ตอนที่แล้วตอนที่ 24 : ค่ายกลหอก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 26 : ล้อม

ตอนที่ 25 : มีคนมาที่นี่


ตอนที่ 25 : มีคนมาที่นี่

หลังจากทานมื้อเย็นที่โรงเตี๊ยมระหว่างทางแล้ว หวู่เหิงก็ตรงกลับไปยังที่พักของตน

หลังจากพักอยู่สักพัก เขาก็เริ่มฝึกฝนการใช้หอกกับบาเซน

นับตั้งแต่ที่เขาได้รับบาเซนมาเป็นโครงกระดูก เขาก็ไม่ได้ใช้หุ่นไม้เพื่อฝึกซ้อมอีก

การมีคู่ซ้อมมือย่อมมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าการฝึกฝนด้วยหุ่นไม้

เมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ มันก็มีการแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้นในหูของเขาอีกครั้ง

[ปลดล็อคความสามารถพิเศษ: ความเชี่ยวชาญการใช้หอก (ขั้นต้น)]

หืม?

การแจ้งเตือนนี้ทำให้เขาเสียสมาธิไปเล็กน้อย

การเคลื่อนไหวของเขาช้าลง และดาบสั้นของบาเซนก็เล็งมาที่คอของเขา

เขาตกใจ และหลบไปด้านข้างอย่างฉิวเฉียด

“หยุดก่อน!”

หลังจากหลบไปแล้ว เขาก็ตะโกนออกมาทันที

บาเซนหยุดการเคลื่อนไหวของมัน และรีบเก็บดาบไปและยืนนิ่งอยู่กับที่

หวู่เหิงแตะคอของเขา หลังจากยืนยันแล้วว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เขาก็เปิดหน้าต่างข้อมูลขึ้นมาตรวจสอบทันที

[ชื่อ: หวู่เหิง]

[อาชีพ: เนโครแมนเซอร์]

[เลเวล: 3 (1,109/2,700)]

[ค่าสถานะ: ความแข็งแกร่ง 10, ความว่องไว 13, ความทนทาน 15, สติปัญญา 16, การรับรู้ 10, เสน่ห์ 13]

[ความสามารถพิเศษ: ความเชี่ยวชาญการใช้หอก (ขั้นต้น)]

[ทักษะ: การควบคุมโครงกระดูก, ทักษะสาดกรด, ทักษะจาระบี]

[ความเชี่ยวชาญการใช้หอก (ขั้นต้น): ท่านได้รับความเชี่ยวชาญในการใช้หอกขั้นต้น]

ตามที่คาดไว้ มันมีหน้าต่างความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมาในหน้าต่างข้อมูลของเขา

มันไม่มีโบนัสค่าสถานะอะไรเป็นพิเศษ มันแค่บอกว่าเขามีความเชี่ยวชาญในการใช้หอกถึงขั้นต้นแล้ว

มันหมายความว่าเขาสามารถปลดล็อคความเชี่ยวชาญของอาวุธอื่นๆ ผ่านการฝึกได้ด้วย

ไม่ นั่นอาจจะเป็นแค่การสรุปข้อมูลจากหน้าต่างข้อมูลเท่านั้น และความเชี่ยวชาญคงมาจากการฝึกฝนของเขาเอง

ตั้งแต่การต่อสู้ไปจนถึงการฝึกประจำวัน มันก็ไม่ใช่เวลาสั้นๆ เลย

“หรือว่าข้าควรจะฝึกฝนการใช้ดาบต่อ?”

เมื่อเทียบกับหอกแล้ว ผู้คนมักจะชอบใช้ดาบกันมากกว่า

นี่เป็นสิ่งที่ช่วยพิสูจน์แล้วว่าดาบนั้นใช้งานได้ดียิ่งกว่า

เนื่องจากการฝึกฝนสามารถปลดล็อคความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธได้ มันก็อาจจะคุ้มค่าเหมือนกันที่จะฝึกฝนดาบ

หลังจากตรวจสอบหน้าต่างข้อมูลแล้ว เขาก็ลุกขึ้นและพูดออกมาว่า “มาฝึกกันต่ออีกหน่อยละกัน”

ทั้งสองยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นและเริ่มฝึกฝนต่อ

และเมื่อถึงช่วงกลางดึก เขาก็ไปเข้านอน

...

เช้าวันต่อมา ณ โลกซอมบี้

หวู่เหิงนำกองทัพโครงกระดูกของเขาจัดการกับภารกิจของเมื่อวานต่อ

เมื่อมาถึงอาคารที่ยังไม่ถูกกวาดล้าง พวกเขาก็เปิดประตูทุกบานในห้องโถง และนำเหล่านักรบโครงกระดูกเข้าไปกวาดล้างพวกซอมบี้

จากนั้นพวกเขาก็เปิดประตูห้องทุกห้อง และเริ่มการกวาดล้างซอมบี้ที่อยู่ภายในห้องต่อ

ผลลัพธ์ของการต่อสู้เหล่านี้ยังคงเหมือนเดิม

ซอมบี้เพียงไม่กี่ตัวพวกนี้ไม่อาจทำอะไรกับกองทัพโครงกระดูกในตอนนี้ได้เลย

ในไม่ช้า อาคารแห่งแรกก็ถูกกวาดล้างไปจนหมด ต่อจากนั้นก็ตามมาด้วยอาคารถัดไปที่เต็มไปด้วยซอมบี้

ด้วยข้อได้เปรียบด้านจำนวน พวกเขาจึงชนะในการต่อสู้ได้อย่างไม่ยากเย็น

ในขณะที่หวู่เหิงกำลังจะเลี้ยวตรงหัวมุมหลังจากเคลียร์ซอมบี้ในอาคารที่สามแล้ว…

บาเซนที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยสอดแนมก็วิ่งกลับมาจากในระยะไกล

มันทำสัญญาณให้หยุด

หวู่เหิงสั่งการทันที “รอก่อน”

กึก!

กองทัพโครงกระดูกหยุดการเคลื่อนไหวในทันทีและเข้าสู่โหมดเตรียมพร้อม

บาเซนลอดตัวผ่านกองทัพโครงกระดูกเข้ามา และมายืนอยู่ข้างๆ หวู่เหิง จากนั้นมันก็ชี้ไปทางอาคารที่ถูกปิดเอาไว้

“มีอันตรายอยู่ทางนั้นเหรอ?”

บาเซนพยักหน้าเบาๆ

“พาข้าไปดูที”

บาเซนพยักหน้าอีกครั้ง จากนั้นก็นำทางหวู่เหิง และโผล่หัวออกมาจากมุมทางเดิน

ด้านหน้าของพวกเขาเป็นจัตุรัสเล็กๆ ภายในอาคารที่อยู่อาศัย มันมีพื้นที่ที่ถูกปูเอาไว้ด้วยปูนซีเมนต์ และมีเครื่องออกกำลังกายอยู่สองสามเครื่อง

รถบัสสีน้ำเงินพุ่งชนรั้วละแวกนี้ และพลิกคว่ำไปที่ด้านหนึ่งของจัตุรัสนี้

มันมีซอมบี้อยู่ประมาณ 20 ตัวเตร็ดเตร่อยู่รอบๆ จัตุรัส และหลายตัวก็สวมชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินที่ดูเข้ากัน

พวกเขาคงจะเป็นผู้โดยสารของรถบัส ซึ่งเป็นคนงานจากโรงงานบางแห่งแน่ๆ

“จำนวนไม่ใช่ปัญหาอะไร”

แม้ซอมบี้กว่ายี่สิบตัวจะดูเยอะ แต่เพื่อพิจารณาจากจำนวนโครงกระดูกของเขาในตอนนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

และหากเตรียมตัวได้ดี มันก็น่าจะลดความเสียหายไปได้เยอะเลยด้วย

ในขณะที่เขากำลังจะเรียกกองทัพโครงกระดูกเข้ามานั้น…

หวือ!

ทันใดนั้นร่างเงินสามร่างก็โผล่ออกมาจากบันไดที่อยู่ไกลออกไป

มันจับซอมบี้เร่ร่อนและฉีกร่างของอีกฝ่ายออกจากกันในทันที

ก่อนที่ซอมบี้ตัวอื่นจะทันได้เข้าใกล้ พวกมันก็เว้นระยะห่างออกไปในทันที ทำให้เกิดวงล้อมจากซอมบี้ยักษ์เป็นวงกลมอยู่ตรงกลาง

“สุนัขซอมบี้กลายพันธุ์!” ดวงตาของหวู่เหิงเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นภาพฉากนี้

เหมือนกับเท็ดดี้ ซอมบี้ทั้งสามตัวนี้ต่างก็เป็นสุนัขซอมบี้กลายพันธุ์

พวกมันเล่นกับเหยื่อของพวกมัน และเดินไปเรื่อยๆ โดยมีฝูงซอมบี้ล้อมเอาไว้

พวกมันวิ่งไปมาอย่างรวดเร็ว และกระทั่งหยุดรอเป็นบางครั้ง

ความโกลาหลนี้ดึงดูดซอมบี้มามากขึ้น และจัตุรัสก็เริ่มดึงดูดฝูงซอมบี้เข้ามาเรื่อยๆ

.

จุดเด่นของสุนัขซอมบี้ก็คือเรื่องของความเร็ว

ตอนที่พวกเขาจัดการกับเท็ดดี้ได้ก็เป็นเพราะมันถูกขังเอาไว้ที่โถงทางเดิน ซึ่งช่วยจำกัดการเคลื่อนไหวของมันเอาไว้เป็นอย่างมาก

แต่ในพื้นที่เปิดโล่งเช่นนี้ มันก็คงเป็นการยากที่จะจำกัดการเคลื่อนไหวของพวกมัน

แม้ว่าพวกเขาจะเอาชนะมันได้ แต่ถ้าพวกมันวิ่งหนีไป พวกเขาก็คงจะไล่ตามไม่ทันอยู่ดี

เขาตบไหล่บาเซนและพูดออกมา “กลับกันเถอะ”

พวกเขาถอยกลับมา

เขาจำเป็นต้องคิดให้ดีว่าจะจัดการกับสุนัขโครงกระดูกทั้งสามตัวนี้ยังไง ไม่เช่นนั้นมันก็คงจะเป็นปัญหาแน่ๆ

พวกเขาถอยกลับไปยังอาคารที่พวกเขาอาศัยอยู่

ในขณะที่สั่งให้โครงกระดูกย้ายศพ หวู่เหิงก็ได้ดำเนินการแปรสภาพพวกมัน

นักรบโครงกระดูกลุกขึ้นมาทีละตัว และมีดทำครัวที่ถูกเตรียมไว้ก็ได้ถูกส่งมอบให้กับพวกมันโดยเจียนอี้และเจียนเอ๋อร์

...

เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ หวู่เหิงก็ได้กลับมายังเมืองหินดำพร้อมด้วยดาบมือเดียว

หลังจากปลดล็อคความเชี่ยวชาญการใช้หอกแล้ว เขาก็วางแผนจะเริ่มฝึกฝนการใช้ดาบต่อในคืนนี้

เขาจะพยายามปลดล็อคความเชี่ยวชาญการใช้ดาบด้วย

นอกจากนี้ ตอนที่เขาฝึกใช้หอก เขาก็ได้ฝึกฝนมันไปแบบมั่วๆ ส่วนการใช้ดาบนั้น เขาสามารถขอคำชี้แนะจากสมาชิกหน่วยสี่ได้

ถ้ามันไม่ได้ผล มันก็ยังมีเจียนอี้และเจียนเอ๋อร์อยู่

ด้วยการมีเพลิงวิญญาณขั้นต้น พวกมันจึงแทบจะเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป และความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือพวกมันไม่สามารถพูดได้เท่านั้น

การสาธิตง่ายๆ หรือแก้ไขกระบวนท่าของเขาไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ในขณะที่เขาวางดาบเหล็กไว้ข้างๆ และเอื้อมมือไปยังกระเป๋าของเขาที่อยู่บนโต๊ะ โดยคิดว่าจะออกไปข้างนอกซะหน่อย มือของเขาก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย

มันมีคนค้นกระเป๋าของเขา

แม้ว่าจะไม่มีอะไรหายไป แต่ตำแหน่งของสิ่งของข้างในก็เปลี่ยนไป

หวู่เหิงเริ่มตรวจสอบห้องทันที และร่องรอยของการค้นห้องก็สามารถพบได้ทุกที่แม้ว่าทุกสิ่งจะกลับสู่สภาพเดิมก็ตาม

ถ้าเขาไม่มีนิสัยชอบเก็บสิ่งของไว้ที่เดิมในกระเป๋าตลอดเวลา เขาอาจจะไม่สังเกตเห็นเรื่องพวกนี้

“มันไม่ใช่โจร”

เงินในกระเป๋ายังอยู่เหมือนเดิม

และนอกจากนี้ พวกโจรก็จะไม่ค้นของและคืนมันกลับไปที่เดิมแน่ๆ

โจรแบบไหนกันจะมีมารยาทขนาดนั้น?

เขาไม่พบเงื่อนงำอะไรจากในห้อง ดังนั้นเขาจึงเก็บกระเป๋าและเดินออกไปจากห้อง

ในขณะที่เขาก้าวออกมา เขาก็สังเกตเห็นว่าเจ้าของบ้านกำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนบ้านคนหนึ่ง

“จะออกไปข้างนอกเหรอ?” เจ้าของบ้านถาม

“ขอรับ วันนี้มีใครมาหาข้าไหม?” หวู่เหิงถามทันที

“ไม่มีนะ ถ้ามีใครมาหาเจ้าตอนที่เจ้าไม่อยู่ก็บอกให้พวกเขามาหาข้าได้เลย ข้าจะรับหน้าแทนให้เอง” เจ้าของบ้านเสนออย่างใจกว้าง

“เปล่าขอรับ ข้าแค่ถามเฉยๆ”

ในขณะที่เขากำลังจะเดินจากไปนั้น เจ้าของบ้านก็พูดขึ้นมาในทันใด “โอ้ใช่ เจ้าของร้านขายหนังสัตว์มาหาเจ้าตอนกลางวัน ข้าเห็นเขาตอนที่ข้าออกไปข้างนอกพอดี”

“เจ้าของร้านหนังสัตว์เหรอ?”

“ใช่ เขาบอกว่าเขาได้คุยกับเจ้าที่ตลาดเมื่อวาน และเขาก็กลับไปเมื่อเขาเห็นว่าเจ้าไม่อยู่บ้าน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด