ตอนที่แล้วบทที่ 141 หานเฟิงผู้ไร้พ่าย 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 143 ข้าจะให้เจ้าต้องชดใช้!

บทที่ 142 ตัวเต็งสิบอันดับ


ระหว่างทาง หลัวเฉิงได้เรียนรู้หลายสิ่งอย่างจากจางเหลียน

ในการทดสอบชิงอวิ๋นนี้ จำนวนศิษย์บำรุงสำนักที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ห้า มีมากเราร้อยคนเห็นจะได้!

และมีผู้คนอีกหลายพันที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่!

เรื่องเช่นนี้ทำให้หลัวเฉิงรู้สึกกดดันเล็กน้อย

แม้คนเหล่านี้จะเป็นเพียงศิษย์บำรุงสำนักของสำนักซวนหยวน แต่ฐานะดั้งเดิมของคนเหล่านี้ที่อยู่ภายนอกนั้นล้วนเป็นผู้มีอำนาจมิอาจดูแคลน

จึงเป็นการยากนักที่จะมีฝีมือโดดเด่นเหนือกว่าคนเหล่านี้

ทว่า การมีรายชื่ออยู่ในสิบอันดับแรกนับว่ายากยิ่งกว่ามาก!

แม้นเป็นเช่นนั้น แต่หลัวเฉิงก็ไม่เคยคิดถอดใจยอมแพ้

ต่อให้เขาไม่สามารถเข้าสู่สิบอันดับแรกได้ แต่การทดสอบชิงอวิ๋นนี้ ก็ถือเป็นโอกาสอันดีในการทะลวงจุดเคล็ดวิชามังกรแท้!

“มันคงจะดีไม่น้อย หากระดับพลังยุทธ์ของข้าสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ได้!”

หลัวเฉิงพึมพำกับตนเอง

ที่เขาคิดเช่นนั้นเนื่องจาก ต่อให้เขาต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า ก็ยังมีความมั่นใจมากถึงแปดส่วน ว่าจะสามารถรับมือได้อย่างสูสี

หลังทั้งสองคุยกันได้ไม่นาน เท้าก็สืบมาจนถึงหน้าเรือนพักของหลัวเฉิง

ทันใด หลัวเฉิงก็หยุดฝีเท้ากะทันหันเมื่อมองไปยังเบื้องหน้า

นี่เป็นเพียงจุดหนึ่งในบริเวณที่พักศิษย์ และพื้นที่แถบนี้ไม่ค่อยมีผู้คนมาเพ่นพ่านนัก

ทว่าขณะนี้ ด้านหน้าห้องพักของหลัวเฉิง กลับปรากฏร่างหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น

เขาเป็นชายหนุ่มรูปงาม

มาตรว่าชายหนุ่มผู้นี้มีอายุสิบหกปีเศษ เขาสวมอาภรณ์เขียวพร้อมกับกระบี่เหน็บอยู่ที่เอวเล่มหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาละเอียดอ่อนยืนมือไพร่หลังอย่างสงบ เพียงแค่เห็นก็รู้ว่าชายผู้นี้มีพลังไม่ธรรมดา

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ชายหนุ่มชุดเขียวก็หันกลับมา

“หลินจินไท่!”

เมื่อเห็นบุตรหนุ่มอาภรณ์เขียว จางเหลียนก็สะดุ้งเฮือกรีบกระซิบบอกหลัวเฉิง

“ชายผู้นี้เป็นศิษย์ที่ผู้อาวุโสภูมิใจมีนามว่า หลินจินไท่! เขาอยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าแล้วทั้งพลังยุทธ์ยังลึกล้ำยิ่งนัก เรียกได้ว่าเป็นตัวเต็งสิบอันดับของการทดสอบชิงอวิ๋นครั้งนี้ก็มิผิด”

“ตัวเต็งสิบอันดับงั้นรึ!”

หลัวเฉิงมองชายผู้นั้นแล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย

เขาเองก็รับรู้ถึงแรงกดดันของอีกฝ่ายเช่นเดียวกัน! หากเทียบกับหานเฟิงแล้วชายผู้นี้นับว่ามีความแข็งแกร่งมากกว่าหลายขุมนัก!

เสียงของจางเหลียนทุ้มต่ำ “อาจารย์ของหลินจินไท่คือผู้อาวุโสเหอ ปกติเขาจะไม่ค่อยปรากฏตัว ข้าเกรงว่าเหตุผลที่เขามาที่นี่ก็คงเป็นเพราะเจ้า…”

หลัวเฉิงพยักหน้าเขาเองก็เข้าใจดีเช่นเดียวกันว่าไม่มีเหตุผลอื่นแน่นอน

ระหว่างนั้นเอง หลินจินไท่ก็ค่อยๆ เดินเข้ามาหาเขาอย่างแช่มช้า

เมื่อมองยังจางเหลียน น้ำเสียงของหลินจินไท่ก็ไม่เปิดโอกาสให้เอ่ยถาม “ไปกันเถอะ!”

“อืมม์!”

แม้จางเหลียนจะรู้สึกอึดอัดในใจ แต่เขาก็มิกล้าปฏิเสธ เขาเหลือบมองหลัวเฉิงแล้วหันหลังออกไปทันที

หลินจินไท่เอียงศีรษะหันมาจ้องหลัวเฉิง คล้ายดั่งว่ามองจำอวด

“ถ้าไม่คิดเลยว่า เจ้าซึ่งเป็นคนไร้ค่าที่มีวิญญาณยุทธ์ขยะกลับสามารถเอาชนะหลี่ฮุ่ยได้ มันทำให้ข้ารู้สึกประหลาดใจมากทีเดียว”

หลัวเฉิงขมวดคิ้ว

แค่เปิดปากออกมาก็กล่าวคำว่าขยะ เห็นได้ชัดว่าเจตนาจะเหยียดหยาม!

“แล้วมันอย่างไร?”

หลัวเฉิงเอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

หลินจินไท่เลิกคิ้วแล้วกล่าวเสียงราบเรียบ “เดิมที ข้ากำลังเก็บตัวฝึกฝนสำหรับการทดสอบชิงอวิ๋นและข้าไม่อยากไปยุ่งเรื่องไร้สาระ แต่ทว่า ข้าได้ยินบางสิ่ง ว่ามีบางคนไม่ทำตามกฎและไม่ยอมจ่ายรายเดือน ดังนั้นจึงต้องมาดูด้วยตนเอง”

ดูท่าเขาคงจะมาเพราะเหตุนี้จริงๆ!

หลัวเฉิงหรี่ตาลงแต่มิได้เปิดปากกล่าวคำใด

หลินจินไท่ค่อยๆ เดินไปหาหลัวเฉิง แล้วกล่าววาจาแช่มช้า

“ศิษย์บำรุงสำนักในขั้นหลอมกายาทุกคนต้องจ่ายโอสถเลือดลมในทุกเดือน นี่เป็นกฎที่ถูกกำหนดโดยผู้อาวุโสเหอ เจ้าพึ่งมาถึงข้าจึงไม่ถือโทษเพราะคิดว่าเจ้ายังไม่เข้าใจกฎดี แต่ข้าไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นซ้ำเป็นครั้งที่สอง”

หลัวเฉิงกล่าวด้วยสีหน้าไม่แยแส “กฎของสำนักที่ข้าได้เรียนรู้มีเพียงในบันทึกซวนหยวนเท่านั้น ซึ่งมันไม่มีกฎที่เจ้าว่า”

“โอ้…”

หลินจินไท่ถึงกับตกตะลึงไปครู่ จากนั้นเหยียดยิ้มเล็กน้อยพร้อมประกายแสงเย็นวาบในแววตา

“ข้าไม่รู้มาก่อนว่าเจ้ามีนิสัยเถรตรงนัก แต่อย่างไรเสีย ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้รับความเคารพ และผู้อ่อนแอทำได้เพียงแค่เชื่อฟัง นี่คือกฎแห่งความเป็นจริงที่เจ้าต้องยอมรับ กฎเกณฑ์สามารถถูกสร้างและควบคุมโดยผู้แข็งแกร่งเท่านั้น”

“แล้วข้าจะบอกกฎของข้าให้เจ้าได้รู้ไว้! มีอยู่สองทางเลือกให้เจ้าในตอนนี้ ทางเลือกแรกทำเหมือนหลี่ฮุ่ย ยอมเป็นสุนัขรับใช้และทำหน้าที่ให้ดี เจ้าจะได้รับโอสถเลือดลมเพิ่มสิบเม็ดในทุกเดือน”

“ส่วนทางเลือกที่สอง ฮ่าๆ...”

หลังหัวเราะราวเย้ยหยัน หลินจินไท่ก็ยื่นมือออกไปตบบนไหล่ของหลัวเฉิงสองครั้ง

“ข้าจะกลับมาฟังคำตอบเจ้าอีกครั้งหลังสิ้นสุดการทดสอบชิงอวิ๋น ข้าหวังว่าทางเลือกของเจ้านั้นจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”

หลินจินไท่แสยะยิ้มอย่างมีความในแฝง จากนั้นหันหลังแล้วเดินไปทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด