บทที่ 24 ผู้อาวุโสเหยียน (II)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 24 ผู้อาวุโสเหยียน (II)
ถึงแม้ว่าหุบเขาชิงเฟิงจะเป็นเพียงหุบเขาขนาดเล็ก แต่ก็ถูกก่อตั้งมานานกว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว ประวัติศาสตร์ของสำนักแพทย์นี้ใกล้จะถึงสองร้อยปีแล้ว ทุกครั้งที่ศิษย์กลับไปยังสำนักหลังจากออกเดินทางไปข้างนอก พวกเขาจะบันทึกประสบการณ์ลงในแผ่นไม้ไผ่และมอบให้กับสำนักเพื่อแลกกับคะแนนสนับสนุนจำนวนหนึ่ง บันทึกทั้งหมดเหล่านี้สามารถพบได้ในหอตำรา ผู้ดูแลหอตำราคือท่านผู้อาวุโสเหยียน เขายังเป็นอาจารย์ที่เหมิงฉีชื่นชมมากที่สุดในหุบเขาชิงเฟิงอีกด้วย
เหมิงฉีวางกับดักด้วยโอสถบางชนิดเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาในห้องของนาง จากนั้นนางก็หันกลับไปหาเสือน้อยขี้เกียจ อันที่จริง ถึงแม้จะไม่นับเรื่องความสัมพันธ์ที่เจ้าตัวน้อยอาจข้องเกี่ยวกับชายอาภรณ์สีขาวที่คล้ายกับอาจารย์ของนาง เหมิงฉีก็ยังอยากจะรักษามันอยู่ดี
เพราะสัมผัสร่างกายมันนุ่มนิ่ม น่ารัก ขนนุ่มฟู
เหมิงฉีปิดประตูและเดินอย่างรวดเร็วไปยังหอตำราที่อยู่ด้านหลังของสำนัก เวลานี้ดวงอาทิตย์กำลังตกดิน แสงอาทิตย์อัสดงทอดลงมายังภูเขาที่ตั้งของหุบเขาชิงเฟิง รอบเวลานี้มักจะเป็นช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดในหนึ่งวัน เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่การฝึกและชั้นเรียนเพิ่งจะสิ้นสุดลง แต่ระหว่างทางไปห้องสมุด เหมิงฉีกลับไม่เห็นศิษย์คนอื่น ๆ เลย
จนกระทั่งนางเข้าไปในชั้นล่างของหอตำรา นางจึงได้เห็นท่านผู้อาวุโสเหยียนที่ดูแลหอตำรา นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ มีแผ่นไม้ไผ่เรียงรายลอยอยู่ตรงหน้าท่านผู้อาวุโส เหมิงฉีไม่อาจมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขา แต่แผ่นไม้ไผ่ก็บินขึ้นอย่างรวดเร็ว นางเคยเห็นฉากนี้หลายครั้ง แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าจ้องมองแผ่นไม้ไผ่ที่ลอยอยู่
หอตำราในหุบเขาชิงเฟิงไม่ได้ใหญ่โต เป็นเรือนสี่ชั้นที่มีส่วนตรงกลางโล่ง บนแต่ละด้านมีชั้นหนังสือแขวนจากเพดานลงมาถึงพื้น ด้านบนเต็มไปด้วยแผ่นไม้ไผ่ที่ซ้อนทับกัน มีบันไดเวียนจากชั้นหนึ่งขึ้นไปถึงชั้นสาม แต่ถัดขึ้นไป ไม่มีบันได
แผ่นไม้ไผ่ส่วนใหญ่อยู่บนชั้นแรก แผ่นไม้ส่วนใหญ่บินเข้าไปในชั้นหนังสือบนชั้นนี้กัน ยกเว้นอันหนึ่งที่ค่อย ๆ บินขึ้นไปยังชั้นสาม มันลงจอดบนชั้นวางที่ว่างเปล่า
“เหมิงฉี” ท่านผู้อาวุโสเหยียนลืมตาขึ้น เขาเหมือนคนอายุสามสิบต้นๆ สวมอาภรณ์คลุมสีฟ้าของหุบเขาชิงเฟิง ผมยาวถูกรวบไว้ด้านบนศีรษะ รวบเป็นเปียเอียงด้วยเครื่องประดับศีรษะไม้ไผ่รูปร่างแปลกตา
“ท่านผู้อาวุโสเหยียน” เหมิงฉีคารวะเขาอย่างนอบน้อม “ศิษย์ผู้นี้ต้องการขอความช่วยเหลือจากท่านผู้อาวุโส”
ท่านผู้อาวุโสเหยียนไม่ได้ถามรายละเอียด แต่กลับจ้องมองเหมิงฉี “วันนี้มีแขกผู้มีเกียรติมาที่สำนักของเรา เจ้าสำนักเรียกศิษย์ทั้งหมดไปต้อนรับที่ห้องโถงใหญ่ ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
“แขกผู้มีเกียรติ?” เหมิงฉีสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกออก เมื่อครู่นี้ลู่ชิงหรันกำลังรอฉู่เทียนเฟิงอยู่ที่ประตูหลัก ดังนั้นแขกคนที่ว่าต้องเป็นคนจากวังสวรรค์เฟินเทียนเป็นแน่
พวกเขามาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?! นางเพิ่งจะรักษาฉู่เทียนเฟิงเสร็จเองนะ!
แต่นี่ไม่เกี่ยวกับเหมิงฉี ในชีวิตก่อนนางถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินและสามารถเอาชีวิตรอดจากช่วงเวลาอันตรายได้โดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ครั้งนี้... ถ้านางระวังตัว นางคงจะปลอดภัย
“ศิษย์ผู้นี้ไม่ทราบ” นางตอบอย่างซื่อสัตย์
มีรอยยิ้มจาง ๆ ผุดขึ้นในดวงตาของท่านผู้อาวุโสเหยียน “ข้าได้ยินมาว่าเป็นคุณชายน้อยแห่งวังสวรรค์เฟินเทียนและผู้อาวุโสของสำนักเขา เจ้าไม่อยากพบพวกเขาหรือ?”
คุณชายน้อยแห่งวังสวรรค์เฟินเทียนมีชื่อเสียงมากในดินแดนบูรพา ชายหนุ่มผู้นี้หล่อเหลาและยังเป็นอัจฉริยะในการบ่มเพาะพลัง มีผู้หญิงจำนวนมากที่ต้องการเป็นคู่บ่มเพาะพลังของเขา
“เจ้าสำนักอยู่ที่นั่นพร้อมกับพี่น้องท่านอื่นแล้ว คงไม่เป็นไรหากศิษย์ผู้นี้ไม่ได้ไป” เหมิงฉีตอบกลับอย่างนอบน้อม ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีใครบอกให้นางไปอยู่แล้ว
“เจ้ามีปัญหาอะไรที่ต้องการให้ข้าช่วยงั้นหรือ?” รอยยิ้มในดวงตาของท่านผู้อาวุโสเหยียนลึกซึ้งขึ้น
“เป็นเรื่องพิษเจ้าค่ะ หลังจากโดนพิษจะมีรอยสีเงินที่แผล ทำให้เลือดไหลออกไม่หยุด” เหมิงฉีถามอย่างสุภาพ “ท่านผู้อาวุโสรู้จักพิษนี้หรือไม่เจ้าคะ?”
“โอ้?” ท่านผู้อาวุโสเหยียนหลับตา
เหมิงฉีรออย่างอดทน การบ่มเพาะของท่านผู้อาวุโสเหยียนสูงกว่าเจ้าสำนัก โดยเฉพาะระดับการบ่มเพาะทางการแพทย์ของเขาที่เข้าสู่ขั้นสี่แล้ว เหมิงฉีเคยได้ยินเรื่องซุบซิบเกี่ยวกับท่านผู้อาวุโสเหยียนจากศิษย์คนอื่น ๆ เขาเคยให้สัตย์สาบานว่าจะเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรักษาผู้ป่วยทั้งหมดที่เขาพบเจอ ดังนั้นทุก ๆ สองปีเขาจะออกจากสำนักและออกเดินทาง ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในหุบเขาชิงเฟิง ตำแหน่งผู้อาวุโสของเขามันเหมือนของประดับเสียมากกว่า ซึ่งท่านผู้อาวุโสเหยียนเนี่ยแหละก็จะคอยดูแลหอตำราเมื่อใดก็ตามที่เขาอยู่ที่สำนัก
ท่านผู้อาวุโสเหยียนไม่เคยมีศิษย์ส่วนตัวมาก่อน ศิษย์ส่วนใหญ่ในหุบเขาชิงเฟิงก็ไม่ปรารถนาที่จะเรียนรู้จากเขาเช่นกัน กลับกันเลยต่างหาก ศิษย์ส่วนใหญ่ต่างอยากเป็นศิษย์ส่วนตัวของเจ้าสำนักหรือผู้อาวุโสคนอื่น ๆ หาใช่ผู้อาวุโสเหยียนที่ตำแหน่งไม่สูงส่ง จมปลักอยู่กับแต่ในหอตำรา
“มีอยู่หนึ่ง...” ท่านผู้อาวุโสเหยียนค่อย ๆ ลืมตาขึ้น “แผ่นไม้ไผ่นี้สำหรับเจ้า เจ้าสามารถอ่านและศึกษาด้วยตัวเองได้”
ผู้อาวุโสโบกมือ แผ่นไม้ไผ่ขนาดเล็กบินจากชั้นสี่และหยุดอยู่ตรงหน้าเหมิงฉี
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโส” เหมิงฉีคารวะอีกครั้ง นางกำลังจะถามคำถามท่านผู้อาวุโสเหยียนเพิ่มเติมสองสามข้อ แต่แล้วพวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเร่งรีบจากด้านนอกศาลา
ศิษย์สองคนของหุบเขาชิงเฟิงรีบเข้ามา หลังจากทักทายท่านผู้อาวุโสเหยียนแล้ว พวกเขาก็หันไปมองเหมิงฉี ศิษย์ทั้งสองมีสีหน้าแปลก ๆ ดวงตาของพวกเขาสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ศิษย์น้องหญิงเหมิงฉี เจ้าสำนักและผู้อาวุโสจากวังสวรรค์เฟินเทียนเรียกหาเจ้า ตามพวกเรามาที่ห้องโถงใหญ่เร็วเถอะ”