บทที่ 56 การแสดงอันน่าทึ่ง
“...ทำไมคุณไม่บอกฉันถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา
เรื่องราวความรักที่คุณเคยมี
ยังไงฉันก็รักคุณนะ บอกมาเถอะ
พูดมันออกมาจากใจ
ไม่ว่าคุณจะพูดยังไง ฉันก็ยังคงเป็นแฟนคุณ
หยุดกังวลเถอะ
อยู่เคียงข้างฉันตราบนานเท่านานก็พอ
หวังว่าคุณจะเชื่อใจกัน และอยู่กับฉันตลอดไป
เพราะฉันคือแฟนของคุณ กอดฉันทีสิ
เก็บฉันไว้ในความทรงจำ
แล้วอยู่เคียงข้างกันตราบนานเท่านาน
ไม่ต้องมีเหตุผลอะไรมากมาย
รู้แค่ว่า คุณทำให้ฉันรู้สึกสบายใจก็พอ
คุณคือคนเดียวที่มอบรอยยิ้มอันจริงใจให้ฉัน
ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย
ขอแค่คุณอยู่ข้างๆกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็พอ
ขอให้คุณจดจำเรื่องของฉันเอาไว้
เพราะฉันคือแฟนของคุณ กอดฉันทีสิ
เก็บฉันไว้ในความทรงจำ
แล้วอยู่เคียงข้างกันตราบนานเท่านาน
ฉันแค่อยากได้ยินคุณบอกว่า คุณน่ะเป็นแฟนฉัน
ฉันจะรักคุณตลอดไป
ที่รัก คุณจะอยู่ในใจดวงนี้ตลอดกาล...”
ด้วยเนื้อเพลงที่หลั่งใหลออกมา และได้เห็นการเต้นของไป๋เยว่เอ๋อร์ สวี่ชิวเหวินก็นึกถึงเพลงนั้นทันที
“I'm Your Girl” โดย S.E.S.
นี่คือเพลงแดนซ์เกาหลี ปล่อยโดยวง S.E.S. ในปี 1998
สวี่ชิวเหวินรู้จักเพลงนี้เพราะเขามีโอกาสได้ดู Running Man ตอนหนึ่งในชีวิตที่แล้ว และมีแขกรับเชิญหญิงเต้นเพลงนี้
มันเหมือนกับการเต้นของไป๋เยว่เอ๋อร์ตรงหน้าเขาทุกประการ
ไป๋เยว่เอ๋อร์ท้าวเอวและบิดสะโพกของเธอตามเสียงเพลง แกว่งแขนและบิดตัวไปมา หมุนเป็นวงกลม... สรุปสั้นๆก็คือสวยงามมาก
เมื่อจับคู่กับกางเกงรัดรูป เธอดูเซ็กซี่และมีเสน่ห์
เด็กชายทุกคนตกตะลึงและน้ำลายไหล
ในขณะที่เช็ดน้ำลาย หยางไป่ซานจ้องมองที่เอวของไป๋เยว่เอ๋อร์และตะโกนหาซือเซียงหมิงที่อยู่ข้างๆเขาว่า “พี่สะใภ้เต้นเก่งมาก พี่ซือ ทำไมไม่บอกฉันล่ะว่าพี่สะใภ้ก็เรียนเต้นด้วย”
ซือเซียงหมิงไม่รู้ว่าไป๋เยว่เอ๋อร์สามารถเต้นได้ และเธอยังเต้นเก่งมากด้วย
เขาเองยังตกใจ!
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางไป่ซาน เขาไม่ต้องการให้คนอื่นเข้าใจว่าเขาก็เพิ่งรู้วันนี้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่กัดกระสุนแล้วพูดว่า “เธอไม่ได้เรียนจริงจัง เธอเรียนรู้จากการดูโทรทัศน์”
“พี่สะใภ้มีพรสวรรค์มาก!”
หยางไป่ซานพูดคุยเกี่ยวกับพี่สะใภ้ของเขา แต่เขาไม่เคยละสายตาจากเอวของพี่สะใภ้
ตอนนี้เขาลืมไปแล้วว่าพวกเด็กๆจากสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมข้างๆพึ่งล้อเลียนพวกเขา เขาตะโกนและโห่ร้องไปพร้อมอีกฝ่าย และเขาก็ตื่นเต้นมาก
นักศึกษาฝึกทหารกลุ่มหนึ่งกำลังตะโกนโหวกเหวก และทุกคนที่ผ่านไปมาก็ถูกดึงดูด หลายคนหยุดและมองดู
ชั้นเรียนจากสถานที่อื่นก็ใช้ประโยชน์จากการพักเพื่อมาเรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์
ภายใต้ความสนใจของหลายๆคน ไป๋เยว่เอ๋อร์ราวกับได้ก้าวขึ้นไปบนเวทีจริงแล้ว ร่างกายของเธอเปล่งประกาย
ในช่วงสุดท้ายของเพลง ไป๋เยว่เอ๋อร์หันกลับมาเผชิญหน้ากับสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยหันหลังให้กับเด็กผู้ชายจากแผนกวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ เธอเงยหน้าขึ้น และผมยาวสลวยก็ถูกสะบัดด้วยความเฉื่อย
เด็กสาวเอียงศีรษะและยิ้มหวานให้กับเด็กหนุ่มในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ในเวลานี้ ไป๋เยว่เอ๋อร์ปลดปล่อยเสน่ห์อันไม่มีที่สิ้นสุด
หนุ่มๆในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศระเบิดทันที!
หยางไป่ซานกอดซือเซียงหมิงด้วยความตื่นเต้นและตะโกนว่า “พี่สะใภ้สุดยอด!”
อีกสองชั้นเรียนไม่ได้เห็นฉากสุดท้ายของไป๋เยว่เอ๋อร์ แต่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความตื่นเต้นของเด็กหนุ่มหลังจากชมการเต้นทั้งหมด
บางทีพวกเขาอาจถูกพิชิตโดยการเต้นของไป๋เยว่เอ๋อร์ ดังนั้นเด็กผู้ชายจากสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์จึงปรบมือกัน
เสียงปรบมือพร้อมกับเสียงตะโกนและแรงผลักดันในสนามบาสเก็ตบอลดึงดูดผู้คนให้มาชมมากขึ้น
เด็กสาวหลายคนในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศโดยปกติแล้วไม่ตื่นเต้นเท่าเด็กผู้ชาย
หลังจากดูการเต้นของไป๋เยว่เอ๋อร์แล้ว พวกเธอก็อิจฉามากยิ่งขึ้น
ดูได้จากปฏิกิริยาของหนุ่มๆรอบข้าง ใครๆก็ส่งเสียงโห่ร้องกันทั้งนั้น
มันแสดงให้เห็นว่าทุกคนชอบการเต้นของไป๋เยว่เอ๋อร์มากเพียงใด
สาวๆทุกคนรู้ดีว่านับจากนี้ไป เด็กสาวอย่างไป๋เยว่เอ๋อร์จะทิ้งความประทับใจอันลึกซึ้งไว้ให้กับเด็กผู้ชายหลายคนไปอีกนาน
แต่พวกเธอก็รู้ด้วยว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอจะอิจฉาได้
คนที่เดินผ่านไปมาหรือนักศึกษาจากชั้นเรียนอื่นก็กระซิบถามกันว่าผู้หญิงที่เต้นเมื่อกี้นี้เป็นใครและเธอชื่ออะไร
มีการอภิปรายอย่างไม่สิ้นสุด
ไป๋เยว่เอ๋อร์เพิ่งเต้นเสร็จและหายใจหอบเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีเหงื่อบางๆบนแก้มและคอของเธอ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูมันเยิ้ม และกลับเพิ่มความดึงดูดใจทางเพศเสียมากกว่า
ไป๋เยว่เอ๋อร์คืนลำโพงให้กับสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ จากนั้นเก็บโทรศัพท์ที่พื้นขึ้นแล้วกลับไปยังชั้นเรียน
เสิ่นหมินเหยายกนิ้วโป้งของเธอให้ไป๋เยว่เอ๋อร์ทันที
ถังเว่ยเว่ยและซูหยานหยานก็มองดูอย่างชื่นชมเช่นกัน
การเต้นของไป๋เยว่เอ๋อร์ได้รับความสนใจอย่างมากจากสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
คนกลุ่มหนึ่งตะโกนไปที่สาขาวิทยาศาสตร์อย่างมั่นใจและบอกให้พวกเขาออกมา
เด็กหนุ่มที่เรียนสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ต่างมองหน้ากัน โดยรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะนิ่งเงียบ ชายสองคนจึงเดินออกมา
หนึ่งในนั้นคือเด็กผู้ชายที่ร้องเพลง“ในที่สุดเธอรักใคร” และอีกคนเป็นหน้าใหม่ ถือกีตาร์ที่เขาได้มาจากที่ไหนสักแห่ง
หลังจากที่ทุกคนเห็นแล้วก็เริ่มพูดคุยกัน
ดูเหมือนว่านี่คือทักษะไม้ตายเฉพาะของสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์!
เด็กชายทั้งสองเดินไปตรงกลางแล้วนั่งบนพื้นหันหน้าเข้าหากัน โดยมีลำโพงอยู่ระหว่างพวกเขา
ชายที่ร้องเพลงก่อนหน้านี้ก็กระแอม มองไปรอบๆแล้วพูดว่า “เราจะร้องเพลง ‘ดอกไม้เหล่านั้น’ ของผู่ซู่”
เด็กชายที่ถือกีตาร์ค่อยๆดีดนิ้วบนสาย และอินโทรของ‘ดอกไม้เหล่านั้น’ก็ดังขึ้นเหนือสนามกีฬาทันที
การแสดงของทั้งสามสาขาอยู่ในระดับสูงจนดึงดูดผู้คนให้หยุดดูมากขึ้นเรื่อยๆ
ในเวลานี้ มันเกือบล้อมเป็นวงกลมนอกสนามบาสเก็ตบอลแล้ว และผู้คนยังคงหลั่งไหลเข้ามา
“...เสียงหัวเราะนั้น ทำให้นึกถึงมวลดอกไม้ของฉัน
ที่ผลิบานอย่างเงียบงัน เพื่อกันในทุกแง่มุมของชีวิต
เคยเข้าใจไปเองว่าฉันจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป
วันนี้เราต้องห่างไกล ไปในคลื่นทะเลคน
พวกเขาแก่เฒ่าหรือยังหนอ
พวกเขาอยู่ ณ ที่แห่งใด
เราต่างไปไกลสุดหล้า ในแต่ละเส้นทางของตน
ลัน ลัน ลา...คิดถึงเธอ
ลัน ลัน ลา...เธอยังผลิบานดังเดิมไหม
ลัน ลัน ลา...ไปเถิดจงไป...”
‘ดอกไม้เหล่านั้น’ เป็นเพลงของผู่ซู่ในปี 1999
เพลงนี้เศร้าและอบอุ่นหัวใจมาก
มีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถร้องเพลงนี้ได้ และบางคนถึงกับเริ่มร้องตามด้วย
ทั่วทั้งสนามดูราวกับกำลังร้องประสานเสียง และทุกคนก็ดำดิ่งลงไปในมหาสมุทรแห่งความเยาว์วัย
หลังจากนั้นไม่นานเพลงก็จบลง และการแสดงร่วมกันของทั้งสองก็เอาชนะใจคนส่วนใหญ่ได้ แต่ไม่ใช่กับหยางไป่ซานอย่างแน่นอน
เขายังคงตะโกนว่า “ให้ตายเถอะ คุณสามารถเล่นและร้องด้วยตัวเองได้ แบ่งคนหนึ่งเล่นแล้วอีกคนร้องจะมีประโยชน์อะไร? แล้วคุณก็เคยขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำไมคุณถึงหน้าด้านขนาดนี้?”
หลังจากที่สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์แสดงแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกฝั่งวิศวกรรมโยธา มีเด็กชายคนหนึ่งเดินเข้ามาตรงกลางด้วยตัวเอง
เด็กชายถือฮาร์โมนิก้าอยู่ในมือ
เขานั่งบนพื้น หันหน้าไปทางสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์ และค่อยๆเล่นฮาร์โมนิกา
เด็กชายเล่นฮาร์โมนิก้าได้ดีมาก และทุกคนก็ปรบมือพร้อมชื่นชมเขาอีกครั้ง
เรียกได้ว่าในรอบนี้ทั้งสามสาขา หรือให้เจาะจงก็คือแสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์กับวิศวกรรมศาสตร์มีความเท่าเทียมกัน อย่างน้อยก็ในสายตาของคนส่วนใหญ่
/////