บทที่ 227 เบาะแสของสิ่งประดิษฐ์
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 227 เบาะแสของสิ่งประดิษฐ์
ซุนเฉิงเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อขณะที่มองแผ่นโลหะในมือของเขา
ไม่ว่าเขาจะปล่อยให้จินตนาการโลดแล่นไปไกลแค่ไหน คิดถึงความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าการเดินทางมายังที่นี่เพื่อค้นหาหินแปลก ๆ จะนำมาซึ่งการค้นพบเรื่องที่ไม่คาดคิดเช่นนี้
"นายพลบีสต์? สิบสามไพรม์? ดูเหมือนว่านี่อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกลืมของประวัติศาสตร์ไซเบอร์ตรอนสินะ..."
ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ซุนเฉิงเฝ้ามองข้อความที่นักรบจักรกลซึ่งเรียกตนเองว่า 'นายพลบีสต์' ทิ้งไว้บนแผ่นโลหะที่ยังคงเล่าเรื่องราว
ไม่มีวี่แววของความใจร้อนปรากฏบนใบหน้าของเขา ในทางกลับกัน มันกลับมีความตื่นเต้นอย่างเก็บอาการเอาไว้
นับตั้งแต่เขาได้ข้ามผ่านมายังโลกทรานส์ฟอร์เมอร์สอันน่าทึ่ง ไซเบอร์ตรอน คือดาวเคราะห์มหัศจรรย์ที่หล่อเลี้ยงเผ่าพันธุ์จักรกลอันมหัศจรรย์ มันได้ทำให้เขารู้สึกทึ่งมากที่ได้มารับรู้อะไรแบบนี้
ซุนเฉิงเคยคิดฝันไว้ด้วยซ้ำว่า สักวันหนึ่งในอนาคต เมื่อเขามีร่างกายจักรกลที่แข็งแกร่ง สามารถท่องไปในหมู่ดาวได้เหมือนกับผู้นำ เขาจะไปเยือนดาวไซเบอร์ตรอนด้วยตนเอง เพื่อเป็นสักขีพยานดาวลึกลับแห่งนี้
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงมีความสนใจอย่างมากในการสำรวจประวัติศาสตร์โบราณของไซเบอร์ตรอน ยิ่งหากมันเกี่ยวข้องกับยุคที่ถูกลืมและสูญหายไป เขายิ่งสนใจเข้าไปใหญ่
นอกจากนั้นแล้ว มันยังมีข้อมูลที่มีค่ามากมายซ่อนอยู่จากที่เขารู้อีกด้วย
"ควินเทสซ่า? นี่น่าจะเป็นผู้รุกรานดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอน ผู้ที่บุกและกดขี่ดาวดวงนี้ก่อนยุคสภาโบราณ... แต่สิบสามไพรม์งั้นเหรอ? นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินคำนี้... ออนิกซ์ไพรม์ เมกะทรอนไพรม์ โซลัสไพรม์ ท่านผู้นำแม็กซิโม สี่ในสิบสามไพรม์ที่รู้จัก ข้าสงสัยเหลือเกินว่าอีกเก้าคนจะเป็นใคร... ส่วนเรเควี่ยมบลาสเตอร์ มันต้องเป็นอาวุธที่ไม่ธรรมดาเป็นแน่..."
จิตใจของเขาประมวลผลข้อความเสียงที่นายพลบีสต์ทิ้งไว้อย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกัน ภาพฉายของนายพลบีสต์จากแผ่นโลหะยังคงพูดกับตัวเองต่อไป
"...เราไล่ล่าท่านผู้นำแม็กซิโมอย่างไม่ลดละ ขณะเดียวกันก็ค้นหาดวงดาวที่เหมาะสมเพื่อเติมพลังงานให้กับออลสปาร์ค..."
"ทว่า ไม่มีใครรู้เลยว่า ท่านแม็กซิโมได้วางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว..."
"...เขาได้วางแผนชักนำเรา คาดการณ์ทุกอย่างล่วงหน้าว่าเราจะเดินทางข้ามกาแล็กซีและมาถึงระบบดาวอันห่างไกลแห่งนี้..."
"ซึ่งตามที่ท่านแม็กซิโมคาดการณ์ไว้ เมกะทรอนไพรม์นั้นจะเลือกดวงอาทิตย์ เขาพยายามที่จะทำลายดาวดวงนี้และควบคุมพลังงานมหาศาลของมันเพื่อปลุกสปาร์คของบรรพบุรุษ โซลัสไพรม์ ให้ตื่นจากการหลับใหลอันเป็นนิรันดร์..."
"...บรรพบุรุษอีกหกคนปฏิเสธข้อเรียกร้องของเมกาโทรนัสไพรม์ เพราะพวกเขารู้ว่าสิ่งมีชีวิตที่ได้วิวัฒนาการแล้วบนดาวเคราะห์ที่อยู่ติดกับดวงอาทิตย์ดวงนี้"
"ทว่า ความรู้สึกผิดและความปรารถนาอันท่วมท้นมากมายก็ผลักดันให้เมกาโทรนัสไพรม์ให้กลายเป็นผู้ที่เลวร้ายยิ่ง ทำให้เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เสื่อมทราม หลังจากถูกปฏิเสธโดยเมททริกซ์แห่งจิตพลังผู้นำอีกครั้ง เขาได้ทำร้ายสิบสามไพรม์และหลบหนีไปพร้อมกับโมดูล ยึดมั่นในความปรารถนาที่จะทำลายดวงดาว...”
"และแล้ว ยุคใหม่แห่งสงครามของเหล่าไพรม์ก็เริ่มต้นขึ้น!"
"อะมัลกามัสไพรม์ เป็นคนแรกที่ร่วงหล่นไป อะมัลกามัลไพรม์ขาขวาแตก ควินตัสไพรม์แขนขาดทั้งสองข้าง..."
"เขาคือหนึ่งในนักรบที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาไพรม์ การกระทำของเมกะทรอนนัสไพรม์ทําให้คนอื่น ๆ เริ่มตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าพวกเขาต้องรวมตัวกัน"
"ดังนั้นในการต่อสู้เพื่อความเป็นเอกภาพ สิบสามไพรม์จึงต่อสู้กับเมกะทรอนนัสไพรม์อย่างดุเดือด ไมโครนัสไพรม์ฉวยโอกาสขโมยเมททริกซ์แห่งจิตพลังผู้นำ แต่เมื่อพยายามหลบหนี เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับเมกะทรอนนัสไพรม์...”
"ด้วยความช่วยเหลือของหน้ากากทริปทิช ท่านผู้นำออนิกซ์ไพรม์จึงรับรู้ว่าในอนาคตอีกไม่นานตนจะต้องตาย ดังนั้นเขาจึงคอยรั้งท้ายไว้เพื่อหยุดยั้งเมกะทรอนนัสไพรม์ ในขณะที่เราเริ่มอพยพไปพร้อมกับบรรพบุรุษคนอื่น ๆ ...""
"...ระหว่างการอพยพ เราได้พบกับกลุ่มสัตว์ประหลาดจักรกลที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งนำมาโดยออนสลอต บัดซบ สิ่งมีชีวิตที่ท่านผู้นำแม็กซิโมสร้างขึ้นเหล่านี้มาถึงโลกได้ยังไงกัน?"
“หลังเรื่องราวการต่อสู้อันดุเดือดทุกอย่างจบลง เราสูญเสียนักรบไปมากมาย และบรรพบุรุษหลายคนก็หายสาบสูญไป หลังจากได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหลบหนีไปยังหุบเขาและเข้าสู่ภาวะหยุดนิ่งเป็นเวลานาน...”
"เมื่อตื่นขึ้น โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่โลกก็ยังคงเป็นดาวเคราะห์ดวงเดิม มีจำนวนสัตว์ลดลง แต่อารยธรรมเพิ่มขึ้น ทว่า แม้จะค้นหาทุกซอกทุกมุมของโลก ข้าก็ไม่พบร่องรอยของญาติพี่น้องของข้าเหลืออยู่เลย..."
"การค้นหาที่ยาวนานทำให้พลังงานของข้าลดลงเรื่อย ๆ ร่างกายจักรกลของข้าเริ่มสึกกร่อนและเสื่อมถอย เกราะด้านนอกก็สลายตัวและแตกสลาย... ข้ารู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงจุดจบของชีวิตข้าที่กำลังใกล้เข้ามา..."
"ข้าได้พบกับข้อความจากดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอนในหลายส่วนของโลก ซึ่งหลายข้อความถูกทิ้งไว้โดยนักสำรวจอย่างข้า จากข้อมูลที่พวกเขาทิ้งไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เมกะทรอนนัสไพรม์หาเมททริกซ์แห่งจิตพลังผู้นำพบ เหล่าบรรพบุรุษจึงยอมเสียสละตนเองและผนึกมันไว้ในสุสานของตนเอง... ข้าเชื่อว่าข้าอาจจะไม่มีวันได้กลับไปไซเบอร์ตรอนอีกแล้ว..."
"ความทรงจำของข้าเริ่มมีปัญหา...ช่วงนี้ข้าเริ่มลืมอะไรหลายๆ อย่าง..."
"เวลาของข้าเหลือน้อยลงแล้ว และก่อนที่จะกลับไปหาออลสปาร์ค ข้าต้องรักษาสิ่งที่ข้าจำได้เสียก่อน..."
"เมกะทรอนนัสไพรม์เคยกล่าวถึงเรเควี่ยมบลาสเตอร์ ว่ามันคือสร้างเครื่องจักรที่สามารถทำลายดวงดาวได้ มันถูกซ่อนไว้ในบริเวณที่ใกล้ที่สุดกับดวงดาวบนโลกใบนี้..."
"ในระหว่างการเดินทางอันยากลำบาก ข้าได้พบกับกลุ่มสิ่งมีชีวิตจักรกลที่ชั่วร้ายและขัดแย้งกัน ซึ่งพวกมันรับใช้สิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่า 'ท่านผู้นำฟอลเลน' พวกมันก็กำลังตามหาเมททริกซ์แห่งจิตพลังผู้นำเช่นกัน...ช่างน่าเศร้า สติปัญญาของข้าในยามนี้เริ่มไม่อาจจดจำ แยกแยะหรือทำอะไรได้แล้วอีกต่อไป..."
"...ช่างน่าขันนัก ที่ในการเดินทางครั้งสุดท้ายของข้า ข้า...ได้พบกับสิ่งที่แม้แต่บรรพบุรุษยังปรารถนา...ทว่า มันกลับไม่มีประโยชน์สําหรับข้าอีกต่อไป ทางที่ดีควรปล่อยให้มันอยู่เฉย ๆ ในที่ที่มันอยู่..."
"แม้แต่การยืนและเดินก็กลายเป็นเรื่องยากมาก ดูเหมือนว่าชีวิตของข้ามาถึงช่วงเวลาวาระสุดท้ายแล้ว..."
"บางทีวันนี้ ข้าควรเริ่มทิ้งอะไรไว้เสียหน่อย…ก่อนที่วิญญาณของข้าจะกลับมารวมกับออลสปาร์ค จริงสิ ข้าสามารถเก็บรักษาความทรงจําเหล่านี้ไว้โดยใช้กระดานความทรงจําได้..."
"ถึงผู้สืบทอดในอนาคต เมื่อพวกเจ้าได้ถอดรหัสบันทึกของข้าและได้พบเห็นสิ่งเหล่านี้ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะมีจิตใจที่ไม่หวั่นไหวต่ออำนาจและไม่ถูกครอบงำด้วยความโลภ... หากพวกเจ้ายังคงมีความเฉลียวฉลาดและความกล้าหาญ ข้าขอวิงวอนให้พวกเจ้าสานต่อภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น ปกป้องสุสานของบรรพบุรุษจากการรุกล้ำ คุ้มครองเมททริกซ์แห่งจิตพลังผู้นำไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนชั่ว...
"ไซเบอร์ตรอนจงเจริญ!"
"รู้สึกดีเหลือเกินเหมือนข้ากำลังได้กลับบ้านเลย..."