ตอนที่แล้วบทที่ 227 เบาะแสของสิ่งประดิษฐ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 229 การเปลี่ยนแปลงในบราซิล

บทที่ 228 โลกลึกลับ


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel  แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

บทที่ 228 โลกลึกลับ

บนแผ่นโลหะบาง ๆ ที่เรียกว่า "แผ่นความทรงจำ" ฉากสุดท้ายได้ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน มันเป็นภาพสายตาอันแสนกระตือรือร้นของนายพลบีสต์

หลังจากข้อความเสียงสิ้นสุดลง ซุนเฉิงก็กำแผ่นความทรงจำไว้ในมือเงียบๆ ครู่ต่อมา หน้าอกของร่างจักรกลของเขาก็เคลื่อนไหวและแยกออกอย่างกะทันหัน เผยให้เห็นช่องว่างเล็กๆ... จากนั้นซุนเฉิงก็ยัดแผ่นความทรงจำเข้าไปข้างในโดยไม่ลังเล!

เขาไม่จำเป็นต้องดูภาพที่นายพลบีสต์ทิ้งไว้อีกต่อไปแล้ว!

ชีวิตจักรกลของเขามีความสามารถในการเรียนรู้ที่น่าทึ่ง ทำให้เขาสามารถจดจำทุกเฟรมจากการดูก่อหนน้านี้ได้

ตอนนี้ เขาต้องการเวลาเพื่อวิเคราะห์เรื่องนี้ให้ถี่ถ้วน

พอเหลือบมองไปที่ตู้โลหะสี่เหลี่ยมบนแท่นหิน เขารู้ว่ามันไม่มีประโยชน์กับเขาอีกต่อไปแล้ว

ซึ่งหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซุนเฉิงก็โบกมือและเก็บมันไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลทรงกลมของเขา ถึงแม้ว่าตู้สี่เหลี่ยมจะไม่ได้รับแรงปะทะโดยตรงจากปืนใหญ่พลาสม่าของเขา แต่มันก็ยังคงไม่เสียหายหลังจากการโจมตีครั้งก่อนๆ ซึ่งทำให้ซุนเฉิงสนใจในองค์ประกอบของวัสดุที่ใช้ทำมันมาก

"ไปกันเถอะ...."

เขาสั่งให้หุ่นยนต์รบทั้งเจ็ดที่เฝ้าพื้นที่อยู่อย่างเงียบ ๆ มารวมตัวกัน ซุนเฉิงเก็บหุ่นยนต์รบเหล่านี้กลับเข้าไปในพื้นที่ทรงกลม

เมื่อเทียบกับความคล่องตัวของเขาเอง ความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกมันยังคงช้าเกินไป การส่งมอบให้รัสเซียเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน และซุนเฉิงจำเป็นต้องกลับไปยังฐานรองของเขาในบราซิลอย่างรวดเร็ว เพื่อจะไปเอาหุ่นยนต์อุตสาหกรรมออกมาอีกชุดหนึ่ง

เมื่อการทำธุรกรรมครั้งแรกกับรัสเซียเสร็จสิ้นลงด้วยดี ทรัพยากรก็จะไหลเข้ากระเป๋าของเขาอย่างต่อเนื่อง

อิทธิพลของซุนเฉิงในโลกนี้คงจะเริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

หลังจากเดินทางไปมา ในไม่ช้าเขาก็กลับไปที่เรือภูตผี ซึ่งยังคงประจำการอยู่ในอ่าวเบงกอล หลังจากออกคําสั่งให้เฮเฟสตุสกลับไปยังแปซิฟิกใต้ เขาก็เข้าไปในห้องพักผ่อนพิเศษของเขาบนเรือภูตผี ซึ่งเขาจะได้มีเวลามุ่งเน้นไปที่วิเคราะห์ข้อมูลที่เขาได้รับจากข้อความของนายพลบีสต์

"สิบสามไพรม์ถือกำเนิดขึ้นก่อนสภาโบราณ และน่าจะเป็นผู้นำสูงสุดของสิ่งมีชีวิตจักรกล..."

"ในตอนนี้ ข้าสามารถยืนยันตัวตนของบรรพบุรุษไพรม์ได้เก้าผู้นำ เมกะทรอนนัสไพรม์ ออนิกซ์ไพรม์ โซลัสไพรม์ ท่านผู้นำแม็กซิโม ไมโครนัสไพรม์ อะมัลกามัสไพรม์ อัลเคมิสต์ไพรม์ ควินตัสไพรม์ และสิบสามไพรม์...ซึ่งในบรรดาบรรพบุรุษทั้งเก้า โซลัสไพรม์ได้เสียชีวิตแล้ว ท่านผู้นำแม็กซิโมและเมกะทรอนนัสไพรม์หายสาบสูญ ส่วนออนิกซ์ไพรม์ ไมโครนัสไพรม์ อะมัลกามัสไพรม์ อัลเคมิสต์ไพรม์ ควินตัสไพรม์ และสิบสามไพรม์ สันนิษฐานว่าได้ล้มตายในสนามรบ..."

"แล้วใครคือท่านผู้นำฟอลเลน? เมกะทรอนนัสไพรม์งั้นเหรอ? หรือท่านผู้นำแม็กซิโม? ออนิกซ์ไพรม์เสียชีวิตแล้วหรือยัง? แล้วสุสานของบรรพบุรุษดั้งเดิมมันตั้งอยู่ที่ไหนกันแน่?"

ซุนเฉิงไม่เคยได้ยินชื่อแปดชื่อนี้ในบรรดาสิบสามไพรม์มาก่อน แต่เขาเคยเจอชื่อของท่านผู้นำแม็กซิโมในข้อมูลความทรงจำของแบล็กเอาท์

ตามรายงาน ช็อคเวฟเคยค้นพบโรงงานที่ท่านแม็กซิโมทิ้งไว้บนไซเบอร์ตรอน แม้ว่ามันจะไม่ใช่สถานที่ที่ท่านผู้นำแม็กซิโมสร้างนักรบจักรกลที่ดุร้าย แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่นั่นมันต้องไม่ธรรมดาแน่

หากไม่มีเทคโนโลยีที่ท่านผู้นำแม็กซิโมทิ้งไว้ ต่อให้ช็อคเวฟจะเป็นถึงนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ ก็ไม่มีทางหรอกที่เขาจะสามารถวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิตจักรกลได้ จนถึงขั้นประดิษฐ์สิ่งมีชีวิตจักรกลที่ใช้งานได้จริงอย่าง วิศวกรดีเซปติคอน

ตอนนี้ สิ่งที่ซุนเฉิงกังวลที่สุดไม่ใช่ตัวตนของ 'ท่านผู้นำฟอลเลน' แต่เป็นความลึกลับที่กำลังหลับใหลอยู่บนโลกต่างหาก

เขาได้ยินชื่อ 'ท่านผู้นำฟอลเลน' และ 'สิบสามไพรม์' มานานมากแล้ว แต่ตอนนี้เขากำลังเริ่มรู้สึกสงสัยในชื่อพวกนี้มากขึ้นไปอีก

ตลอดประวัติศาสตร์ มีสิ่งมีชีวิตจักรกลมากมายนับไม่ถ้วนได้เดินทางข้ามกาแล็กซีจากดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอนอันไกลโพ้นมายังโลก

ดาวเคราะห์ที่ดูเหมือนไม่มีความสำคัญดวงนี้ ตั้งอยู่ในมุมไกลสุดของทางช้างเผือก เกือบจะอยู่กึ่งกลางระหว่างไซเบอร์ตรอนและโลก

แต่ทำไมสิ่งมีชีวิตจักรกลมากมายถึงยังคงแห่กันมาที่โลก?

"แผ่นความทรงจำ" ที่นายพลบีสต์ทิ้งไว้ทำให้ซุนเฉิงยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย!

ทำไมท่านผู้นำแม็กซิโมถึงพาเมกาเมกะทรอนนัสไพรม์และคนอื่น ๆ มาที่โลก?

สิบสามไพรม์ต่อสู้กันอย่างดุเดือดเพื่อปกป้องสิ่งมีชีวิตบนโลกจริงหรือ? สุดท้ายพวกเขาเสียสละตัวเองเพื่อปิดผนึก "เมททริกซ์แห่งจิตพลังผู้นำ" เพื่อป้องกันไม่ให้เมกะทรอนนัสไพรม์ใช้มันเพื่อเปิดใช้งานเครื่องจักรและทำลายดวงอาทิตย์?

งั้นแสดงว่า…เมททริกซ์แห่งจิตพลังผู้นำอยู่บนโลก กระทั่งออลสปาร์คก็อยู่บนโลกเหมือนกัน!

แม้แต่ในภาพที่นายพลบีสต์ทิ้งไว้ ก็ยังมีบันทึกการเดินทางครั้งสุดท้ายของเขาก่อนที่เขาจะบอกว่าเวลาของเขาใกล้จะหมดลง

จากพลังงานที่ลดน้อยลงมากในตอนนั้น นายพลบีสต์น่าจะยังอยู่บนโลก…แล้วเขาพบอะไรกัน?

ปริศนาที่ซับซ้อนอีกอย่างหนึ่งจึงปรากฏขึ้นต่อหน้าซุนเฉิง!

นายพลบีสต์ค้นพบอะไรในการเดินทางครั้งสุดท้ายของเขา?

อะไรกันที่แม้แต่ไพรมส์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังปรารถนา?

มันเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือวัตถุมีค่าอะไรกัน?

มันคืออะไร?

มันคืออะไร?

มันคืออะไร?

ความลึกลับมากมายยังคงหลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของซุนเฉิง ในที่สุดก็รวมกันเป็นปริศนาที่ทำให้เขาสับสนมากที่สุด

ทำไมต้องเป็นที่โลก?

โชคร้ายมาก ไม่ว่าเขาจะพยายามคิดหนักแค่ไหน ซุนเฉิงก็ยังคงถูกหลอกหลอนด้วยความจริงที่ว่าเขามีเบาะแสน้อยมาก แม้กระทั่งตอนที่เฮเฟสตัสรายงานว่าเรือดำน้ำของพวกเขามาถึงแปซิฟิกใต้แล้ว เขาก็ยังไม่สามารถรู้ได้เลยว่านี้มันเรื่องบ้าบออะไรกัน!

ซุนเฉิงได้แต่ถอนหายใจ เดินออกมานอกเรือและบินตรงไปยังฐานทัพที่ 2 ในบราซิล

“สำหรับตอนนี้ เลิกคิดเรื่องพวกนี้ก่อนแล้วกัน บางทีโลกอาจไม่ธรรมดาอย่างที่ข้าคิด แต่ในตอนนี้ข้าไม่มีแรงที่จะลงลึกเรื่องนี้แล้ว... ข้าทำได้เพียงรอให้ร่างจักรกลใหม่เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นหลังจากสร้างการค้าและความร่วมมือกับจีนและรัสเซียแล้ว จึงดำเนินการสืบสวนต่อไปเสียจะดีกว่า”

ในที่สุดเมื่อเขาเข้าไปในเทือกเขาอมันไบ และใกล้ฐานทัพที่ 2 ซุนเฉิงก็ตัดสินใจได้เสียที

เขาสลัดความคิดที่ค้างคาใจเหล่านั้นออกไปและมาถึงถ้ำใต้ดินที่ฐานที่ 2 ตั้งอยู่อย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้น เขาก็ออกคำสั่งให้บุคลากรทุกคนมารวมตัวกัน

“ข้ากลับมาแล้ว ทุกคนรวมตัวกันทันทีในห้องโถง 1 ข้ามีคำสั่งให้...”

หลังจากออกคำสั่งอย่างรวดเร็วให้ดีเซปติคอนทั้งหมดในฐานรวมตัวกัน ซุนเฉิงก็ไม่สนใจสิ่งสกปรกบนเส้นทางของเขา เขาเข้าไปในถ้ำใต้ดินและรีบไปที่ห้องโถง 1

หลังจากนั้นไม่นานเมื่อเขามาถึงห้องโถง 1 พวกดีเซปติคอนทั้งหมดในฐานทัพที่ 2 ก็หยุดกิจกรรมของพวกเขายกเว้นฟอร์เรนเนอร์ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในฐานทัพ พวกเขารวมตัวกันที่ห้องโถง 1 ของฐานทัพทันที

“นายท่านท่านกลับมาแล้ว!”

[ชื่อหุ่นยนต์ที่ ‘เฟรนซี่ (พระเอก)’ ตั้งชื่อให้ว่า ‘เฟรนซี่’ จากนี้จะขอเปลี่ยนเป็น ‘ฮิสทีเรีย’ เพื่อเลี่ยงความสับสนนะครับ]

เมื่อเห็นว่าซุนเฉิงมาถึง ฮิสทีเรียก็เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วด้วยความเคารพและเยินยอ

ในตอนนี้ เขาและฟอร์เรนเนอร์เป็นดีเซปติคอนระดับสูงสุดคอยรับใช้ซุนเฉิง แต่ด้วยความที่ฮิสทีเรียรับใช้เขามานานกว่าแอตลาส ทำให้ฮิสทีเรียมีสถานะที่สูงกว่ามาก

ดังนั้นหลังจากที่ฟอร์เรนเนอร์รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยโดยรวมของฐานที่ 2 ฮิสทีเรียที่แม้จะเป็นดีเซปติคอนที่สร้างขึ้นใหม่ เขาก็ได้รับความโปรดปรานอย่างมากจากซุนเฉิง จนในตอนที่ซุนเฉิงไม่อยู่ ตัวฮิสทีเรียก็จะคอยจัดการดูแลทุกอย่างในฐานทัพ โดยที่ไม่มีใครกล้าขัดเลย

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด