ตอนที่ 1296 อุจิวะ มาดาระ ยั่วยุคนผิด
“ขอโทษด้วยค่ะผู้กำกับ ฉันผิดเองที่หยุดแสดงไปดื้อๆ”
“ไม่! เธอจะพูดแบบนั้นไม่ได้นะ โคยูกิ” ผู้กำกับรีบส่ายหัวของเขาทันที
“เป็นเพราะเธอใช้พลังของเธอในการสร้างสเปเชียลเอฟเฟ็กต์บางฉากในหนังเรื่องนี้”
“อีกทั้งสเปเชียลเอฟเฟ็กต์เหล่านี้ยังทำให้นักแสดงคนอื่นๆ รู้สึกมีส่วนร่วมในการแสดงมากยิ่งขึ้น”
“ดังนั้น ความคืบหน้าในการถ่ายทำหนังของเราจึงก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว”
“เมื่อเทียบกับแต่ก่อนแล้ว มันไม่ได้มีความล่าช้าอะไรเลย อีกทั้งฉันก็ยังคิดว่าเราสามารถ่ายทำหนังเรื่องนี้จบได้เร็วกว่ากำหนดด้วย”
หลังจากหยุดไปสักพัก ผู้กำกับก็พูดต่อ
“จริงๆ แล้ว โคยูกิ ฉันคิดว่าเธอไม่ต้องไปโกรธกับคำพูดของเขาก็ได้”
“อุจิวะ มาดาระไม่ได้เข้าใจพลังของเธอเลย ดังนั้นเขาจึงพูดมันออกมาแบบนั้น”
“นอกจากนี้ คำพูดของเขามันก็ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่เธอเพียงลำพังด้วย”
“มันก็เหมือนกับคนที่ไม่ชอบการแสดงของเธอและคอยใส่ร้ายเธอ เธอก็แค่มองว่าเขาเป็นเหมือนกับคนเหล่านั้น แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว”
“ดังนั้น เธอไม่ต้องรู้สึกโกรธเพียงเพราะคำพูดของเขาหรอก”
ผู้กำกับอยู่ในวงการภาพยนตร์มาหลายปีแล้ว และเขาก็รู้ดีว่าแม้แต่ดาราดังก็ยังไม่เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน
มันมีแม้กระทั่งคนที่สุดโต่งบางคนที่พากันดุด่าดาราดังพวกนั้นด้วยซ้ำ
ถ้าจะเอาคำพูดของคนพวกนั้นมาใส่ใจ และคอยระวังคำพูดของพวกเขาเหล่านั้น มันก็คงจะไม่ใช่เรื่อง
ทางที่ดีที่สุดก็คือ การเมินเฉยต่อคำพูดของพวกเขาเหล่านั้นไป
อย่างไรก็ตามในอดีต โคยูกิก็ปฏิบัติต่อคนเหล่านั้นด้วยวิธีการแบบนี้
ดังนั้นผู้กำกับจึงรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดออกมานั้น มันน่าจะเพียงพอแล้วที่จะโน้มน้าวใจของโคยูกิได้
อย่างไรก็ตาม คำพูดของเขาก็ไม่ได้รับการยอมรับจากโคยูกิ
หลังจากที่ผู้กำกับพูดจบ โคยูกิก็ส่ายหัวของเธอและพูดกับเขาทันที
“ผู้กำกับ ฉันเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์หลี่ฟาน ผู้กำกับเองก็รู้”
ผู้กำกับพยักหน้าให้กับคำพูดของเธอ
“เนื่องจากฉันเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์หลี่ฟาน ฉันจึงต้องรักษาศักดิ์ศรีของอาจารย์หลี่ฟานด้วยใช่ไหม?”
ผู้กำกับพยักหน้าอีกครั้ง
“อุจิวะ มาดาระบอกว่าฉันเป็นขยะ”
“แต่ฉันเป็นลูกศิษย์ที่ได้รับการสอนจากอาจารย์หลี่ฟาน”
“ถ้าฉันยอมรับคำพูดของอุจิวะ มาดาระ มันก็หมายความว่าความสามารถในการสอนของอาจารย์หลี่ฟานไม่ดีใช่ไหม?”
“หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง อาจารย์หลี่ฟานเป็นขยะเหรอ?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาที่สวยงามของโคยูกิก็กลายเป็นน้ำแข็งทันที
ไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า แต่ผู้กำกับรู้สึกว่าอุณหภูมิโดยรอบดูเหมือนจะลดลงเล็กน้อย
โคยูกิไม่ได้สังเกตเห็นสถานการณ์ของผู้กำกับและยังคงพูดต่อไป
“อุจิวะ มาดาระกำลังพูดถึงฉันอย่างเผินๆ”
“แต่ในทางอ้อม คำพูดของเขาก็ดูเหมือนจะกระทบกับอาจารย์หลี่ฟาน”
“ดังนั้น ฉันจึงไม่สามารถนิ่งเงียบเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ได้!”
ผู้กำกับจ้องมองไปที่โคยูกิอย่างว่างเปล่า จากนั้นสักพักเขาก็กลับมามีสติของตัวเองอีกครั้ง
‘นั่นสินะ ตอนนี้โคยูกิเป็นกัน? เธอคือลูกศิษย์ของท่านหลี่ฟาน!’
‘ถึงแม้ว่าอุจิวะ มาดาระจะไม่ได้ตั้งใจ แต่คำพูดของเขาก็กระทบกับท่านหลี่ฟานจริงๆ’
‘ในฐานะลูกศิษย์ของท่านหลี่ฟาน โคยูกิจึงไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยต่อคำพูดของเขาได้’
‘ไม่อย่างนั้น เธอก็คงจะไม่เหมาะสมกับการเป็นลูกศิษย์ของท่านหลี่ฟาน’
หลังจากคิดถึงสิ่งที่โคยูกิพูดดีๆ แล้ว ผู้กำกับก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเธอ
“เธอพูดถูกแล้ว โคยูกิ”
“ในกรณีนี้ เมื่อสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์เริ่มต้นขึ้น เธอจะต้องสอนบทเรียนที่ดีให้กับเขา!”
ผู้กำกับชกหมัดขึ้นไปในอากาศ ในขณะที่พูดกับโคยูกิด้วยความแน่วแน่
“ผู้กำกับไม่จำเป็นต้องบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกค่ะ เพราะมันเป็นสิ่งที่ฉันจะต้องทำอย่างแน่นอน”
“ฉันจะต้องแสดงให้อุจิวะ มาดาระเห็นว่า เขาคิดผิดไปมากแค่ไหน!”
สิ้นคำพูดของโคยูกิ ออร่าอันทรงพลังก็เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเธอ
ในขณะนี้ ผู้กำกับรู้สึกราวกับว่า ทุ่งหิมะโดยรอบกำลังสั่นไหวเพราะลมและหิมะที่รุนแรง
‘อุจิวะ มาดาระ ผู้ชายคนนี้เข้าไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งด้วยจริงๆ’
ผู้กำกับมองดูชื่อของอุจิวะ มาดาระบนท้องฟ้า และเริ่มคร่ำครวญถึงความโชคร้ายให้กับเขาในใจ
แม้ว่าเขาจะได้เห็นพลังของอุจิวะ มาดาระในรายการทองคำด้วยตาของตัวเอง และเป็นพลังที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นพลังของเทพเจ้าได้จริงๆ ก็ตาม
สำหรับโคยูกิ เขาเคยเห็นเธอใช้ความสามารถของเธอเพื่อสร้างสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ง่ายๆ เท่านั้น และไม่เคยเห็นเธอแสดงพลังที่แท้จริงของเธอด้วยตาของตัวเอง
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเชื่อว่าโคยูกิจะต้องสามารถเอาชนะอุจิวะ มาดาระได้
ความเชื่อของเขามันเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงเพราะโคยูกิมีอาจารย์ที่ชื่อว่าหลี่ฟาน!
…