บทที่ 16 – เสือขาวตัวน้อย (III)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 16 – เสือขาวตัวน้อย (III)
ฉู่เทียนเฟิงไม่ต้องไปไหนไกล ไม่นานหลังจากเขาออกจากบริเวณบ่อเหมันต์ เขาก็เห็นร่างเล็กบอบบางของเหมิงฉี
อาภรณ์คลุมสีน้ำเงินของนางพลิ้วไหวไปตามทางบนภูเขา บางครั้งที่นี่ก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอก ฝีเท้าของนางเบาและเขารู้ได้เลยว่านางอารมณ์ดี
ฉู่เทียนเฟิงยามนี้กลับคืนสู่ระดับการบ่มเพาะของเขาแล้ว หากเขาที่มีระดับถึงผู้ฝึกตนขั้นแก่นทองคำต้องการติดตามเหมิงฉีอย่างลับ ๆ อีกฝ่ายก็ไม่อาจตรวจจับการมีอยู่ของเขาได้หรอก
เหมิงฉีรีบออกจากหุบเขาชิงเฟิง ตามความทรงจำของนาง บริเวณนี้จะถูกแผดเผาจนเป็นเถ้าถ่านในวันข้างหน้าอันใกล้ ดอกไม้ ต้นไม้ และสมุนไพรจำนวนมากจะถูกทำลาย แต่บนภูเขาไม่ไกลจากหุบเขาชิงเฟิง มีสมุนไพรวิญญาณชนิดหนึ่งที่เติบโตเฉพาะในบริเวณนี้ สมุนไพรวิญญาณนี้เป็นเพียงระดับสอง แต่มีประโยชน์หลายอย่าง เหมิงฉีวางแผนที่จะนำมันติดตัวไปบ้างก่อนที่จะเกิดความวุ่นวายขึ้น
นางรีบเข้าไปในภูเขา เหมิงฉีเคยมาที่นี่เพียงครั้งเดียว ดังนั้นนางจึงไม่คุ้นเคยกับเส้นทางเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับหุบเขาชิงเฟิงและยังค่อนข้างห่างไกลจากเขตแดนของอาณาจักรมารและปีศาจ ดังนั้นจึงยังค่อนข้างปลอดภัย
เหมิงฉีรีบเดินตามเส้นทางในความทรงจำของนาง ฉู่เทียนเฟิงเดินตามนางมาจากระยะไกล เมื่อเขาเห็นร่างสวมอาภรณ์สีน้ำเงินของนางเดินไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล เขาก็เริ่มรู้สึกสงสัย
เหมิงฉีกำลังไปไหนกัน? หรือว่านางรู้ว่าเขากำลังตามนางมา...?
“หืม?” เหมิงฉีหยุดกะทันหัน
ฉู่เทียนเฟิงรีบซ่อนตัว
ขณะนี้เหมิงฉีอยู่ตรงทางแยกของภูเขาทั้งสอง ระหว่างภูเขาทั้งสอง มีรอยแตกเล็ก ๆ ของภูเขา ป่าไม้ปกคลุมรอยแยก และมองเห็นได้เพียงเงาของต้นไม้จากภายนอก
เหมิงฉีสูดหายใจเข้าลึก นางเป็นผู้ฝึกตนสายแพทย์ และประสาทสัมผัสด้านกลิ่นของนางเหนือกว่าคนทั่วไปมาก มีกลิ่นคาวเลือดอยู่ในอากาศ และดูเหมือนจะไม่ใช่เลือดมนุษย์ กลิ่นค่อนข้างแรง มีกลิ่นอายของมารจาง ๆ
นางควรเข้าไปไหม? นางไม่เคยทำตัวบุ่มบ่ามและจะไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายเพื่อสมุนไพรเพียงไม่กี่ต้น เนื่องจากอาณาจักรมารยังไม่ได้บุกรุกและสถานที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่ไกลจากหุบเขาชิงเฟิง ตอนนี้ก็น่าจะค่อนข้างปลอดภัย
นางชะลอฝีเท้า เตรียมร่ายอาคมด้วยมือขวา เหมิงฉีเดินอย่างระมัดระวังไปทางรอยแตก หากมีอันตรายจริง ๆ แม้ว่าตอนนี้นางอยากจะหนี ก็คงสายเกินไปเสียแล้ว
หลังจากพิจารณาสถานการณ์แล้ว เหมิงฉีหยิบแผ่นไม้ไผ่ออกมาจากกำไลเก็บของ นี่เป็นเครื่องรางที่ใช้ได้ครั้งเดียว เมื่อเปิดใช้งาน มันจะส่งนางไปยังที่ใดก็ได้ในรัศมีหนึ่งร้อยลี้ทันที นี่เป็นสมบัติช่วยชีวิตที่ท่านผู้อาวุโสเหยียนมอบให้แก่นาง
เหมิงฉีลดฝีเท้าลงและเดินอย่างช้า ๆ ผ่านป่าเล็ก ๆ รอยแตกอยู่ด้านหลังป่านี้ เมื่อเหมิงฉีเดินออกจากป่า นางก็สามารถมองเห็นสถานการณ์ภายในได้ สมุนไพรวิญญาณที่นางต้องการกำลังเติบโตอย่างเขียวชอุ่มอยู่ข้างหน้าผา ด้านล่างของหน้าผาเต็มไปด้วยหญ้า และมีเงาสีขาวเล็กๆ นอนอยู่บนนั้น
เอ๋?!
เหมิงฉีตะลึง เงาสีขาวได้ยินเสียงฝีเท้านางและดูเหมือนอยากจะลุกขึ้น แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากขยับตัวเล็กน้อย มันก็ล้มลงอย่างอ่อนแรง
“อ๊า” สิ่งเล็ก ๆ พยายามขยับหัวไปมองเหมิงฉี และคำรามข่มขู่...เอ่อ หรือว่า เสียงคำรามน่ารัก ๆ กันนะ?
เหมิงฉีตั้งตัวไม่ทัน นางเห็นดวงตาสีฟ้าของมันทันที
“โฮก” เมื่อสิ่งเล็ก ๆ เห็นเหมิงฉี มันก็ร้องดังยิ่งขึ้นไปอีก แต่เสียงนั้นช่างอ่อนแอ เห็นได้ชัดว่ามันได้รับบาดเจ็บหรือคงกำลังหิวโหย
แม้ว่าเหมิงฉีจะได้ยินเสียงร้องที่ดุร้ายของสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ แต่นางก็ไม่ได้หวาดกลัว สิ่งที่นางสนใจทั้งหมดคือเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ นี้ขนปุยสีขาวนุ่ม หูเล็ก ๆ รูปครึ่งวงกลมบนหัวสั่นเล็กน้อยทุกครั้งที่เคลื่อนไหว
น่ารัก... น่ารักมาก!
นี่มัน... ลูกเสือขาวหรือ?
เจ้าตัวน้อยมีหูกลมเล็ก ๆ สองข้าง ดวงตาสีฟ้าใสสองดวง สว่างและเป็นประกายกว่าอัญมณีใด ๆ ทั้งตัวนุ่มและขาว มีแถบสีดำหลายแถบ มีตัวอักษร ‘ราชา’ ประดับอยู่บนหน้าผาก เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเสือขาวตัวน้อย และยังเป็นลูกเสืออยู่ เหมิงฉีย่างเท้าไปหาเจ้าตัวน้อยโดยไม่รู้ตัว
“อ๊าว ๆ” เสือขาวตัวน้อยเห็นนางเข้ามาใกล้และกรีดร้องดังยิ่งขึ้น มันยังยกอุ้งเท้าเล็ก ๆ ขึ้นมาโบกอย่างดุร้าย
เหมิงฉีไม่กลัวเจ้าตัวเล็ก นางมาถึงตัวเสือขาวน้อยและตรวจสอบรอบๆกายนางอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เสือขาวสายพันธุ์ธรรมดาที่มักพบในสามภพ ดวงตาของเสือตัวน้อยนั้นสวยงามเกินไป มีกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ซ่อนอยู่ในดวงตาสีฟ้าของมัน เห็นได้ชัดว่ามันเป็นลูกเสือมารที่ได้รับบาดเจ็บ
เหมิงฉีลังเล แม้ว่านางจะไม่เคยเข้าไปในอาณาจักรมาร แต่นางรู้ว่ามารที่ทรงพลังที่นั่น ซึ่งผู้ฝึกตนมารคนอื่นเรียกว่ามารสวรรค์ ล้วนมีรูปร่างเป็นสัตว์ นางจำได้ว่าหนึ่งในคู่ครองของลู่ชิงหรันเป็นขุนนางจากเผ่ามารสวรรค์ ร่างสัตว์ของเขาคือจิ้งจอกขาว
เหมิงฉีไม่ค่อยได้พบปะรู้จักกับขนัก แต่เผ่าจิ้งจอกขาวถือเป็นส่วนหนึ่งของชนชั้นสูงในอาณาจักรมาร จิ้งจอกขาววัยหนุ่มนั้นทรงพลังมาก หากวัดระดับการบ่มเพาะของเขาตามระดับการบ่มเพาะของมนุษย์ในสามภพ เขาอยู่ในขั้นวิญญาณปฐพีแล้ว ซึ่งสูงกว่าขั้นแก่นทองคำของฉู่เทียนเฟิงหนึ่งขั้น ถึงแม้ว่าเจ้าตัวน้อยตรงหน้านางจะดูเด็กมาก แต่ใครจะรู้กันว่าในอนาคตมันจะมีความสัมพันธ์กับลู่ชิงหรันหรือไม่
“อ๊าว ๆ ๆ” เสือขาวตัวยังคงร้องเสียงดัง กลุ่มดาวกระบวยใหญ่ในดวงตาของมันกระพริบราวกับจะเรียกดวงดาวบนท้องฟ้า แต่เสือตัวน้อยได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่ดวงตาสีฟ้าของมันกระพริบสองครั้ง ในไม่ช้ามันก็หรี่แสงลง แม้แต่เสียงร้องของมันก็ค่อยๆ เสียเรี่ยวแรงและอ่อนลง
น่ารัก!
หัวใจของเหมิงฉีถูกเจ้าลูกเสือตัวน้อยนี้ขโมยไปเสียแล้ว
แต่กระนั้น...
นางเหลือบมองบาดแผลของเสือตัวน้อย บาดแผลของมันหนักหนามาก ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าตัวน้อยตัวนี้ต้องได้รับบาดเจ็บจากพลังของเขตแดนที่แยกอาณาจักรมารออกจากสามภพ
นางอยากจะช่วยมัน!
นิ้วของเหมิงฉีขยับเล็กน้อย เช่นเดียวกับที่ผู้ฝึกตนสายวิชา และผู้ฝึกตนสายดาบตื่นเต้นเมื่อเห็นอาคมหรือเพลงดาบอันทรงพลัง ในฐานะผู้ฝึกตนสายหมอที่หลงใหลในทักษะการแพทย์ เหมิงฉีไม่เคยสามารถเก็บความตื่นเต้นของนางได้เมื่อใดก็ตามที่นางพบกับโรคที่รักษาไม่หาย พิษแปลก ๆ หรืออาการบาดเจ็บลึกลับ
แต่......
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เหมิงฉีก็นั่งยอง ๆ ลง จากนั้นนางก็เอื้อมมือไปหาเสือขาวตัวน้อย
“อ๊าว ๆ ๆ..” เสือขาวตัวน้อยอยากจะวิ่งหนี แต่มันถูกจับไว้ที่คอ
“ให้ข้าดูหน่อย” นางจับเสือขาวตัวน้อยแล้วพลิกตัวมัน เผยให้เห็นท้องนุ่ม ๆ ของเจ้าตัวน้อย เหมิงฉีเอื้อมมือออกไป และภายใต้ดวงตาสีฟ้าสดใสที่หวาดกลัว นิ้วเรียวเย็นของนางก็เลื่อนลง...
“อ๊า..” เสือขาวน้อยระเบิดอารมณ์ทันที แม้แต่หางของมันก็ตั้งชัน
เหมิงฉีผิดหวังมาก “อ้าว เจ้าเป็นเสือตัวผู้ตัวน้อยนี่เอง!”