“ไม่ได้ เราแจ้งญาติทุกคนไปหมดแล้ว ตอนนี้คุณมาบอกว่าจองไว้แต่ถูกยึด คุณจะให้หน้าตาเรามีไว้ทำอะไร! เราบอกญาติทุกคนว่าจะจัดงานที่ห้องจักรพรรดิ” แม่ของลู่เถียนเถียน หลี่จินฮวา พูดด้วยความไม่พอใจ

พรุ่งนี้คือวันจัดงานหมั้น คุณมาบอกแบบนี้?

แต่เดิมเธอไม่ค่อยพอใจจ้าวเฟิงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไม่เกรงใจเลย

ญาติๆ คนอื่นก็พากันพูด

“ถ้าไม่แจ้งคนอื่น คุณจะเปลี่ยนที่ก็เปลี่ยนไป แต่พรุ่งนี้จะจัดงาน คุณมาบอกแบบนี้”

“หรือว่าพี่สาวและพี่เขยของคุณเป็นการหลอกลวงมาตลอด คุณไม่เคยจองห้องจักรพรรดิที่โรงแรมตงหยาง แค่โกหกเพื่อรักษาหน้า พอต้องจัดงานจริงๆ กลับพูดว่าไม่ได้จองไว้แล้ว ทำให้เราดูเป็นตัวตลก”

“พรุ่งนี้ต้องจัดงานที่ห้องจักรพรรดิของโรงแรมตงหยาง ถ้าไม่ได้จัดที่นั่น เราจะไม่มาร่วมงาน”

“คุณยังอยากหมั้นอยู่ไหม!”

จ้าวเฟิงไม่ค่อยเก่งในการพูด ตอนนี้ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ และพ่อแม่ของเขาที่เป็นคนซื่อๆ ก็ยิ่งไม่รู้จะทำยังไง

ลู่เถียนเถียนไม่ค่อยใส่ใจ เพราะคิดว่าจะแต่งงานอยู่แล้ว จะคิดมากเรื่องนี้ทำไม?

แต่เมื่อเธอพยายามพูด ก็ถูกแม่ของเธอตวาด

“เถียนเถียน อย่ายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ ตอนนี้ยังไม่ได้แต่งงาน ลูกชายคนนี้ก็ไม่ให้ความสำคัญกับคุณ ถ้าแต่งงานแล้วจะเป็นยังไง คุณควรรู้ดี ฉันไม่อยากพูดมาก

จ้าวเฟิง ฉันบอกคุณนะ การได้แต่งงานกับลูกสาวของเราเป็นเกียรติของตระกูลจ้าว อย่ามาพูดว่าพี่สาวของคุณมีเงิน นั่นเป็นเรื่องของพี่สาวคุณ เธอซื้อบ้านให้คุณแล้ว จะให้เงินคุณด้วยเหรอ?

สุดท้ายคุณต้องพึ่งพาตัวเอง ถ้าคุณจัดงานหมั้นไม่ได้ ฉันจะฝากลูกสาวกับคุณได้ยังไง และฉันก็แจ้งญาติและเพื่อนทั้งหมดไปแล้ว ถ้าต้องไปจัดที่โรงแรมเล็กๆ จะให้หน้าฉันไปอยู่ไหน?

หาโรงแรมดีๆ จัดงานแต่งให้ลูกสาวไม่ได้ แล้วจะหวังพึ่งพาคุณอะไรได้อีก?”

จากมุมมองของแม่ลู่เถียนเถียน เธอพูดถูก

เรื่องแต่งงานไม่ควรประมาท

“รอพี่สาวผมมาก่อน ถามดูว่าเกิดอะไรขึ้น” จ้าวเฟิงพูดอีกครั้ง

ญาติของลู่เถียนเถียนพากันทำเสียงหึหึ พวกเขารู้ว่าจ้าวหยิงหยิงมีเงินบ้าง แต่ไม่รู้ว่าเธอมีมากแค่ไหน

ในสถานการณ์นี้ต้องรอจ้าวหยิงหยิงมาอธิบายเรื่องราว แล้วค่อยว่ากันต่อ

บรรยากาศเงียบงันและอึดอัด

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง

เล่ยหมิงและจ้าวหยิงหยิงเดินเข้ามา เห็นบรรยากาศเงียบงันภายในบ้าน จ้าวหยิงหยิงถามด้วยความประหลาดใจ “พ่อแม่ จ้าวเฟิง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนเงียบจัง!”

“พี่สาว ผมอยากถามว่าโรงแรมจะจัดงานหมั้นพรุ่งนี้ได้ไหม?” จ้าวเฟิงพูดด้วยความไม่สบายใจ

“ถ้างานหมั้นพรุ่งนี้จัดไม่ได้ ก็ไม่ต้องแต่งแล้ว ตอนนี้เราบอกไปแล้ว ญาติของเราทุกคนรู้หมดแล้วว่าจัดงานที่ห้องจักรพรรดิของโรงแรมตงหยาง

ถ้าจัดไม่ได้ หน้าของเราจะไปอยู่ไหน?” แม่ของลู่เถียนเถียนพูด

จ้าวหยิงหยิงเข้าใจว่าพวกเขาไม่พอใจเรื่องนี้

“โรงแรมตงหยางจัดไม่ได้ เพราะว่าห้องจักรพรรดิถูกเศรษฐีหมู่หยาง อู๋ซิ่วไฉ ยึดไป แต่ไม่ต้องกังวล...” เธอยังพูดไม่จบก็ถูกญาติของลู่เถียนเถียนขัดจังหวะ

“จัดไม่ได้แล้วจะให้เราสบายใจได้ยังไง!”

“หน้าของเราจะไปอยู่ไหน?”

“คุณเคยคิดถึงเรื่องนี้บ้างไหม? คุณแค่พูดไม่กี่คำก็จบ แต่ญาติของเราที่ทำธุรกิจหรือทำงานในบริษัทต่างๆ มาจากเมืองเทียนจิงและที่อื่นๆ เพื่อมาร่วมงาน คุณบอกว่าจัดไม่ได้

แล้วเวลาของพวกเขาล่ะ คุณเคยคิดถึงบ้างไหม?”

ทุกคนพากันพูด

จ้าวหยิงหยิงพยายามพูดแต่ก็ถูกขัดทุกครั้ง

ทุกคนเห็นตรงกันว่า

เศรษฐีหมู่หยางยึดห้องจักรพรรดิ และตอนนี้จองโรงแรมอื่นก็ไม่ทัน

งานหมั้นคงจะจัดไม่ได้

“พอได้ไหม? เราไม่เคยบอกว่างานหมั้นจัดไม่ได้ แค่ที่หมู่หยางมีโรงแรมแห่งเดียวหรือไง ที่อื่นไม่มีโรงแรมเหรอ?”

เล่ยหมิงโกรธกับเสียงดังของพวกเขาแล้วพูดด้วยความไม่พอใจ

ทุกคนเงียบชั่วคราว แต่ยังพูดด้วยความไม่พอใจ

“เรารู้ว่าคุณมีเงิน แต่คุณมีเงินมากกว่าเศรษฐีหมู่หยางไหม จะไปแย่งห้องจักรพรรดิมาจากเขาได้?”

“ถ้าแย่งมาได้ ทำไมไม่ไปทำก่อนล่ะ? ตอนนี้มาพูดโกหก”

“เศรษฐีหมู่หยางมีทรัพย์สินเป็นหลายร้อยล้าน คุณจะเทียบกับเขาได้ไหม เมืองเล็กๆนี้ก็มีคนใหญ่โตนะ”

ญาติพากันพูดอย่างไม่สนใจ

เล่ยหมิงหัวเราะเยาะ “หลายร้อยล้านเยอะหรือ?”

“คุณดูคลิปใน TikTok มากไปหรือเปล่า? ใน TikTok ทุกคนพูดว่ามีเงินเป็นล้าน นั่นมันแค่พูด แต่คุณคิดว่าซื้อบ้านในหมู่หยางให้จ้าวเฟิงแล้วคุณรวยเหรอ?

ตอนนี้บ้านราคาเจ็ดแปดแสน ครอบครัวไหนรวบรวมเงินได้ก็มี แต่คุณแค่มีเงินมากกว่าเราไม่มาก”

แม่ของลู่เถียนเถียนพูดด้วยความไม่สนใจ

เล่ยหมิงส่ายหัว ความไม่รู้คือความโง่เขลา!

แต่ในขณะนั้น มีเสียงเคาะประตู

0 0 โหวต

Article Rating

0 Comments

Inline Feedbacks

ดูความคิดเห็นทั้งหมด