ตอนที่แล้วบทที่ 73 งานเลี้ยงปฐมนิเทศเริ่มต้นขึ้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 75 งานเลี้ยงสิ้นสุดลง

บทที่ 74 สวี่ชิวเหวินปรากฏตัว


บนเวที พิธีกรทั้งสองกลับขึ้นมาอีกครั้ง

พิธีกรชายอ่านสคริปต์ในมือ “ฤดูร้อนเป็นฤดูกาลแห่งความรัก ตอนนี้โปรดเพลิดเพลินไปกับเพลง ‘ลูกโป่งสารภาพรัก’ โดยสวี่ชิวเหวิน นักศึกษาสถาบันเจียงหลิง”

เมื่อได้ยินคำว่าสวี่ชิวเหวิน นักศึกษาในกลุ่มผู้ชมก็มีปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไปทันที

ก่อนที่จะมีคนขึ้นเวที เสียงปรบมือก็ดังมาก่อนแล้ว

นอกจากเสียงปรบมือ ยังมีการพูดคุยกันมากมาย

“ในที่สุดก็ถึงตาของสวี่ชิวเหวิน แต่ฉันไม่เคยได้ยินชื่อ ‘ลูกโป่งสารภาพรัก’ เลย”

นักศึกษาที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นทันที “สวี่ชิวเหวินเป็นคนมีพรสววรค์จากสถาบันเจียงหลิงของเรา เขาหล่อและมีความสามารถ นี่คงเป็นเพลงใหม่ของเขา”

“ว้าว ฉันตั้งตารอเพลงใหม่อยู่เลย”

ในที่นั่งผู้นำแถวแรก เลขาธิการหลี่ของคณะกรรมการสันนิบาตเยาวชนของมหาวิทยาลัยเจียวทงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินพิธีพูดชื่อสวี่ชิวเหวิน ราวกับว่าเธอเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง

เวทีมืดลงอีกครั้ง

ในความมืด นักศึกษามากกว่าหนึ่งโหลได้เคลื่อนย้ายแกรนด์เปียโนขึ้นไปบนเวทีด้วยมือและเท้า สวี่ชิวเหวินกำลังเตรียมตัวเช่นกัน ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาจากหางตา ร่างของเธอดูคุ้นเคย แต่เขาไม่มีเวลามองย้อนกลับไป

สวี่ชิวเหวินรีบเดินไปที่เปียโนแล้วนั่งลง ยกฝาครอบขึ้น วางนิ้วบนคีย์เบาๆ และรออย่างเงียบๆ

ไม่นานที่ม่านถูกยกขึ้นและไฟก็ส่องสว่าง

ไฟเหนือเวทีฉายแสงไปที่เปียโนโดยตรง

หอประชุมทั้งหมดอยู่ในความมืด มีเพียงสวี่ชิวเหวินและเปียโนที่อยู่ตรงหน้าเขาท่ามกลางแสงสว่าง

สวี่ชิวเหวินสวมชุดสูทเข้ารูปสีขาวและเนคไทสีเขียวอ่อน นั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ราวกับเจ้าชายผู้เงียบขรึม

เมื่อสาวๆในกลุ่มผู้ชมเห็นการปรากฏตัวของสวี่ชิวเหวิน พวกเธอก็เริ่มตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

หากเสียงและความบ้าคลั่งก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่เกิดจากเด็กผู้ชาย ในเวลานี้ เด็กผู้หญิงจากมหาวิทยาลัยเจียวทง สถาบันเจียงหลิง และมหาวิทยาลัยอื่นๆก็ระเบิดพลังออกมาเช่นกัน

เสียงกรีดร้องและเสียงเชียร์แทบจะดังทะลุหลังคาหอประชุม

ผู้นำแถวหน้าตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของสาวๆ

มันไม่ต่างอะไรกับเมื่อดาราดังปรากฏตัว

ทั้งสามคนจากหอพัก 301 ล้วนอยู่ในกลุ่มผู้ชมเวลานี้

พวกเขามาถึงเร็วมากและเข้ายึดตำแหน่งแถวหน้า

เซียวโหยวหรานรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นรูปลักษณ์อันหล่อเหลาของสวี่ชิวเหวิน

แต่เมื่อได้ยินสาวๆรอบตัวส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด สีหน้าของเธอก็ดูไม่ค่อยดีนัก

แต่แล้วเธอก็คิดว่าเสี่ยวสวี่ที่โดดเด่นเช่นนี้ชอบแค่ตัวเธอเท่านั้น และเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกภูมิใจ ดังนั้นเธอจึงมองสวี่ชิวเหวินบนเวทีด้วยรอยยิ้มที่สดใสยิ่งขึ้น

ซ่งซือหยูยังจ้องมองสวี่ชิวเหวินด้วย

แม้จะรู้มานานแล้วว่าสวี่ชิวเหวินหล่อ แต่เธอก็ยังประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นเขาบนเวที

ดวงตาของอันซือซือสงบกว่ามาก

ไม่ไกลออกไป ทั้งห้าคนจากหอพัก 412 ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน

ทันทีที่สวี่ชิวเหวินขึ้นเวที หยางไป่ซานก็อดไม่ได้ที่จะตะโกน “เชี่ยเอ้ย ชิวเหวิน ทำไมนายถึงหล่อขนาดนี้!”

จินฮ่าวหนานเห็นด้วย “ฉันอนุมัติให้ชิวเหวินเป็นเดือนของมหาวิทยาลัย”

ซือเซียงหมิงมองไปที่สวี่ชิวเหวินด้วยความอิจฉา

หลิวจื้อฮ่าวก็ดูอิจฉาเช่นกัน “ชิวเหวินหล่อเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะกลายเป็นเจ้าชายของสาวๆกี่คน”

หวังจวิ้นไฉยังคงนิ่งเงียบ

ตั้งแต่เปิดเทอมได้ไม่ถึงยี่สิบวัน สวี่ชิวเหวินก็มีความโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาไม่สามารถหาอะไรที่น่าภาคภูมิใจได้

คืนนี้เดิมทีเขาอยากจะชมงานเลี้ยงกับซ่งซือหยู แต่ซ่งซือหยูไม่เพียงแค่ปฏิเสธ แต่ยังเปรียบเทียบเขากับสวี่ชิวเหวินด้วยความโกรธ

หวังจวิ้นไฉยังจำสิ่งที่ซ่งซือหยูพูดในช่วงบ่ายได้ “คุณเรียนรู้จากสวี่ชิวเหวินไม่ได้เหรอ? เขายังเป็นน้องใหม่เหมือนกัน เขาร้องเพลงและเข้าร่วมงานเลี้ยง คุณรู้เพียงวิธีเล่นเกมตลอดทั้งวันเท่านั้น คุณวางแผนจะเล่นเกมเพื่อหาเลี้ยงชีพในอนาคตหรือไง?”

หวังจวิ้นไฉโกรธมากกับคำพูดของซ่งซือหยู และโกรธเธอเป็นครั้งแรกในชีวิต

เขาตะโกนใส่ซ่งซือหยูทันที “สวี่ชิวเหวินดีมาก ทำไมคุณไม่ไปเป็นแฟนเขาล่ะ? มาคบกับฉันทำไม?”

เป็นผลให้ซ่งซือหยูโกรธมากเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดและหันหลังกลับเพื่อจากไป

หลังจากที่สงบลง เขาก็ตระหนักว่าเขาพูดผิดและต้องการขอโทษ แต่อีกฝ่ายไม่เคยรับสาย

เขาสามารถส่งข้อความขอโทษได้เพียงเท่านั้นแต่ไม่ได้รับการตอบกลับ

หวังจวิ้นไฉจึงอารมณ์ไม่ดี ตอนนี้เมื่อเห็นสวี่ชิวเหวินโดดเด่นมากบนเวที และเมื่อนึกถึงสิ่งที่ซ่งซือหยูพูด เขาก็รู้สึกอิจฉาและอึดอัดมากยิ่งขึ้น

สวี่ชิวเหวินไม่มีเวลาใส่ใจความคิดของผู้คนในกลุ่มผู้ชมในเวลานี้

เมื่อแสงไฟสว่างขึ้น เขาก็ดำดิ่งลงไปในบรรยากาศโดยสมบูรณ์

นิ้วของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเริ่มเล่นอินโทรของ‘ลูกโป่งสารภาพรัก’

เสียงเปียโนแพร่กระจายไปทั่วทั้งหอประชุมอย่างรวดเร็ว

“…บนแก้วกาแฟ ยังคงกลิ่นหอมไว้

กับรอยปากเธอ บนแก้วนั้นใช่ไหม

ทันทีที่ร้องท่อนแรก สาวๆในกลุ่มผู้ชมก็ยิ่งบ้าคลั่งขึ้นไปอีก

“นี่มันเพลงอะไร? ทำไมดีขนาดนี้!”

“เสียงของเจ้าชายเพราะมาก ทำเอาฉันเปียกเลย”

คนข้างๆหญิงสาวถามทันขึ้นที “อะไรเปียก?”

“แน่นอนว่าตาฉัน!”

“เขาเล่นเปียโนเก่งมาก นักศึกษาทำได้ขนาดนี้เลยหรอ?”

“สวี่ชิวเหวินคือเจ้าชายของฉัน! ใครรู้เบอร์เขาบ้าง?”

“ไม่ได้การ ฉันต้องไปที่หลังเวที ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไล่ตามเขา!”

เสียงตะโกนทุกชนิดดังขึ้นไปบนหลังคา

เซียวโหยวหรานตกตะลึงจนโง่งมไปแล้ว

เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะสามารถเล่นเปียโนได้จริงๆและยังเก่งขนาดนี้

สิ่งนี้ทำลายความประทับใจโดยธรรมชาติของสวี่ชิวเหวินในใจเธอโดยสิ้นเชิง

เมื่อเธอมองไปที่สวี่ชิวเหวินบนเวที เธอก็รู้สึกแปลกเล็กน้อยด้วยซ้ำ

เขายังคงเป็นเสี่ยวสวี่ที่เธอคุ้นเคยจริงๆหรอ?

อย่างไรก็ตาม อารมณ์นี้เกิดขึ้นได้ไม่นาน เพราะเมื่อเสียงของสวี่ชิวเหวินดังขึ้นอีกครั้ง อารมณ์ดังกล่าวก็หายไปอย่างรวดเร็ว

“…ให้ฉันคิดหรือเปล่านะ

บนช่อดอกไม้ ติดชื่อใครเอาไว้

บนฟ้าใครเห็นบอลลูนใบนั้นไหม

ลอยไปหาเธอนั่นไง

จะเข้าไปข้างในหัวใจ

เธอบอกฉันมันคงไม่ง่าย

จะเล่นตัวกันไปทำไม

ก็ใจเธอฟ้องว่าฉันนั้นใช่

แค่ลองมาคบคบดูกันหน่อย

ไม่ต้องกลัวให้หัวใจเอ็นจอย

แค่เธอก็เหมือนเป็นทั้งโลกของหัวใจฉัน

ตกหลุมรัก เมื่อแรกพบเจอแต่นั้นมา

อะไรก็ช่างแสนหวาน

โอ้ที่รัก ฉันรู้เพราะนัยน์ตาเธอนั้น

ฟ้องว่าเธอชอบกัน...

เสียงเปียโนที่ไพเราะและเสียงที่ยอดเยี่ยมของสวี่ชิวเหวิน พร้อมกับเพลงที่ไม่ควรปรากฏในเวลานี้ ปัจจัยทั้งสามผลักดันให้ทั้งงานเลี้ยงเข้าสู่จุดสูงสุดโดยตรง

เมื่อพูดถึงท่อนฮุค แม้แต่เด็กผู้ชายก็ยังตื่นเต้นและตะโกนอย่างบ้าคลั่ง หากนั่งห่างออกไปอีกหน่อย คุณแทบจะไม่ได้ยินว่าสวี่ชิวเหวินร้องเพลงอะไร ทุกคนต่างตะโกนและระบายความรู้สึกภายในของตนออกมาด้วยกัน อารมณ์ที่สะสมหลังจากมาถึงมหาวิทยาลัยจนวันนี้

หลังจากเพลงจบลง สวี่ชิวเหวินก็หันกลับมาและเผชิญหน้ากับผู้ฟังในที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของผู้คนในกลุ่มผู้ชมได้ชัดเจน แต่เขาก็ยังคงยิ้มให้

“เจ้าชายยิ้มให้ฉัน!”

“เห็นได้ชัดว่ามันเป็นฉัน!”

ในที่สุด ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้นำ และทุกคนก็เริ่มตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เดือนมหาลัย เดือนมหาลัย...”

ว่ากันว่าต่อมาฝ่ายวรรณกรรมและศิลปะได้ใช้เงินเพื่อซ่อมแซมเก้าอี้ให้กับมหาวิทยาลัย เนื่องจากมีนักศึกษาจำนวนมากยืนอยู่บนเก้าอี้แล้วตะโกนพร้อมกับกระโดด

เมื่อลงจากเวที สวี่ชิวเหวินก็ถูกรายล้อมไปด้วยสาวๆทันที และทุกคนก็ขอหมายเลขโทรศัพท์ของเขา

สวี่ชิวเหวินไม่คาดคิดว่าทุกคนจะตื่นเต้นและบ้าคลั่งขนาดนี้ และเขาก็กลัวเล็กน้อย

เขาพูดเบอร์มือถือของตนซ้ำแล้วซ้ำอีกท่ามกลางเสียงกรีดร้องและเสียงเชียร์ของสาวๆ

หลังจากผ่านไปห้านาที สาวๆก็ยังไม่เต็มใจที่จะจากไป เป็นเพราะการแทรกแซงของเจียงหยินเท่านั้นที่ทำให้เขาได้รับการช่วยเหลือ

/////