ตอนที่ 8 ป่วยหนัก
โรงพยาบาลในตอนเช้าเต็มไปด้วยคนไข้ที่มารอรับการรักษา พวกเขามาจากทั่วประเทศเพราะชื่อเสียงของโรงพยาบาลอันดับหนึ่งในกรุงปักกิ่ง
ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์และอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุด
เมื่อพวกเขามาถึงล็อบบี้ของแผนกฉุกเฉินก็เต็มไปด้วยผู้คนแล้ว สภาพแวดล้อมตึงเครียดและวุ่นวาย หมอทุกคนก็ยุ่งมาก สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเสียงครวญครางของผู้ป่วย เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากสมาชิกในครอบครัวและเสียงโทรศัพท์
“พ่ออยู่ไหน” ซูฮั่นหยวนหันไปถามซูจิ่งรุ่ยเมื่อเธอไม่เห็นซูต้าเจียงอยู่รอบ ๆ
“ฉันไม่รู้ เดินดูรอบ ๆ แล้วกัน” ซูจิ่งรุ่ยก็กังวลเช่นกัน “หรือจะถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดไปแล้ว?”
“พ่อป่วยเป็นอะไร”
“ไม่รู้ พอลงจากรถไฟถึงบ้านก็บอกว่าไม่สบาย ข้าวเช้าก็กินได้นิดหน่อย บอกว่าปวดท้อง… หลังจากนั้นก็บอกว่าเจ็บมาก พวกเราก็เลยพาพ่อไปที่โรงพยาบาล”
“ไม่ได้พาพ่อไปที่แผนกผู้เชี่ยวชาญเหรอ? ทำไมถึงมาที่แผนกฉุกเฉินล่ะ”
“ก็เพราะพ่อเจ็บจนหมดสติไงเล่า!”
“เข้าใจแล้ว!”
เธอค้นหาในล็อบบี้ที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน ทันใดนั้นก็ได้ยินคนเรียกว่า “หยวนหยวน จิ่งรุ่ย ทางนี่!”
เธอหันไปตามเสียงและเห็นคนตระกูลซูอยู่ที่มุมๆหนึ่ง
เธอรีบวิ่งเข้าไปหาและเห็นซูต้าเจียงนอนอยู่บนเก้าอี้ธรรมดา ดวงตาของเขาปิดสนิทและคิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย ผมบนขมับเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว และใบหน้าก็เต็มไปด้วยร่องรอยของบุคคลที่ประสบความยากลำบากมานับไม่ถ้วนในชีวิต
นี่คงเป็นพ่อของเจ้าของร่างเดิม!
"พ่อ" เธอเรียกเขาเบา ๆ
ผู้ชายหน้าซีเซียวดูขี้โรคเหมือนจะได้ยินเสียงเรียกของเธอขณะที่เปลือกตาของเขาเปิดขึ้นเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นเธอ แววตาของเขาก็อ่อนลงทันที จากนั้นเขาก็หลับตาลงและหมดสติไป
สถานการณ์ของเขาดูเหมือนจะร้ายแรงมาก หากไม่ได้รับการรักษาทันเวลา เนื้อเรื่องเดิมก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ซูต้าเจียงจะตายในโรงพยาบาลแห่งนี้!
“เรียกหมอแล้วเหรอคะ?” เธอเงยหน้าขึ้นและถามเว่ยกุ้ยฉิน
“เรียกแล้ว หมอบอกว่าจะมาคุยด้วยทีหลัง ตอนนี้แผนกฉุกเฉินยุ่งมาก พวกเขาไม่สามารถมาดูแลพ่อแกได้ แม่ไปเอาคิวจากแผนกผู้เชี่ยวชาญก่อนแล้ว” เว่ยกุ้ยฉินดูกังวลเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เธอทำได้เพียงกังวล ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
“น้องสาม แกไปเรียกหมออีกครั้งสิ!” ซูจิ่งเหิง พี่ชายคนโตพูด “แกกล้าที่สุดในบ้านแล้วและไม่กลัวคนแปลกหน้า ไปตามหมอเถอะ!”
“จริงด้วย!”
ซูจิ่งรุ่ยเกาหัว ดูหงุดหงิด “ก่อนที่ฉันจะไปรับฮั่นหยวน ไม่ใช่ว่าพวกเราเรียกหมอแล้วรึไง? ก็เห็นกันแล้วนี่นาว่าพวกเขาไม่มีเวลามาดูแลเรา เราทำได้แต่รอเท่านั้น!”
“พวกเราทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” เว่ยกุ้ยฉินกังวลมากจนเแทบจะร้องไห้ออกมา
“ฉันจะไปเอง!” ซูฮั่นหยวนยืนขึ้น สายตามองตามหมอที่วิ่งไปวิ่งมา เธอคว้าตัวหมอที่ใกล้ที่สุดและจับเขาไว้ “หมอคะ ได้โปรดดูพ่อของฉันด้วย เขาไม่กินข้าวเช้าเพราะปวดท้องมาก ตอนนี้เจ็บจนหมดสติไปแล้ว!”
“คนไข้เจ็บจนหมดสติ? ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันใช่ไหม? รีบไปที่แผนกผู้เชี่ยวชาญรับวิตามินก่อน นี่อาจจะช่วยได้ก่อน!” หมอพูดขณะที่เขามองไปข้างนอก
“ไม่ ฉันว่าพ่อไม่น่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ คุณหมอช่วยไปดูพอฉันทีค่ะ ถ้าช้ากว่านี้พ่อฉันอาจเสียชีวิตได้!” เธอมั่นใจว่าถ้าเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ซูต้าเจียงคงไม่เสียชีวิตหลังจากถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล
ต้องมีอย่างอื่นที่ทำให้เขาเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนไม่ได้เขียนเกี่ยวกับโรคในนิยาย ดังนั้นเธอจึงได้แต่เดาได้ว่ามันต้องร้ายแรง