ตอนที่แล้วตอนที่ 190 ของขวัญลึกลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 192 วิธีที่ดีกว่า

ตอนที่ 191 อย่าเลยนะ


ภายใต้การจ้องมองของ ซู หลิงเอ๋อร์ เย่เฉิน ค่อยๆ เปิดกล่องของขวัญ

ซู หลิงเอ๋อร์ ที่อดใจไม่ไหวรีบเขย่งเท้าขึ้นยื่นตัวมองไปข้างหน้าเพื่อดู

วินาทีต่อมา เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ภายในกล่องอย่างชัดเจนใบหน้าเธอก็พลันเปลี่ยนไปทันที

ซู หนิงซวง ก็ยื่นหน้ามองด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน

“ปุ๊”

ในไม่ช้า ซู หนิงซวง ก็หัวเราะออกมาทันทีอย่างอดไม่ได้

เย่เฉิน ช่างใจดี กับหลิงเอ๋อร์ จริงๆ

นี่เป็นสิ่งดีๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ หลิงเอ๋อร์ ในตอนนี้ ทั้งนี้..นี่นับว่าเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบแล้ว

สิ่งของที่อยู่ภายในกล่องของขวัญนี้ไม่ใช่อะไรอื่นเลย แต่เป็นชุดข้อสอบล่าสุดประจำปีนี้ของ ‘ห้าปีสอบ(เอนทรานซ์)เข้ามหาวิทยาลัย สามปีแบบจำลองข้อสอบ’ รวมถึงหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่คล้ายๆ กันอีกหลายกอง

(五年高考三年模拟- ชุดหนังสือสรุปแนวข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย)

“เป็นไงบ้าง ฉันใจดีกับเธอใช่ไหม?”

“นี่คือหนังสือที่ พี่เขย คนนี้ตั้งใจเลือกซื้อจากร้านหนังสือหลายๆ ร้านมานิดหน่อยในช่วงเที่ยงวันนี้ เพื่อเธอโดยเฉพาะเลยนะ..”

เย่เฉิน ยิ้มแย้มพลางอธิบายให้ ซู หลิงเอ๋อร์ ฟัง

“เพื่อให้เธอได้คะแนนดีๆ ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในอนาคต ซึ่งเธอก็ต้องเริ่มเตรียมตัวได้แล้วตั้งแต่ตอนนี้”

“เอาอย่างนี้นะ เธอลองทำหนังสืออ้างอิงเหล่านี้ให้เสร็จก่อน และพี่เขยผู้แสนดีคนนี้จะส่งหนังสืออ้างอิงเล่มใหม่ล่าสุดให้เธอในทุกๆ 2-3 เดือน”

“เพื่ออนาคตของเธอ เงินเล็กน้อยแค่นี้ไม่นับว่าเป็นอะไรเลย”

ซู หลิงเอ๋อร์ ที่แค่เห็นของขวัญจาก เย่เฉิน ก็โกรธเคืองมากแล้ว

หลังจากที่ได้ยิน เย่เฉิน พูดออกมาแบบนี้อีก เธอก็ยิ่งรู้สึกโกรธจนแทบจะระเบิด

อะไรที่บอกว่าแค่ ‘นิดหน่อย’ นะ.. นี่เหรอ ‘นิดหน่อย’?

นี่มันชัดเจนมากว่า ‘เยอะมาก’ ต่างหากเล่า!!!

“เย่เฉิน คุณมันเกินไปแล้วนะ!”

ซู หลิงเอ๋อร์ กำหมัดแน่นเตรียมจะเข้าไปทุบตี เย่เฉิน ด้วยความโกรธ

ในขณะนี้ เธอเรียกชื่อ เย่เฉิน ตรงๆ แทนที่จะเรียกเขาว่า ‘พี่เขย’ แล้ว

เมื่อครู่นี้เธอยังรู้สึกตื่นเต้นมาก และยังคาดหวังอยู่เลยว่า เย่เฉิน จะให้ของขวัญดีๆ อะไรกับเธอ

ผลปรากฏว่าของขวัญคือกองหนังสือ ‘ห้าปีสอบเข้ามหาวิทยาลัย สามปีแบบจำลองข้อสอบ’ ที่สูงราวกับภูเขาขนาดย่อมๆ!

นี่มันไม่ให้ดีกว่า..ให้ซะอีก?

“เธอไม่พอใจเหรอ หรือคิดว่าระยะเวลาสองสามเดือนที่ส่งหนังสือให้มันนานเกินไป?”

เย่เฉิน แกล้งพูดอย่างมีความสุขเมื่อเห็น ซู หลิงเอ๋อร์ โกรธมาก

ก่อนหน้านี้เธอบ่นว่าเขา ‘แล้งน้ำใจ’ เป็นยังไงตอนนี้ ‘พอใจ’ แล้ว..หรือยังล่ะ?

“เอาอย่างนี้ละกัน ฉันจะส่งหนังสืออ้างอิงให้กับเธอในทุกเดือน ส่งตรงถึงบ้านเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาเอาเอง?”

เพื่อให้ ซู หลิงเอ๋อร์ ไม่สามารถปฏิเสธได้ เย่เฉิน จึงเตรียมจะแพ็คหนังสืออย่างดีส่งตรงไปที่บ้านของเธอ

“กรี๊ดดดด”

ซู หลิงเอ๋อร์ พลันกรีดร้องเสียงดังลั่น หน้าอกของเธอกระเพื่อมสั่นไหวขึ้นลงรัวเร็วปานถังดินปืนที่กําลังจะระเบิด

การส่งของขวัญให้ทุกๆ สองสามเดือนนานเกินไปหรือไม่

สองสามเดือนก็ว่าไปอย่าง, นี่..ส่งหนังสือให้ทุกเดือน?

มันเกินไปแล้ว!!

ฆ่าเธอซะเถอะ

เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ฮือฮือ~

ด้วยหนังสืออ้างอิงกองโตขนาดนี้ ถ้าเธอต้องทำทั้งหมด คงใช้เวลาเกือบครึ่งปี หรืออาจจะเกือบปีกว่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมด

ถ้าส่งหนังสืออ้างอิงขนาดนี้ทุกเดือน

แล้วเมื่อตอนเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัย บ้านของเธอคงเต็มไปด้วยหนังสือ ‘ห้าปีสอบเข้ามหาวิทยาลัย สามปีแบบจำลองข้อสอบ’ ที่ไม่ซ้อนทับกันเป็นภูเขาเลยงั้นเหรอ?

หลังจินตนาการถึงภาพนั้น ใบหน้าของ ซู หลิงเอ๋อ ยิ่งซีดเผือกอย่างเห็นได้ชัด

อ-อย่าเลยนะ..

เมื่อมองหนังสือ ‘ห้าปีสอบเข้ามหาวิทยาลัย สามปีแบบจำลองข้อสอบ’ ที่กองเป็นภูเขาขนาดย่อมๆ นี้

ซู หนิงซวง ก็พลันหัวเราะออกมาไม่หยุด ..อย่างไร้ซึ่งความเมตตาใดๆ

“ฮ่าฮ่าๆๆ”

โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงตอนที่ หลิงเอ๋อร์ พูดความจริงออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ..ถึงวิธีที่เธอเคยกลั่นแกล้งพี่สาวอย่างเธอมาหลายครั้งแล้ว

ซู หนิงซวง ที่เห็นก็กลับยิ่งมีความสุขมาก

เวลานี้..หลิงเอ๋อร์ คงรู้แล้วว่าอะไรคือ ‘ความเจ็บปวด’ บ้างแล้ว

“เกิดอะไรขึ้น?”

“เกิดอะไรขึ้น?”

พ่อแม่ของ ซู หนิงซวง รีบวิ่งออกมาด้วยความกังวล เพราะได้ยินเสียงร้องของ ซู หลิงเอ๋อร์ พลางคิดไปว่าอาจเกิดเหตุร้ายอะไรขึ้น

“คุณลุงคุณป้า ไม่มีอะไรหรอกครับ หลิงเอ๋อร์ แค่ดีใจเกินไปที่เห็นของขวัญที่ผมเตรียมไว้ให้..”

เย่เฉิน อธิบาย

“ใช่คะ คุณพ่อคุณแม่ หลิงเอ๋อร์ ดีใจมากเมื่อเห็นของขวัญนี้ แถมเธอยังบอกว่าจะเอากลับบ้านไปตั้งใจเรียนในคืนนี้เลย”

หลังจาก เย่เฉิน พูดจบ ซู หนิงซวง ก็รีบพูดสนับสนุนทันที

หืม?

ด้านข้าง ซู หลิงเอ๋อร์ เบิกตากว้างด้วยความงงงวย เวลานี้เธอสับสนไปหมดแล้ว

ทำไมสองคนนี้เหมือนตกลงกันไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว?

นี่คือสิ่งที่เรียกว่า ‘ใจสื่อถึงกัน(ใจตรงกัน)’ ใช่หรือเปล่านะ?!

ฉันไม่เพียงแต่ได้รับหนังสืออ้างอิงจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังถูกบังคับให้กิน ‘อาหารสุนัข’ เข้าไปจำนวนหนึ่งด้วย..

ซู หลิงเอ๋อร์ รู้สึกเสียใจมาก เธอรู้สึกว่าตัวเองน่าสงสารสุดๆ

ในเรื่องของการกลั่นแกล้งเธอ พี่เขย และพี่สาวเธอ ..ช่างเข้ากันได้ดีเหลือเกินจริงๆ

พ่อแม่ของ ซู หนิงซวง เดินเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมื่อดูของขวัญที่ เย่เฉิน เตรียมไว้ให้อย่างตั้งใจ พวกเขาพลันยิ้มร่า…

“ไม่เลวเลย มีหนังสืออ้างอิงเหล่านี้ แม่ของ หลิงเอ๋อร์ ต้องดีใจมากแน่ๆ”

“เดี๋ยวสักพักแม่จะขับรถพา หลิงเอ๋อร์ ไปส่งเธอที่บ้าน พร้อมกับหนังสือเหล่านี้ให้เอง”

แม่ของ ซู หนิงซวง พูดขึ้นว่าจะพา ซู หลิงเอ๋อร์ กลับไปบ้านพร้อมกับนำเอาหนังสืออ้างอิงเหล่านี้ไปด้วย

“อะไรนะคะ?”

ซู หลิงเอ๋อ์ ทนไม่ไหวแล้ว

“ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้อง ปล่อยให้หนูนั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้..”

ซู หลิงเอ๋อร์ รีบปฏิเสธ

ในใจของเธอคิดว่าจะนั่งแท็กซี่กลับ และแอบทิ้งหนังสืออ้างอิงเหล่านี้ไปในระหว่างทาง

อยากจะให้เธอทำหนังสืออ้างอิงทั้งหมดเหล่านี้หรือ ฝันไปเถอะ!

เธอนั้นฉลาด และเก่งขนาดนี้ จะยอมให้แผนการชั่วของ ‘พี่เขย’ สำเร็จได้อย่างไร?

ซู หลิงเอ๋อร์ รู้สึกภาคภูมิใจในความเฉลียวฉลาดของเธอ แต่เมื่อแม่ของ ซู หนิงซวง พูดอย่างนั้น เธอก็หวาดกลัวทันที

ถ้าหากพาเธอกลับบ้าน และให้คุณแม่เห็นหนังสืออ้างอิงเหล่านี้..ล่ะก็

ชีวิตเธอคงจะจบสิ้นแน่ๆ คุณแม่คงจะบังคับให้เธอทำหนังสืออ้างอิงทั้งหมดนี้ให้เสร็จอย่างแน่นอน

เมื่อคิดถึงชีวิตแบบนั้น ซู หลิงเอ๋อร์ ก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว

“ไม่เป็นไรหรอก..”

แม่ของ ซู หนิงซวง โบกมือ

“อาหารเสร็จแล้ว เข้ามาทานข้าวกันก่อนเถอะ”

พ่อของ ซู หนิงซวง เรียกให้ทุกคนกลับเข้าไปในบ้านเพื่อทานอาหารเย็นด้วยกัน

หลังจากกลับเข้าไปในบ้าน พวกเขาทุกคนทานอาหารเย็นกันอย่างมีความสุขมาก ยกเว้น ..ซู หลิงเอ๋อร์

หลังจากทานอาหารเสร็จ และพักผ่อนสักครู่ เวลาก็ประมาณสองทุ่มกว่าๆ แล้ว

แม่ของ ซู หนิงซวง เสนอที่จะขับรถไปส่ง ซู หลิงเอ๋อร์ กลับบ้านก่อน

“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ….”

ซู หลิงเอ๋อร์ ไม่ยอมแพ้ ยังคงพยายามขัดขืนในเรื่องนี้ต่อไป

แต่ไม่ทันที่ ซู หลิงเอ๋อร์ จะพูดจบ ซู หนิงซวง ก็ลากเธอไปขึ้นรถแล้ว

เย่เฉิน ยังช่วยยกหนังสือ ‘ห้าปีสอบเข้ามหาวิทยาลัย สามปีแบบจำลองข้อสอบ’ อย่างมีน้ำใจขึ้นรถให้ ซู หลิงเอ๋อร์ ไปด้วย

สุดท้าย ซู หลิงเอ๋อร์ ก็จากไปอย่าง.. หมดอะไรตายอยาก

เย่เฉิน ไม่รีบร้อนกลับ และเขายังคงนั่งเล่นอยู่ที่บ้านตระกูลซูอยู่พักหนึ่ง

กว่ายี่สิบนาทีต่อมา แม่ของ ซู หนิงซวง ก็กลับมา

“เสี่ยวเฉิน แม่ของ หลิงเอ๋อร์ ฝากคำขอบคุณเธอด้วยนะ…”

หลังจากเธอกลับมา และเห็นว่า เย่เฉิน ยังอยู่ แม่ของ ซู หนิงซวง ก็พูดขึ้น

“อา.. คุณป้า นี่คือสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้วครับ”

เย่เฉิน ยิ้มพยักหน้า ถ้าแม่ของ หลิงเอ๋อร์ พูดแบบนี้ หลิงเอ๋อร์ คงจะเจอเรื่องยุ่งยากเข้าให้แล้ว

“ต่อไปนี้ถ้ามีเวลา ผมจะหาซื้อหนังสืออ้างอิงอีกหน่อย ส่งให้ หลิงเอ๋อร์”

“เพื่อผลการเรียนของเธอ ผมยินดีทำอย่างเต็มที่ครับ”

“ฮ่าๆ ดีจ้ะ เสี่ยวเฉิน เธอนี่เป็นพี่เขยที่ดีจริงๆ เลยนะ”

แม่ของ ซู หนิงซวง ชื่นชม เย่เฉิน ด้วยความจริงใจ

ยิ่งเธอมอง เสี่ยวเฉิน ที่เป็นลูกเขยของเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกพอใจมากขึ้นเท่านั้น

เย่เฉิน ยังอยู่ที่บ้านตระกูลซูต่ออีกสักพัก หลังจากนั้นเขาก็กล่าวลา ซู หนิงซวง กับคุณลุงคุณป้า

ระหว่างทางกลับบ้าน เย่เฉิน ได้รับโทรศัพท์จาก ซู หลิงเอ๋อร์ โดยไม่คาดคิดผ่านทาง WeChat

เดิมที เย่เฉิน ไม่อยากจะรับ เพราะเขาจินตนาการได้ถึง ‘พายุฝนกระหน่ำอย่างรุนแรง’ จากทางฝั่ง ซู หลิงเอ๋อร์ ได้ในทันทีหลังจากรับสาย

แต่โทรศัพท์ยังคงดังไม่หยุด ดังนั้น เย่เฉิน จึงกดรับสายไป

อย่างไรก็ตาม ..เมื่อได้ยินประโยคแรกของ ซู หลิงเอ๋อร์ เย่เฉิน ถึงกับมึนงงไปเลย

คือ.. สถานการณ์นี้มันอย่างไรกันแน่?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด