สำนักงานเขต (อ่านฟรี 04/12/2567)
“เป็นไปได้ยังไงกัน? เธอใช้มายากลอะไรสักอย่างใช่ไหม” ชายชรากล่าวถามออกมาด้วยความแปลกใจ ตัวเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการของเก่ามาหลายสิบปี เคยเจอเรื่องแปลกประหลาดมาก็มากจึงไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก
ต้องบอกว่าเรื่องแปลกประหลาดทั้งหลายที่เจอล้วนเป็นเรื่องต้มตุ๋นเสียมากกว่า เพราะคนที่ครอบครองของโบราณต้องการขายให้ได้ในราคาที่สูงกว่าปกติ จึงพยายามจะสร้างเรื่องราวให้สิ่งของที่พวกเขาครอบครองอยู่นั่นเอง
“ไม่ใช่ครับ แต่ผมสามารถมองเห็น พูดคุยสื่อสารกับวิญญาณได้ก็เท่านั้นเอง” ชายหนุ่มตอบกลับไปเหมือนเป็นเรื่องปกติ เขาหยิบช็อกโกแลตที่เหลือขึ้นมากินจนหมดได้อย่างหน้าตาเฉย
“แต่ว่า...มันก็น่าเหลือเชื่อจนเกินไปอยู่ดี” ชายชรายังคงไม่อยากยอมรับ เขาอยากได้แจกันตรงหน้าจริง ๆ แต่ถ้าสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวออกมาเป็นความจริง เขาก็คงได้แต่ยอมถอยก็เท่านั้น
“คุณลุงหลี่เชื่อที่หมอนี่พูดเถอะ ถึงหนูจะเพิ่งรู้จักเขาได้ไม่นาน แต่เขาไม่ใช่คนที่ชอบพูดจาเพ้อเจ้อไปเรื่อยหรอก อีกอย่างหมอนี่ชอบเงินจะตาย ถ้ากล้าปฏิเสธเงินขนาดนี้ด้วยเสียงจริงจังแสดงว่าเขาไม่ได้โกหกหรอก” ฮวาหวู่หลิงนิ่งคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะกล่าวออกมา
เพียงแต่สิ่งที่เธอพูดออกมามันออกมาจะรู้สึกแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่เย่เซวียนก็ทำได้เพียงปล่อยมันผ่านหูไปเท่านั้น
จะให้เขาไปถือสาอะไรกับคำพูดของเด็กน้อยกัน จริงไหม?
“เฮ้อ! เอางั้นก็ได้ แต่ถ้าคราวหน้าเธอมีของเก่า ของโบราณหรืออะไรก็อย่าลืมเรียกฉันด้วยล่ะพ่อหนุ่ม” ชายชราถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย หลังจากนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“จริงสิ! ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลยนี่นา ขอโทษที่เสียมารยาทนะ”
“ฉันชื่อว่า หลี่เย่าหลง เป็นประธานสมาคมคนรักของเก่าแห่งเมืองชางโจว ส่วนนี่นามบัตรของฉันเอง” ชายชรายื่นนามบัตรเล็ก ๆ สีดำแผ่นหนึ่งให้กับอีกฝ่ายพลางกล่าวแนะนำตัวออกมา
“ไม่ได้เสียมารยาทอะไรหรอกครับ ผมชื่อเย่เซวียนเป็นเจ้าของร้านขายของเก่าแห่งนี้ครับ” ชายหนุ่มรับนามบัตรของอีกฝ่ายมาเก็บเอาไว้ก่อนจะตอบกลับไปตามมารยาท
“ส่วนเรื่องขายของหายากไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ถ้าผมเจออะไรผมจะบอกคุณลุงเป็นคนแรกเลย” เย่เซวียนยิ้มออกมาด้วยความจริงใจ
“ขอบคุณมาก ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันขอตัวก่อนนะ ถ้าเธอมีอะไรสงสัยก็โทรมาหาฉันได้ทุกเมื่อ” ชายชรากล่าวอำลาออกมาพลางหันไปพยักหน้าให้หญิงสาวร่างเล็กที่นั่งอยู่ด้านข้าง
ฮวาหวู่หลิงทำหน้าเซ็ง ๆ ออกมานิดหน่อยแต่ก็ยอมลุกขึ้นแต่โดยดี
“งั้นฉันไปก่อนนะ อย่าลืมตอบแทนที่ฉันช่วยเหลือด้วยล่ะ คิกคิก” หญิงสาวกล่าวลาออกมาด้วยน้ำเสียงติดตลกก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับชายชรา
“โชคดีนะครับ” ชายหนุ่มเดินไปส่งทั้งคู่ขึ้นรถพลางกล่าวลาออกมาเช่นกัน
หลังจากรถยนต์สุดหรูที่ทั้งคู่นั่งมาด้วยกันได้ขับออกไปจากซอยรกร้างเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็เดินกลับไปในร้านขายของเก่าเพื่อเตรียมตัวเก็บของให้เรียบร้อย
เขากะเอาไว้ว่าช่วงเช้าของวันนี้จะไปที่สำนักงานเขตเพื่อสอบถามเรื่องของสิทธิ์การเป็นเจ้าของศาลเจ้า ตามคำแนะนำของท่านเทพแห่งโชคลาภที่ให้ไว้เมื่อวาน
“หวังว่าพวกเขาจะยอมขายให้นะ” เย่เซวียนกล่าวออกมาด้วยความกังวลใจ
เขากลัวว่าเจ้าของที่ดินแห่งนั้นจะไม่ยอมขายให้กับเขา แล้วทุกสิ่งที่กำลังจะทำก็จะกลายเป็นการทำเพื่อให้คนอื่นได้ประโยชน์ไปแทน
“ฉันควรจะหาซื้อรถยนต์หรือมอเตอร์ไซต์สักคันสินะ จักรยานที่เด่นแบบนี้ก็เสี่ยงกับการโดนขโมยซะด้วยสิ” ชายหนุ่มมองไปยังจักรยานทองคำที่จอดเอาไว้ในร้านด้วยความหนักใจ ในตอนแรกเขาก็ดีใจอยู่หรอกที่สุ่มได้มา แต่พอมาคิดดูดี ๆ แล้วการจะเอาออกไปใช้ก็เสี่ยงมากจริง ๆ
“...วันนี้นั่งแท็กซี่ไปก็แล้วกัน” หลังจากนิ่งคิดอยู่สักพักชายหนุ่มก็สรุปได้เช่นนี้
เมื่อตัดสินใจได้แล้วเย่เซวียนก็ทำการปิดร้านค้าให้เรียบร้อย ก่อนจะทำการเดินเท้าเพื่อไปยังถนนเส้นหลักที่มีรถผ่านไปมา ชายหนุ่มเดินอยู่เกือบ 30 นาทีเขาก็มาถึงถนนเส้นหลักในที่สุด
ครึ่งหลัง
“จะไปไหนล่ะพ่อหนุ่ม?” แท็กซี่กล่าวถามออกมาทันทีที่เย่เซวียนขึ้นมาบนรถ
ชายหนุ่มแอบยิ้มในใจให้กับโชคของตัวเองที่ไม่ต้องโบกรถหลายคัน เพราะตามปกติการจะเรียกรถแท็กซี่แถวนี้นั้นยากมาก เนื่องจากพวกคนขับเหล่านี้จะชอบเลือกรับผู้โดยสารที่แต่งตัวดูมีฐานะเสียมากกว่า ทำให้คนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดาแบบเขาในตอนนี้แทบจะเรียกรถแท็กซี่ไม่ได้เลย
ดูเหมือนว่าแจกันกับหินจะผลิตโชคดีให้กับเขาแล้วสินะ!
“ไปสำนักงานเขตครับ” เย่เซวียนกล่าวตอบอีกฝ่ายก่อนจะเปิดประตูด้านข้างคนขับแล้วนั่งลง
“เธอนี่หน้าตาดีเหมือนกันนะ เป็นดารารึเปล่า?” ชายกลางคนรูปร่วงอ้วนท้วมชำเลืองมองอีกฝ่ายก่อนจะกล่าวออกมา
“ไม่ใช่หรอกครับ หน้าตาผมก็ออกจะธรรมดาคงเป็นดาราไม่ไหวหรอก” ชายหนุ่มที่ได้ยินอีกฝ่ายชมก็เกิดอาการเขินขึ้นมาไม่น้อย เขาตอบกลับไปในทันที
“ฮ่าฮ่า ก็ธรรมดาจริง ๆ นั่นแหละ ไม่อยากจะคุยหรอกนะ แต่ตอนฉันหนุ่ม ๆ หน้าตาดีกว่าเธอเสียอีก มีสาวมาจีบไม่ซ้ำหน้ากันเลยล่ะ!” ชายร่างอ้วนท้วมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงโอ้อวด
‘นี่ขนาดไม่อยากจะคุยนะ ถ้าอยากจะคุยมีหวังได้โม้ยิ่งกว่านี้แน่ ๆ’ เย่เซวียนคิดในใจด้วยความตกตะลึง เขาเจอคนขี้โม้มาก็เยอะ แต่ขี้โม้ระดับคนขับแท็กซี่คนนี้เขาไม่เคยเจอมาก่อน!
“ฮ่าฮ่า จริงเหรอครับ” ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนจะเงียบไป
หลังจากนั้นประมาณ 50 นาทีรถแท็กซี่ก็มาจอดที่ด้านหน้าอาคารสำนักงานขนาดสามชั้นแห่งหนึ่ง สำนักงานเขตแห่งนี้มีเนื้อที่ขนาด 10 ไร่เลยทีเดียว ถึงแม้พื้นที่ในส่วนของอาคารจะมีขนาดแค่ 1 ไร่ก็เถอะ
“นี่เงินครับ” ชายหนุ่มจ่ายเงินค่าแท็กซี่ให้อีกฝ่ายไปก่อนที่เขาจะเดินผ่านประตูเลื่อนอัตโนมัติเพื่อเข้าไปด้านใน
หลังจากผ่านประตูเข้าไปชายหนุ่มก็พบเข้ากับห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีประตูกระจกอยู่ตามทางอีกหลายห้อง ถึงเขาจะไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากการไปทางไหนแต่ก็พอจะรู้ว่าต้องไปที่ไหนก่อนเป็นอันดับแรก
“ขอโทษนะครับ ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลผมต้องไปทางไหนเหรอครับ?” ชายหนุ่มเดินตรงไปยังตรงกลางของห้องโถงที่มีห้องขนาดเล็กเขียนเอาไว้ว่าประชาสัมพันธ์เขียนเอาไว้ ตรงกระจกจะมีช่องขนาดเล็กที่เปิดเอาไว้เพื่อให้พนักงานและคนที่มาสอบถามได้พูดคุยกัน
“..คะ?” พนักงานต้อนรับส่งเสียงออกมาด้วยความเหม่อลอย
เธอมองไปยังใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่ที่เขาเดินเข้ามาภายในอาคารแห่งนี้แล้ว ความหล่อของอีกฝ่ายทำให้เธอจ้องมองจนลืมกล่าวต้อนรับตามหน้าที่ไปเสียสนิท!
“สวัสดีค่ะ คุณถามว่าอะไรนะคะ?” เมื่อนึกขึ้นได้เธอจึงรีบกล่าวออกมาทันที แก้มทั้งสองข้างของเธอขึ้นสีแดงเล็กน้อย
“ผมถามว่า ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลผมต้องไปทางไหนครับ” เย่เซวียนก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไร ชายหนุ่มเพียงทวนคำถามของตัวเองออกมาอีกครั้งก็เท่านั้น
“ต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอะไรคะ?” หญิงสาวกล่าวถามออกมาเมื่อได้ยินคำถามของอีกฝ่ายแล้ว เธอปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ภายในใจจะยังเต้นรัวไม่ยอมหยุดก็เถอะ
“ผมอยากจะสอบถามข้อมูลเรื่องศาลเจ้าเทพแห่งโชคลาภ NO.1 สักหน่อยครับ ว่าปัจจุบันใครเป็นเจ้าของที่นั่น” เย่เซวียนกล่าวเข้าเรื่องในทันที
ในวันนี้เขาจะต้องได้ข้อมูลอะไรกลับไปบ้างให้ได้เลย!