้งเพราะศิษย์น้องหญิง และเห็นได้ชัดว่าเขา...ก็ปฏิบัติต่อศิษย์น้องหญิงของนางต่างออกไป...

แล้วไฉนเลย ทำไมศิษย์น้องหญิงถึงทำเหมือนกำลังผลักไสเขาออกไปเล่า?!

“แค่ก แค่ก แค่ก...” ซุนเหยียนต้องไออีกครั้ง ในสายตาของเขา หินวิญญาณจำนวนนั้นไม่มีค่าอะไร เขาเป็นผู้อาวุโสแห่งวังสวรรค์เฟินเทียน การสรรหาคนมีความสามารถให้กับสำนักเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของเขา เด็กสาวที่ยังอยู่ในขั้นกลั่นลมปราณที่สามารถแก้พิษจากสัตว์อสูรขั้นห้าได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้มีความสามารถที่หายาก แม้ว่าบุคลิกของนางจะค่อนข้าง...แปลกประหลาดไปหน่อยก็เถอะ

แต่วังสวรรค์เฟินเทียนของพวกเขาร่ำรวย! พวกเขามีเงิน!

เมื่อตัดสินใจได้ ซุนเหยียนก็กระแอมเบา ๆ “ในสำนักของเรามีห้องโถงแพทย์พิเศษ...”

เหมิงฉี “?????”

ประโยคนี้ฟังดูคุ้นหูเสียนี่กระไร เหมิงฉีอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฉู่เทียนเฟิง ผู้อาวุโสท่านนี้กำลังชักชวนนางเข้าสำนักอยู่หรือ?

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด