บทที่ 99: ที่ซึ่งหัวใจอยู่
แฟรงค์สาบานได้เลยว่าเขาไม่เคยเจอชายคนนี้มาก่อน ในเมื่อโร้ดมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะลืมเขาหลังจากเห็นเขาเพียงครั้งเดียว แต่เขากลับพูดถึงตัวตนของเขา ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก
เขารู้ตัวตนของข้าได้ยังไง?
ในตระกูลเชลิส ข้าเป็นเพียงแค่คนไร้ตัวตน
แม้แต่ในวงสังคมของขุนนางที่บาร์ซ ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้จักชื่อของข้า
แล้วชายหนุ่มคนนี้รู้ได้ยังไง?
แม้ว่าเขาจะตกใจ แต่แฟรงค์ก็รีบเก็บอาการ เขายิ้ม และตอบกลับไปราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
"ข้าไม่คิดเลยว่าคุณโร้ดจะรู้จักคนไร้ค่าอย่างข้า น่าแปลกใจจริงๆ"
"ไม่มีอะไรน่าแปลกใจหรอก บาร์ซไม่ได้อยู่ไกลจากบ้านเกิดของผม ผมเคยเห็นคุณสองสามครั้ง แต่ดูเหมือนว่าคุณแฟรงค์จะลืมไปแล้ว ไม่แปลกหรอก เพราะพวกเราไม่เคยคุยกันมาก่อน แต่..."
โร้ดยังคงทำหน้าเย็นชาเช่นเคย แต่แววตาของเขานั้นดูเยาะเย้ย
"วงสังคมของขุนนางมันแคบจริงๆ นั่นแหละ"
"นั่นสินะครับ คุณโร้ด"
แฟรงค์รู้สึกสงสัยเมื่อได้ยินคำพูดของโร้ด เขาเคยสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับโร้ด ดังนั้นเขารู้ว่าโร้ดมาจากที่ราบด้านตะวันออก แม้ว่าสถานที่แห่งนั้นจะไม่ได้อยู่ไกลจากตระกูลเชลิสในเมืองบาร์ซ แต่มันก็เป็นสถานที่ที่โดดเดี่ยว แม้แต่อาณาจักรมุนน์ยังไม่ค่อยรู้เรื่องที่นั่น ไม่ต้องพูดถึงบาร์ซ แม้ว่าขุนนางจากทั้งสองฝ่ายจะมีปฏิสัมพันธ์กันบ้าง แต่มันก็เป็นเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง อันที่จริง เขาเคยเห็นขุนนางจากที่ราบด้านตะวันออกมาบ้าง แต่... ไม่เคยเห็นชายคนนี้?
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้แฟรงค์ไม่ได้แค่รู้สึกสับสนเท่านั้น แต่ยังรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย เขาชอบทำตัวลึกลับ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย ท้ายที่สุดแล้ว โร้ดไม่ได้ลังเลที่จะเปิดเผยตัวตนของเขา ทำให้แฟรงค์รู้สึกไม่สบายใจ เขารู้สึกได้ถึงความสงสัยจากประธานเฒ่าและเซเรค แต่ตอนนี้ หนีไม่พ้นแล้ว
ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ แล้วตอบกลับไป
"ข้าก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน อันที่จริง ท่านพ่อให้ข้าออกเดินทางเพื่อหาความรู้ และข้าก็เรียนรู้วิชาดาบมาตั้งแต่เด็ก เพราะข้ามีพรสวรรค์ด้านนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างเพื่อรับประสบการณ์ แต่ข้าไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น... เพื่อที่จะรักษากลุ่มทหารรับจ้างเอาไว้ ข้าจึงต้องทำแบบนี้"
"ทายาทขุนนางอยากเป็นทหารรับจ้างงั้นเห?"
โร้ดมองดูเขาอย่างสงสัย
"คุณเชลิสคงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้หรอกใช่ไหม? ท้ายที่สุดแล้ว..."
"ข้าไม่ได้ตั้งใจจะขออนุญาตท่านพ่อ ข้ารู้ว่าทหารรับจ้างไม่ชอบขุนนาง แต่หลังจากที่ข้าใช้เวลากับพวกเขามาหลายวัน ข้าก็รู้สึกว่าการเป็นทหารรับจ้างไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ล่ำลือ ข้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อช่วยพวกเขา ข้าถึงฝ่าฝืนคำสั่งท่านพ่อ"
"ถ้างั้นก็เป็นแบบนี้นี่เอง"
โร้ดพยักหน้ารับ เขายกมือออก
"ผมหวังว่าคุณจะทำสำเร็จนะครับ"
"ขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับ คุณโร้ด ข้าก็ขอให้กลุ่มทหารรับจ้างของท่านโชคดีเช่นกัน"
แฟรงค์พยักหน้าให้โร้ด จากนั้นเขาก็หันหลังกลับ และเดินจากไป
"เจ้ารู้จักเขาเหรอ?"
หลังจากที่ประตูปิดลง ประธานเฒ่าก็ขมวดคิ้ว เขามองดูโร้ดอย่างสงสัย
"ผมเคยเห็นเขามาบ้างจากที่ไกลๆ ผมรู้จักเขา แต่เขาไม่รู้จักผมหรอกครับ"
โร้ดตอบอย่างตรงไปตรงมา และแสร้งทำเป็นไม่สนใจ จากนั้นเขาก็ถามว่า
"แต่ผมไม่คิดเลยว่าเขาจะมาที่นี่เพื่อเป็นทหารรับจ้าง"
"เขาอยู่ที่นี่มาหนึ่งปีแล้ว"
ประธานเฒ่าพูด
"ตอนที่ข้าเห็นเขาครั้งแรก ข้าไม่อยากรับเขาเข้ามา แต่หมอนี่มันพูดเก่ง และเขาก็เก่งจริงๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าแนะนำเขาให้กับ 'หยกน้ำตา' ข้าได้ยินมาว่าเขาทำได้ดี ในการต่อสู้กับอันเดด หัวหน้าและรองหัวหน้าของหยกน้ำตาได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้เขาเป็นคนดูแลกลุ่มทหารรับจ้าง ดูเหมือนว่าเขาจะทำได้ดี"
หนึ่งปีก่อน?
ถ้างั้นพวกมันก็วางแผนเรื่องนี้มานานแล้วสินะ...
ฮึ่ม ประเทศแห่งแสงสว่างกำลังเล่นใหญ่จริงๆ
หลังจากได้ยินประธานเฒ่าเล่า โร้ดก็ขมวดคิ้ว แต่เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ เห็นได้ชัดว่าประธานเฒ่านั้นเหนื่อยล้ามาก เพราะเกิดเรื่องมากมายขึ้นในสมาคม ในฐานะผู้นำ เขาคงยุ่งมาก
"เอาล่ะ พอแล้ว เจ้าหนู เจ้ายังมีธุระอะไรกับข้าอีกไหม? ถ้าไม่มีก็ไปเถอะ ข้าเหนื่อย อยากจะพักผ่อน"
"เดี๋ยวก่อนครับ ท่านประธาน เรื่องรางวัลสำหรับภารกิจนี้... ตามข้อตกลง ตราบใดที่ผมพาทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัย ท่านก็จะมอบรางวัลให้กับผมเป็นสองเท่า ตอนนี้ ผมพาทุกคนกลับมาแล้ว และลูกน้องของผมก็บาดเจ็บระหว่างทำภารกิจ ท่านควรแสดงความจริงใจหน่อย ใช่ไหมครับ?"
"เจ้า... เจ้า... เฮ้อ..."
"อย่างที่ท่านเห็น ตอนนี้สมาคมกำลังมีปัญหาใหญ่ เจ้ารอไม่ได้หน่อยหรือไง? เจ้ารีบซื้อโลงศพหรือไง?"
"เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น เรื่องนี้ก็ส่วนเรื่องนี้ แน่นอนว่าข้ารู้เรื่องปัญหาของสมาคม แต่ท่านก็ไม่ควรใช้มันเป็นข้ออ้างปฏิเสธรางวัลของข้า ตามข้อตกลง โปรดมอบรางวัลให้กับข้าด้วย"
"ไอ้เด็กโลภมาก!!!"
ในเวลานั้น เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวของประธานเฒ่าก็ดังก้องไปทั่วเมืองหินลึก
แอนลืมตาขึ้น
เธอจ้องมองไปที่เพดานสีขาวอย่างเหม่อลอย แล้วหันไปมองหน้าต่าง ตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว ใกล้จะมืดแล้ว เปลวไฟเล็กๆ สั่นไหวบนไส้เทียน สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสงบสุขในห้อง
"ข้า..."
แอนตื่นขึ้นมา เธอส่ายหัว เตียงนุ่มๆ ห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงาม กลิ่นหอมของดอกไม้และพืชพรรณทำให้จิตใจที่เคยสับสนของเธอแจ่มใสขึ้น
"ใช่แล้ว... ข้ากำลังต่อสู้กับอัศวินมรณะ แล้วข้าก็..."
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเธอก็ซีดเผือดลง ราวกับว่าเธอนึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัว เธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
ข้า... ข้า... ข้าแปลงร่าง...?
...ต่อหน้าหัวหน้า?
ต่อหน้าพี่สาว?
ข้า... ข้าทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ?
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้แอนตกใจ เธอเผลอร้องออกมา
"ใครน่ะ?!"
"ข้าเอง ไลซ์ ในที่สุดเจ้าก็ตื่นแล้วเหรอ? แอน?"
พร้อมกับประโยคนี้ ไลซ์ก็ถือซุปร้อนๆ เข้ามาในห้อง เธอมองดูแอน และยิ้มออกมา
"ดีใจจัง! ในที่สุดเจ้าก็ตื่น! รู้สึกยังไงบ้าง? เจ้าหมดสติไปเกือบสองวันแล้ว คงหิวแย่ ซุปถ้วยนี้ทำโดยลุงวอล์คเกอร์ ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะชอบมัน"
ไลซ์วางชามลงบนโต๊ะ เห็นได้ชัดว่าแอนไม่ได้ดูร่าเริงเหมือนปกติ ในทางกลับกัน เธอกอดผ้าห่มเอาไว้แน่น ปกปิดร่างกายและใบหน้าของเธอ เผยให้เห็นเพียงแค่ดวงตาที่กระพริบปริบๆ ซึ่งเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ
"พี่... พี่สาว... ท่านไม่กลัวข้าเหรอคะ?"
"เอ๊ะ?"
เมื่อได้ยินคำถามของแอน ไลซ์ก็หันไปมองเธออย่างสงสัย
"ขะ... ข้าแปลงร่างใช่ไหม?"
แอนไม่สนใจสายตาของไลซ์ เธอพูดตะกุกตะกักด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว
"ข้าแปลงร่างเป็น... ใช่ไหมคะ? พี่สาว? ทุกคนคงกลัวข้าแน่ๆ ข้า... ข้า..."
"เป็นฮาล์ฟบีสท์ใช่รึเปล่า?"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ แอนก็ตัวสั่นอีกครั้ง เธอกอดผ้าห่มแน่น และก้มหน้าลง เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองไลซ์ ตอนนี้ เธอกำลังกังวลใจ เพราะเธอไม่รู้ว่าจะทำยังไง มันเป็นความผิดของเธอ เธอควรจะบอกทุกคนตั้งแต่แรก แต่เธอไม่กล้า เพราะอดีตหัวหน้าบอกให้เธอเก็บเป็นความลับ ปฏิกิริยาของคนในกลุ่มทหารรับจ้างเก่าของเธอ หลังจากที่เธอแปลงร่าง ฝังลึกอยู่ในใจของเธอ ทุกคนแสดงสีหน้าหวาดกลัวและเกลียดชัง ตอนนี้ มันเกิดขึ้นอีกแล้ว พี่ไลซ์กับหัวหน้าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร?
พวกเขาไม่ต้องการข้าแล้วเหรอ? พวกเขาจะไล่ข้าออกเหรอ?
ขณะที่แอนกำลังคิดมาก มือข้างหนึ่งก็ลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยน
"ยัยโง่เอ้ย"
ไลซ์ลูบหัวของเธอเบาๆ เธอยิ้มอย่างอ่อนโยน ขณะที่มองดูเด็กสาวที่กำลังตัวสั่นอยู่ตรงหน้า ตอนที่เผชิญหน้ากับอัศวินมรณะ เธอยังไม่หวาดกลัวขนาดนี้ เมื่อมองดูเธอตอนนี้ มันเหมือนกับว่าโลกกำลังจะแตกสลาย
"พูดตามตรง ทุกคนตกใจกันมาก แต่พวกเขาไม่ได้กลัว มาร์ลีน โร้ด และข้า พวกเราไม่ได้กลัวเจ้า อย่าคิดมากเลย เจ้าปกป้องพวกเราจากศัตรูที่อันตราย พวกเราต้องขอบคุณเจ้าต่างหาก ทำไมพวกเราถึงต้องกลัวเจ้าด้วย?"
"พี่ไลซ์..."
แอนเงยหน้าขึ้นมองไลซ์ ดวงตาสีเขียวสวยๆ ของเธอเป็นประกาย ไลซ์ไม่ได้หลบสายตา เธอมองแอนด้วยความอบอุ่น หลังจากนั้นไม่นาน แอนก็ยิ้มออกมาอย่างบริสุทธิ์และมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เธอโผเข้ากอดไลซ์
"แอนชอบพวกท่านทุกคนมากเลยค่ะ!"
"แอน?"
ไลซ์ยิ้ม เมื่อเห็นแอนกอดเธอ ถ้าตอนนี้แอนมีหาง มันคงกระดิกไปมาเหมือนกับ...
"แต่แอน เจ้าต้องเตรียมตัวเอาไว้นะ"
"เอ๊ะ?"
แอนหยุดเคลื่อนไหว เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของไลซ์
"เจ้าขัดคำสั่งคุณโร้ด มันทำให้เขาโกรธมาก ระหว่างทางกลับ เขายืนยันว่าจะลงโทษเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องเตรียมใจเอาไว้นะ การลงโทษของคุณโร้ดนั้นน่ากลัวมาก"
"นี่... นี่..."
เมื่อได้ยินคำพูดของไลซ์ แอนก็แสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ ในตอนที่เธอกำลังจะหาข้อแก้ตัว เสียงท้องร้องก็ดังขึ้น
"กรู..."