ตอนที่แล้วดาบที่รอการลับคม (ุ9)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปดาบที่รอการลับคม (ุ11)

ดาบที่รอการลับคม (ุ10)


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel  แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

<เรื่องราวของอารอน  ตอนที่  11>

2. ดาบที่รอการลับคม (ุ10)

**************

“มารวมตัวกันกระซิบกระซาบอะไรกันที่นี่?”

“เอ่อ... คือว่า... เรื่องการฝึก...”

“กี่ครั้งแล้วที่ฉันได้ยินว่าพวกนายคิดจะหนี?”

หัวหน้าองครักษ์ยกหอกขึ้นเล็งมาที่พวกเขา

แม้จะทำตัวเหมือนมนุษย์ แต่ก็มีเขาโผล่ออกมาจากหมวกเหล็ก

มันคือเผ่าพันธุ์ปีศาจ

“อ่า... ท่านคงฟังผิดไปกระมังครับ ฮ่าฮ่า...”

นักสู้หัวเราะแห้งๆ แล้วเหลือบมองไปที่เขาที่นั่งบนกองทราย

เขาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

ไม่มีเหตุผลใดที่รับประกันเสรีภาพของกลาดิเอเตอร์ได้ใน

สังเวียนแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคของมนุษย์ มันถูกออกแบบมาให้ไม่สามารถหลบหนีได้เว้นแต่จะบุกฝ่าเข้าไปตรงๆ

ไม่มีทางออกอื่นนอกจากจัดการกับทหารยามที่เฝ้าทางออก

“ผะ... ผมว่าท่านเข้าใจผิดแล้ว! แน่นอน... แน่นอนครับ!”

นักสู้มองไปที่ชายคนนั้นหลายครั้ง

ชายคนนั้นถอนหายใจ

“นายก็เป็นพวกเดียวกันงั้นเหรอ?”

หัวหน้ายามที่เฝ้าอยู่กล่าวพร้อมกับจ้องมองไปที่เขา

มีความตึงเครียดเล็กน้อยบนใบหน้าของเขา

เขาจึงปลดฝักดาบที่ผูกไว้กับเข็มขัดแล้วโยนมันทิ้งไป

“ข้าไม่เกี่ยว ทำตามใจเจ้าเลย”

“ว่าไงนะ?”

“ไอ้คนทรยศ!”

ชึ้บ!

เหล่าทหารยามต่างชักอาวุธออกมา

“ยังไงก็ต้องตาย ไม่ว่าจะด้วยภัยพิบัติหรือคมหอกคมดาบ ถ้าคิดจะสู้ก็เอาเลย”

ชายร่างยักษ์ก้าวออกมาข้างหน้า

เขาหยิบค้อนคู่ใจออกมา

เขาเองก็เป็นกลาดิเอเตอร์ระดับสูงอีกด้วย

ที่สำคัญเขายังเป็นผู้นำของกลุ่มนี้ด้วย

“ให้ตายเถอะ ถึงจะเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจแล้วยังไงล่ะ พวกเราก็ผ่านการต่อสู้มาเหมือนกัน! มาร่วมมือกันสู้! ถ้าร่วมมือกันเราก็ชนะได้!”

ชายร่างยักษ์ตะโกน

“หยิบอาวุธขึ้นมา! ก็มีอาวุธฝึกอยู่นี่ไง ตั้งขบวน!”

ไม่มีการตอบสนอง

ชายร่างยักษ์หันกลับไปมองด้วยความแปลกใจกับความเงียบ

ไม่มีใครขยับ

เหล่านักสู้ก้มหน้าก้มตาและมองไปรอบๆ แต่ไม่มีใครออกมา

ยิ่งก้าวออกไปก่อนก็ยิ่งมีโอกาสตายสูง

พวกเขาไม่อยากเสียสละชีวิตเพื่อคนอื่น

“พวกแกทำบ้าอะไรกันอยู่? ทำไมไม่มีใครออกมา?”

“…….”

“บ้าไปแล้ว! พวกแกมันบ้าไปแล้วหรือไง? มาถึงขั้นนี้แล้วนะ...!”

ในขณะที่ชายร่างยักษ์กำลังจะหันไปต่อว่า

หัวหน้าองครักษ์ก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

“เอ๊ะ...!”

ชายร่างยักษ์หันกลับไปมอง…แต่ก็สายเกินไปแล้ว

ปลายหอกแทงทะลุหัวใจของเขา

เลือดพุ่งออกมาจากหน้าอกด้านซ้ายของเขา

สีหน้าของเขาไม่อยากจะเชื่อ

นักสู้ที่ผ่านการต่อสู้มานับไม่ถ้วนล้มลงโดยที่ไม่มีโอกาสได้แม้แต่จะได้ใช้อาวุธ

"หนี!"

ในเวลาเดียวกัน เหล่ากลาดิเอเตอร์ก็กระจัดกระจายไปทุกทิศทุกทาง

พวกเขาพยายามใช้ช่วงเวลาที่ชายร่างยักษ์ตายเพื่อหลบหนี

“ฆ่ามันให้หมด!”

ทหารสิบคนเตะพื้นและกระโจนออกไป

ความเร็วของมันราวกับสัตว์ร้าย

สีหน้าของพวกมันเต็มไปด้วยความกระหายเลือดและความสะใจ

“ย้ากๆๆๆ!”

“ฉันจะพวกสับแกเป็นชิ้น ๆ!”

แต่เผ่าพันธุ์ปีศาจก็ยังเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ

ความสามารถทางร่างกายของพวกมันแตกต่างจากมนุษย์อย่างสิ้นเชิง

ถ้าพวกมันไม่สามารถควบคุมได้ พวกกลาดิเอเตอร์ก็คงไม่ถูกกักขังเช่นนี้

นอกจากนี้ ยกเว้นกลาดิเอเตอร์ระดับสูง การพกพาอาวุธก็ไม่ได้รับอนุญาต

อาวุธส่วนใหญ่ที่พวกเขามีก็เป็นแค่ดาบไม้สำหรับฝึกเท่านั้น

“ชะ...ช่วยด้วย!”

“อ๊ากกกกกกกก!”

“ตายซะ!”

เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว

เสียงกรีดร้องเริ่มดังก้อง

เขานั่งลงและหลับตาลง

'นั่นมันโง่มาก'

ถ้าพวกเขารวมตัวกันต่อต้านอย่างที่ชายร่างยักษ์พูด บางทีอะไรๆ อาจจะเปลี่ยนไป

อาจจะมีความหวังริบหรี่

แต่พวกเขากลับทิ้งเพื่อนร่วมทีมแทนที่จะร่วมมือกัน

มันก็ไม่น่าแปลกใจ

นี่คือโลกของมนุษย์ที่เขาเห็นมาตลอด

เป็นที่ที่คนในนรกเดียวกันต่างยอมดึงกันลง

ที่ที่คนตกต่ำคอยจะลากคนอื่นลงไปด้วยกัน

“เอาศพมารวมกัน เราต้องการเสบียง”

ไม่ถึง 10 นาที การทำความสะอาดก็เสร็จสิ้น

ทหารยามเผ่าพันธุ์ปีศาจเริ่มรวบรวมชิ้นส่วนร่างกายที่กระจัดกระจาย

เหลือเพียงชายคนนั้นที่ยังอยู่

“ขออภัยด้วย เราคงต้องยึดอาวุธของนายคืน”

“ตามใจ”

ทหารยามนำรถม้ามาขนกองเนื้อออกไป

เขาที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวลุกขึ้นยืน

กลิ่นคาวเลือดจากแอ่งเลือดลอยมาแตะจมูก

เขาไม่ชอบกลิ่นนี้เท่าไหร่

หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ขึ้นทั่วสังเวียน

สังเวียนแห่งนี้ใหญ่โตมาก นอกจากที่ที่ชายคนนั้นอยู่ก็ยังมีห้องพักและสนามฝึกอื่นๆ อีก

กลุ่มคนที่คิดจะหลบหนีหรือก่อกบฏคงจะถูกกำจัดไปหมดแล้ว

‘ที่ทางเข้าเมืองก็คงเกิดเรื่องแบบนี้เหมือนกันสินะ?’

ฆ่าคนที่พยายามจะหนี

ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจหรือมนุษย์

พวกเขาบอกว่าเป็นคำสั่งของกษัตริย์

‘ทำไมกัน?’

เขาไม่สามารถเข้าใจได้

แต่เขาก็ไม่ได้พยายามที่จะเข้าใจ

เผ่าพันธุ์ปีศาจก็เป็นแบบนี้แหละ

อย่างไรก็ตาม ชีวิตประจำวันของชายคนนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก

สิ่งที่เปลี่ยนไปก็แค่สถานที่ที่เขานั่งเหม่อลอย

สนามฝึกที่เป็นที่รวมตัวของนักสู้ถูกปิด

เขาต้องนั่งอยู่บนเตียงในห้องของเขา

เวลาผ่านไปอย่างเงียบงัน

เขาไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษ

แค่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ค่า

เขาหยุดนิ่ง

ห้องของเขาเป็นห้องขนาดใหญ่สำหรับนักสู้ระดับสูง แต่ไม่มีหน้าต่างหรือช่องทางใดๆ ที่จะมองเห็นภายนอกได้

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เป็นกลางวันหรือกลางคืน

เขาแทบไม่ออกจากห้องเลย นอกจากจะออกไปกินข้าวต้มจืดๆ ที่โรงอาหารเป็นครั้งคราว

“…….”

ระหว่างนั้น

ชายคนนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าเดินไปมาอยู่หน้าประตู

แม้จะไม่มีหน้าต่าง แต่ถ้าเขาเดาไม่ผิด ตอนนี้คงเป็นเวลาดึกสงัด

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

“ฉันเข้าไปได้ไหม?”

เสียงผู้ชายดังมาจากทางเดิน

"มาสิ"

เมื่อชายคนนั้นตอบ ประตูไม้ถูกเปิดออกอย่างเงียบๆ

ชายผู้มีท่าทางแข็งกร้าวเดินเข้ามาในห้อง

เขาเดินอย่างแผ่วเบา แทบไม่มีเสียงหรือแรงสั่นสะเทือน

เขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

‘หมอนี่...’

เขาเคยเห็นหน้าเจ้านี้มาก่อน

เป็นนักสู้ระดับสูงเหมือนกับเขา

และยังเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย

หากการแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป เขาคงต้องสู้กับหมอนี่สักวัน

“นายคือนักสู้ระดับสูงที่ใช้ชื่อว่านิรนามใช่ไหม?”

ปัง

ประตูปิดลง

“ฉันชื่อไคนิล”

“แล้วไง?”

“ได้โปรด ช่วยพวกเราด้วย”

ชายที่ชื่อไคนิลพูดขึ้น….

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด