ดาบที่รอการลับคม (5)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
<เรื่องราวของแอรอน ตอนที่ 9>
2. ดาบที่รอการลับคม (5)
**************
ความพยายามอะไรเทือกนั้น เจ้าหมอนั้นไม่เคยทำ
ไม่เคยเรียน ไม่เคยฝึกฝน
เพราะทำได้ ก็เลยทำ
"อย่ามาล้อเล่น...น่า"
ราลส์พูดด้วยน้ำเสียงที่งุนงง
ความรู้สึกนั้นก็เปลี่ยนเป็นความโกรธในไม่ช้า
"ยอมรับความจริงได้แล้ว! แกก็พยายามอย่างหนักไม่ใช่หรือไง! จนเลือดไหลออกมาจนเกือบหมดตัว! แกพยายามมากว่าฉันซะอีก! แกพยายามอดหลับอดนอนเพื่อให้ได้มันมาไม่ใช่หรือไง! ยอมรับความจริงสักที!"
ดวงตาของราลส์เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
ความรู้สึกที่ไม่อาจระบุได้ปะทุออกมาจากภายในของเขา
"แกยังจะโกหกอยู่อีกเหรอ? ฉันไม่อยากสู้แล้ว แกชนะไปก็แล้วกัน! ฉันจะตายที่นี่! แม้แต่ผู้แพ้ก็ยังมีสิทธิ์ที่จะพูดอะไรสักอย่างไม่ใช่หรือไห่ะง? ฉันพยายามมากกว่าแก และนี่คือผลลัพธ์...เรื่องจริงมีเพียงเรื่องเดียวแค่นั้น!!!"
"..."
"ยอมรับสิ! ยอมรับมาสิ! ยอมรับมา! ว่าฉันพยายามมากกว่าแก...เพราะอย่างนั้นฉันถึงแข็งแกร่ง...ยอมรับมาสิ! ไอ้สารเลว!"
ชายคนนั้นเงียบ
เขาไม่ตอบสนองต่อเสียงร้องของราลส์ที่ขอให้เขายอมรับ
'ไอ้หมอนี่มันอะไรกัน'
ยังกล้าล้อเล่นอยู่อีกงั้นเหรอ?
ยอมรับมันสิ
เพราะราลส์ยอมรับในตัวเจ้านั้นแล้ว
เขายอมรับว่าเจ้านั้นมีศักยภาพที่จะเป็นอาจจะเป็นนักสู้ 'ระดับพิเศษ' ในตำนานได้!
ด้วยความพยายามอย่างหนักของมัน
แม้จะซ่อนความแข็งแกร่งไว้ได้อย่างสุขุม
ราลส์รู้สึกประทับใจและยอมรับในตัวเจ้านั้นจากใจจริง!
'ความพยายามอะไรเทือกนั้น เขาไม่เคยทำงั้นเหรอ?'
อย่ามาตลกน่า
อย่าตลก!
ภาพความทรงจำของราลส์ฉายวาบเข้ามาในหัวของเขา
เขามีพละกำลังมหาศาล แต่ก็ไม่เคยเกียจคร้าน
เพื่อความอยู่รอด และเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เขาทำทุกอย่าง
ในตอนเช้า เขาจะวิ่งในสนาม ยกน้ำหนัก และสควอช จนเหงื่อท่วมตัว…จนหมดแรง
ในตอนบ่าย เขาจะฝึกฝนเพลงดาบด้วยการแกว่งขวาน
ฝ่ามือที่หนาและหยาบกร้านของเขามีรอยแผลเป็นและรอยด้านซ้อนกันหลายชั้น
พยายามอย่างหนัก
หิวก็ต้องทน
ง่วงก็ต้องฝืน
เพราะอย่างนั้นเขาถึงแข็งแกร่งขึ้น
เพราะอย่างนั้นความแข็งแกร่งถึงเป็นความภาคภูมิใจของเขา
แต่ไอ้หมอนี่มันอะไรกัน?
พวกเขากำลังปฏิเสธมัน
มันพยายามทำลายชีวิตของเขาให้สิ้นซาก
"น่าเสียดายจริงๆ"
"..."
"แต่ฉันไม่เคยโกหก"
ชายคนนั้นพูด
“งั้น…มันเป็นแบบนั้นตั้งแต่แรกเหรอ?”
มือที่ถือขวานของราลส์บีบแน่นขึ้น
“แกรู้ทุกอย่างตั้งแต่จับอาวุธเลยหรือไง? แกใช้อาวุธนี้ได้อย่างคล่องแคล่วโดยที่ไม่ต้องฝึกฝนอะไรเลย งั้นเหรอ? แกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเสียเหงื่อคืออะไร? ในขณะที่แกใช้เทคนิคที่เหนือกว่าฉันตั้งหลายเท่าเนี่ยนะ? แกเก่งมาตั้งแต่แรกเลยงั้นเหรอ? ใช้ดาบเป็นตั้งแต่แรกเกิดเลยหรือไง?”
"ก็ใช่"
ชายคนนั้นตอบโดยไม่ลังเล
"ตั้งแต่ครั้งแรกที่จับดาบ ฉันก็ทำได้แล้ว"
"เชี่ยเอ๊ย...แม่งเอ๊ย"
"ถ้าคำพูดของฉันทำให้นายเจ็บปวด…ฉันก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ"
"อย่ามาพูดจาไร้สาระ! ไอ้สารเลว!"
ราลส์จะต้องฆ่ามันให้ได้
เขาทนไม่ได้จริงๆ
เขาทนไม่ได้ที่สิ่งมีชีวิตแบบนี้มีลมหายใจอยู่ในโลก
"ตายซะ!"
การโจมตีที่เต็มไปด้วยอารมณ์
แต่ทว่า….ชายคนนั้นปัดป้องได้อย่างง่ายดาย
กล้ามเนื้อของราลส์เริ่มขยับอีกครั้ง
ขวานในมือราลส์หมุนอย่างรุนแรง
ปัง! เคล้ง!
ผู้ชมต่างส่งเสียงเชียร์การต่อสู้ที่ตามมา
พวกเขาไม่ได้ยินการสนทนาของทั้งสองคน
"เอาเลย!"
"จัดการมันเลย!"
“ทำให้มันจบๆ ไปซะ!”
การพนันมักจะเกิดขึ้นในการต่อสู้
ผู้ชมส่วนใหญ่เดิมพันว่าราลส์จะชนะ
พวกเขาสนุกกับการต่อสู้มากพอแล้ว
ถึงเวลาที่จะหลงระเริงไปกับเงินเดิมพันและเลือด
ชายที่เปื้อนเลือดและยักษ์ใหญ่ถือขวานคมๆแล้ว
ทุกครั้งที่ทั้งสองคนเคลื่อนไหวราวกับกำลังเต้นรำนั้น เปลวไฟสีฟ้าก็สาดส่องออกมา
ผู้ชมต่างจับจ้องไปที่เปลวไฟ
'...แข็งแกร่งจริงๆ'
ราลส์คิดในใจ
ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาคือนักสู้ที่ดีที่สุดที่เขาเคยเผชิญหน้ามา
เขาไม่หลงตัวเองว่าตัวเองมีพละกำลังมาตั้งแต่เกิด เพราะเขาฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมจุดแข็งและเอาชนะจุดอ่อน
"ย๊าก! ย๊าก!"
ชายคนนั้นร้องคำรามขณะเหวี่ยงขวานออกไป
อารมณ์โกรธเข้าครอบงำเขามากเกินไป
การโจมตีที่เต็มไปด้วยความโกรธทำให้การเคลื่อนไหวของเขาดูไม่เฉียบคมเท่าตอนแรก
'...'
เขาคนนั้นกำลังร้องไห้อยู่หรือเปล่า?
อะไรที่ทำให้ยักษ์ใหญ่คนนี้ร้องไห้ได้กันนะ?
'ไม่ว่านายหรือฉัน…ยังไงเราก็ทาสอยู่แล้ว'
ชายที่ร่างเล็กกว่าราลส์คนนั้นหัวเราะอย่างขมขื่น
ถึงเวลาที่จะจบละครตลกเรื่องนี้แล้ว
ดาบเหล็กเก่าค่อยๆ วาดเป็นวงกลม
เขาไม่เคยเรียน ไม่เคยฝึกฝน
แต่เขาทำได้
เพราะเขาเกิดมาแบบนี้
"ตายซะ!"
ราลส์ร้องลั่นแล้วเหวี่ยงขวานออกไป
ดาบที่วาดเป็นวงกลมก็ทิ้งร่องรอยไว้ในชั่วพริบตา
ฉึก
"อ๊ากกก!"
ฟึ่บ
ฟึ่บ ฟึ่บ
แขนขวาที่ขาดไปของราลส์ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
ขวานที่เขาถืออยู่ตกลงไปบนพื้นทราย และมีเลือดไหลตกลงมา
"ว้าว!"
ผู้ชมส่งเสียงเชียร์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เพราะพวกเขาเห็นเลือด
"อ๊าก! อ๊ากกก!"
ราลส์กลิ้งไปมาบนพื้นทราย กุมแผลที่ถูกตัด
ทุกครั้งที่เขากลิ้ง ทรายก็เปียกโชกไปด้วยเลือด
ถ้าเป็นชายคนนี้ เขาคงจะทนความเจ็บปวดจากแขนที่ขาดได้สินะ
แต่จิตใจที่แตกสลายทำให้ความมั่นใจของเขาสั่นคลอน
จิตใจพังทลายลงก่อนร่างกาย
“ราลล์แพ้เจ้านั้นเหรอ?”
"ใครสน! ตายๆ ไปซะ! ไอ้โง่!"
"ฆ่ามัน! ตัดหัวมันซะ!"
ฟู่
ชายคนนั้นสูดหายใจเข้าลึกๆ
ไม่ใช่เขาที่จะตัดสินชีวิตหรือความตายของราลส์
สายตาของเขาจับจ้องไปที่กลางอัฒจันทร์
มันอยู่ที่นั่น
บนบัลลังก์ที่ประดับด้วยทองคำและอัญมณีต่างๆ
กษัตริย์ของเมืองนี้กำลังนั่งชมการต่อสู้
เขาเรียกตัวเองว่ากษัตริย์ และฆ่าทุกคนที่ไม่เรียกเขาแบบนั้น ดังนั้นพวกขุนนางผิวขาวจึงเรียกเขาว่ากษัตริย์
ผิวซีดเผือก
และมีเขายื่นออกมาจากหน้าผาก
แม้ว่ามันจะดูคล้ายกับมนุษย์ แต่มันก็ไม่ใช่มนุษย์
ขุนนางผิวขาว
เผ่าพันธุ์ที่ปกครองทั่วทั้งเนลม์ไฮมฟ์
ในหมู่เผ่าพันธุ์นั้น มันเรียกตัวเองว่ากษัตริย์แห่งขุนนางผิวขาว
เพื่อให้เหมาะสมกับตำแหน่ง เขาจึงสวมเสื้อคลุมที่หรูหราและมงกุฎที่สง่างาม
"ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! ฆ่ามัน!"
ผู้ชมตะโกนพร้อมเพรียงกัน
พวกมันดูเหมือนมนุษย์แต่ไม่ใช่มนุษย์
เป็นสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์
สัตว์ร้ายพวกนี้เลียนแบบมนุษย์ มันหัวเราะ และพูดคุย ในขณะที่บังคับมนุษย์ฆ่ากันเอง
“....”
ขุนนางที่เรียกตัวเองว่ากษัตริย์ยกมือขึ้น
และทั่วทั้งบริเวณก็เงียบลงไปในทันที
นักสู้กลาดิเอเตอร์ที่พ่ายแพ้ในการต่อสู้นั้นจะมีชีวิตอยู่หรือตายขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของกษัตริย์
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ในระดับหนึ่งที่ราลส์อาจจะรอด
แต่ก็มีกฎอยู่บ้าง
ยิ่งการต่อสู้ดุเดือด
ยิ่งโลดโผน
โอกาสที่ผู้แพ้จะตายก็ยิ่งน้อยลง
สายตาของชายคนนั้นจับจ้องไปที่กษัตริย์
การต่อสู้ระหว่างกลาดิเอเตอร์ระดับสูงจบลงแล้ว
มันเป็นแมตช์ที่น่าตื่นเต้นมาก
เสียงเชียร์จากผู้ชมได้พิสูจน์ความจริงข้อนี้แล้ว
และผู้แพ้ก็ถูกตัดแขนจนขาดหวิ่น
ถือว่าถูกลงโทษจากความพ่ายแพ้แล้ว
แต่
“....”
กษัตริย์ทรงยกนิ้วโป้งลง
มันเป็นสัญญาณแห่งความตาย
'งั้นเหรอ'
ทำถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะไม่ไว้ชีวิตอีกหรือ
ชายคนนั้นหลับตาลง
"เชี่ยเอ๊ย...เชี่ยเอ๊ย...เชี่ยเอ๊ย!"
ผู้แพ้คร่ำครวญ
ราลส์ผู้รู้ชะตากรรมของตัวเองสบถออกมาอย่างห้ามไม่ได้
"ขอโทษด้วยนะ"
ฉันจะไม่ให้นายเจ็บปวดอีกต่อไป
แสงจากดาบสว่างขึ้น
หลังจากนั้นแสงสว่างก็หายไปจากดวงตาของราลส์
ตุ้บ!
ชายคนนั้นล้มลงบนพื้นทราย
เลือดไหลออกมาจนกลายเป็นแอ่งน้ำ
นี่คือจุดสิ้นสุดของชายที่มีชื่อว่าราลส์