ตอนที่ 27 : ฝีมือของเจ้างั้นเหรอ?
ตอนที่ 27 : ฝีมือของเจ้างั้นเหรอ?
ห้องสลัวและเต็มไปด้วยกลิ่นเลือดคละคลุ้ง
คนร้ายถูกลากตัวมาอยู่ตรงหน้าของเขาอย่างหมดสภาพ
“พวกเจ้ามาหาอะไร?” หวู่เหิงถาม
คนร้ายเช็ดเลือดและตอบด้วยฟันที่ขบเข้าด้วยกัน “ถ้าข้าบอกเจ้าจะปล่อยข้าไปไหม?”
“เจ้าคิดว่าเจ้าอยู่ในสภาพที่ต่อรองได้เหรอ?”
“มาตกลงกันดีๆ ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป ข้าจะบอกเจ้าเองว่าพวกเรามาหาอะไร”
อีกฝ่ายมาสังหารเขาถึงในบ้านและยังกล้าพูดว่ามาตกลงกันดีๆ อีกเหรอ?
“เจ้ามาที่นี่เพื่อชิงคัมภีร์หัวงูของบาเซนไปใช่ไหม?” หวู่เหิงพูดต่อ
เมื่อบาเซนถูกสังหาร สิ่งที่สะดุดตาเขาที่สุดก็ย่อมเป็นคัมภีร์หัวงูนี้ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันมีไว้ใช้ทำอะไร แต่มันก็เป็นของที่โดดเด่นมากๆ
เขาไม่ได้รับคำตอบ แต่จากอาการกระตุกเล็กน้อย เขาก็สามารถบอกได้แล้วว่าเขาคิดถูก
มันไม่จำเป็นต้องถามต่ออีก เขาสั่งทันที “จัดการมันซะ”
“ไม่…”
ฉั๊วะ~!
ดาบของเจียนอี้ถูกตวัดลงมา และดาบเหล็กก็วาดผ่านลำคอของอีกฝ่าย
[ท่านได้รับค่าประสบการณ์ +30]
[สิ่งมีชีวิตอัญเชิญ - นักดาบโครงกระดูกได้รับค่าประสบการณ์ +10]
ร่างๆ นั้นทรุดตัวลง และการแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นในทันที
คืนนี้ช่วยเพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับเขาและโครงกระดูกของเขาได้มากพอดูเลย
หวู่เหิงมองไปที่ศพบนพื้น จากนั้นก็มองไปยังโครงกระดูกที่อยู่ภายในห้อง
ในท้ายที่สุด เขาตัดสินใจที่จะไม่ส่งพวกมันกลับไปยังโลกซอมบี้เพราะกลัวว่าจะมีศัตรูบุกมาอีก
ส่วนบาเซนที่ประจำการอยู่ข้างนอกก็ยังไม่กลับมา
หวู่เหิงเปิดไฟฉายและเริ่มค้นศพ
เขาพบถุงเงินสามถุงที่เต็มไปด้วยเหรียญเงินและเหรียญทองแดงที่มีมูลค่าอยู่นิดหน่อย
ดูเหมือนว่าคนพวกนี้จะมีที่ประจำการอยู่ในเมืองนี้
นอกจากเงินแล้วมันก็ยังมีอาวุธและชุดเกราะของคนพวกนี้
อาวุธถูกแยกไว้ในขณะที่ชุดเกราะถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีใครแตะต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้เลือดไหลออกมามากขึ้น
ก๊อก ก๊อก~!
มันมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น และโครงกระดูกบาเซนก็ยืนอยู่ข้างนอก
เมื่อหวู่เหิงเปิดประตู เขาก็ถาม “มีคนมาเหรอ?”
บาเซนส่ายหัวเพื่อบอกว่าไม่มีใครมา
เขาให้บาเซนที่เป็นโจรระดับสูงคอยประจำการอยู่ด้านนอกเพราะกลัวว่ามันจะมีคนคอยดูต้นทางไว้เหมือนครั้งก่อน
ถ้าพวกมันสามารถหนีไปได้อีก เรื่องราวก็จะวุ่นวายขึ้นไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกมันจะเลือกเวลาลงมือได้เหมาะสมพอดีและไม่มีใครคอยดูต้นทางด้วย
“ลากศพพวกนี้ไปที่ห้องนั่งเล่น จากนั้นก็พากันกลับไปที่โลกซอมบี้ซะ” หวู่เหิงสั่งการต่อ
ศพถูกวางบนเบาะหนังและย้ายไปที่ห้องนั่งเล่น
ส่วนโครงกระดูกในห้องก็กลับไปยังโลกซอมบี้ทันที
...
ในตอนเช้า มันก็มีเสียงฝีเท้าวุ่นวายอยู่นอกประตู
ปัง~!
ประตูถูกกระแทกให้เปิดออก และออทรัค คาวิน่า กับสมาชิกของหน่วยนักผจญภัยอื่นๆ ก็กระโจนเข้ามา
อาวุธถูกชักออกมา และดวงตาที่ตื่นตัวของพวกเขาก็กวาดไปทั่วบ้าน
เมื่อพวกเขาเห็นหวู่เหิงกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้และมีศพสามร่างนอนอยู่ใกล้ๆ พวกเขาก็อึ้งไปในทันที
“หวู่เหิง เจ้าไม่เป็นไรนะ?” ออทรัคถามทันที
“อืม ข้าไม่เป็นไร” หมู่เหิงตอบและมองไปที่คนอื่นๆ
ที่ยืนอยู่ด้านหลังออทรัค นอกเหนือจากคาวิน่าแล้ว มันก็มีผู้หญิงในชุดเกราะหนังที่มีผิวสีข้าวสาลี ผมสีน้ำตาลขดเป็นเกลียว ถือไม้เท้าและมีดาบห้อยอยู่ที่เอวของเธอ
หวู่เหิงเคยเห็นเธอมาก่อนและจำได้ว่าเธอคือหัวหน้าหน่วยสอง—ทูลิซา
หัวหน้าสาวเพียงคนเดียวในบรรดาหน่วยทั้งสี่
ด้านหลังมีชายหลายคน คนหนึ่งสวมชุดเกราะสีเงินพร้อมดาบและโล่ และอีกสามคนสวมชุดเกราะหนัง บ้างมีธนู บ้างมีดาบ ซึ่งทุกคนต่างก็เป็นสมาชิกของหน่วยสอง
เมื่อเห็นว่าหวู่เหิงไม่เป็นอะไร ทุกคนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก และหลังจากเบาใจลงแล้ว พวกเขาก็พากันอึ้งไป
สายตาของพวกเขาหันกลับมามองศพสามร่างบนพื้น
“พวกมันเป็นคนร้ายหมดเลยเหรอ? เจ้าสังหารพวกมันหมดเลยเหรอ?” ออทรัคถาม
ภารกิจเมื่อคืนของหน่วยสองก็คือการจับอาชญากรเหมือนกัน
พวกเขาเตรียมการไว้เป็นอย่างดีโดยมีคนคอยปิดล้อมพื้นที่เอาไว้และยังได้ขอความช่วยเหลือจากออทรัคและคาวิน่าด้วย
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกเขาสามารถสังหารอาชญากรผู้นั้นได้
แต่เนโครแมนเซอร์ที่ไม่อยู่ในสายตาของหน่วยต่างๆ และถูกจับยัดเข้ามาอยู่ในหน่วยของออทรัคเนื่องจากคนไม่พอกลับสามารถสังหารอาชญากรได้ถึงสามคน
มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
สมาชิกของหน่วยสองคนหนึ่งก้าวออกมาและตรวจสอบศพพวกนี้ จากนั้นเขาก็พยักหน้า “ทุกคนเป็นอาชญากรที่มีค่าหัวจริงๆ”
หลังจากพูดจบ ทั้งสองฝ่ายก็เงียบไปอีกครั้ง
ทูลิซาถามด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสังหารพวกมันงั้นเหรอ?”
สายตาของพวกเขามองไปยังหวู่เหิงอีกครั้ง จากนั้นก็มองไปยังร่างที่สวมหมวกทรงกลมข้างๆ เขา
เรื่องอาชญากรพวกนี้เป็นเรื่องร้ายแรงในเมืองหินดำ
การที่สมาชิกหน้าใหม่ของหน่วยสี่สามารถสังหารอาชญากรได้ถึงสามคนย่อมดึงดูดความสนใจและทำให้เขาได้รับความเคารพอย่างแน่นอน
ถ้าพวกเขารู้แบบนี้ตั้งแต่แรก พวกเขาคงจะเก็บเนโครแมนเซอร์ผู้นี้ไว้กับตัวเอง แม้ว่าจะในฐานะสมาชิกสำรองก็ตาม
ในเวลานั้นเอง ออทรัคก็ได้สติกลับมาและแนะนำตัว “หวู่เหิง นี่คือทูลิซา หัวหน้าหน่วยสอง ในกรณีที่ข้าไม่อยู่ หากมีอะไรจำเป็น เจ้าก็ไปหาเธอได้เลยนะ”
ดูเหมือนว่าออทรัคและทูลิซาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
“ยินดีที่ได้รู้จักขอรับหัวหน้าทูลิซา” หวู่เหิงกล่าว
“อืม ถ้าเจ้ารู้สึกว่าหน่วยสี่ไม่ใช่ที่ไม่ใช่ทางของเจ้า เจ้าก็มาอยู่หน่วยของข้าได้ พี่สาวคนนี้จะเก็บตำแหน่งไว้ให้กับเจ้าเอง” ทูลิซาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณมากขอรับ แต่หน่วยสี่ก็เหมาะกับข้าแล้ว”
“ทูลิซา ช่วยขนศพทั้งสามร่างนี้ไปหน่อย คาวิน่า เจ้าพาหวู่เหิงกลับไปที่สมาคมเพื่อตรวจสอบว่าเขาบาดเจ็บอะไรไหม” ออทรัคเปลี่ยนเรื่องที่ทูลิซาพยายามจะดึงตัวหวู่เหิงทันที
ทูลิซาพยักหน้า และให้คนที่อยู่ทางด้านหลังของเธอห่อศพพวกนี้ จากนั้นก็นำร่างของพวกมันออกไป
ส่วนคาวิน่าก็เรียกรถม้าที่อยู่ด้านนอกและพาหวู่เหิงกลับไปที่สมาคม
...
บนรถม้า คาวิน่านั่งไขว่ห้างและมองมาที่เขา จากนั้นก็เสนอว่า “เจ้าควรจะลองหาบ้านเช่าในเขตศูนย์กลางนะ มันปลอดภัยกว่าที่นี่และใกล้กับสมาคมมากกว่าด้วย”
เขาเคยคิดเรื่องนี้มาก่อนแล้ว
เนื่องจากตอนนี้เขามีเงินอยู่ในมือแล้ว เขาจึงสามารถเช่าบ้านที่ดีขึ้นและปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของเขาได้
แต่ความคิดนี้เป็นเพียงแผนมาโดยตลอดและยังไม่ได้ดำเนินการเลย
ย่านที่อยู่อาศัยเช่นนี้อาจจะมีสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ดีเท่าไร แต่มันก็ทำให้ไม่มีใครสนใจเขาเท่าไร และไม่มีใครสนใจว่าเขาจะนำอะไรกลับมาที่บ้าน ทำให้เรื่องการขนส่งของเขาง่ายขึ้นมาก
ถ้าเขาย้ายไปอยู่เขตศูนย์กลาง มันก็คงจะดึงดูดความสนใจเข้ามาง่ายๆ
“ข้าขอเก็บเงินก่อนละกัน” หวู่เหิงตอบกลับ
“ถ้าเจ้าสนใจก็ให้หัวหน้าช่วยเจ้าหาที่เหมาะๆ ให้ก็ได้นะ”
“ได้เลย!”
...
ด้านหลังพวกเขา มันมีรถม้าอีกคันตามมา
ทูลิซามองไปยังออทรัคที่อยู่ตรงข้ามจากเธอ จากนั้นก็พูดออกมาว่า “เจ้าช่างโชคดีจริงๆ!”
“อาชญากรที่ลูกทีมของเจ้าสังหารไปเมื่อคืนคงจะมีค่าหัวสูงมากแน่ๆ”
“ไม่สิ ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ข้าหมายถึงว่าเจ้าโชคดีจริงๆ ที่ได้สมาชิกที่มีความสามารถเช่นนี้” ทูลิซาพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
หน่วยสองเต็มแล้ว
ส่วนหน่วยสามที่มีโอกาสรับคนเพิ่มก็กลับเลือกคนอื่น
หากสมาคมรู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาคงจะคิดว่าหน่วยสามนั้นได้พลาดโอกาสสำคัญไปแล้วแน่ๆ
“อืม”
ออทรัคตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ แต่เขาก็รู้สึกพึงพอใจมาก
เมื่อเขานำศพของอาชญากรทั้งสามคนนี้กลับไปได้แล้ว มันก็จะทำให้หน่วยสี่ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากแน่นอน