ตอนที่ 65 บรรพบุรุษเต๋า (ฟรี)
ตอนที่ 65 บรรพบุรุษเต๋า
ภายใต้แรงกดดันของออร่าที่เหมือนกับพลังแห่งสรวงสวรรค์ ความกลัว และความกังวลใจก็ฉายชัดขึ้นมาในดวงตาของนักพรตเต๋า
“เจ้าเป็นอมตะงั้นเหรอ?” นักพรตเต๋าอุทาน เขารู้สึกว่าตนอ่อนแอราวกับมดต่อหน้าลู่ซุน
ต้องทราบว่าเขาได้บรรลุถึงขอบเขตมหายานแล้ว เมื่อมาถึงจุดนี้ เขายืนบนจุดสูงสุดของโลก
แม้ว่าตอนนี้จะเหลือเพียงเสี้ยววิญญาณ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะโต้แย้งได้
แต่ออร่าของชายตรงหน้าเขานั้นเกินกว่าขอบเขตมหายานอย่างแน่นอน มันเป็นความรู้สึกของการกดขี่ที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังตกสู่คุกน้ำแข็ง!
“อมตะเหรอ ฮ่าๆ ข้าไม่ใช่อมตะ” ลู่ซุนส่ายหัวช้าๆ จิตสังหารอันรุนแรงปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา ราวกับว่าสองคำนี้สัมผัสได้ถึงข้อห้ามของเขา
“ไม่ใช่อมตะหรือ งั้นเจ้าก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเทวะ?” ดวงตาของนักพรตเต๋าหดตัวลง จากนั้นเขาก็พูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว
ยากที่จะจินตนาการได้ว่าผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเทวะนั้นทรงพลังเพียงใด ซึ่งสามารถสร้างความตกตะลึงให้กับผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตมหายานได้
“เทวะ? ฟ่อ…” กู่เจ๋อเหลือบมองลู่ซุนอย่างเงียบๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ และร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน
ในฐานะเจ้าสำนักเต๋าไท่อี้ เขารู้ความลับมากมายในโลก และรู้ว่ามีขอบเขตหนึ่งที่อยู่เหนือขอบเขตมหายาน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น!
ขอบเขตเทวะ!
ก้าวข้ามขอบเขตมหายาน และสามารถสังหารอมตะได้ มีเพียงการก้าวข้ามขีดกำจัดของโลกปาหวงเท่านั้นที่จะบรรลุขอบเขตนี้ได้!
ตั้งแต่ยุคโบราณ มีผู้ฝึกยุทธ์เพียงไม่กี่คนที่สามารถไปถึงระดับนั้นได้ และเกือบทุกคนมีชื่อเสียงดั่งตำนาน!
อาจกล่าวได้ว่าการทะลวงผ่านเข้าสู่ขอบเขตเทวะในโลกปาหวงนั้นยากกว่าการเป็นอมตะ!
“บรรพบุรุษ ชายคนนี้เป็นเสี้ยววิญญาณของผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตมหายาน เขาต้องรู้ความลับมากมาย ทำไมเราไม่พาเขากลับไปด้วยล่ะ” ผู้อาวุโสสองมองดูนักพรตเต๋าแล้วพูดอย่างตื่นเต้นราวกับว่าเขาแทบจะอดใจไม่ไหว
หลังจากที่ลู่ซุนได้ยินสิ่งที่ผู้อาวุโสสองพูด เขาก็รู้สึกหมดหนทาง
เจ้าคิดว่าสถานการณ์ในปัจจุบันดีถึงขนาดนั้นจริงๆ หรือ? ถ้าเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ของเขาจริงๆ เขาคงตบเจ้าตายไปนานแล้ว เจ้าจะมีเวลาพูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ได้ยังไง?
ความแข็งแกร่งของลู่ซุนน่ากลัวมากจริงๆ หากเขาอยู่ในจุดสูงสุด เขาคงจะสามารถทุบนักพรตเต๋าให้เป็นชิ้นๆ ได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว
แต่ตอนนี้พลังของลู่ซุนถดถอยลงไปมาก ระดับพลังยุทธ์ของเขาไม่เหมือนเดิม ร่างกายของเขาก็เสื่อมโทรม แม้แต่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ฟื้นคืนมาได้เพียงหนึ่งในพันเท่านั้น
หากพลังยุทธ์ก่อนหน้านี้ของลู่ซุนเปรียบได้เป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ตอนนี้ก็เหลือเพียงน้ำไม่กี่หยด และพลังที่เขาสามารถปลดปล่อยออกได้นั้นยังคงมีจำกัด
ใช่ ตอนนี้ลู่ซุนกำลังแสร้งทำเป็นว่าพลังของตนเหนือกว่าเป็นอย่างมาก แต่พลังที่เขาปลดปล่อยออกมายังคงมีจำกัด ไม่ดีเท่าเมื่อก่อน
แม้ลู่ซุนจะมั่นใจว่าตนจะสามารถฆ่านักพรตเต๋าได้ ก็ต้องจ่ายอย่างหนัก มีโอกาสมากที่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งฟื้นคืนจะหวนกลับไปสู่จุดเริ่มต้น!
ท้ายที่สุด ลู่ซุนก็ต้องการฟื้นคืนชีพโดยเร็ว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะกระทำสิ่งที่โง่เขลาเช่นนั้น
“เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการขวางทางข้า แค่เสี้ยววิญญาณของเจ้าคิดว่าจะหยุดได้ข้าจริงหรือ?” ลู่ซุนยิ้มบางๆ บนใบหน้า และเขาก็เผชิญหน้ากับนักพรตเต๋าอย่างมั่นใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับว่าแม้จะไม่เริ่มต่อสู้ ชัยชนะก็อยู่ในกำมือของเขา
หลังจากที่นักพรตเต๋าได้ยินคำพูดของลู่ซุน ใบหน้าของเขาก็มืดลงในทันที
ชายคนนี้พูดถูก หากเขามอบบุปผาคืนชีวิตไป เขาก็ยังสามารถอยู่รอดได้ แต่หากเขาเป็นศัตรูกับผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเทวะ เขาอาจจะตายจริงๆ และไม่มีทางที่จะฟื้นตัวได้อีก
ท้ายที่สุดแล้ว นั้นคือยอดฝีมือที่สามารถสังหารอมตะได้ และพลังของผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในขอบเขตนี้จะต้องน่ากลัวอย่างยิ่ง เกินกว่าที่เขาจะต่อกรได้
ตลอดประวัติศาสตร์ของโลกปาหวง มีผู้ฝึกยุทธ์เพียงไม่กี่คนที่สามารถไปถึงขอบเขตเทวะได้ และแต่ละคนก็เป็นผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุด และยืนอยู่เหนือใครๆ
ยอดฝีมือระดับนั้นแต่ละคนมีวิธีการที่คาดเดาไม่ได้ซึ่งเขาไม่อาจจินตนาการถึง
“เท่าที่ข้ารู้ ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเทวะปรากฏตัวมานานแล้ว และตอนนี้เจ้าก็อยู่ในขอบเขตหลอมวิญญาณเท่านั้น เจ้าจะปลดปล่อยพลังได้มากแค่ไหนกัน?” นักพรตเต๋าครุ่นคิด แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าพูดถูก สถานการณ์ของข้าไม่ได้ดีไปกว่าของเจ้ามากนัก การฆ่าเจ้าก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร” ลู่ซุนยอมรับอย่างใจเย็น และเขาพูดด้วยความมั่นใจอย่างยิ่ง
นักพรตเต๋าเงียบไป เขาไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของลู่ซุน ท้ายที่สุดแล้ว มีวิธีการมากมายที่จะทำลายเสี้ยววิญญาณของเขาด้วยพลังของขอบเขตเทวะ
“ความสำคัญของบุปผาคืนชีวิตนั้นชัดเจนในตัวเอง หากเจ้าต้องการเอามันไปจากข้า เจ้าจะต้องชดใช้บางอย่างคืนให้ได้” นักพรตเต๋าสูดลมหายใจลึกแล้วพูดด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
“เจ้าต้องการทำข้อตกลงกับข้างั้นรึ?” ลู่ซุนพูดอย่างใจเย็น และเขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
“ข้าจะไม่มีวันมอบบุปผาคืนชีวิตให้ เว้นแต่เจ้าจะยินดีจ่ายในราคาที่เท่าเทียมกันเพื่อแลกเปลี่ยน! ไม่งั้นก็มาสู้กันจนตายกันไปข้าง!” นักพรตเต๋าพูดอย่างเย็นชา น้ำเสียงของเขาอบอวลไปด้วยเจตนาฆ่า ภายใต้แววตาที่มุ่งมั่น
แม้ว่าจะเหลือเพียงเสี้ยววิญญาณ เขาก็ไม่กลัว? ไม่มีทางที่เขาจะทำให้ลู่ซุนได้บุปผาคืนชีวิตไปฟรี เขาต้องได้รับบางอย่างกลับมา!
“แต่เดิม เพื่อเห็นแก่หน้าชิงจิ้ง ข้าวางแผนที่จะไว้ชีวิตเจ้า แต่ในเมื่อเจ้าดื้อรั้น ก็อย่าหาว่าข้านั้นโหดเหี้ยม!” ลู่ซุนตะคอกอย่างเย็นชา และเขาก็ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว มีร่างเงาขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ข้างหลังเขา ปลดปล่อยแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวที่อาจทำลายล้างโลกได้
หลังจากที่นักพรตเต๋าได้ยินคำพูดของลู่ซุน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที และเขาไม่สงบ และดูมุ่งมั่นเหมือนเดิมอีกต่อไป
ก่อนหน้านี้เขาแค่ทดสอบลู่ซุนดูเท่านั้น ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเทวะจะลงตัวลงมาทำข้อตกลงกับเสี้ยววิญญาณของผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตมหายานได้อย่างไร?
เมื่อใดก็ตามที่ลู่ซุนลังเลเล็กน้อย เขาก็จะลงมือโดยไม่ลังเล!
แต่เมื่อนักพรตเต๋าเห็นร่างเงาด้านหลังลู่ซุน แผนการทั้งหมดของเขาก็ถูกลืม และมีเพียงความกลัวอันไร้ที่สิ้นสุดเท่านั้นในดวงตาของเขา
“เจ้ารู้จักปรมาจารย์ชิงจิ้งได้ยังไง เจ้าเป็นใครกันแน่!” นักพรตเต๋าถามอย่างเร่งรีบ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
เขามีความคิดบางอย่างอยู่ในใจ แต่การคาดเดานั้นน่าตกใจมากจนเขาไม่อยากจะเชื่อแม้จะเป็นความคิดของตัวเอง!
“ตัวเจ้าเองก็ถือเป็นผู้สืบทอดของข้า จากสิ่งนี้ เจ้าคิดว่าข้าเป็นใครล่ะ?”
หลังจากได้ยินคำพูดของลู่ซุน นักพรตเต๋าก็รู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า
“ชิงเฟิงแห่งสำนักชิงจิ้งคารวะบรรพบุรุษเต๋าฮุ่นหยวน!” นักพรตเต๋าปรากฏตัวขึ้นในระยะใกล้ เขาคุกเข่าลงพร้อมกับกุมมือแล้วพูดกับลู่ซุนด้วยความเคารพ