บทที่ 149 ดินเพียงกำมือถมมหาสมุทร
การทดสอบชิงอวิ๋นนี้ ดูแลผู้อาวุโสสิบคนซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบศิษย์บำรุงสำนัก
ผู้อาวุโสก้าวไปข้างหน้าทีละคน และชี้แนะกฎการทดสอบชิงอวิ๋นอย่างละเอียด
มีสัตว์อสูรสองดาวนับไม่ถ้วนบนเกาะชิงอวิ๋น และสัตว์อสูรเหล่านี้ถูกทำสัญลักษณ์โดยสำนักซวนหยวนเป็นพิเศษ!
หลังจากผู้เข้าแข่งขันล่าสัตว์อสูร พวกเขาเพียงแช่ป้ายหยกประจำตัวของตนลงบนเลือดสัตว์อสูรตัวนั้น จากนั้นพวกเขาจะได้รับคะแนนจากความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรตัวนั้นทันที!
สัตว์อสูรระดับต่ำสองดาวมีค่าหนึ่งแต้ม และสัตว์อสูรระดับสูงสองดาวมีค่าหกแต้ม!
ส่วนสัตว์อสูรระดับหนึ่งดาวจะไม่ได้รับคะแนน!
เวลาในการใช้ทดสอบคือหนึ่งวัน!
ใครก็ตามที่ไม่สามารถกลับมาถึงเรือสำเภาก่อนตะวันรุ่งพรุ่งนี้ จะถือว่าสละสิทธิ์!
และผู้ที่หลบหนีจากเกาะชิงอวิ๋นกลางคัน ก็จะถูกตัดสิทธิ์เช่นเดียวกัน!
ผู้อาวุโสเหอกวาดสายตามองไปรอบๆ จัตุรัส แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“วิถีฝึกยุทธ์นั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคและขวากหนาม มีเพียงการเอาชีวิตรอดจากความตายเท่านั้นที่จะทำให้พวกเจ้าบรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่! ในการทดสอบนี้ ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงการฆ่าฟันได้ พวกเจ้าต้องจำใส่ใจไว้ให้ดี!”
คำว่า “ไม่อาจหลีกเลี่ยงการฆ่าฟัน” เหมือนเสียงฟ้าร้องที่กึกก้องไปทั่วจัตุรัส ความหมายแฝงอันเยือกเย็นในคำเหล่านี้ล้วนทำให้ผู้คนเสียวสันหลังวาบ
ผู้คนที่ได้ยินคำเหล่านี้ต่างผงะตกใจไม่ต่างกัน
ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไร้เจตนา ผู้อาวุโสเหอก็เหลือบมองหลัวเฉิงเป็นพักๆ ด้วยแววตาเยือกเย็น
เมื่อหลัวเฉิงสัมผัสได้เช่นนั้น ก็พลันขมวดคิ้วเป็นปม
ด้วยว่าความรู้สึกที่ราวกับยืนอยู่ท่ามกลางหมาป่ากระหายเลือดนั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
จิตสังหารอันรุนแรงรอบด้านพานให้เขาสั่นสะท้านไปทั่วผิวเปลือกกาย คล้ายดั่งว่ากำลังถูกเข็มนับหมื่นทิ่มแทง!
แต่อย่างไรเสีย เมื่อกวาดสายตามองไปโดยรอบ ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าจิตสังหารอันแรงกล้าเหล่านี้ถูกส่งมาจากผู้ใดกันแน่!
แม้นจะไม่มีผู้ใดจงใจหันมามองเผยจิตสังหารตน แต่ก็รับรู้ได้ว่ามันอยู่ทุกหนแห่งในยามนี้!
“ฮึ่ม! แค่พวกปลาซิวปลาสร้อย คิดจะใช้ดินเพียงกำมือเพื่อถมมหาสมุทรงั้นหรือ! ข้าอยากจะเห็นนักว่าใครจะเข้ามาเป็นคนแรก”
แววตาหลัวเฉิงทอประกายแสงเยือกเย็นพร้อมด้วยยกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างอำมหิต
ด้วยความแข็งแกร่งของตนตอนนี้ ความมั่นใจของเขามีอยู่อย่างล้นเหลือ!
หลังได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่แล้ว หลัวเฉิงก็หาได้หวาดกลัวต่อผู้ใดถึงแม้คนเหล่านั้นจะเป็นตัวเต็งสิบอันดับแรกก็ตาม!
“ตอนนี้ พวกเจ้ามองยังป้ายหยกของตนแล้วขึ้นเรือสำเภาตามหมายเลขได้เลย!”
เสียงผู้อาวุโสเหอแผดดังขึ้นอีกครั้ง
หลัวเฉิงหยิบป้ายหยกประจำตัวของเขาออกมาแล้วมองดูมัน ซึ่งตอนนี้มีอักษรเลขห้าปรากฏอยู่ ซึ่งตรงกับเรือสำเภาหมายเลขห้า!
ผู้คนในจัตุรัสคล้ายเป็นกระแสน้ำถูกแบ่งแยกออกเป็นห้าสายแยกย้ายขึ้นเรือสำเภา
“หลัวเฉิง โปรดระวังตัวด้วย!” จางเหลียนกล่าวขึ้น
หลัวเฉิงพยักหน้าเล็กน้อย ทิ้งความคิดสับสนในใจ แล้วหันหลังเดินไปยังเรือสำเภาหมายเลขห้าทันที
เมื่อเห็นหลัวเฉิงถูกกลืนหายไปท่ามกลางฝูงชนจำนวนมาก จางเหลียนเองก็หันหลังแล้วกำลังจะจากไปเช่นเดียวกัน
ระหว่างนั้นเอง จู่ๆ ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นข้างๆ จางเหลียน
“หานเฟิง!”
จางเหลียนขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นว่าผู้ที่เดินมาหานั้นเป็นใคร
หานเฟิงเหลือบมองไปในทิศที่หลัวเฉิงจากไป แล้วเหยียดยิ้มกล่าวว่า “จางเหลียน นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เจ้าและคนไร้ค่านั่นจะได้พบหน้ากัน!”
จางเหลียนได้ยินวาจาเช่นนั้น จึงขมวดคิ้วเอ่ยถามทันที “เจ้าหมายความว่าอะไร?”
“ฮ่าๆ! มีคนต้องการเอาชีวิตเขา! ตราบใดที่คนผู้นั้นสามารถสังหารหลัวเฉิงบนเกาะชิงอวิ๋นได้ เขาก็จะกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกได้ทันที! ข่าวนี้ถูกแพร่พรายออกไปเมื่อเช้า! ทันทีที่หลัวเฉิง ย่างกรายลงไปบนเกาะชิงอวิ๋น เขาจะต้องตายแน่นอน! ตอนนี้ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเขาได้อีกแล้ว!”
“อะไรนะ!”
จางเหลียนผงะตกใจจนใบหน้าซีดเซียว
หากผู้ใดสังหารหลัวเฉิงคนผู้นั้นจะกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกได้ทันที!
แรงจูงใจนี้ช่างน่าทึ่งนัก มันต้องทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องการสังหารเขาอย่างแน่นอน!
ไม่ต้องกล่าวถึงหลัวเฉิงเลย ต่อให้เป็นตัวเต็งสิบอันดับแรกก็มิอาจเอาชีวิตรอดได้บนเกาะชิงอวิ๋น หากต้องเผชิญสถานการณ์เช่นนี้!
หากเป็นเช่นนี้เขาจะไม่อาจมีชีวิตรอดได้อย่างแน่นอน!
จางเหลียนเอี้ยวตัวกลับ เพื่อต้องการวิ่งไปหยุดหลัวเฉิง
ทว่าตอนนี้ มีผู้คนพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก และตัวของหลัวเฉิงก็หายเข้าไปในฝูงชนแล้ว เมื่อจางเหลียนเปิดปาก เสียงของเขาก็ไม่อาจส่งไปถึงหลัวเฉิงได้
“ตัดใจเสียเถอะ ครั้งนี้เขาจะต้องตายบนเกาะชิงอวิ๋น!”
ดวงตาหานเฟิงดุร้ายดุจเดียวกับอสรพิษ แล้วเหยียดยิ้มอำมหิตกล่าวว่า “รู้หรือไม่ แม้แต่ข้าเองก็ยังอยากจะใช้หัวของเขาเพื่อก้าวเข้าสู่ตำแหน่งศิษย์ฝ่ายนอกเช่นเดียวกัน!”
ศิษย์ที่เข้าร่วมเกือบหมื่นคนขึ้นเรือสำเภาทีละคนอย่างรวดเร็ว
ด้วยเสียงเคลื่อนไหวดังสนั่น เรือสำเภาก็เหินลอยขึ้นสู่ฟากฟ้าแล่นไปยังเกาะชิงอวิ๋นทันที
“หลัวเฉิง เขาหวังว่าเจ้าจะเอาชีวิตรอดกลับมาอย่างปลอดภัย...”