บทที่ 153 รูปลักษณ์มังกรทั้งเก้า!
ข่าวที่หนานเฉิงได้รับคือหลัวเฉิงเป็นเพียงคนไร้ฝีมือที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสามหนำซ้ำยังมีวิญญาณยุทธ์ขยะเท่านั้น!
จวบกระทั่งตนต้องชีพวาย จึงได้ตระหนักว่าสิ่งที่ตนทราบมานั้นล้วนผิดทั้งหมด!
น่าเสียดายที่ความผิดพลาดของเขานั้นมิอาจย้อนเวลาไปแก้ไขได้
“ตายแล้วงั้นรึ?”
หลัวเฉิงมองดูศพอันน่าเวทนาด้วยความเสียใจ
เมื่อสักครู่นี้ อีกฝ่ายถึงกลับสั่งให้เขาปลิดชีพตัวเอง ซึ่งนั่นทำให้หลัวเฉิงคิดว่าอีกฝ่ายคงต้องมีฝีมือไม่น้อย เมื่อตอนที่เขาลงมือก็ไม่ได้ใช้พลังเต็มที่เพราะคิดว่าหากพลาดพลั้งอีกฝ่ายก็ยังคงมีชีวิต
แต่ไม่คาดคิด อีกฝ่ายกลับกลายเป็นคนอ่อนแอเกินไป ซ้ำร้ายยังตายด้วยหมัดเดียวอีกต่างหาก!
“ก็เจ้าบอกให้ข้าฆ่าตัวตาย ข้าก็คิดว่าเจ้าต้องแกร่งมากเสียอีก”
หลัวเฉิงส่ายศีรษะพลางทอดถอนใจ แล้วนำป้ายหยกประจำตัวของตนแช่ลงไปบนโลหิตของหนานเฉิง
ทันใดนั้น อักษรเลขห้าก็ปรากฏขึ้นบนป้ายหยก!
“ห้าแต้ม ถือว่าไม่เลว”
หลัวเฉิงดูท่าแล้วพึงใจไม่น้อย
ห้าแต้มนี้เป็นแต้มที่หนานเฉิงสะสมไว้ และตอนนี้มันกลายเป็นบันไดสำหรับเขา
หลังรวบรวมข้าวของมีค่าของหนานเฉิงแล้ว หลัวเฉิงก็เริ่มกลืนกินวิญญาณยุทธ์ทันที
พัฟ!
แสงสีเขียวส่องประกายสว่างไสว และใบหญ้าที่มีรูปร่างเหมือนดาบพร้อมกับแสงดาวห้าดวงส่องจรัสก็โผล่ออกจากร่างหนานเฉิง
“ที่แท้ก็เป็นวิญญาณยุทธ์ระดับห้าดาว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงหยิ่งผยองได้ขนาดนี้…”
เมื่อเห็นวิญญาณยุทธ์ของหนานเฉิง หลัวเฉิงก็พึมพำกับตนเอง
ลูกศิษย์บำรุงสำนักส่วนใหญ่มีวิญญาณยุทธ์ระดับสามดาว และวิญญาณยุทธ์ระดับสี่ดาวก่อนนับว่าหาพบได้ยาก!
กระนั้นแล้ว วิญญาณยุทธ์ระดับห้าดาวจึงนับว่าเป็นศิษย์ผู้โดดเด่นทีเดียว
พัฟ!
เมื่อกลืนวิญญาณยุทธ์ ปราณมังกรในกระแสวังวนปราณแท้เริ่มสั่นไหว และส่วนที่ยื่นออกมาจากเศียรมังกรก็เด่นชัดขึ้น ประหนึ่งว่ามันจะเปลี่ยนแปลงเมื่อใดก็ได้!
วิญญาณยุทธ์นี้มีผลที่ชัดเจนยิ่งกว่าวิญญาณสัตว์อสูรหกหรือเจ็ดดวงที่เพิ่งกลืนกินเสียอีก!
“ผลของการกลืนวิญญาณยุทธ์ที่มีต่อวิชามังกรแท้ มากกว่าการกลืนวิญญาณสัตว์อสูร!”
หลัวเฉิงถึงกับรู้สึกกระหายเลือดอยากฆ่ามนุษย์ด้วยกันแล้วชิงวิญญาณยุทธ์มากลืนกิน
แต่ทันใดก็สายศีรษะละทิ้งความคิดวิปลาสนี้ ด้วยว่าเขาไม่อยากกลายเป็นฆาตกรแล้วล่วงหล่นสู่วิถีแห่งมาร
เสียวลมหายใจก็พลันสะอึกกายวูบ รีบรุดเข้าไปในป่าลึกทันที
เกาะชิงอวิ๋นเต็มไปด้วยต้นไม้โบราณมากมายสุดคณานับ เนื่องจากอยู่ภายใต้อาณาเขตของสำนักซวนหยวน การทดสอบชิงอวิ๋นประจำปีจึงไม่มีบุคคลภายนอกย่ำกลายเข้ามา
นอกจากนี้ ภายใต้การควบคุมดูแลของสำนักซวนหยวน สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นพื้นที่ล่าสัตว์ร้ายและสัตว์อสูรเพื่อใช้ฝึกปรือฝีมือ
ซึ่งในตอนนี้ สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นขุมสมบัติมหาศาลที่ใช้ฝึกฝนของหลัวเฉิงเช่นกัน!
ในเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม หลัวเฉิงสังหารสัตว์อสูรระดับหนึ่งดาวไปมากกว่ายี่สิบตัว และกวาดล้างสัตว์อสูรระดับสองดาวไปมากกว่าสิบตัว!
ด้วยการไล่ล่าเสียดสังหารกลืนกินอย่างบ้าคลั่ง ความแข็งแกร่งของหลัวเฉิงก็เพิ่มอย่างทวีมหาศาล พลังของเขามากกว่าพยัคฆ์ทั้งห้าตัว ซึ่งก็คือพลังห้าหมื่นสามพันสี่ร้อยจิน!
เขายังคงก้าวหน้าด้วยความเร็วอัตรานี้ เกรงในสองเดือน หลัวเฉิงต้องสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับได้อย่างแน่นอน!
หลังจากกลืนกินวิญญาณสัตว์อสูรสองดาวอีกตัวแล้ว หลัวเฉิงก็พบว่าดวงตาของมังกรในกระแสวังวนตันเถียรนั้นเริ่มเบิกกว้างขึ้น และทอประกายแสงกระจ่างใส
“นี่คงใกล้แล้วสินะ!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของปราณมังกร หลัวเฉิงก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุด!
การเปลี่ยนแปลงทั้งเก้าของพลังปราณมังกรในวิชามังกรแท้นั้น สอดคล้องกับรูปลักษณ์มังกรทั้งเก้า!
ว่ากันว่า รูปลักษณ์มังกรนั้น มีตัวเป็นงู ดวงตาเหมือนกระต่าย เศียรคล้ายอูฐ ตรงท้องเป็นเส้นขวาง ผิวหนังเป็นเกล็ดปลา อุ้งเท้าดุจพยัคฆ์ กรงเล็บคล้ายนกอินทรีย์ หูประหนึ่งวัว เขาเสมือนกวาง!
ระดับที่สองของวิชามังกรแท้ คือการเปลี่ยนแปลงครั้งที่สองของพลังปราณมังกรที่ปรากฏดวงตากระต่ายคู่หนึ่ง!
หลัวเฉิงประเมินว่า โดยการกลืนวิญญาณสัตว์อสูรระดับสองดาวสามสิบหรือสี่สิบตัว วิชามังกรแท้จึงจะสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับที่สองได้!
“ตอนนี้แต้มของข้ามีอยู่เท่าไหร่กันนะ ไม่รู้จะสามารถเข้าสู่สิบอันดับแรกได้หรือยัง....”
หลัวเฉิงไล่ล่าสัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว อย่างไรเสียในบรรดาลูกศิษย์ที่เข้าร่วมการทดสอบชิงอวิ๋น ก็มีผู้ฝึกยุทธในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าอยู่หลายสิบคนทีเดียว การแข่งขันค่อนข้างดุเดือดดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะเข้าสู่สิบอันดับแรกได้
“จะรอช้าอยู่ไม่ได้แล้ว!”
หลังจากพักผ่อนได้สักพัก หลัวเฉิงก็ยังคงมุ่งหน้าลึกเข้าไปในป่าอย่างต่อเนื่อง
ระหว่างเดินทางไปสักพัก หลัวเฉิงก็ได้สังหารสัตว์อสูรระดับต่ำสองดาวอีกหลายตัว
ระหว่างทางเขายังพบศพมนุษย์สามศพอีกต่างหาก!
พวกเขาทั้งสามคนล้วนสวมเครื่องแบบของศิษย์บำรุงสำนัก และร่างของพวกเขาถูกโจมตีจนแหลกเละไร้ชิ้นดีก็ว่าได้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาถูกสังหารโดยสัตว์อสูร!
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลัวเฉิงพลันรู้สึกเศร้า วิถีแห่งการเป็นผู้ฝึกยุทธ์นั้นล้วนเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามที่อันตรายยิ่ง
เมื่อตระหนักได้เช่นนั้น หลัวเฉิงก็ระมัดระวังตัวมากขึ้น
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา มันนับว่าอันตรายมากหากได้เผชิญกับสัตว์อสูรระดับสูงสองดาว
สัตว์อสูรระดับสูงสองดาว เทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหก
ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหก ร่างกายพวกเขาจะถูกขัดเกลาจนถึงขีดสุด มีพลังร้อนระอุประดุจเปลวเพลิง จิตวิญญาณก็แข็งแกร่ง มีพลังเท่ากับช้างป่าสามเชือก ซึ่งก็คือพลังแสนห้าหมื่นจิน นับว่าไม่ธรรมดาและยังห่างไกลจากเขาในยามนี้นัก!
หลัวเฉิงหยุดฝีเท้ากะทันหัน เมื่อเขาพบว่ายังมีเหตุการณ์บางอย่าง ซึ่งอยู่ห่างออกไปมิไกลนัก
“เสียงการต่อสู้!”