ตอนที่แล้วบทที่ 45: หัวใจของวอล์คเกอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 47: สมาชิกใหม่

บทที่ 46: ภารกิจสี่ดาว


หลังจากพบกับวอล์คเกอร์ โร้ดไม่ได้ออกจากสมาคมทหารรับจ้างทันที ท้ายที่สุดแล้ว กลุ่มทหารรับจ้างของเขายังคงขาดแทงค์และตัวทำดาเมจ ถ้าเขาสามารถจ้างนักรบหรือคลาสป้องกันได้ ภารกิจต่อไปของโร้ดก็คงจะง่ายขึ้นมาก แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้เขาไม่พบกับทหารรับจ้างที่เขาต้องการ คลาสที่มักจะยืนอยู่แนวหน้านั้นหายาก โดยปกติแล้ว มีเพียงทหารเท่านั้นที่จะเลือกคลาสแบบนั้น เพราะใครๆ ก็คงไม่อยากโดนโจมตีอยู่ตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านั้น แทงค์ส่วนใหญ่ก็ถูกกลุ่มใหญ่ๆ จ้างไปแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาพวกเขา ไม่ต้องพูดถึงการจ้างพวกเขา โร้ดกับไลซ์เดินวนไปวนมาในห้องโถง พูดคุยกับนักดาบสองสามคน อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ตรงกับความต้องการของโร้ด ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงถูกคัดออก

โร้ดยอมแพ้สำหรับวันนี้ เขาเริ่มคิดหาวิธีเพิ่มพลังให้กับพวกเขา เมืองหินลึกไม่มีอะไรให้เขาเลือกมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น โร้ดก็ไม่มีเงินมากพอ แม้ว่าเขาจะมีเงิน เขาก็ต้องพิจารณาว่าทหารรับจ้างจะรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการเข้าร่วมกลุ่มที่กำลังจะล่มสลาย บางคนอาจจะฉวยโอกาสจากสถานะของพวกเขาและทำตัวเป็นเจ้านาย ดังนั้น เขาจึงล้มเลิกความคิดที่จะสรรหาคนไปก่อน เพราะตอนนี้ เขามีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องทำ

อันดับแรกคือคะแนนของกลุ่มทหารรับจ้าง

ไลซ์พูดถูก สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการเพิ่มคะแนนของพวกเขา เพื่อหลีกเลี่ยงการยุบกลุ่มในช่วงฤดูหนาว นั่นควรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด — และเป็นสิ่งที่โร้ดต้องให้ความสำคัญ อย่างน้อย... พวกเขาก็ไม่ควรได้ศูนย์อีก

การทำภารกิจให้สำเร็จเป็นหนึ่งในวิธีการได้รับคะแนนกลุ่มทหารรับจ้าง จนถึงตอนนี้ มีภารกิจอยู่สองประเภท:

ภารกิจที่มอบหมายโดยลูกค้า ซึ่งลูกค้าจะมอบรางวัลเมื่อทำภารกิจสำเร็จ และภารกิจที่จัดการโดยสมาคมทหารรับจ้าง ตามข้อกำหนดของลูกค้า

สมาคมทหารรับจ้างจะมอบรางวัลตามระดับความยากของภารกิจ ภารกิจที่จัดการโดยสมาคมจะมอบคะแนนกลุ่มทหารรับจ้างให้เช่นกัน

ในสมาคมทหารรับจ้าง ระดับภารกิจแบ่งออกเป็นหกระดับ ภารกิจทั่วไป และภารกิจระดับ 1-5 ดาว '1-5' หมายถึงระบบการจัดอันดับความยาก รางวัลก็อาจแตกต่างกันไปตามภารกิจ และภารกิจที่ท้าทายมักจะมีเวลาจำกัดที่เข้มงวดกว่า

กลุ่มทหารรับจ้างขนาดเล็กได้รับอนุญาตให้รับภารกิจทั่วไป หรือภารกิจระดับ 1 ถึง 2 ดาวเท่านั้น การทำภารกิจทั่วไปให้สำเร็จจะทำให้พวกเขาได้รับ 1 คะแนน ภารกิจระดับ 1 ดาวจะให้ 2 คะแนน และภารกิจระดับ 2 ดาวจะให้ 3 คะแนน เป็นต้น ในขณะที่กลุ่มทหารรับจ้างขนาดเล็กถูกจำกัดอยู่แค่ภารกิจทั่วไปและภารกิจระดับ 1 ถึง 2 ดาว กลุ่มทหารรับจ้างขนาดกลางสามารถรับภารกิจระดับ 2 ถึง 4 ดาวได้ อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หมายความว่ากลุ่มขนาดกลางจะถูกจำกัดอยู่แค่ภารกิจระดับ 2 ถึง 4 ดาว แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำภารกิจระดับต่ำกว่าได้สำเร็จ พวกเขาก็จะไม่ได้รับคะแนนใดๆ มันเหมือนกันสำหรับกิลด์ทหารรับจ้าง พวกเขาสามารถรับรางวัลได้จากภารกิจระดับ 3 ถึง 5 ดาวเท่านั้น

สมาคมทหารรับจ้างเป็นผู้สร้างกฎเหล่านี้ และห้ามทหารรับจ้างฝ่าฝืนกฎ นี่หมายความว่า แม้ว่ากลุ่มทหารรับจ้างขนาดเล็กหรือขนาดกลางจะสามารถทำภารกิจระดับ 5 ดาวให้สำเร็จได้ พวกเขาก็จะไม่ได้รับคะแนน แต่ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นนั้นแทบจะเป็นศูนย์ เพราะภารกิจระดับ 5 ดาวนั้นอันตรายมาก แม้แต่สำหรับกิลด์ทหารรับจ้าง

ด้วยเงื่อนไขเช่นนี้ กลุ่มทหารรับจ้างหลายกลุ่มจึงมีวิธีการหาคะแนนของตัวเอง กลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มทหารรับจ้างปลอกคอสีฟ้า ทำภารกิจระดับต่ำสุดอย่างขยันขันแข็ง เพื่อให้แน่ใจว่าคะแนนของพวกเขานั้นเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงการยุบกลุ่ม กลุ่มทหารรับจ้างและกิลด์อื่นๆ ก็มีทางเลือกเช่นกัน พวกเขาสามารถเลือกเล่นใหญ่ หรือเล่นแบบปลอดภัยก็ได้

โร้ดเลือกที่จะเล่นใหญ่ ท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้จำนวนสมาชิกของเขานั้นน้อยเกินไป แม้ว่าเขาจะทำภารกิจระดับต่ำอย่างขยันขันแข็ง คะแนนก็จะเพิ่มขึ้นช้ามาก ดั่งคำกล่าวที่ว่า กำปั้นสามกำปั้นสู้มือสี่มือไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็เสียเปรียบในเรื่องจำนวน ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถรักษาความมั่นคงได้ เขาก็ทำได้เพียงทำภารกิจระดับสูงให้สำเร็จเพื่อรับคะแนนให้มากที่สุด

เมื่อโร้ดส่งมอบภารกิจ 'สุสานปาเวล' ให้กับลุงแฮงค์ ชายชราก็หน้าซีดเผือด เขามองเขาเหมือนกับว่าเห็นผี

"เจ้าแน่ใจนะ ว่าเจ้าจะรับภารกิจนี้ เจ้าหนู?"

ลุงแฮงค์ขยี้ตา จากนั้นก็มองดูโร้ดอย่างจริงจัง

"นี่เป็นภารกิจสี่ดาว แม้แต่กลุ่มทหารรับจ้างขนาดใหญ่ที่ติดอาวุธครบครันก็ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย"

จากนั้น ชายชราก็ขมวดคิ้ว เคาะนิ้วลงบนโต๊ะ

"ไม่ใช่ว่าตาแก่อย่างข้าอยากจะทำให้เจ้ากลัวหรอกนะ แต่ก่อนหน้าเจ้า กลุ่มทหารรับจ้างหุบเขาสีฟ้าและสิงโตดำเคยรับภารกิจนี้ พวกเขาทั้งหมดเป็นทหารรับจ้างมากประสบการณ์ แต่ผลลัพธ์ล่ะ? พวกเขาบาดเจ็บล้มตาย แม้แต่หัวหน้าก็ยังเกือบตาย คนพวกนั้นส่งคนไปหลายสิบคน แต่สุดท้ายก็ยังล้มเหลว แล้วพวกเจ้า..." ชายชราวางข้อศอกลงบนโต๊ะ นวดขมับ แล้วพูดต่อ "...พวกเจ้าคิดจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จด้วยกันแค่สองคน? การเป็นหนุ่มเป็นสาวที่กล้าหาญนั้นเป็นเรื่องดี แต่..."

"ผมคิดว่าผมไม่จำเป็นต้องคิดทบทวนอะไรหรอกครับ"

โร้ดไม่ได้สนใจความกังวลของลุงแฮงค์ มาตรฐานของคำว่า 'แข็งแกร่ง' ของ NPC และ 'แข็งแกร่ง' ของผู้เล่นนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะเปรียบเทียบกัน เหตุผลที่โร้ดเลือกภารกิจนี้ก็เพราะคะแนนและรางวัลที่สูง

เนโครแมนเซอร์ที่ชื่อปาเวลอาศัยอยู่ในสุสานร้าง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูเขา ภารกิจก็คือ การสังหารเนโครแมนเซอร์คนนั้นและลูกสมุนของเขา ตราบใดที่เขานำหัวของปาเวลกลับมาได้ ภารกิจก็จะสำเร็จ

แน่นอนว่าโร้ดมีแผนของเขาในการทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ นอกจากเลเวลและคะแนนแล้ว มันยังเป็นเพราะกองการ์ดที่เขามีอยู่ในตอนนี้ พูดตามตรง จากความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขาทำได้เพียงแค่เอาชนะสิ่งมีชีวิตอันเดด ส่วนการต่อสู้กับโจร มันค่อนข้างยุ่งยาก แต่เนโครแมนเซอร์ที่ชื่อปาเวลนั้นมีหนังสือทักษะอยู่

มีข่าวลือว่าเนโครแมนเซอร์ ปาเวล เคยเป็นบิชอปที่ได้รับความเคารพ แต่หลังจากนั้น เพราะเรื่องบางอย่าง เขาก็กลายเป็นเนโครแมนเซอร์ เขามีหนังสือศักดิ์สิทธิ์เล่มหนึ่งที่เรียกว่า 'คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์' และนั่นคือเป้าหมายของโร้ด เพราะสิ่งที่เขียนอยู่ในนั้นคือทักษะปรมาจารย์ด้านวิญญาณ

ตอนนี้ จำเป็นต้องอธิบายความแตกต่างของการเพิ่มเลเวลระหว่างผู้เล่นกับ NPC ใน Dragon Soul Continent

ข้อได้เปรียบของผู้เล่นนั้นชัดเจนในทุกๆ ด้าน เพราะแต้มทักษะ พวกเขาจึงสามารถเพิ่มเลเวลทักษะได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เมื่อโร้ดอยู่ที่เลเวล 10 เขาก็สามารถมีทักษะเลเวล 34 ของ NPC ได้ แต่ NPC ทำแบบนั้นไม่ได้ นอกจากอัจฉริยะและเชื้อพระวงศ์แล้ว NPC ส่วนใหญ่ใช้ทักษะที่พวกเขาได้รับจากการเพิ่มเลเวล ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว เห็นได้ชัดว่าใครเหนือกว่า

ในทางกลับกัน ข้อได้เปรียบที่ NPC มีก็คือ การจัดประเภทพรสวรรค์ของพวกเขานั้นแตกต่างจากผู้เล่น คลาส NPC หลายคลาสมีต้นไม้พรสวรรค์ที่ผสานรวมกัน และพวกเขาก็มีอิสระในการเลือก มันทำให้ผู้เล่นหลายคนอิจฉา เพราะต้นไม้พรสวรรค์ของผู้เล่นนั้นแยกออกจากกัน และเพราะข้อจำกัดด้านทักษะ พวกเขาจึงไม่สามารถเลือกสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ ต่างจาก NPC ยิ่งไปกว่านั้น พรสวรรค์หลายอย่างมีไว้สำหรับ NPC เท่านั้น

นอกจากนั้น ช่องว่างระหว่างผู้เล่นกับ NPC นั้นกว้างมาก ผู้เล่นสามารถเพิ่มเลเวลได้อย่างง่ายดายผ่านประสบการณ์ ส่วน NPC การเพิ่มเลเวลนั้นเหมือนกับฝันร้าย ถ้าพวกเขาต้องการเพิ่มเลเวล มีเพียงแค่สองวิธีเท่านั้น วิธีแรกคือ: ถ้าผู้เล่นกับ NPC มีความสนิทสนมกัน NPC จะมอบหมายภารกิจ ซึ่งต้องทำโดยผู้เล่น เพื่อเพิ่มเลเวลของ NPC อีกวิธีหนึ่งคือการมอบหนังสือทักษะให้กับ NPC ไม่มีข้อจำกัด และพวกเขาไม่จำเป็นต้องถึงเลเวลที่กำหนดเพื่อที่จะเรียนรู้มัน ดังนั้น แม้แต่ NPC เลเวล 5 ก็ยังสามารถเรียนรู้ทักษะเลเวล 10 ซึ่งจะทำให้เลเวลของพวกเขาเพิ่มขึ้นเป็น 10 ทันที

แต่แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลา

ถ้าเขาสามารถได้หนังสือเล่มนั้นมา ก็คงไม่มีอะไรต้องกังวลเกี่ยวกับการที่ไลซ์จะเลเวลถึง 40 ยิ่งไปกว่านั้น 'คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์' ยังสอนเวทมนตร์โจมตีมากมาย ซึ่งสามารถชดเชยทักษะการโจมตีที่อ่อนแอของเธอ และทำให้เธอกลายเป็นนักบวชที่สามารถต่อสู้ในแนวหน้าได้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับสงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้กับประเทศแห่งความมืด การสอนสมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างให้ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตอันเดดเป็นเรื่องดี

ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนั้น ทำไมโร้ดถึงอยากจะยุ่งเกี่ยวกับอันเดดตลอดเวลาด้วยล่ะ? เขาเป็นมนุษย์ที่ไม่สนใจคนตาย อันที่จริง ถ้าเขาสามารถจ้างจอมเวทได้ แม้แต่จอมเวทฝึกหัดก็ยังคงมีประโยชน์ แต่น่าเสียดายที่จอมเวทนั้นหายากกว่าปรมาจารย์ด้านวิญญาณ ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาไม่เคยออกจากบ้าน ไม่ต้องพูดถึงการมาเป็นทหารรับจ้าง

"ผมตัดสินใจแล้วครับ ลุงแฮงค์ วางใจได้เลย พวกเราจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ"

"ข้าหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น"

เมื่อเห็นว่าเขาไม่สามารถโน้มน้าวโร้ดได้ ลุงแฮงค์ก็ถอนหายใจอย่างจนปัญญา เขาส่ายหัว เขาเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษบนโต๊ะ แล้วพยักหน้าให้โร้ด

"เอาล่ะ คุณโร้ด ข้าลงทะเบียนภารกิจของท่านแล้ว เมื่อท่านทำภารกิจสำเร็จแล้ว ให้นำโทเค็นกลับมาตามที่ข้าร้องขอ เมื่อตรวจสอบแล้ว พวกเราจะมอบรางวัลให้กับท่าน"

"ผมเข้าใจแล้วครับ"

โร้ดพยักหน้ารับ แล้วเดินจากไป เมื่อเห็นร่างของเขาหายไปในฝูงชน ลุงแฮงค์ก็ส่ายหัวอย่างผิดหวัง

"เจ้าหนูนั่นประมาทเกินไป เขารู้หรือเปล่าว่าภารกิจนี้มันยากแค่ไหน? เฮ้อ... ข้าไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว น่าเสียดายจริงๆ... เขายังเด็กมาก... แต่...."

ขณะที่บ่นพึมพำกับตัวเอง แฮงค์ก็หยิบเหยือกที่อยู่ข้างๆ เขาขึ้นมาอย่างเซื่องซึม

ทันใดนั้น เสียงใสๆ ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

"อะไรโง่เหรอคะ ลุงแฮงค์?"

"อ๊ะ คุณหนู!"

เมื่อได้ยินเสียงนี้ แฮงค์ก็สะดุ้ง เขาวางเหยือกในมือลงอย่างเขินอาย หันไปมองคนที่อยู่ข้างหลังเขา แล้วเผยรอยยิ้มแห้งๆ

"คุณหนู ทำไมท่านถึงมีเวลามาหาข้า... ข้าคิดว่า..."

"ข้าต่างหากที่เป็นคนถาม! แล้วเรื่องที่ข้าบอกให้ท่านทำล่ะ?"

"คือ..."

เมื่อเผชิญหน้ากับคุณหนูที่เอาแต่ใจ หน้าผากของแฮงค์ก็เต็มไปด้วยเหงื่อ เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหน้า ขณะที่พยายามหาข้อแก้ตัว "คือ... ข้ากำลังพยายามอยู่ ท่านก็เห็นเองนี่ครับ คุณหนู คนพวกนี้ส่วนใหญ่ก็ธรรมดาๆ ข้ายังหาคนที่ใช่ไม่เจอ ดังนั้น..."

"ถ้างั้น..." เสียงที่ไพเราะราวกับเสียงนกร้องในยามเช้าดังขึ้น เธอหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ "แล้วเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?"

"อ้อ เจ้าหนูนั่น"

สีหน้าของแฮงค์เปลี่ยนไปทันที เขาเริ่มถอนหายใจ

"หมอนั่นกำลังประเมินตัวเองสูงเกินไป คุณหนู ท่านต้องฟังเรื่องนี้..."

ราวกับว่าในที่สุดเขาก็พบเรื่องที่จะบ่น แฮงค์ก็รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเป็นโร้ด ที่เพิ่งลงทะเบียนภารกิจระดับ 4 ดาว แน่นอนว่าเขาพูดเกินจริงเกี่ยวกับเรื่องราวของโร้ด แต่ในฐานะสมาชิกของสมาคมทหารรับจ้าง เขาไม่สามารถพูดออกมาตรงๆ ได้ว่าพวกเขาจะต้องตาย เพราะทหารรับจ้างนั้นแพ้คำพูดแบบนี้ เนื่องจากงานของพวกเขาก็คือการจัดการกับภารกิจที่อันตราย ถ้าเขาพูดอะไรที่เหมือนกับสาปแช่งให้พวกเขาตาย เขาก็คงเป็นคนใจร้าย

"เหรอคะ"

หลังจากฟังแฮงค์บ่น เธอก็ยิ้มออกมา

"น่าสนใจจัง... กลุ่มทหารรับจ้างที่มีเพียงแค่สองคน กล้ารับภารกิจระดับ 4 ดาว มันแปลกจริงๆ นั่นแหละ"

"ใช่ และข้าได้ยินมาว่าเซเรคชอบหมอนั่นมาก ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเซเรคชอบอะไรในตัวเขา..."

"ลุงแฮงค์"

ทันใดนั้น เด็กสาวก็ขัดจังหวะแฮงค์

"ข้ามีเรื่องอยากจะขอให้ท่านช่วย แต่ข้าไม่รู้ว่าท่านยินดีหรือเปล่า"

"ครับ ตราบใดที่ข้าทำได้ ข้าก็ยินดีช่วย"

"ถ้างั้น..."

แต่หลังจากที่เขาได้ยินคำขอของเด็กสาวคนนั้น สีหน้าของแฮงค์ก็เปลี่ยนไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด