บทที่ 240 ชิ้นส่วน
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 240 ชิ้นส่วน
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ? หัวข้อการวิจัยอันดับ 3 ที่ข้าให้เจ้าศึกษาดู มันมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไป?”
ทันใดนั้น ใบหน้าของซุนเฉิงก็เปลี่ยนสี เขารีบเข้าไปหา 'เทเลทราน' เพื่อถามมันทีนที
"ขอรับ นายท่าน! เนื่องด้วยคำสั่งของท่าน ข้าจึงเฝ้าติดตามหัวข้อการวิจัยหลายหัวข้อและเช่นเดียวกันกับวิจัยหัวข้อที่ 3... "
เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว ดวงตาของซุนเฉิงก็ดูจริงจังขึ้น เขาสั่ง "เทเลทราน" ในทันทีว่า "ถ้างั้น จงนำข้อมูลการวิจัยและวิดีโอทั้งหมดที่เจ้ารวบรวมไว้เกี่ยวกับหมายเลข 3 ส่งมาให้ข้าด้วย เร็วๆ เลย.."
“รับทราบขอรับนายท่าน กรุณารอสักครู่...”
นับตั้งแต่วันที่อยู่ในฐานทัพที่ 1 ซุนเฉิงได้จัดตั้งห้องปฏิบัติการในไซโลปล่อยขีปนาวุธใต้ดิน
แต่ว่าในเวลานั้น มันเป็นเหมือนห้องปฏิบัติเฉพาะกิจมากกว่าห้องปฏิบัติการจริง
ที่นั่นเขาจำเป็นต้องให้ดีเซปติคอนตนอื่นปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องจักรกลสภาพเลวร้าย ทำให้ห้องปฏิบัติการที่ฐานทัพที่ 1 ส่วนใหญ่เหมือนเป็นห้องเก็บของเบ็ดเตล็ดเสียมากกว่า
แต่ว่า สถานการณ์นี้ได้เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาได้จัดตั้งฐานทัพที่ 2
สิ่งมีชีวิตจักรกลมีความสามารถในการจดจำที่เหนือกว่ามนุษย์มาก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่รวบรวมทางออนไลน์ หรือการอ่านหนังสือพิมพ์ หนังสือ ตำราเรียน และอื่นๆ อีกมากมาย พวกเขาสามารถจดจำทุกอย่างได้ทันที
ด้วยความสามารถในการจดจำอันน่าทึ่งเช่นนี้ ซุนเฉิงจึงใช้ความพยายามอย่างมากในการเรียนรู้และทำความเข้าใจในหลากหลายสาขาวิชา จนสั่งสมองค์ความรู้มหาศาลในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จากที่เคยเป็นเพียงนักศึกษาที่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เขาก็สามารถเข้าใจศาสตร์และความรู้หลากหลายแขนงได้แล้ว
ด้วยความเข้าใจที่เพิ่มมากขึ้น เขาค่อยๆ เริ่มถอดรหัสหลักการทางเทคโนโลยีที่มาจากต่างดาว
ต่อมาด้วยความช่วยเหลือของ 'เทเลทราน' เขาได้เปลี่ยนห้องปฏิบัติการในฐานที่ 2 ให้เป็นสถานที่วิจัยจริงอย่างแท้จริง
นับตั้งแต่ได้ห้องปฏิบัติการของจริงมา ซุนเฉิงได้มุ่งเน้นไปที่หัวข้อการวิจัยเพียงสามหัวข้อเท่านั้น
หนึ่งในนั้นคือแผนการออกแบบและดัดแปลงตัวถังเครื่องจักรกลใหม่ของเขา!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหัวข้อนี้มีระยะเวลาการวิจัยที่ยาวนานที่สุด ถึงแม้ว่าออนสลอตจะได้ให้แบบร่างรายละเอียดสำหรับร่างกายจักรกลใหม่ของเขาก่อนที่จะหายตัวไป แต่ซุนเฉิงก็ไม่สามารถไว้ใจอีกฝ่ายได้อย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ต้องการให้ออนสลอตรู้ถึงความสามารถร่างกายจักรกลใหม่ของเขามากเกินไป
ดังนั้นเขาจึงไม่เพียงแต่สั่งการให้แอตลาสปรับแก้แบบร่างเท่านั้น แต่ยังพยายามใช้แนวคิดต่างๆ ในการปรับเปลี่ยนการออกแบบร่างกายจักรกลใหม่ของเขาด้วย ซึ่งด้วยความช่วยเหลือของ 'เทเลทราน' เขาค่อยๆ ปรับเปลี่ยนแบบร่างใหม่นี้ให้เป็นไปตามที่เขาต้องการ
ซึ่งไอ้ตัวหัวข้อที่สองและสาม มันเป็นหัวข้อวิจัยที่เขาเพิ่งจะมาสนใจ
ซุนเฉิงตั้งชื่อโครงการวิจัยที่สองว่า "โลกลึกลับ" มันคือภารกิจหาเครื่องจักรที่สามารถทำลายดวงดาวที่นายพลบีสต์กล่าวไว้ก่อนตายไป รวมถึงสถานที่ฝังศพของท่านผู้นำไพรม์คนเก่า และวัตถุปริศนาที่นายพลบีสต์ได้รับในการเดินทางครั้งสุดท้ายของเขา
โครงการนี้มีความคืบหน้าเล็กน้อย สาเหตุที่ล่าช้าเพราะถึงจะมีอักขระไซเบอร์ตรอนเนียนจำนวนมากยังคงอยู่บนโลกใบนี้ แต่ก็มีหลายอักขระที่เขียนด้วยภาษาโบราณตั้งแต่ยุคไพรม์ ทำให้เขาอ่านมันไม่ออก ประการที่สองคือโลกมันกว้างใหญ่เกินไป
ส่วนหัวข้อการวิจัยที่สามเป็นหัวข้อวิจัยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ซุนเฉิงเริ่มมันก่อนที่เขาจะออกเดินทางเมื่อสองวันก่อน หัวข้อการวิจัยเรื่องที่สามคือเรื่อง ออลสปาร์ค ที่เขาได้รับในระหว่างการต่อสู้ที่ลาสเวกัส!
เมื่อได้รับคำสั่งของเขา 'เทเลทราน' ก็ส่งวิดีโอและข้อมูลการวิจัยทั้งหมดที่บันทึกไว้ภายในห้องปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว
เหตุผลที่เขาตัดสินใจศึกษาชิ้นส่วนออลสปาร์ค ที่จริงมันเป็นเรื่องบังเอิญ
ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังรัสเซียเพื่อส่งมอบทรัพยากร ซุนเฉิงก็ตระหนักว่าเขามองข้ามสิ่งหนึ่งไป พวกเขาขาดยานพาหนะขนส่งที่ปลอดภัย
เป็นผลให้เขาเริ่มเคลียร์พื้นที่มิติทรงกลม นำสิ่งของและอุปกรณ์มากมายที่เขาเก็บไว้ภายในออกมาไปวางไว้ในโกดังสินค้าของฐานทัพที่ 2
ในระหว่างขั้นตอนนี้ ซุนเฉิงได้เห็นชิ้นส่วนออลสปาร์คอีกครั้ง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เขาแทบไม่ได้แตะต้องมาเป็นเวลานานแล้ว
ตอนนั้นเองที่เขารู้ว่าเขาเมินไปเดือนกว่าแล้ว…
พอเพิ่งมารู้สึกตัว มันก็ดึงดูดความสนใจของเขาทันทีห
ไม่นานหลังจากการต่อสู้ในลาสเวกัส ซุนเฉิงสังเกตเห็นว่าเศษชิ้นส่วนของออลสปาร์คที่เขาได้รับมานั้นเหมือนกำลังฟื้นตัวมันเองได้
แต่ว่าในตอนนั้น กระบวนการฟื้นฟูของมันนั้นช้าอย่างมาก
เขาคาดว่ามันคงจะใช้เวลาหลายร้อยหรือหลายพันปี กว่าเศษชิ้นส่วนพวกนี้จะฟื้นตัวเต็มที่
ดังนั้นเขาจึงเก็บชิ้นส่วนที่เก็บไว้ในพื้นที่ทรงกลมโดยไม่แตะต้องเป็นเวลาหลายเดือน
เขาไม่รู้เลยว่าในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ไม่ได้สนใจออลสปาร์ค มันจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
ตอนนี้ ตัวออลสปาร์คสามารถปล่อยรังสีที่เปลี่ยนอุปกรณ์ทั่วไปให้กลายเป็นดีเซปติคอนได้แล้ว
หากเขาไม่ได้ค้นมิติทรงกลมของเขา…เขาคงได้แต่ทิ้งให้มันกองเล่นเสียเปล่าแน่
หลังจากได้รับการส่งสัญญาณภาพและข้อมูลทั้งหมดจาก "เทเลทราน" ซุนเฉิงก็เริ่มประมวลผลข้อมูลอย่างเงียบๆ
เนื่องจากการเดินทางไปรัสเซียที่ใกล้เข้ามา เขาจึงต้องปล่อยให้หัวข้อวิจัยที่ 3 ให้ "เทเลทราน" ตรวจสอบแทนเขา
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า ภายในไม่กี่วัน มันจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแบบนี้
“... ชิ้นส่วนสามารถดูดซับพลังงานได้สินะ...พาข้าไปดูที่นั่นหน่อย...”
หลังจากใช้เวลากว่าสิบนาทีในการย่อยข้อมูลที่ส่งมาจาก "เทเลทราน" ซุนเฉิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หน้าตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
"ขอรับ นายท่าน!"
เนื่องจาก "เทเลทราน" เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีแขนขา ซุนเฉิงจึงนำหุ่นยนต์อุตสาหกรรมสี่ตัวมาช่วยในห้องปฏิบัติการ
ในขณะนี้ หุ่นยนต์อุตสาหกรรมตัวหนึ่งเข้ามาใกล้ มันโค้งคำนับเล็กน้อย จากนั้นจึงพาเขาไปที่มุมหนึ่งของห้องปฏิบัติการ
ห้องปฏิบัติการมีขนาดไม่ใหญ่มาก ดังนั้นซุนเฉิงจึงไปถึงมุมนั้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าหลังจากที่หุ่นยนต์อุตสาหกรรมเปิดใช้งานอุปกรณ์ แสงสีฟ้าก็ส่องประกายในดวงตาของเขาขึ้นมาทันที