ตอนที่แล้วบทที่ 146 พลังเสือห้าตัว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 148 เจตนาฆ่า! 

บทที่ 147 แววตาแปลกประหลาด 


ทันทีที่หลัวเฉิงออกจากห้อง ก็ได้พบว่าจางเหลียนรออยู่ข้างนอกแล้ว

“หลัวเฉิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

เมื่อเห็นหลัวเฉิงออกมา จางเหลียนก็เดินเข้าหาพลางเปิดปากเลยถามอย่างกังวล

หลัวเฉิงส่ายศีรษะ “ข้าสบายดี”

จางเหลียนทอดถอนใจอย่างโล่งอก “ดีแล้ว! ข้าคิดว่าหลินจินไท่จะทำร้ายเจ้าเสียอีก แม้หลินจินไท่มักจะทำตัวเป็นคนมีกิริยามารยาทดี แต่วิธีที่เขาใช้นั้นล้วนโหดร้าย! หากผู้ใดทำให้เขาขุ่นเคืองจะต้องถูกตามจองล้างจองผลาญจนกว่าจะตาย! ไม่แล้วเขาจะกลายเป็นมือขวาของผู้อาวุโสเหอได้อย่างไร”

หลัวเฉิงนึกถึงแรงตบสองครั้งจากฝ่ามือของหลินจินไท่ แววตาก็ฉายความหม่นหมอง จากนั้นจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เราไปกันเถอะ”

“เอ๊ะ!”

ก่อนที่ทั้งสองจะเดินทาง จางเหลียนก็บังเอิญมองยังหลัวเฉิง ทันใดก็สะดุ้งเฮือกแล้วกล่าวด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? ข้ารู้สึกคล้ายว่าเจ้าจะแตกต่างไปจากเมื่อวาน…”

หลัวเฉิงรู้ทันทีว่าเป็นเพราะเขาได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่แล้ว กลิ่นอายจึงเปลี่ยนไป เขาไม่คิดปิดบังจึงกล่าวออกไปตามตรง

“ข้าทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่แล้ว”

“อะไรนะ!”

ดวงตาของจางเหลียนเบิกกว้าง “ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่!”

หลัวเฉิงสั่นศีรษะเล็กน้อย

ใบหน้าจางเหลียนเต็มไปด้วยความอิจฉา “เจ้าช่างเป็นคนน่าทึ่งนัก! เป็นเวลาครึ่งปีแล้วที่ข้าปลุกวิญญาณยุทธ์ระดับสี่ดาวและทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสาม แต่ตอนนี้ยังไร้วี่แววที่จะสามารถทะลวงจุดได้ หากเปรียบเทียบกับเจ้า กลายเป็นว่าข้าเองต่างหากที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะ!”

หลัวเฉิงยิ้มน้อยๆ

เขามีความประทับใจที่ดีต่อจางเหลียน เนื่องจากสหายผู้นี้ไม่มีอคติกับเขา แม้ว่าเขาจะปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมา

“เอาน่าอย่าน้อยใจไป จงเปลี่ยนความรู้สึกนี้ให้เป็นแรงผลักดันของเจ้าเถิด”

“มันคงเป็นเรื่องยาก…”

จางเหลียนสายศีรษะแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “อย่าพูดถึงเรื่องนั้นอีกเลย อย่างไรข้าก็ขอแสดงความยินดีต่อเจ้าที่ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่สำเร็จ! หากเป็นเช่นนี้เจ้าย่อมสามารถปกป้องตัวเองได้ในการทดสอบชิงอวิ๋นแน่นอน บางทีเจ้าอาจจะโชคดีสามารถคว้าร้อยตำแหน่งแรกก็ได้!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หลัวเฉิงก็ยิ้มเล็กน้อย

เป้าหมายของเขาตอนนี้หาใช่ร้อยอันดับแรกไม่!

เมื่อทั้งสองมาถึงจัตุรัส ทั่วทั้งจัตุรัสก็ล้วนเต็มไปด้วยฝูงชนมากมายจนกลายเป็นคลื่นสีดำทมิฬ

หลัวเฉิงประเมินคร่าวๆ ว่าฝูงชนเบื้องหน้านี้มีอย่างน้อยราวหมื่นคนเห็นจะได้!

ในหมู่ผู้คนเหล่านั้น ผู้ที่มีพลังยุทธ์ต่ำสุด คือผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหนึ่ง ซึ่งมันมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

“คนมากมายเช่นนี้เชียวหรือ... ดูท่าว่าการทดสอบชิงอวิ๋นในปีนี้คงต้องดุเดือดใช่น้อยแน่” จางเหลียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

หลัวเฉิงพยักหน้า จากบรรดาศิษย์บำรุงสำนักกว่าหมื่นคน มีเพียงสิบอันดับแรกเท่านั้นที่สามารถกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกได้!

นั่นมันเจ้าคนพิสดารไม่ใช่หรือ!

เมื่อทั้งสองมาถึง หลายคนก็มองดูพวกเขาแล้วหันไปซุบซิบกัน

ครั้นได้สังเกตเห็นหลัวเฉิง ส่วนใหญ่ก็ต่างมองเขาด้วยแววตาประหนึ่งเห็นตัวประหลาด

“ทำไม จู่ๆ ก็รู้สึกหนาวขึ้นมา! หลัวเฉิงทำไมข้าถึงรู้สึกว่าบรรยากาศมันน่าอึดอัดนัก…”

จางเหลียนขมวดคิ้วเล็กน้อย

หลัวเฉิงเองก็รู้สึกได้เช่นเดียวกันจึงกล่าวอย่างเฉยเมย “มันอาจเป็นผลมาจากวิญญาณยุทธ์ของข้ากระมัง”

จางเหลียนพยักหน้า

การเข้าสู่สำนักซวนหยวนด้วยวิญญาณยุทธ์ขยะนั้นนับเป็นเรื่องแปลกพิกล พวกเขาส่วนใหญ่จึงล้วนสงสัยในตัวของหลัวเฉิง

ระหว่างนั้นเอง ก็มีบุรุษหนุ่มในอาภรณ์เหลืองมือถือหอกยาว และดวงตาเฉียบคมประดุจใบมีดกำลังเดินเข้ามา

“ศิษย์พี่ฟาง...ฟางรุ่ย!”

เมื่อเห็นชายหนุ่มชุดเหลือง จางเหลียนก็เริ่มแสดงสีหน้ากังวล

บุรุษหนุ่มชุดเหลืองไม่ได้สนใจจางเหลียนด้วยซ้ำ ดวงตาอันเฉียบคมของเขายามนี้จับจ้องยังหลัวเฉิง พร้อมกับประกายแสงเย็นยะเยือกในแววตา

“เจ้าน่ะหรือหลัวเฉิง”

หลัวเฉิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย จึงพยักหน้าด้วยท่าทีหยิ่งผยองไม่ถ่อมตัว “มิผิด มีอะไรงั้นหรือ”

“ฮ่าฮ่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ข้าก็แค่อยากจะเห็นเจ้าตัวเป็นๆ เท่านั้นเอง!”

ฟางรุ่ยยกมุมปากขึ้นยิ้ม หลังทิ้งวาจาไว้เช่นนั้นก็หันหลังเดินเข้าไปปะปนกับฝูงชนเบื้องหน้า

“แปลก นี่ช่างเป็นเรื่องแปลกนัก!”

จางเหลียนกล่าวด้วยสีหน้าประหลาดใจ “แม้แต่ศิษย์พี่ฟางรุ่ยก็มาที่นี่เพื่อทักทายเจ้า! แต่เดิมนั้นเขามีนิสัยไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ที่ต่ำกว่า และไม่แยแสใครทั้งนั้น!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด