ตอนที่แล้วบทที่ 3 – ข้าขอเรียกร้องค่าตอบแทนเป็นเงินตรา (III)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่่ 5 ข้าควรเรียกเก็บเงินจากเขาเท่าใด? (II)

บทที่่ 4 ข้าควรเรียกเก็บเงินจากเขาเท่าใด? (I)


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

บทที่่ 4  ข้าควรเรียกเก็บเงินจากเขาเท่าใด? (I)

"ว่ายังไงนะ?" ฉู่เทียนเฟิงตกตะลึงในทันที

ขอให้จ่าย...ด้วยเงินตรา?!

คำนี้ไม่เพียงแต่ไม่คุ้นเคย! สำหรับนายน้อยจากวังสวรรค์เฟินเทียน มันเป็นเป็นคำที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนสักนิด ไม่มีใครเคยพูดเรื่องเงินกับเขา โดยเฉพาะอิสตรีทุกนาง จนเขาเกือบจะคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป

“เหมิงฉี!” หัวหน้าสำนักแห่งหุบเขาชิงเฟิงที่อยู่ถัดจากฉู่เทียนเฟิงตำหนิด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "อย่าพูดจาล้อเล่นไร้สาระ"

ทั้งห้องโถงใหญ่ของชิงเฟิงตกอยู่ในความเงียบ สายลมภูเขาพัดผ่านราวกับจะขโมยเสียงทั้งหมดไปจากที่นี่ เหล่าศิษย์ทั้งหมดมองไปที่เหมิงฉี ในสายตาของคนส่วนใหญ่ ศิษย์น้องผู้นี้ที่เข้าสำนักมาได้ครึ่งปี เป็นตัวอย่างของสตรีที่เคร่งขรึมและเรียบร้อย แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเมื่อสตรีผู้เงียบขรึมเช่นนางเปิดปากพูด ทุกคนต้องตะลึงงัน

หุบเขาชิงเฟิงเป็นสำนักแพทย์ ศิษย์ส่วนใหญ่เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์เพื่อหาเลี้ยงชีพในสามภพนี้ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรผิดปกติกับการรับเงินเป็นค่าตอบแทนในการรักษาพยาบาล แต่ชายผู้นั้นคือคุณชายแห่งวังสวรรค์เฟินเทียน ผู้สูงส่งเหนือผู้คนนับไม่ถ้วนนะ! ถ้าเป็นพวกนาง... พวกนางคงจะเลือกรักษาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับชายหนุ่มที่มากเกียรติและหล่อเหลาคนนี้ มากกว่าจะรับเงินจากเขา

สีหน้าของเหมิงฉียังคงสงบนิ่งราวกับน้ำ นางคำนับหัวหน้าสำนัก "ศิษย์ผู้นี้ประสงค์จะลองรักษาพิษให้ท่านชายแห่งวังสวรรค์เฟินเทียนเจ้าค่ะ"

นางถึงกับไม่ต้องการเอ่ยชื่อของฉู่เทียนเฟิง เพื่อลดความเป็นไปได้แม้เพียงน้อยนิดที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเขา "เพียงแต่..."

"เจ้าต้องการเงินตราหรือ?" ฉู่เทียนเฟิงตอบกลับอย่างเย็นชา ความเจ็บปวดเสียดแทงกระดูกที่ดูเหมือนจะบรรเทาลงกลับกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ชายหนุ่มในสวมอาภรณ์สีดำยืนตัวตรง มองไปที่หญิงสาวในสวมอาภรณ์สีฟ้า

ถึงทั้งสองจะมาจากหุบเขาชิงเฟิง แต่กลับแตกต่างกันยิ่ง ดินแดนแห่งนี้สามารถสร้างหญิงสาวที่ใจดี กล้าหาญ และบริสุทธิ์อย่างลู่ชิงหรันได้ มันก็คงสามารถสร้างผู้หญิงแบบนี้ได้...

สายตาของฉู่เทียนเฟิงเย็นเยียบยิ่งกว่าลมหนาวยามเหมันต์  เขาจ้องมองเหมิงฉีอย่างเงียบงัน น้ำเสียงของเขายังเย็นเยียบยิ่งกว่า ดุจธารน้ำแข็งที่ราวกับจะแข็งเป็นน้ำค้างเสียอีก "เจ้าแน่ใจหรือว่าจะรักษาพิษของข้าได้?"

"สหายเต๋าฉู่..." หัวหน้าสำนักต้องการจะกล่าวแทนเหมิงฉี แม้หญิงสาวผู้นี้จะบุ่มบ่าม แต่ก็ยังเป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์จากสำนักของพวกนาง

"ไม่ต้องกล่าวสิ่งใดอีก" ฉู่เทียนเฟิงขัดจังหวะหัวหน้าสำนักอย่างเย็นชา

เขาไม่เคยได้รับความอัปยศเช่นนี้มาก่อน

ไม่เคยสักครั้งเดียว

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาคุ้นชินกับการที่ผู้คนต่างสรรเสริญยกย่อง สตรีที่เขาพบเจอล้วนพร้อมพลีทุกสิ่งเพื่อเขา เขาไม่เคยพบเจอผู้ใดบังอาจเอ่ยปากขอเงินจากเขา

"ให้นางรักษาข้า" ฉู่เทียนเฟิงทอดสายตามองเหมิงฉี "เจ้าต้องการเท่าใด?"

เหมิงฉีชะงักงันไปชั่วครู่ นางควรเรียกเก็บค่าตอบแทนเท่าใด? ศิษย์จากหุบเขาชิงเฟิงต่างมาที่นี่เพื่อร่ำเรียนวิชาแพทย์ ภายหลังจากออกจากสำนัก หลายคนในหมู่พวกเขาจะแสวงหาเมืองหรือตระกูลผู้มีอำนาจเพื่อเป็นหมอรักษา เพื่อความอยู่รอดในแดนสามภพนี้

แต่เหมิงฉีไม่เคยคิดที่จะใช้ความสามารถทางการแพทย์ของตนเพื่อแสวงหาเงินทองในชาติภพก่อนเลย นางอุทิศตนอย่างแน่วแน่เพื่อมุ่งสู่วิถีแห่งการแพทย์

ในฐานะผู้บำเพ็ญเพียรที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นแก่นทอง เหมิงฉีผู้สามารถทะลวงผ่านระดับที่ห้าแห่งวิถีแพทย์ได้นั้น นับเป็นปราชญ์ที่โดดเด่นยิ่งในแดนสามภพ ทว่าบัดนี้นางจำต้องตัดซึ่งกรรม...

เหมิงฉีจ้องมองฉู่เทียนเฟิงอยู่ครู่หนึ่ง นางหันไปมองหัวหน้าสำนัก

“หัวหน้าสำนัก” นางคารวะอีกครั้ง “ข้าควรเรียกเก็บค่าตอบแทนเท่าใด?”

หัวหน้าสำนักถึงกับตะลึงงัน นางมองเหมิงฉีอย่างพูดไม่ออก ไม่อาจหยั่งถึงได้ว่าสถานการณ์กลับพลิกผันมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร

"เหมิงฉี" นางไม่สนใจคำถามของศิษย์ผู้น้อยและกล่าวว่า "เจ้ารู้หรือไม่ พิษของสหายเต๋าฉู่ผู้นี้..."

นางหยุดชะงักด้วยความลังเล "มิใช่เรื่องง่ายที่จะรักษา"

ระดับการบำเพ็ญเพียรทางการแพทย์ของผู้ใดมิได้ผูกติดอยู่กับระดับพลังลมปราณของพวกเขาโดยตรง แต่หากผู้ใดมีพลังลมปราณต่ำเกินไป พูดให้ชัดก็คือ พวกเขาจะไม่สามารถใช้พลังหรือปรุงยาบางชนิดได้ ซึ่งจะเป็นการจำกัดทางเลือกในการรักษาอย่างมาก

แต่เหมิงฉี...

หัวหน้าสำนักพินิจศิษย์ผู้นี้อย่างถี่ถ้วน ซึ่งตามปกตินางไม่ค่อยพูดจานัก เด็กสาวผู้นี้อยู่ในขั้นกลั่นพลังลมปราณ ส่วนพิษในร่างของฉู่เทียนเฟิงนั้นมาจากอสูรร้ายระดับห้า

นางจะสามารถรักษาเขาได้จริงหรือ? หัวหน้าสำนักมิอาจเชื่อได้เลย

"ศิษย์ผู้นี้ได้อ่านตำราเกี่ยวกับการถอนพิษสองเล่มในหอตำราเมื่อไม่กี่วันก่อน" เหมิงฉีครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วกล่าวต่อ "แม้ว่าพลังลมปราณของศิษย์ผู้นี้ยังต่ำต้อยนัก แต่การเป็นหมอรักษานั้นมิได้ขึ้นอยู่กับพลังลมปราณเพียงอย่างเดียว"

นี่คือความจริงที่นางเข้าใจในที่สุดหลังจากใช้เวลามากมายในชีวิตก่อนหน้านี้ของนาง ภายหลังจากการตระหนักรู้ วิชาแพทย์ของเหมิงฉีก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จนมันทะลวงผ่านระดับที่สี่ในขั้นสร้างรากฐานได้

"แต่พิษของสหายเต๋าฉู่..." หัวหน้าสำนักเตือนนาง "มิใช่เรื่องเล็กน้อย"

"ศิษย์ผู้นี้ยินดีจะลองดู"

ฉู่เทียนเฟิงแค่นเสียง สตรีผู้นี้เป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับต่ำในขั้นกลั่นพลังลมปราณ กลับกล้าที่จะใช้ร่างของเขาเป็นตัวทดลองหรือ?

ดวงตาของเขาเย็นเยียบดุจราตรีฤดูหนาว ม่านตาสีดำสนิทจ้องมองเหมิงฉีอย่างไม่วางตา

"พิษจากอสูรร้ายระดับห้านั้นเหนือกว่าขั้นที่ข้าสามารถรักษาได้" หัวหน้าสำนักถึงกับไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่ในเวลานี้ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว วาจาของเหมิงฉีเต็มไปด้วยความมั่นใจ หัวหน้าสำนักจำได้ว่าผู้อาวุโสคนหนึ่งของพวกเขายกย่องเหมิงฉีหลายครั้งโดยกล่าวว่า ความสามารถทางการแพทย์ของศิษย์คนนี้ไม่ธรรมดา และนางมีความสามารถไม่แพ้ศิษย์เอกของหัวหน้าสำนักนักอย่างลู่ชิงหรันเลย

"หากคิดเป็นหินวิญญาณ..." หน้าสำนักครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อ "ค่ารักษาน่าจะอยู่ที่หินวิญญาณขั้นห้าราว ๆ ห้าร้อยก้อน "

ทว่า หัวหน้าสำนักมิได้เอ่ยถึงว่า หมอเทวดาผู้มีพลังในการถอนพิษจากอสูรร้ายขั้นห้า ตามปกติแล้วมักจะไม่สนใจสิ่งของต้อยต่ำเช่น หินวิญญาณหรอก สิ่งที่พวกเขามักจะรับเป็นค่าตอบแทนคือ วัตถุดิบหายากล้ำค่า ทรัพย์สมบัติวิเศษ หรือไม่ก็อาวุธล้ำค่า

“ศิษย์ผู้นี้เข้าใจแล้ว” เหมิงฉีพยักหน้าพลางครุ่นคิดอย่างรอบคอบ

ศิษย์แห่งหุบเขาชิงเฟิงสามารถรับหินวิญญาณได้จำนวนหนึ่ง โดยการทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากสำนัก เช่นเดียวกับวิชาและเคล็ดวิชา หินวิญญาณนั้นแบ่งออกเป็นเก้าขั้น ค่าตอบแทนจากการทำภารกิจธรรมดาสามัญมักจะได้หินวิญญาณขั้นต้นสิบก้อน หินวิญญาณขั้นต้นหนึ่งพันก้อนแลกได้หินวิญญาณขั้นสองหนึ่งก้อน บัดนี้หัวหน้าสำนักกลับตั้งราคาไว้ถึงหินวิญญาณขั้นห้าจำนวนห้าร้อยก้อน

เหมิงฉีเหลือบมองบุรุษสวมอาภรณ์สีดำที่ใบหน้าซีดเซียวลงทุกขณะ นางจำได้ว่าอีกฝ่ายมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลู่ชิงหรัน อย่างน้อยก่อนที่เหมิงฉีจะตายในชาติก่อนของนาง ฉู่เทียนเฟิงมักจะไปเจอกับลู่ชิงหรันบ่อยครั้ง

ดังนั้นเพื่อตัดขาดกรรมผูกพันธ์ของตนกับฉู่เทียนเฟิง นางควรเรียกเก็บหินวิญญาณจากเขาเท่าใดกันเล่า?

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด