ตอนที่แล้วบทที่ 78 เหตุผลที่ถังเว่ยเว่ยเข้าร่วมสถาบันเจียงหลิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 80 ไป๋เยว่กวงผู้ไร้ความปรานี

บทที่ 79 ภูเขาน้ำแข็ง


เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อสวี่ชิวเหวินตื่นขึ้นมา ห้องนอนก็เต็มไปด้วยควัน

จินฮ่าวหนาน หลิวจื้อฮ่าว และหยางไป่ซานต่างมีสีหน้าซีดเซียว

สวี่ชิวเหวินตระหนักได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เมื่อมองดูอย่างจริงจังจะเห็นว่าแม้แต่หวังจวิ้นไฉก็ไม่ได้เล่นเกม แต่มีสีหน้าเศร้าบนใบหน้าของเขา

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมทำหน้าแบบนั้นกันแต่เช้า”

“เกิดปัญหาใหญ่แล้ว!”

“เช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?”

เป็นผลให้ไม่มีใครตอบกลับเขา

หยางไป่ซานหยิบกล่องบุหรี่ออกมา สูบแล้วส่งบุหรี่ให้สวี่ชิวเหวิน โดยถือไฟแช็กไว้ในมือราวกับว่าเขาต้องการจุดบุหรี่ให้กับสวี่ชิวเหวิน

สวี่ชิวเหวินเงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าดวงตาของหยางไป่ซานเป็นสีแดง

เขารับบุหรี่มาแต่ไม่ได้สูบ จากนั้นจึงรีบถาม “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณถึงร้องไห้?”

หยางไป่ซานขยี้ตาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ไม่เป็นไร... ฉันแค่รอให้นายหาวิธีแก้ปัญหา”

สวี่ชิวเหวินผงะ “คุณกำลังพูดถึงอะไร? เกิดอะไรขึ้น บอกฉันมาสิ!”

จินฮ่าวหนานสูบบุหรี่เสร็จแล้ว โยนก้นบุหรี่ลงในถังขยะแล้วพูดกับสวี่ชิวเหวินว่า “หยางไป่ซาน ไอ้เด็กนี่ตื่นแต่เช้าตรู่ เมื่อเห็นว่าเรายังไม่ตื่นจึงหยิบบัตรออกกำลังกายตอนเช้าของเราไปประทับตรา มันคิดว่าคงไม่เป็นไรแต่บัตรของเราทั้งหมดกลับโดนยึด”

สวี่ชิวเหวินตกตะลึง

บัตรออกกำลังกายตอนเช้า?

เขากำลังจะพูดว่ามันร้ายแรงตรงไหน แต่ทันใดนั้นเขาก็จำได้

ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยหลักหรือสถาบันเจียงหลิง นักศึกษาปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยเจียวทงต้องไปออกกำลังกายตอนเช้า นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหลักวิ่งมาที่ประตูทิศใต้ และนักศึกษาจากสถาบันเจียงหลิงวิ่งไปยังประตูทิศเหนือ ผู้คนจากสหภาพนักศึกษาจะรออยู่ที่ประตูมหาลัยแล้วประทับตราบนบัตรเพื่อพิสูจน์ว่าคุณได้ไปที่นั่นในวันนั้น

เนื่องจากสหภาพนักศึกษาเป็นผู้ประทับตรา บางคนจึงไม่ไปออกกำลังกายในตอนเช้า แต่ขอให้เพื่อนร่วมห้องที่คุ้นเคยประทับตราแทน

แต่ภาคเรียนที่แล้วจู่ๆผู้นำมหาวิทยาลัยก็ทำการตรวจสอบอย่างกะทันหัน เป็นผลให้เช้าวันหนึ่ง มีน้องใหม่ไม่ถึงหนึ่งในสิบของสถาบันเจียงหลิงกำลังออกกำลังกาย ทำให้ผู้นำโกรธมาก

ดังนั้นตั้งแต่ภาคการศึกษานี้เป็นต้นไป งานประทับตราของสถาบันเจียงหลิงจึงถูกส่งต่อให้กับผู้คนจากมหาวิทยาลัยเจียวทงแล้ว

บัตรออกกำลังกายตอนเช้านี้มีความสำคัญเนื่องจากเกี่ยวข้องกับคะแนนรวมตอนปลายภาคเรียน แต่ถึงแม้จะพลาดบ้างเป็นครั้งคราวก็ไม่สำคัญ ปัญหาอยู่ที่การตรวจสอบของผู้นำในภาคการศึกษาที่แล้ว

ผู้นำมหาวิทยาลัยเชื่อว่าวินัยของสถาบันเจียงหลิงนั้นแย่มากจนไม่สามารถออกกำลังกายได้ ดังนั้นจึงมีการกำหนดตั้งแต่นั้นมา หากใครก็ตามที่พบว่ามีการประทับตราเพื่อผู้อื่นหรือกระทำการโกงจะถูกลงโทษ

ส่วนความร้ายแรงของเรื่องนี้ ที่ปรึกษาได้เน้นย้ำถึงความจริงจังของมันแล้วในระหว่างการประชุมก่อนฝึกทหาร และตงจุนยังแจ้งผู้นำหอพักเมื่อคืนนี้ด้วย

แต่ใครจะรู้ว่าหยางไป่ซานไม่สนใจเรื่องนี้เลย

หลังจากตื่นนอนตอนเช้าก็ได้ยินคนข้างห้องบอกว่าสายแล้ว เมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมห้องหลายคนกำลังหลับอยู่ เขาก็รีบหยิบบัตรออกกำลังกายตอนเช้าทั้งหมดหกใบจากหอพักแล้ววิ่งไปประทับตราพวกมัน

หยางไป่ซานคิดอย่างเรียบง่าย การประทับตราแทนผู้อื่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เมื่อถึงเวลาเขาจะพูดสิ่งดีๆกับคนในสหภาพนักศึกษาและมอบบุหรี่ให้สองสามมวน

เป็นผลให้เมื่อเขาไปถึงที่นั่นและหยิบบัตรออกกำลังกายตอนเช้าออกมา ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรดีๆ บัตรทั้งหกใบก็ถูกยึดเสียก่อน

หยางไป่ซานขอร้องอยู่พักหนึ่ง แต่มันก็ไร้ผล คนจากสหภาพนักศึกษาไม่ยอมคืนบัตรออกกำลังกายตอนเช้าให้เขาเลย!

หยางไป่ซานรีบวิ่งกลับมาที่หอพัก ปลุกเพื่อนร่วมห้องแล้วเล่าเรื่อง จากนั้นสถานการณ์ปัจจุบันก็เกิดขึ้น

สวี่ชิวเหวินรู้ถึงความจริงจังของเรื่องนี้ แต่เขาไม่เคยคิดถึงมันมาก่อน

หลังจากที่จินฮ่าวหนานพูดจบ เขาก็หันหลังกลับและดุหยางไป๋ซานอีกครั้ง

“มหาวิทยาลัยกำลังเตรียมบังคับใช้วินัยและเน้นย้ำหลายครั้งว่าไม่อนุญาตให้ประทับตราในนามของผู้อื่นหรือมีส่วนร่วมในการโกง มันเป็นวันแรกของมหาลัยและนายก็หยิบบัตรออกกำลังกายตอนเช้าหกใบไปประทับตราอย่างอวดดี ถ้าเป็นฉัน ฉันก็จะจับนายเป็นตัวอย่างเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู”

หลังจากดุหยางไป่ซานแล้ว จินฮ่าวหนานก็พูดกับสวี่ชิวเหวิน “ชิวเหวิน หยางไป่ซานทำสิ่งเลวร้ายด้วยเจตนาดี อย่าโกรธเลย ลองคิดดูก่อนว่าเราจะทำยังไง”

สวี่ชิวเหวินคิดวิธีแก้ปัญหาใดๆไม่ได้อยู่พักหนึ่ง “ฉันจะทำอะไรได้? บัตรหกใบนั่นก็มีของฉันอยู่ด้วย แม้ว่าจะไปหาอีกฝ่ายเพื่ออธิบายตอนนี้พวกเขาก็คงไม่เชื่อ”

สวี่ชิวเหวินเองก็พูดไม่ออกกับ“ความหวังดี”ของหยางไป่ซาน

เช่นเดียวกับที่พูด เห็นได้ชัดว่าเขาและเพื่อนร่วมห้องอีกสี่คนไม่มีความผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ถ้าอธิบายตอนนี้ใครจะเชื่อ?

นอกจากนี้ หยางไป่ซานยังมีความตั้งใจดี ดังนั้นจึงทิ้งเขาไว้ตามลำพังไม่ได้จริงๆ

หยางไป่ซานก้มหน้าด้วยความอับอายในเวลานี้

จินฮ่าวหนานตบไหล่อีกฝ่ายและพูดกับสวี่ชิวเหวินต่อไปว่า “ชิวเหวิน ฉันหวังพึ่งได้เพียงนายเท่านั้น นายคุ้นเคยกับผู้คนในมหาลัยและยังเป็นนักศึกษาของสถาบันเจียงหลิง บางทีผู้คนที่นั่นอาจจะเต็มใจไว้หน้านาย”

สวี่ชิวเหวินรู้ด้วยว่าตอนนี้เขาสามารถพึ่งพาตัวเองเท่านั้น

“แล้วคุณรออะไรอยู่ในหอพักล่ะ? รีบไปที่ประทับตาตอนนี้ มันจะสายเกินไปหากบัตรออกกำลังกายตอนเช้าถูกส่งให้กับมหาลัย!”

“ใช่ๆ ชิวเหวินพูดถูก ไปกันเถอะ”

สวี่ชิวเหวินรีบสวมเสื้อผ้าของเขาอย่างรวดเร็ว โดยรู้สึกว่าเป็นการเสียเวลาที่จะล้างหน้า และรีบเดินตามเพื่อนร่วมห้องของเขาไปที่ประตูทิศเหนือของมหาวิทยาลัย

สวี่ชิวเหวินถามระหว่างทาง “ใครคือคนที่ประทับตรา?”

จินฮ่าวหนานกล่าวว่า “ดูเหมือนทุกคนจะเรียกเธอว่า‘ภูเขาน้ำแข็ง’”

สวี่ชิวเหวินสับสนเมื่อได้ยิน “ภูเขาน้ำแข็งอะไรกัน ชายหรือหญิง อาจารย์หรือนักศึกษา?”

ถ้าเป็นอาจารย์คงยาก จะดีกว่าหากเป็นนักศึกษา

หวังจวิ้นไฉพูดแทรกขึ้นมา “ปิงซานมาจากสหภาพนักศึกษาของมหาวิทยาลัยและเป็นผู้หญิง”

(TL: ปิงซาน แปลว่า ภูเขาน้ำแข็ง)

เขาไม่มีเวลาคิดว่าทำไมหวังจวิ้นไฉถึงรู้เกี่ยวกับปิงซาน

สวี่ชิวเหวินรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าไม่ใช่อาจารย์

ท้ายที่สุดแล้วเขาได้แสดงให้กับมหาวิทยาลัยเมื่อคืนนี้ ดังนั้นคนในสหภาพนักศึกษาจึงควรให้หน้าเขาบ้าง

หลังจากมาถึงจุดประทับตรา สวี่ชิวเหวินก็เห็นโต๊ะหลายตัวที่ประตูมหาวิทยาลัย และคนจากสหภาพนักศึกษาก็ประทับตราให้นักศึกษาของสถาบันเจียงหลิง

“คนไหน?”

หยางไป่ซานชี้ไปที่ด้านหลังของหญิงสาวคนที่สองจากทางขวาสุด “ผู้หญิงคนนั้น”

ตอนนี้เป็นเวลาเพียงเจ็ดโมงครึ่งเท่านั้น และท้องฟ้าก็ไม่สว่างเกินไป ดังนั้นเขาจึงมองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก

แต่สิ่งที่เห็นได้คือหญิงสาวผมหางม้ายาว ผู้คนต่างวิ่งไปต่อหน้าหญิงสาวเพื่อประทับตรา และเธอก็ประทับบัตรออกกำลังกายตอนเช้าด้วยการเคลื่อนไหวที่ราบรื่น

สมาชิกสหภาพนักศึกษาที่มีหน้าที่ประทับตาหันหลังให้ประตู สวี่ชิวเหวินยืนอยู่ด้านหลังหญิงสาวประมาณยี่สิบเมตร จากนั้นเขาก็สงบลง

สวี่ชิวเหวินได้วางแผนไว้แล้วตลอดทางถึงวิธีพูด การอธิบาย และวิธีรับบัตรคืนหลังจากได้เจอ‘ภูเขาน้ำแข็ง’

เขาเดินไปตามทางและรอจนไม่มีใครเข้าคิวประทับตรา จากนั้นก็เข้าหาหญิงสาวแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สวัสดีเพื่อนนักศึกษา”

หญิงสาวได้ยินเสียงจึงหันมามองสวี่ชิวเหวิน

สวี่ชิวเหวินร่างสคริปต์เสร็จแล้วและเขาจะพูดต่อไปว่า “เพื่อนร่วมห้องของฉันมาจากมณฑลเสฉวน เขาค่อนข้างตรงไปตรงมา เขาไม่เข้าใจกฎของมหาลัยและเผลอหยิบบัตรออกกำลังกายตอนเช้าเกินไปสองสามใบ คุณคืนบัตรให้เราได้ไหม ฉันสัญญาว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในครั้งต่อไป นี่เป็นวันแรก เพื่อนนักศึกษาโปรดเมตตาด้วย”

เป็นผลให้เมื่อหญิงสาวหันกลับมาและเขาเห็นรูปลักษณ์ของ‘ภูเขาน้ำแข็ง’ สวี่ชิวเหวินก็ตกตะลึง

สคริปต์ทั้งหมดที่เขาเตรียมไว้ถูกลืมไปจนหมดสิ้น

หญิงสาวหันมามองสวี่ชิวเหวิน และทันใดนั้นก็เอามือปิดจมูก มองสวี่ชิวเหวินขึ้นๆลงๆด้วยความรังเกียจในสายตาของเธอ

สวี่ชิวเหวินติดตามการจ้องมองของเธอและเหลือบมองตัวเอง เขาไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและพวกมันยับยู่ยี่ แม้ว่าจะสร่างเมาแล้ว แต่เขาไม่มีเวลาล้างหน้า ดังนั้นปากของเขาจึงอาจมีกลิ่นแอลกอฮอล์

เขาก้าวถอยหลังโดยสัญชาตญาณ และยังคงตกตะลึงจนโง่งมอยู่

เหตุผลนั้นง่ายมาก

เพราะ“ภูเขาน้ำแข็ง”ที่อยู่ตรงหน้า!

สวี่ชิวเหวินไม่เพียงแค่รู้จักอีกฝ่ายเท่านั้น แต่เธอยังเป็นคนที่เขาไม่เคยจินตนาการว่าจะได้เจอในเวลานี้ด้วย

/////