บทที่ 236 มาจริง (ตอนที่ 1)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 236 มาจริง (ตอนที่ 1)
ภายในอู่ต่อเรือเซเวโรดวินสค์ได้ถูกปิดตายและอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกโดยกองกำลังทหารแล้ว
ซุนเฉิงเพิ่งจะก้าวออกมาจากเรือภูตผี ภาพแรกที่เขาเห็นคือชายรัสเซียวัยกลางคนพร้อมด้วยทหารอีกหลายนายกำลังยืนอยู่บนท่าเรือที่สาม
ชายรัสเซียวัยกลางคนผู้นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเขา เขาคือดีมิทรี รองประธานาธิบดีคนแรกของรัสเซีย ซึ่งเขาเคยพบเจอในมอสโกอยู่สองสามครั้ง
“วลาดิเมียร์ไม่มาเหรอ? ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นความจริงสินะ...”
ในชั่วพริบตา ความคิดของซุนเฉิงก็ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองรัสเซียที่เขาเพิ่งรวบรวมมาได้ ขณะที่เขามองไปยังดีมิทรี ดวงตาของเขาก็เผยให้เห็นความรู้สึกมากมายออกมา
เห็นได้ชัดว่าดีมิทรี หรือรัสเซีย เป็นประเทศที่เน้นประโยชน์นิยมเป็นอย่างมาก
แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากบนท่าเรือที่จ้องมองไปยังเรือภูตผีเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่มีใครก้าวออกมากล่าวหาหรือตำหนิซุนเฉิงเลย
เพราะในสายตาของชาวรัสเซีย เรือดำน้ำชั้นไต้ฝุ่นก็เป็นเพียงเรือดำน้ำล้าสมัยที่รอการปลดประจำการ แม้ว่าจะมีสถานะเป็นเรือดำน้ำนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ แต่เมื่อถึงเวลาปลดประจำการ ค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ดังนั้นการยอมรับผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
แถมยังไงเสีย เรือภูตผีก็อยู่ในมือของซุนเฉิงแล้ว มันไม่สามารถเรียกคืนได้แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น พวกซุนเฉิงคือมนุษย์ต่างดาวเชียวนะ!
เมื่อคิดได้ดังนั้น รอยยิ้มของดีมิทรีก็ดูผ่อนคลายมากขึ้นขณะที่ซุนเฉิงเดินขึ้นไปบนท่าเรือ เป็นดีมิทรีที่เป็นฝ่ายเข้าหาก่อน "คุณเฟรนซี่ที่เคารพ ยินดีต้อนรับกลับสู่รัสเซียครับ..."
"เรายินดีมากที่คุณมา..."
ชาวรัสเซียทำท่าทางที่เป็นมิตรให้ซุนเฉิงด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
แต่ว่าซุนเฉิงไม่เหมือนกับพวกดีเซปติคอนที่นำโดยสตาร์สครีม เขาไม่กล้าประมาทประเทศมนุษย์บนโลกหรอก
อีกอย่าง รัสเซียคือห้าชาติมหาอำนาจของโลก หากจำเป็นซุนเฉิงก็ไม่อยากจะขัดแย้งอะไรด้วย
เมื่อเทียบกับไซเบอร์ตรอนที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงมาก มนุษย์บนโลกก็พอจะมีเทคโนโลยีไว้ต่อกรอยู่ หากต้องเจอกับอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะออโตบอตส์หรือดีเซปติคอนก็คงไม่รอดแน่
ฟอร์เรนเนอร์เดินตามออกมา และวิศวกรดีเซปติคอนอีกสองคนก็ปรากฏตัวออกมาจากเรือภูตผีเช่นกัน
วิศวกรดีเซปติคอนสองคนนี้ถูกเฮเฟสตัสสั่งให้มาที่อู่ต่อเรือเซเวโรดวินสค์ พวกเขารับผิดชอบโดยตรงในด้านเทคนิคของโครงการเรือดำน้ำนิวเคลียร์โจมตีชั้นยาเซ็น ส่วนใหญ่แล้ว การก่อสร้างไม่ได้จำเป็นต้องให้พวกเขาเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง ซุนเฉิงจึงได้สั่งให้พวกเข้าไปช่วยแค่เรื่องส่วนสำคัญของเรือดำน้ำที่กำลังจะสร้างขึ้นเท่านั้น
สำหรับฟอร์เรนเนอร์ เขาติดตามซุนเฉิงมาก็เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัย
หลังจากการทำธุรกรรมนี้เสร็จสิ้น ซุนเฉิงก็จะได้ทรัพยากรที่จำเป็นเร่งด่วนมาจำนวนหนึ่ง
ในอนาคตอันใกล้ ซุนเฉิงจะยังคงประจำอยู่ที่ฐานที่ 2 เพื่อดูแลการก่อสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไปพร้อมกับสร้างร่างกายใหม่ของตนเอง
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เขาต้องการคนที่ไว้ใจได้ให้มารักษาความปลอดภัยของหุ่นยนต์รบของเขา
ถึงแม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของฟอร์เรนเนอร์จะไม่เทียบเท่าดัสต์อัพ แต่มันก็เป็นหนึ่งในสหายเก่าแก่ไม่กี่คนที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่เขามาตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความภักดีของเลย แถมด้วยการสนับสนุนจากหุ่นยนต์รบ ซุนเฉิงเชื่อว่าที่นี่จะยังคงปลอดภัยในระดับหนึ่ง ตราบใดที่ยังมีฟอร์รันเนอร์อยู่แหละนะ
ดีมิทรีและคนอื่นๆ สังเกตเห็นการปรากฏตัวของฟอร์เรนเนอร์และวิศวกรสองคนด้วย สีหน้าของพวกเขาเผยให้เห็นความประหลาดใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าซุนเฉิงไม่ได้รีบแนะนำพวกเขา พวกเขาจึงสันนิษฐานว่าทั้งสามเป็นผู้ติดตามของเขา จึงไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขามากนัก
สภาพอากาศไม่เป็นใจเลย
ระหว่างการเยือนท่าเรือของซุนเฉิง หิมะก็ยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง
สิ่งมีชีวิตจักรกลอย่างเขาไม่มีปัญหาหรอก ต่อให้โดนอุณหภูมิต่ำผิดปกติก็ไม่เป็นไร เพราะพวกมันจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก
ในทางกลับกัน คนในรัสเซียอย่างดีมิทรี แม้ว่าจะเกิดในประเทศที่มีน้ำแข็งและหิมะ แต่ก็ยากที่จะทนต่อการสัมผัสกับอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 20 ถึง 30 องศาเซลเซียสเป็นเวลานาน
เสียงไอต่อเนื่องดังขึ้น ดิมิทรีรีบยื่นมือออกไปเป็นเชิงเชิญและพูดว่า "คุณเฟรนซี่ เราเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ตอนนี้มันถูกเก็บไว้ในท่าเรือของอู่ต่อเรือ เชิญไปตรวจสอบกับพวกเราด้วยครับ"
เขาเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงที่เหมาะสมยิ่งนัก ไม่ผัดวันประกันพรุ่งของ คนแบบนี้คงทำให้ชาวรัสเซียชื่นชม
ซึ่งก็ดีสำหรับซุนเฉิง เพราะเขาไม่ต้องการเสียเวลามากไปกว่านี้กับที่นี่
"โปรดวางใจได้ ถึงแม้ว่าในหมู่พวกเราดีเซปติคอนจะมีคนหลอกลวงอยู่บ้าง แต่ก็มีคนที่ยึดมั่นในคำมั่นสัญญาของตนอย่างเคร่งครัด ข้าได้เตรียมสิ่งที่สัญญาไว้กับเจ้าแล้ว และวันนี้พวกเราได้นำของมาเพิ่มอีกสองอย่างนอกเหนือจากข้อตกลง..."
"โอ้เรากำลังตั้งตารออยู่เลยครับ..."
ทั้งกลุ่มออกจากท่าเรือ พูดคุยกันและหัวเราะกันพลางมุ่งหน้าไปยังอู่ต่อเรือ
ตลอดทาง สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปที่ซุนเฉิงและพรรคพวกของเขา ทั้งหมดมาจากทหารรัสเซียที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยในอู่ต่อเรือ
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอาจได้รับคำสั่งบางอย่างจากเบื้องบนให้ไม่สนใจ แต่พวกเขาคงไม่อาจห้ามความอยากรู้อยากเห็นได้หรอก เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตนอกโลกอย่างสิ่งมีชีวิตจักรกลเป็นครั้งแรก
ซุนเฉิงไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนัก
ในทางกลับกัน ฟอร์เรนเนอร์และคนอื่น ๆ กลับเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ
โชคดีที่ซุนเฉิงได้ให้คำแนะนำพวกเขาล่วงหน้าไปแล้ว พวกเขาจึงสามารถระงับความรู้สึกไม่สบายใจไว้ได้
อู่ต่อเรือเซเวโรดวินสค์มีขนาดใหญ่มาก ถือเป็นสถานที่ผลิตเรือดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียและแม้แต่ในทวีปยุโรปทั้งหมด ประกอบด้วยท่าเรือหลักสามแห่งและท่าเรือรองสี่แห่ง..
เนื่องจากสภาพอากาศอันเลวร้ายของท่าเรือทหารที่นี่ ท่าเรือหลักจึงถูกปิดล้อมด้วยหลังคา ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ความปลอดภัยแต่ยังทำให้มีพื้นที่กว้างขวางอีกด้วย
ในการทำธุรกรรมครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าฝ่ายรัสเซียได้เตรียมการมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
คนงานในอู่ต่อเรือได้ถูกเคลียร์ออกไปล่วงหน้า ไม่รู้เลยว่าถูกอนุญาตให้ลาหยุด หรือแค่ถูกย้ายไปยังอู่ต่อเรืออื่นๆ
ท่าเรือที่กำหนดไว้สำหรับการทำธุรกรรมเป็นท่าเรือปิด ไม่มีเรือดำน้ำหรือเรือลำอื่นๆ กำลังถูกสร้างขึ้นที่นั่น เมื่อไม่มีอุปกรณ์ที่ซับซ้อนและคนงาน ท่าเรือจึงดูสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างยิ่ง ทันทีที่ซุนเฉิงและกลุ่มของเขาเข้าไป พวกเขาก็เห็นกองโลหะสำเร็จรูปที่วางซ้อนกันอย่างเรียบร้อยอยู่ในมุมหนึ่งของท่าเรือทันที
“คุณเฟรนซี่ ทุกอย่างอยู่ที่นี่แล้ว คุณต้องการให้เราตรวจสอบอะไรไหม?”
ดีมิทรีเฝ้ามองซุนเฉิงอย่างใกล้ชิด และสังเกตเห็นว่าสายตาของเขาไม่ได้ละไปจากกองโลหะสำเร็จรูปตั้งแต่พวกเขาเข้ามาในท่าเรือเลย
“... เจ้าสองคนไปตรวจสอบดูสิ...”
เมื่อได้รับคำสั่งจากเฮเฟสตัส วิศวกรดีเซปติคอนสองคนที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันอดไม่ได้ที่จะวิ่งไปหากองโลหะ
เมื่อรู้สึกว่าตอนนี้สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขา ซุนเฉิงหันไปมองดีมิทรีและคนอื่นๆเข้าใจทันทีว่าพวกเขาหมายถึงอะไร
จากนั้นเขาก็พูดว่า "ให้คนของเจ้าถอยไปหน่อย และเคลียร์พื้นที่ให้ข้า"
กลุ่มทหารที่รับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยของดีมิทรีมองหน้ากันครู่หนึ่ง แต่ว่าก็ไม่มีใครกล้าขยับเขยื้อน
ดีมิทรีลังเลอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายจึงพยักหน้าเล็กน้อยส่งสัญญาณให้พวกเขาถอยออกมา
เมื่อเคลียร์พื้นที่ใกล้เคียงได้แล้ว ในที่สุดซุนเฉิงก็ยกมือขึ้นและทำท่ายื่นไปข้างหน้า ทันใดนั้นมันได้เกิดเสียงดังขึ้น ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่หลายตู้ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในพื้นที่เปิดโล่งใกล้พวกเขา