44
บทที่ 44 ซุนหงอคงกับปีศาจกระดูกขาว
เรียนรู้กันหน่อยสิ ทุกคนมาดูว่าเขาคุยกันยังไง! ผู้หญิงขี้บ่นเอาแต่ใจที่ไม่ทำอะไรนอกจากเรียกร้อง ลองมาดูสิว่าแค่ให้คุณค่าทางอารมณ์ดีๆ ก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก ผู้ชายก็ยอมควักเงินให้โดยเต็มใจ
จริงๆ แล้วผู้ชายไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย แค่คำพูดให้กำลังใจเมื่อเขารู้สึกท้อแท้ อ้อมกอดอุ่นๆ เมื่อเขาเหนื่อยล้า อาหารค่ำร้อนๆ หลังจากเลิกงาน
จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็จะฟื้นตัวเต็มที่ สามารถกลับมารับภาระชีวิตต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง!
แต่สิ่งที่ผู้หญิงหลายคนชอบพูดกลับเป็น "สามีของใครหาเงินได้เยอะ" "ฉันแต่งกับเธอแล้วชีวิตเหมือนตกนรก" "เธอช่วยทำตัวให้เหมือนคนอื่นหน่อยได้ไหม?"
แม้ว่าจะทุ่มเททุกอย่างในที่ทำงาน แต่เมื่อกลับบ้านกลับต้องเจอกับเสียงบ่นและเสียงด่าว่าตลอดเวลา
ความเหนื่อยล้าทางร่างกายเพียงพักสักพักก็หายไป แต่ความกดดันทางจิตใจนี้จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็แตกสลาย!
ดังนั้น เมื่อคุณเห็นผู้ชายเดินอยู่คนเดียวท่ามกลางฝนโดยไม่กางร่ม เขาไม่ได้โง่ แต่เขาแค่อยากร้องไห้อย่างเต็มที่
เพราะเมื่อฝนตกลงบนใบหน้า คนอื่นจะไม่เห็นว่าเขากำลังร้องไห้
ดังนั้น สำหรับหยางห่าวที่เคยผ่านการถูกทำร้ายจากการแต่งงานที่ล้มเหลวมาแล้ว การมีผู้หญิงแบบ "ชา" ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะพวกเธอเข้าใจความรู้สึก พูดจาดี และสามารถให้คุณค่าทางอารมณ์
ข้อเสียของพวกเธอคือ พวกเธอมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ได้มีความรักที่แท้จริงต่อคุณ เมื่อคุณมีคุณค่าในสายตาพวกเธอ คุณก็เป็นเหมือนพระเจ้า แต่เมื่อคุณไม่มีคุณค่า พวกเธอก็จะทิ้งคุณเหมือนของที่ใช้แล้วทิ้ง
แต่จากมุมมองของหยางห่าว เขาไม่สนใจว่าพวกเธอจะเข้ามาหาเขาเพราะเงิน เพราะนั่นเป็นเรื่องปกติ คุณไม่สามารถคาดหวังให้พวกเธอมองคุณเป็นผู้ชายหย่าร้างที่มีลูกได้หรอก!
เหมือนในซีรีส์ "都挺好 (All is Well)อันนี้ชื่อeng" ที่พูดว่า "เพราะคุณอายุมาก เพราะคุณไม่อาบน้ำหรือ?"
ในความเป็นจริง ในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น ความสัมพันธ์ทุกประเภทล้วนมีความคาดหวัง แม้แต่ระหว่างพ่อแม่กับลูกยังมีคำพูดว่าเลี้ยงลูกเพื่อดูแลตอนแก่
คนที่สามารถทำทุกอย่างโดยไม่มีความต้องการ ไม่มีการเรียกร้องใดๆ นั้นน้อยมากและเป็นนักบุญ
สำหรับเรื่องความรัก หยางห่าวก็ไม่ต้องการ เขาไม่คิดจะแต่งงานกับฝ่ายนั้น
ดังนั้น สำหรับเหมิงหยูหยู หยางห่าวไม่รู้สึกขัดข้อง พวกเธอสามารถให้คุณค่าทางอารมณ์และช่วยถ่ายวิดีโอสร้างรายได้ แล้วทำไมเขาจะไม่ทำ
สำหรับสิ่งที่พวกเธอต้องการ หยางห่าวก็จะให้ในระดับที่เหมาะสม ไม่ให้พวกเธอต้องเสียเปล่า เพราะเขาไม่ใช่คนที่ชอบเอาเปรียบคนอื่น
ด้วยเหตุนี้ เมื่อถึงวันที่พวกเขาแยกทางกันก็จะไม่มีใครติดค้างใคร
ความสัมพันธ์แบบนี้กลับสบาย ไม่เหนื่อย
แต่ในตอนนี้ซุนซินอีมีความรู้สึกที่ซับซ้อนมาก เหมิงหยูหยู ที่เหมือนปีศาจที่เก่งในการปลอมตัว และหยางห่าวที่เหมือนพระถังซำจั๋งดูเหมือนจะถูกเธอหลอกลวง
แม้ว่าเธอจะเป็น "ซุนหงอคง" ที่มีดวงตาสว่างไสว แต่ไม่มีเหตุผลในการแทรกแซง ถ้าเธอพยายามขัดขวางเธอก็อาจจะถูกไล่กลับไปที่ภูเขาฮัวกั่วซาน
ดังนั้น ซุนซินอีจึงทำได้เพียงนิ่งเฉย และสอนหยางห่าวตามปกติ
เหมิงหยูหยู ก็ทำหน้าที่ถ่ายวิดีโออย่างเต็มที่ แต่เธอก็มีเล่ห์กลของเธอเอง โดยถ่ายเฉพาะหยางห่าวไม่ถ่ายซุนซินอี
เมื่อวานหยางห่าวโพสต์วิดีโอใน Kuaishou เธอเห็นคอมเมนต์หลายคนบอกให้ถ่ายครูฝึกหญิงมากขึ้น
แม้ว่าในชีวิตจริงเหมิงหยูหยู จะคิดว่าตัวเองด้อยกว่าซุนซินอี แต่ใน Kuaishou เธอมั่นใจว่าจะเอาชนะซุนซินอีได้
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นในจำนวนผู้ติดตามใน Kuaishou เหมิงหยูหยู มีผู้ติดตามมากกว่า 30,000 คน ในขณะที่ซุนซินอีมีเพียง 5,000 คน
ดังนั้นเหมิงหยูหยู จึงวางแผนจะถ่ายวิดีโอที่มีเธออยู่ในนั้น เพื่อให้มีภาพของเธอปรากฏในวิดีโอของหยางห่าว
หลังจากการเต้นแอโรบิกเสร็จสิ้น ก็ถึงครึ่งชั่วโมงของการฝึกอุปกรณ์ ซุนซินอียังคงสอนอย่างจริงจัง แต่หยางห่าวกลับรู้สึกใจลอย ส่วนใหญ่เป็นเพราะเหมิงหยูหยู ที่ไม่อยู่นิ่งเลย ทำท่าทางยั่วยวนอยู่ข้างๆ บนอุปกรณ์ หรือเพียงแค่นั่งยิ้มมองเขา และให้กำลังใจเป็นระยะๆ
วันนี้เหมิงหยูหยู ไม่ได้ใส่ชุดออกกำลังกายแบบดั้งเดิม ท่อนบนเป็นเสื้อเกาะอก ส่วนล่างเป็นกางเกงขาสั้นลายขาวดำ แต่ไม่ว่าจะเสื้อหรือกางเกงก็มีลักษณะยั่วยวน ตั้งแต่มาที่โซนอุปกรณ์ สายตาของสมาชิกชายหลายคนก็แอบมองเธอตลอด
หนึ่งในพี่ชายที่กำลังฝึกการดันอก หลังจากมองเธอ ก็สามารถเพิ่มน้ำหนักบาร์เบลได้อีก 20 กิโลกรัม!
แม้ว่าจะปกปิดส่วนที่ควรปกปิด แต่กลับยิ่งดึงดูดความสนใจมากขึ้น!
เธอแทบไม่ต้องทำอะไรยั่วยวน เพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้นก็สามารถดึงดูดวิญญาณของผู้ชายหลายคนได้
เพียงแต่ว่าพี่สาวที่มักจะเป็นกันเองและพูดคุยอย่างมีชีวิตชีวา กลับมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ชายผู้มีรูปร่างท้วมและหน้าตา "ธรรมดา" ที่นอนอยู่บนอุปกรณ์และมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ชัดเจน
หรือเพราะว่าเขามีความเด่นชัด?
มีข้อมูลบอกว่าความเด่นชัดเพียงอย่างเดียวไม่พอ การเล่นไพ่เป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง ต้องฝึกฝนอย่างหนักและค้นพบตลอดเวลา
เพราะเป้าหมายแต่ละคนมีสถานการณ์ที่ต่างกัน ต้องสอนตามแต่ละบุคคล!
หยางห่าวคิดว่าคนอย่างเหมิงหยูหยู ที่เหมือนปีศาจกระดูกขาว ต้องใช้ไม้เท้าทองคำของซุนหงอคงเท่านั้นถึงจะปราบได้
จนกระทั่งเมื่อเขามองเหมิงหยูหยู ที่เป็นปีศาจบ่อยขึ้น เขามักจะพูดว่า "ถ้าฟ้าไม่ให้กำเนิดหยางห่าว โลกจะมืดมิดตลอดกาล"
ไม้มา!!!
ไม้เดียวไม่พอ สองไม้ไม่พอ ก็สามไม้!
ต้องให้เธอแตกเป็นเถ้าถ่าน~!
“หยูหยู นี่ใกล้เวลาอาหารแล้ว ไปกินข้าวด้วยกันไหม?”
หวงจื้อเชาที่ซื้อคอร์สกับเหมิงหยูหยู 50 คอร์ส ในที่สุดก็ทนไม่ไหวและเชิญเธอออกไปทานอาหาร
“พี่หวง ขอโทษนะคะ วันนี้ฉันมีนัดแล้ว”
เหมิงหยูหยู ยิ้มและปฏิเสธ
“มีนัดแล้ว?”
“กับเขาหรอ?”
หวงจื้อเชาชี้ไปที่หยางห่าวที่กำลังยืดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายอยู่
“ใช่ค่ะ ฉันสัญญาว่าจะถ่ายวิดีโอให้พี่หยาง” เหมิงหยูหยู ตอบตรงๆ
หวงจื้อเชาขมวดคิ้ว เหมิงหยูหยู มักเรียกเขาว่า “พี่หวง” แต่กลับเรียกชายคนนั้นว่า “พี่หยาง”
แม้จะต่างกันเพียงคำเดียว แต่กลับสร้างความรู้สึกที่แตกต่างอย่างชัดเจน เขาเองก็อยากให้เหมิงหยูหยู เรียกเขาว่า “พี่ใหญ่หวง” แบบอ้อนๆ บ้าง
“หยูหยู เธอไม่บอกว่าชอบกระเป๋า LV รุ่นหนึ่งหรอ เราไปกินข้าวที่ Star City แล้วไปดู LV กันไหม?”
หวงจื้อเชายังไม่หมดหวัง เพลง “Red Rose” ร้องถูกต้อง: สิ่งที่ไม่ได้รับย่อมเคลื่อนไหวตลอดเวลา
เขาโดนเหมิงหยูหยู ดึงเข้าแล้ว และวันนี้เหมิงหยูหยู ก็ดึงดูดเขาเป็นพิเศษ เขาจึงคิดว่าถึงจะต้องใช้เงินสองสามหมื่นหยวนซื้อกระเป๋า ก็ต้องได้เธอมา
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เหมิงหยูหยู คงจะไปกินข้าวกับหวงจื้อเชาและได้กระเป๋า LV ที่ชอบ
แต่จะให้กระเป๋าเพียงใบเดียวหลอกให้เธอไปโรงแรมนั้นเป็นไปไม่ได้ เหมิงหยูหยู รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของตัวเอง และรู้ว่าผู้ชายให้ความสำคัญกับอะไร
ดังนั้นจนกว่าจะเจอปลาตัวใหญ่ที่แท้จริง เธอจะไม่มอบสิ่งที่มีค่าที่สุดของเธอ
และตอนนี้ปลาตัวใหญ่ที่เธอรอมานานอยู่ตรงหน้า เธอจึงไม่อาจเสียโอกาสไปกับหวงจื้อเชาที่เป็นเพียงกุ้งเล็ก!
ดังนั้นเธอยิ้มอย่างสุภาพและปฏิเสธอีกครั้ง “พี่หวง พี่ก็รู้ว่าฉันเป็นคนรักษาคำพูด เมื่อสัญญากับพี่หยางแล้ว ก็จะไม่เปลี่ยนใจ!”
(จบบท)