ตอนที่ 22 : พลหน้าไม้โครงกระดูก
ตอนที่ 22 : พลหน้าไม้โครงกระดูก
ออทรัคอาจจะเป็นคนหัวแข็งและไม่ยินดีจะยอมรับว่าสมาชิกหน่วยของเขามีประสิทธิภาพต่ำกว่าปกติ
แต่ถ้ายาซ์ดพูดแบบนั้นออกมา มันก็คงจะต้องเป็นความจริงแน่ๆ
การที่เนโครแมนเซอร์ได้รับคำชมจากศาลากลาง มันก็หมายความว่าเขาต้องทำประโยชน์ได้เยอะมากในภารกิจนี้
เมื่อสังเกตเห็นบางสิ่งผิดปกติในหมู่คนพวกนี้ ยาซ์ดก็ถาม “มีอะไรงั้นเหรอ?”
“เปล่าขอรับ ขอแสดงความยินดีด้วยนะกัปตันออทรัค เจ้าได้สมาชิกใหม่ที่มีความสามารถไปซะแล้วสิ” ผู้นำหน่วยสามพูดออกมา
“ขอบคุณมาก” ออทรัคแสดงความซาบซึ้งออกมา
จากนั้นยาซ์ดก็พูดต่อ “เนื่องจากกลุ่มทหารรับจ้างหัวหมาป่าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในคราวนี้ ทุกหน่วยยกเว้นหน่วยที่สี่ก็ควรเตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือเมืองหินดำในการจับกุมพวกเขา”
“ขอรับ!” ทุกคนตอบรับ จากนั้นก็พากันเดินออกไปจากห้องประชุม
...
อีกด้านหนึ่ง หวู่เหิงก็ได้พาโครงกระดูกของเขาไปยังเขตทิศตะวันออก
ถนนสายหลักที่นำไปสู่ประตูเมืองทิศตะวันออกเรียงรายไปด้วยแผงลอย
มันทำให้เกิดย่านการค้าขึ้นมา
ของโจรจากกลุ่มทหารรับจ้าง สินค้าจากหมู่บ้าน และร้านค้าบางแห่งจะนำสินค้ามาขายในช่วงเวลานี้ของวัน
คนที่พอมีกำลังทรัพย์ก็อาจจะตั้งแผงลอยขึ้นมา ส่วนคนที่ไม่มีก็จะกางผ้าลินินหรือแผ่นหนังแทนแผงลอย
หวู่เหิงที่มาถึงช้าได้พบพื้นที่ว่างที่อยู่ห่างออกมา เขากางผ้าออก และหยิบเอาของที่เตรียมไว้ออกมา
ส่วนใหญ่จะเป็นถ้วยแก้วที่เขาค้นมาได้ตามห้องต่างๆ
เขาวางพวกมันไว้บนผ้าที่กางออก
จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและตะโกนออกมา “เร่เข้ามา เร่เข้ามา ไอ้เจ้าของร้านบัดซบได้หนีไปพร้อมกับเมียน้อย ถ้วยแก้วพวกนี้ที่เคยตั้งราคาไว้ 100-200 เหรียญทองแดง ข้าขอลดราคาเหลือแค่ 50 เหรียญทองแดงเท่านั้น มาก่อนได้ก่อน ช้าหมดอดนะ!”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนนี้ ทุกคนก็หันมาดูด้วยความสงสัย
หลังจากได้ยินมันเป็นครั้งที่สุด ทุกคนก็เข้าใจว่ามันเป็นสินค้าที่มาจากเจ้าของร้านที่หนีไปพร้อมกับเมียน้อย
ด้วยความสงสัยว่ามันเป็นสินค้าอะไร ทุกคนจึงขยับเข้ามาดูใกล้ๆ
ในไม่ช้า เสียงตะโกนก็ดึงดูดคนเข้ามาเป็นจำนวนมากและแผงลอยของหวู่เหิงก็ถูกล้อมเอาไว้ด้วยคนเป็นจำนวนมาก
“ทุกอย่าง 50 เหรียญทองแดงงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว ทุกอย่าง 50 เหรียญทองแดง เลือกอันที่เจ้าชอบไปได้เลย พวกมันเหมาะเอาไปใช้ดื่มน้ำและตั้งโชว์ก็ได้เหมือนกัน”
“เจ้าของร้านหนีไปพร้อมกับเมียน้อยจริงๆ เหรอ? เขาไม่เอาคนอื่นไปด้วยเหรอ?”
“เรื่องนี้ไม่สำคัญ แต่ถ้าเจ้าไม่ซื้อพวกมันตอนนี้ มันจะเหลือแต่อันที่เหลือเลือกนะ”
“ทำไมพวกมันถึงดูเหมือนของมือสองเลยล่ะ?”
“มันอาจจะสกปรกเพราะถูกสัมผัสเยอะ พอกลับบ้าน เจ้าก็ลองเอาไปล้างดูสิ”
“ข้าเอาอันนี้”
“ส่วนข้าเอาสามอันนี้ ข้าอยากจะลองดื่มน้ำจากแก้วมานานแล้ว”
เมื่อมีคนเริ่มซื้อ หลายคนจึงเริ่มซื้อตาม
ด้วยราคาเช่นนี้ มันย่อมถูกกว่าแก้วจากในร้านค้าต่างๆ แน่ๆ นอกจากนี้ลวดลายและสไตล์ของพวกมันยังดูดีกว่าแก้วที่วางขายอยู่ทั่วไปด้วย
ดังนั้นมันจึงถือว่าคุ้มราคามาก
และเขาก็ตั้งราคาเช่นนี้เพื่อหวังจะขายให้ได้ไวๆ อยู่แล้ว
ของทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นขยะในโลกซอมบี้ มันคงจะเสียเปล่าถ้าเขาโยนพวกมันทิ้งไปเฉยๆ และคงดีกว่าที่จะนำมันมาขายเช่นนี้
และแทนที่จะเก็บมันเอาไว้ การขายมันในราคาถูกๆ ก็คงจะดีซะกว่า
และด้วยเสียงตะโกนของหวู่เหิง แผงลอยของเขาจึงคึกคักขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
มันมีคนเดินเข้ามาที่แผงลอยของเขามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พวกเขาแค่เข้ามาดูเท่านั้น
หวู่เหิงเก็บเงินอย่างต่อเนื่อง และในไม่ช้า ถ้วยแก้วของเขาก็ถูกขายไปจนหมด
คนจำนวนมากที่ซื้อไม่ทันรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาจนต้องตบหน้าขาของตัวเอง
พ่อค้าแม่ค้าคนอื่นๆ ต่างพากันตกตะลึง
เกิดอะไรขึ้น?
แผงลอยนี่เก็บแล้วเหรอ?
หลังจากเขาตั้งแผงได้ไม่นาน สินค้าก็ถูกขายไปจนหมด
“ขออภัยด้วยนะทุกท่าน สินค้าหมดแล้ว” หวู่เหิงม้วนผ้าขึ้นและเตรียมกลับ เขากล่าวทิ้งท้ายว่า “อีกไม่กี่วันข้าจะกลับมาอีก ที่เดิม ราคาเดิม ใครที่สนใจก็กลับมาได้นะ ของดีๆ ทั้งนั้นเลย”
หลังจากเก็บของแล้ว หวู่เหิงก็เตรียมที่จะจากไปพร้อมกับโครงกระดูกของเขา แต่ทันใดนั้นก็มีคนหลายคนมาล้อมเขาเอาไว้
พวกเขามาจากแผงลอยใกล้ๆ นั่นเอง
“ลูกพี่ ถ้านายไม่มีเวลาก็ขายให้กับพวกเราเลยก็ได้นะ ข้าให้ราคาเท่าเดิม และมันจะช่วยประหยัดเวลาเจ้าได้ด้วย” หนึ่งในนั้นเสนอ
“ขายให้ข้าดีกว่า ข้าให้ราคาสูงกว่าก็ได้”
“ส่วนข้ามีหน้าร้านนะ ถ้าเจ้าหาของได้เรื่อยๆ ข้าก็ช่วยเจ้าขายได้นะ…”
หวู่เหิงเข้าใจเจตนาของคนพวกนี้ดี พวกเขาอยากจะนำสินค้าของเขาไปขายต่อนั่นเอง
ในความเป็นจริง นี่ก็ไม่ได้ทำให้เขาขาดทุนเลยและยังช่วยเขาประหยัดเวลาได้ด้วย
แต่หลังจากคิดดูแล้ว เขาก็ปฏิเสธไป เพราะเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะมาขายอีกในตอนไหน นอกจากนี้การหยิบสินค้าออกมาจากความว่างเปล่าเรื่อยๆ ก็คงยากจะอธิบายได้
เขาไม่ได้มีโรงงานอยู่เบื้องหลัง สินค้าทั้งหมดต่างก็เป็นของที่เขานำมาจากต่างโลก
ถ้ามีคนลองสืบสวนดู มันก็คงจะมีปัญหาแน่ๆ
เขาปฏิเสธข้อเสนอของคนพวกนี้ทันที “ขอโทษด้วยนะทุกท่าน ข้าเองก็รับปากไม่ได้ว่าจะหาสินค้ามาขายได้ไหม ข้าเกรงว่าพวกเราคงจะร่วมงานกันไม่ได้”
หลังจากได้ยินว่ามันอาจจะไม่มีสินค้าในครั้งต่อไป คนพวกนี้ก็ไม่ได้กดดันต่อและพากันกลับไปที่แผงลอยของตัวเอง และทิ้งคำพูดไว้ว่าถ้ามีสินค้าอีกพวกเขาก็ยินดีที่จะรับซื้อเอาไว้
หลังจากเก็บของแล้ว หวู่เหิงก็เดินดูแผงอื่นๆ
สถานที่แห่งนี้มีชีวิตชีวามากกว่าตลาดกลางคืนในโลกสมัยใหม่มาก ไม่ต้องพูดถึงของแปลกหลายๆ อย่างที่ถูกวางขายด้วย นอกจากนี้มันก็ยังมีคนทะเลาะวิวาทกันบ้างประปราย
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้ล้ำเส้นและไม่ชักอาวุธออกมา มันมีแค่การชกต่อยกันก็เท่านั้นเอง
หลังจากเดินไปรอบๆ เขาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าแผงลอยแผงหนึ่ง
เจ้าของร้านเป็นชายวัยกลางคนที่สวมเกราะหนัง โดยมีสมุนไพรและเขาสัตว์วางอยู่ตรงหน้า พร้อมด้วยหอกอีกห้าเล่ม
หัวหอกทำจากโลหะ ส่วนด้ามทำจากไม้เนื้อแข็ง
หมู่บ้านแถวๆ นี้น่าจะใช้มันเพื่อไล่สัตว์ เพราะเหล่านักผจญภัยคงไม่ใช้อาวุธที่มีด้ามทำจากไม้ เนื่องจากมันอาจจะถูกผ่าครึ่งได้ง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ใช้ได้ดีกับสัตว์ป่า
“หอกพวกนี้ราคาเท่าไรเหรอ?” หวู่เหิงถาม
เจ้าของร้านเงยหน้าขึ้นมองเขาและตอบกลับ “สองเหรียญเงิน หรือจะแลกกับของอย่างอื่นก็ได้”
“ถ้าเหมาหมดลดได้ไหม?”
“หมดเลยเหรอ? เจ้าจะเอาไปทำอะไรมากมายขนาดนั้น?” เจ้าของร้านเงยหน้าขึ้นถาม
“แค่บอกราคามาก็พอน่า!”
“ถ้าเจ้าเหมาหมด ข้าลดราคาให้จาก 10 เหรียญเงินเป็น 9 เหรียญเงินละกัน” เจ้าของร้านตอบ
หวู่เหิงยื่นเงินให้อีกฝ่ายทันทีและซื้อหอกทั้งห้าเล่มมา
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกระเป๋าหนักเช่นนี้ เจ้าของร้านก็พูดออกมา “ถ้าเจ้าอยากได้อะไรอีกก็คุยกันได้นะ เดี๋ยวข้าลดให้พิเศษเลย”
“ไว้คราวหน้าละกัน”
หลังจากเก็บหอกที่ซื้อมาแล้ว เขากับจอมโจรโครงกระดูกก็ถือพวกมันกลับไปยังที่พัก
...
หลังจากจัดการกับมื้อเย็นแล้ว เขาก็ให้จอมโจรโครงกระดูกขนหอกที่เพิ่งซื้อมาไปยังโลกซอมบี้
กลิ่นเหม็นที่คุ้นเคยกระแทกหน้าของเขา ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยแปลกๆ เหมือนได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง
โลกมนุษย์ช่างซับซ้อนยิ่งนัก
ในระหว่างภารกิจในหมู่บ้านเหมืองแร่ แท้จริงแล้วเจ้าของเหมืองเป็นผู้บงการเบื้องหลัง ซึ่งเกือบจะทำให้ทีมสืบสวนทั้งหมดต้องตาย
สิ่งที่เข้าใจยากที่สุดคือจิตใจของมนุษย์
ในโลกซอมบี้ มันไม่มีเรื่องแบบนั้นให้ต้องเป็นกังวลเลย
เมื่อเขามาถึงดาดฟ้า มันก็เต็มไปด้วยนักรบโครงกระดูกที่เรียงรายกันอยู่โดยมีสุนัขโครงกระดูกกำลังวิ่งไปมาราวกับมันอยู่ไม่สุข
“เอาศพพวกนั้นมา” หวู่เหิงสั่ง
นักรบโครงกระดูกที่อยู่ด้านหน้าของเขาขยับตัว และลากศพออกมาจากระยะไกลและโยนพวกมันลงมาแทบเท้าของเขา
มันมีศพทั้งหมด 4 ร่าง คนพวกนี้คือคนที่โจมตีเขา ณ หมู่บ้านเหมืองแร่เมื่อวานนี้ ซึ่งเขาได้นำร่างของพวกมันกลับมาด้วย
นอกจากศพเหล่านี้แล้ว มันก็ยังมีดาบเหล็ก 4 อัน หน้าไม้ 2 อัน และลูกศรอีกบางส่วน
ของเหล่านี้น่าจะมีราคาหลายเหรียญเงินเลยทีเดียว
หลังจากปลดชุดเกราะและเสื้อผ้าออกจากร่างของพวกมันแล้ว ลวดลายที่ดูเหมือนกับหัวหมาป่าก็ถูกเผยออกมาบนผิวหนังของพวกมัน
พวกมันน่าจะเป็นสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้าง
มันมีแค่องค์กรเช่นนี้เท่านั้นที่จะสักลวดลายบางอย่างลงบนร่างกายของตัวเอง
คล้ายกับในเกม มันช่วยในการระบุตัวตน ระบุสมาชิกในทีมของตัวเอง และช่วยสร้างความประทับใจได้ด้วย
เขาเหลือบมองดูเท่านั้น และไม่ได้สนใจจะมองดูอย่างละเอียด เพราะมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา แม้คนพวกนี้จะมาจากกลุ่มใหญ่ๆ หรือนิกายลับ แต่พวกมันก็ถูกเมืองหินดำหมายหัวแล้ว
เขาร่ายทักษะควบคุมโครงกระดูกในทันที
เนื้อหลังหลุดลอกออกไป และโครงกระดูก 4 ตัวก็ลุกขึ้นยืน
พวกมันคือนักดาบโครงกระดูก 2 ตัว และพลหน้าไม้โครงกระดูก 2 ตัว
นักดาบโครงกระดูกตัวหนึ่งอยู่ในเลเวลหก ส่วนอีกตัวอยู่ในเลเวลห้า และพลหน้าไม้โครงกระดูกทั้งสองนั้นต่างก็อยู่ที่เลเวลห้า
เขามองดูข้อมูลของพลหน้าไม้โครงกระดูกทันที
[พลหน้าไม้โครงกระดูก]
[เลเวล: 5 (0/3,000)]
[ค่าสถานะ: ความทนทาน 12, ความแข็งแกร่ง 14, ความว่องไว 14, สติปัญญา 9, การรับรู้ 8, เสน่ห์ 5]
[ลักษณะ: โครงกระดูกกลวง, เพลิงวิญญาณขั้นต้น]
[ความสามารถพิเศษ: การเล็งของนักล่า, การประสานการโจมตี]
[ความสามารถ: ความเชี่ยวชาญการใช้ดาบมือเดียว (ระดับพื้นฐาน), ความเชี่ยวชาญการใช้หน้าไม้ (ระดับกลาง), ความเชี่ยวชาญการใช้เกราะเบา (ระดับกลาง), การสะเดาะกุญแจ (ระดับพื้นฐาน), การปลดกับดัก (ระดับพื้นฐาน)]
[การเล็งของนักล่า: เล็งเป้าหมายและโจมตีอย่างแม่นยำ]
[การประสานการโจมตี: มีประสบการณ์มากในการโจมตีประสาน สามารถร่วมมือกันโจมตีกับพันธมิตรได้เป็นอย่างดี]
โครงกระดูกทั้งสี่ต่างก็มีเพลิงวิญญาณขั้นต้น และเปลวเพลิงสีครามก็เปล่งประกายอยู่ในเบ้าตาอันกลวงโบ๋ของพวกมัน
ในด้านค่าสถานะ พลหน้าไม้โครงกระดูกก็เชี่ยวชาญการใช้หน้าไม้เป็นพิเศษ
และในตอนนี้ ในที่สุดเขาก็มีหน่วยโจมตีระยะไกลแล้ว
ส่วนนักดาบโครงกระดูกไม่ได้มีค่าสถานะอะไรที่ดูพิเศษ
[ความสามารถพิเศษ: วิชาดาบที่แม่นยำ]
[ความสามารถ: ความเชี่ยวชาญการใช้ดาบสองมือ (ระดับกลาง), ความเชี่ยวชาญการใช้เกราะเบา (ระดับกลาง), ความเชี่ยวชาญการใช้เกราะกลาง (ระดับกลาง)]
ไม่เลวๆ
หวู่เหิงมองดูโครงกระดูกทั้งสี่และพูดกับนักดาบโครงกระดูกเลเวลหก “จากนี้ไปเจ้าชื่อเจียนอี้ละกัน”
จากนั้นเขาก็หันไปหานักดาบโครงกระดูกและพลหน้าไม้โครงกระดูกที่เหลือ “ส่วนเจ้าชื่อเจียนเอ๋อร์ เจ้า หนี่อี้ และเจ้า หนี่เอ๋อร์”
โครงกระดูกทั้งสี่พยักหน้า และดูเหมือนจะเข้าใจ
ในตอนนี้เขาก็มีโครงกระดูกที่มีเพลิงวิญญาณถึง 6 ตัวแล้ว
พวกมันประกอบไปด้วยสุนัขล่าโครงกระดูกเทดดี้ จอมโจรโครงกระดูกบาเซน เจียนอี้ เจียนเอ๋อร์ หนี่อี้ และหนี่เอ๋อร์
“งั้นพวกเจ้าก็ใส่ชุดเกราะของพวกเจ้ากลับไปซะและหยิบอาวุธของพวกเจ้าขึ้นมา” หวู่เหิงสั่งการ
โครงกระดูกทั้งสี่เดินไปข้างๆ และเริ่มสวมใส่ชุดเกราะที่ถูกปลดออกไปก่อนหน้านี้