บทที่ 146 พลังเสือห้าตัว!
ค่ำคืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในห้องนั้น หลัวเฉิงฝึกฝนอย่างหนักโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกับวิชามังกรแท้!
คืนนี้ เขากลืนโอสถสามดาวห้าเม็ดในคราวเดียว หากคนทั่วไปเห็นคงคิดว่าเขาเสียสติไปแล้วแน่ๆ!
หลังจากฝึกฝนจนถึงตอนนี้ กล้ามเนื้อและเส้นชีพจรทั่วร่างเริ่มส่งความเจ็บปวดให้เขา ซึ่งทุกครั้งที่เขาโคจรปราณแท้ กล้ามเนื้อและเส้นชีพจรทุกเส้นประหนึ่งถูกมีดที่คมกริบฟาดฟันใส่ไม่ยั้ง
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ส่งผลให้ความสามารถในการบ่มเพาะเขาด้อยประสิทธิภาพลงมาก
กระนั้นแล้ว หลัวเฉิงก็ไม่ได้หยุดฝึกฝนแต่อย่างใด
เวลานี้ ปราณแท้ในร่างกำลังสั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง และความเจ็บชาบนกระดูกของหลัวเฉิงซึ่งคล้ายดั่งถูกเข็มนับหมื่นเล่มทิ่มแทงก็เริ่มทวีความเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ
นับว่ายามนี้คือช่วงเวลาอันสำคัญยิ่ง!
การตีเหล็กต้องตีในขณะที่ยังร้อนอยู่ คิ้วของหลัวเฉิงขมวดเข้าเป็นปมพร้อมกับแสดงความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม เขายังคงกัดฟันฝืนอดทนต่อไป
บูม!
ด้วยเสียงห้วงอากาศรอบตัวถูกเขย่าอย่างรุนแรง รัศมีที่มองไม่เห็นถูกแผ่ออกมาจากร่างของหลัวเฉิง พานให้ในห้องนั้นดุจดั่งเกิดพายุโหมกระหน่ำ!
แคร๊ก!
เสียงกระดูกลั่นดังก้องออกมาจากร่างของหลัวเฉิง พร้อมกับสิ่งสกปรกสีดำจำนวนมากถูกขับออกมาจากร่างนั้น!
ชั่วขณะหนึ่ง เมื่อทุกอย่างสงบลงหลัวเฉิงก็เปิดตาขึ้น ในดวงตาประกายแสงอันเฉียบคมวาวราวกับแสงกระบี่!
“ปราณแท้หลั่งไหลเข้าสู่ไขกระดูก นี่มันขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่!”
ดวงตาของหลัวเฉิงเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ
การฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งโดยการกลืนโอสถสามดาวห้าเม็ดคราเดียวในคืนนี้ ด้วยการรับความเสี่ยงที่ส่งผลต่อความเป็นตาย ท้ายที่สุดความพยายามนั้นก็ไม่สูญเปล่า!
เพราะในตอนนี้ เขาได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่สำเร็จแล้ว
ทันทีที่ผลักกายลุกขึ้นยืน หลัวเฉิงก็ต้องแสดงสีหน้าตกตะลึงทันใด
ด้วยร่างกายยามนี้นั้นแตกต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง!
ความรู้สึกยามนี้ประหนึ่งเป็นขุนเขาขนาดใหญ่ ทั่วร่างคล้ายจะมีความแข็งแกร่งอันไร้สิ้นสุด!
เมื่อเขาหลับตาแล้วมองอย่างลึกเข้าไปภายใน มวลกระดูกของเขากระจ่างใสส่องประกายแวววาวประดุจหยก!
“นี่คือขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่! ปราณแท้แทรกซึมเข้าสู่กระดูก ทั้งตัดต่อประสานและชำระล้างไขกระดูก ยามนี้ใครกระดูกถูกขัดเกลาจนกระจ่างใสคล้ายน้ำแข็งค้าง! ช่างน่าอัศจรรย์นัก!”
หลัวเฉิงพึมพำกับตนเองด้วยความประหลาดใจ แต่ทันใดก็เริ่มรู้สึกอยากทดสอบพละกำลังของตนจึงชกหมัดตัดอากาศออกไปในทันที
ฟึบ!
เสียงลมที่ถูกหมัดฉีกกระชากร่ำร้องก้องไปทั่วสี่ทิศแปดด้าน มวลอากาศคล้ายกำลังก่อเกิดเป็นคลื่นลูกใหญ่ ทั้งหน้าต่างและประตูถูกเขย่าจนสั่นสะเทือนคล้ายมันกำลังหนาวสะบั้น
“โอ้… หมัดนี้ต้องมีพลังอย่างน้อยสองถึงห้าหมื่นจินเป็นแน่! และมันเทียบได้กับผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า!”
เมื่อรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นในหมัดนี้ ดวงตาของหลัวเฉิงก็ฉายแววตกตะลึงในทันที
ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าคล้ายดั่งได้กำเนิดใหม่ และพลังที่เขาได้ครอบครองเทียบเท่ากับเสือห้าตัว! นั่นคือห้าหมื่นจิน!
ทว่าเขาเพิ่งทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่เท่านั้น แต่กลับมีพลังเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าแล้ว!
“ตอนนี้ ความแข็งแกร่งของข้าเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า ผู้ฝึกยุทธ์ระดับห้ามีโลหิตในร่างที่บริสุทธิ์ และพลังในการต่อสู้นั้นไม่อาจคาดคะเน ด้วยความแข็งแกร่งของเขาเพียงอย่างเดียวนั้นย่อมไม่อาจคว้าสิบอันดับแรกในการทดสอบชิงอื่นได้อย่างแน่นอน”
แม้เขาจะประสบความสำเร็จในการทะลวงระดับ แต่หลัวเฉิงก็ตระหนักถึงความสามารถตนว่ายังมิอาจเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าได้
“ข้าทำได้เพียงรอจนกว่าจะเข้าสู่เกาะชิงอวิ๋น แล้วกลืนวิญญาณสัตว์อสูรให้มาก เมื่อถึงตอนนั้นวิชามังกรแท้ย่อมทะลวงระดับได้เป็นแน่!”
ตราบใดที่ปราณมังกรได้รับการเปลี่ยนแปลงเป็นหนที่สอง ความแข็งแกร่งและพลังของหลัวเฉิงจะก้าวหน้าขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง!
เมื่อถึงตอนนั้น มันย่อมเป็นเรื่องง่ายกว่าหากต้องการแข่งขันชิงสิบอันดับแรกในการทดสอบชิงอวิ๋น!
นอกหน้าต่าง แสงยามเช้าอันนุ่มนวลสาดส่องฟุ้งกระจายคล้ายดั่งควัน
หลัวเฉิงรีบอาบน้ำในช่วงเวลาอันสั้น แล้วเปลี่ยนอาภรณ์ชุดใหม่ คว้ากระบี่ทลายสวรรค์ขึ้นมาแล้วย่างไปยังจัตุรัสหยกขาวภายใต้แสงตะวันรอนๆ ของยามเช้า