ตอนที่แล้วบทที่ 57 เสิ่นหมินเหยา: ฉันจะเป็นแฟนคุณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 59 ฉันจะไม่ดูถ้าไม่มีเขา

บทที่ 58 ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้


สวี่ชิวเหวินถือกีตาร์ด้วยมือหนึ่งและไมโครโฟนในมืออีกข้าง เดินช้าๆไปตรงกลาง จากนั้นนั่งลงโดยหันหน้าไปทางสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ

ทั้งสามสาขามักจะหันหลังให้กับชั้นเรียนตัวเองและเผชิญหน้ากับชั้นเรียนอื่นเสมอเมื่อทำการแสดง

แต่สวี่ชิวเหวินไม่ใช่คนโง่ อีกสองสาขามีแต่เด็กผู้ชาย จุดประสงค์ของการแสดงต่อหน้าพวกเขาคืออะไร?

แน่นอนว่าเขาย่อมแสดงต่อหน้าชั้นเรียนของตัวเองและสาวๆในชั้นเรียน

สวี่ชิวเหวินนั่งลงช้าๆ วางลำโพงไว้หน้ากีตาร์ จากนั้นดีดสายอย่างสบายๆ และแสดงทักษะของเขา

เส้นโน้ตแผ่วเบากระจายผ่านลำโพงไปในอากาศ

ทักษะเพียงเล็กน้อยของเขาก็ทำให้หลายคนตาสว่างทันที

เด็กสาวจากสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศที่ไม่มั่นใจในตัวสวี่ชิวเหวินมากนักก็เริ่มตั้งตารอเช่นกัน

ท้ายที่สุดแล้ว เขาเคยเล่นในมหาวิทยาลัยมาหลายปีในชีวิตก่อนหน้านี้ สวี่ชิวเหวินจะไม่สามารถเล่นกีตาร์ได้อย่างไร? มันเป็นวิธีจีบสาวที่พบบ่อยที่สุด

มันเป็นเรื่องบังเอิญที่สวี่ชิวเหวินสามารถเล่นกีตาร์ได้

ชาติก่อน ตอนที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย เขาได้พบกับรุ่นพี่ปีสองของชมรมดนตรีซึ่งบังเอิญมาจากหลางหยา เมื่อชมรมดนตรีรับสมัครนักศึกษาใหม่ สวี่ชิวเหวินจึงเข้าร่วมด้วยการแนะนำจากเพื่อนบ้าน

ต่อมา สวี่ชิวเหวินไม่เพียงแต่ได้เรียนรู้วิธีการเล่นเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดเท่านั้น แต่ยังหว่านเสน่ห์ให้กับนักศึกษารุ่นพี่อีกด้วย และเธอยังเป็นถึงประธานชมรมดนตรี

ที่จริงแล้วเขาเพิ่งเล่นกีตาร์ไม่กี่ครั้งในชมรม และเขาก็ทำให้พี่สาวหลงใหล!

ไม่มีทางน่า นี่เป็นเสน่ห์ส่วนบุคคล และคนส่วนใหญ่ไม่สามารถเรียนรู้มันได้

สำหรับรุ่นพี่ สวี่ชิวเหวินไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหลีกเลี่ยงเธอเพราะเขาเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมเกาะติด เขาถึงกับหลีกเลี่ยงการไปชมรมดนตรีด้วยเหตุผลนี้

ถึงอย่างนั้นพี่สาวก็ยังคิดถึงเขา

ครั้งสุดท้ายคือเวลาหนึ่งทุ่มของวันหนึ่ง พี่สาวส่งข้อความขอให้เขาออกมาพบ

อย่างไรก็ตาม สวี่ชิวเหวินไม่เพียงไม่ไปเท่านั้น แต่ยังไหว้วานหญิงสาวจากหลางหยาคนหนึ่งให้ไปปฏิเสธเธอแทนเขา

ตั้งแต่นั้นมาเขาแทบไม่เคยเห็นรุ่นพี่คนนั้นเลย

แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นพฤติกรรมโง่เขลาในอดีต

อย่าเพิ่งพูดถึงมัน

กล่าวโดยสรุป สวี่ชิวเหวินศึกษากีตาร์อย่างจริงจัง และด้วยกีตาร์นี้ เขาสามารถชนะใจพี่สาวคนโตที่เป็นประธานชมรมดนตรีได้ และพวกเขาก็เข้ากันได้ดีอยู่พักหนึ่ง

กลับสู่ปัจจุบัน

เป็นเวลาเย็นแล้ว และการฝึกทหารก็สิ้นสุดลง

เสียงต่างๆที่เกิดจากสนามบาสเก็ตบอลทำให้เกิดความวุ่นวายค่อนข้างมาก

ด้านนอกของสนามกีฬารายล้อมไปด้วยนักศึกษาแล้ว และน้องใหม่ที่จบการฝึกทหารก็ได้ยินเสียงดังพร้อมรีบวิ่งมาที่นี่

เมื่อเผชิญหน้ากับผู้คนมากมาย สวี่ชิวเหวินก็ไม่ประหม่าเลย

ท้ายที่สุด เขาเป็นชายในวัยสามสิบแล้วและเขายังคงมีคุณสมบัติทางจิตวิทยาอยู่บ้าง

เขาค่อยๆปรับสาย และหลังจากถึงตำแหน่งที่เหมาะสม เขาก็ปล่อยมือ หยิบไมโครโฟนบนพื้นขึ้นมาแล้วพูดกับสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศว่า “เพลงนี้เป็นของขวัญสำหรับสาวๆจากสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ มันเป็นเพลงต้นฉบับ เนื้อและทำนองฉันเขียนเองทั้งหมด ชื่อของมันคือ ‘ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้’ ฉันหวังว่าคุณจะชอบ”

หลังจากตัดสินใจขึ้นแสดง สวี่ชิวเหวินก็คิดแล้วว่าเขาจะร้องเพลงไหน

เขาจะไม่ร้องเพลงที่ออกมาแล้วอย่างแน่นอน ถ้าเขาอยากร้อง ก็ต้องเป็นเพลงที่ยังไม่ถูกเผยแพร่

นี่จะทำให้ทุกคนประหลาดใจ

หลังจากหยิบกีตาร์แล้วหันไปมองสาวๆสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ จู่ๆเขาก็เกิดไอเดียขึ้นมา

เพลง “ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้” เป็นเพลงที่ออกโดยพี่ซ่งในปี 2009

สวี่ชิวเหวินชอบเพลงนี้มากในชีวิตที่แล้ว

เพราะเพลงนี้ไม่ว่าจะเป็นการออกเสียงที่ยืดหยุ่น จังหวะอันยอดเยี่ยม หรือเสียงเกียจคร้านของพี่ซ่ง อธิบายได้ครบถ้วนว่า ‘ฉันแค่อยากร้องเพลงให้คุณฟัง’ ‘ไม่ว่าคุณจะมีสไตล์แบบไหนก็ตาม’ ‘ทำไมต้องสนใจโลกด้วย’ หรือ ‘จิตวิญญาณแห่งความเยาว์วัยที่ไม่เกรงกลัวใคร’

ความอ่อนเยาว์แบบนี้สอดคล้องกับตัวตนของเขาในตอนนี้เลยไม่ใช่เหรอ?

จะมีเพลงไหนเหมาะไปกว่านี้อีก?

สวี่ชิวเหวินลดไมโครโฟนลงอีกครั้ง วางนิ้วบนสายแล้วดึงมันเบาๆ ไม่ใช่แค่สายที่ถูกดึงออกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัยเยาว์ของเขาด้วย

แน่นอนว่าถึงจะเล่นกีตาร์ได้แต่ถ้าเสียงแย่ก็คงไม่ได้ผล

แต่สวี่ชิวเหวินมีเสียงที่ดีในชีวิตก่อนของเขา และทุกแง่มุมของเขาหลังการเกิดใหม่ก็พัฒนาขึ้น ตอนนี้เสียงของเขาจึงดีขึ้นกว่าเดิม

การเล่นและร้องเพลงด้วยตนเองในมหาวิทยาลัยไม่เหมือนการแสดงความสามารถพิเศษ มันเกินพอแล้ว!

เมื่อเสียงอินโทรดังขึ้น ทุกคนในสนามรวมถึงผู้ชมต่างก็มีสีหน้าสงสัย

นี่คือเพลงอะไร?

เขาแต่งเองจริงๆเหรอ?

มันเจ๋งมาก!

มีคนตะโกนว่า “อย่าเสียงดังและตั้งใจฟัง!”

พระอาทิตย์ยามเย็นส่องแสงบนใบหน้าของสวี่ชิวเหวิน แต่ในเวลานี้ เขาหลับตาลงด้วยอารมณ์และเลื่อนนิ้วไปบนสาย

วินาทีต่อมา เสียงที่ผ่อนคลายและเกียจคร้านเล็กน้อยของสวี่ชิวเหวินก็ดังขึ้น

“...ท้องฟ้าดูราวกับว่าฝนใกล้จะตก

ฉันอยากอยู่ข้างคุณจริงๆ

ยืนเซ่อๆอยู่ใต้ตึกบ้าน

แหงนหน้าขึ้นไปนับกลุ่มเมฆดำ

หากว่าฉากตรงหน้ามีเปียโนหนึ่งหลังปรากฏออกมา

ฉันพร้อมจะร้องเพลงให้คุณฟัง

แม้ว่าจะมีหยาดน้ำมากมายไหลรินลงมาก็ตาม

ไหลลงมา โปรยลงมา

ฤดูร้อนใกล้แปรผ่านไปแล้ว

อยากให้คุณซื้อไอศกรีมให้น้อยลงหน่อย

อากาศเย็นก็อย่าใส่เสื้อแขนสั้น

อย่าดื้อใส่กันนักเลยนะ

ถ้าหากมีบางครั้งที่ไม่สบายใจ

ฉันยินดีให้คุณยืมเก๋อลั่วหมี่

ที่จริงแล้ว คุณก็คงเข้าใจในความตั้งใจของฉันนะ

เพลงนี้ที่ร้องมันเพื่อคุณ ไม่มีสไตล์พิเศษอะไร

มันเป็นแค่ตัวแทนของฉัน ที่หวังจะให้คุณมีแต่ความสุข

ฉันจะละลายธารน้ำแข็งเพื่อคุณ และเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ

ไม่มีสักเรื่องเดียวที่ไม่คุ้มค่าเลย

เพลงนี้ที่ร้องมันเพื่อคุณ ไม่มีสไตล์พิเศษอะไร

มันเป็นแค่ตัวแทนของฉัน

ที่หวังจะให้คุณมีแต่ความสุข

เพื่อคุณ ฉันนอนพลิกตัวอย่างครุ่นคิดไม่ตก

และยอมละทิ้งโลกทั้งใบเพื่อคุณ

ทำไมจะเป็นไปไม่ได้กันล่ะ

ในปลายฤดูร้อนบวกกับความหนาวเย็นของฤดูใบไม้ร่วง

นำพาความอบอุ่นผ่านเข้ามา

เปลี่ยนแปลงสีสันของฤดูกาลได้เป็นอย่างดี...”

เพลงนี้ผ่อนคลายและร่าเริง และเสียงของสวี่ชิวเหวินก็ไพเราะเช่นกัน

เวลานี้ บรรยากาศของสถาบันเจียงหลิงในสนามบาสเก็ตบอลที่เรียบง่ายแห่งนี้ ทั้งผ่อนคลายและน่ารื่นรมย์

การร้องอันไพเราะของสวี่ชิวเหวินดังก้องไปทั่วทุกมุมของสนามบาสเก็ตบอล แค่ฟังก็รู้สึกทึ่ง!

สวี่ชิวเหวินลืมตาขึ้นและมองไปที่หญิงสาวจากสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ

เขาไม่ได้ตั้งใจจะมองใครเป็นพิเศษ แต่ถังเว่ยเว่ยบังเอิญนั่งอยู่ตรงหน้าเขา ผมหน้าม้าของหญิงสาวยังคงยาวมาก แต่คราวนี้เธอไม่ได้ก้มศีรษะลง แต่มองมายังใบหน้าหล่อเหลาของสวี่ชิวเหวินเหมือนสาวๆคนอื่น

สายตาของพวกเขาสบกันในอากาศ

รสหวานเริ่มก่อตัวขึ้น

ถังเว่ยเว่ยมองเข้ามาในดวงตาของสวี่ชิวเหวิน หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้

สาวๆคนอื่นๆก็ดูตื่นเต้นเช่นกันเมื่อเห็นสวี่ชิวเหวินมองดูพวกเขา เด็กผู้หญิงบางคนถึงกับยื่นหน้าออกไป

เสิ่นหมินเหยาก็มึนเมาไปกับเสียงเพลง เธอกอดขาและนั่งอยู่ท่ามกลางฝูงชน เมื่อมองไปที่ใบหน้าด้านข้างของสวี่ชิวเหวิน ดวงตาของเธอพร่ามัวเล็กน้อย

ในเวลานี้ จู่ๆสวี่ชิวเหวินก็ลุกขึ้นและเดินไปหาสาวๆจากชั้นเรียน

ไม่มีใครเข้าใจว่าเขากำลังจะทำอะไร

ภายใต้การจ้องมองของทุกคน สวี่ชิวเหวินเดินไปหาถังเหว่ยเว่ย จับมือหญิงสาวเบาๆ แล้วดึงหญิงสาวให้มานั่งตรงกลาง

คราวนี้ทั้งสองนั่งหันหน้าเข้าหากัน

ผู้คนที่เฝ้าดูอยู่โดยรอบอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องเมื่อเห็นฉากนี้ สาวๆในชั้นเรียนต่างมองถังเว่ยเว่ยด้วยความอิจฉา

เสิ่นหมินเหยาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ส่วนถังเว่ยเว่ยไม่มีสติอีกต่อไปแล้วในเวลานี้

เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกสวี่ชิวเหวินพามาตรงนี้ได้อย่างไร เธอรู้เพียงแต่ต้องติดตามการเคลื่อนไหวของเขาเท่านั้น

เมื่อมองจากหน้าม้าของถังเว่ยเว่ยลงไปที่ริมฝีปากของเธอ สวี่ชิวเหวินก็พูดอีกครั้ง “ท้องฟ้า ฉันอยากอยู่ข้างคุณจริงๆ...”

/////

(TL: เนื้อเพลงแปลและชื่อเพลง ‘ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้《有何不可》จากช่อง HmiwzP)