บทที่ 216 ความร่วมมือ
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 216 ความร่วมมือ
สายตาของเขาจับจ้องไปที่ประธานาธิบดีรัสเซียที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ถึงในสายตาของเขา อีกฝ่ายอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมาย แต่ชายผู้นี้กลับดูองอาจอย่างน่าประหลาดใจ
แม้ว่าซุนเฉิงจะไม่ได้สนใจประเทศรัสเซียสักเท่าไหร่นัก แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะยอมรับว่า ชายผู้นี้สมแล้วที่ถูกเรียกว่ายอดผู้นำแห่งรัสเซีย
ซึ่งถึงอีกฝ่ายจะมีท่าทางองอาจเพียงใด มันก็ไม่ได้ช่วยให้เขายอมอ่อนข้อเรื่องการแลกเปลี่ยนให้หรอกนะ
ในดวงตาของเขา แสงสีฟ้าจางๆ สั่นไหว ซุนเฉิงเปิดใช้งานฟังก์ชันภาพเสมือนจริงอีกครั้ง
ในเวลาต่อมา วลาดิเมียร์และคนอื่นๆ ก็รู้สึกพร่ามัวชั่วครู่ คฤหาสน์ประธานาธิบดีตรงหน้าได้หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย มันถูกแทนที่ด้วยดาวเคราะห์ที่ปกคลุมไปด้วยโครงสร้างเหล็กที่ให้กลิ่นอายของยุคอนาคต
บนดาวดวงนี้ การต่อสู้ที่ดุเดือดกำลังเกิดขึ้น
ภูเขาไฟปะทุ พ่นลาวาเดือดสาดกระเซ็นทั่วท้องฟ้า ในขณะที่ยักษ์จักรกลขนาดมหึมาที่มีรูปร่างน่าเกรงขามและใบหน้าดุร้ายกำลังต่อสู้กันไปทั่ว พวกมันใช้ปืนใหญ่เลเซอร์หรือดาบโลหะผสมที่ไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งได้ท่ามกลางซากศพที่กองสุมอยู่บนพื้น
ซุนเฉิงถือโอกาสแสดงภาพของเมกะทรอนและออฟติมัสไพร์มให้ทุกคนเห็น ในไม่ช้าสายตาของวลาดิเมียร์และคนอื่นๆ ก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง เขาพูดขึ้นว่า "อย่างที่ข้าได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ พวกเรามาจากดาวไซเบอร์ตรอน ดาวดวงหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากโลก โลกของเราเป็นที่อยู่ของสองเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน ดีเซปติคอนและออโต้บอตส์"
"เนื่องด้วยความขัดแย้งทางอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน สงครามกลางเมืองอันดุเดือดจึงปะทุขึ้นระหว่างพวกเราดีเซปติคอนและออโต้บอตส์ ซึ่งในท้ายที่สุด มันได้ทำลายอารยธรรมและดาวบ้านเกิดของเรา นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดการสูญเสียสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตสิ่งมีชีวิตจักรกลอย่างเรา นั่นคือ ออลสปาร์ค เพื่อค้นหาออลสปาร์ค ผู้นำเมกะทรอนได้ส่งนักรบชั้นยอดจำนวนมากออกไปทั่วจักรวาล และทีมของข้าก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น"
เมื่อพูดจบ เขาก็กะพริบตาและภาพเสมือนจริงก็หยุดลงทันที
เมื่อนั้นเอง วลาดิเมียร์และคนอื่นๆ จึงรู้ได้ว่าพวกเขายังคงอยู่ในคฤหาสน์ประธานาธิบดี สายตาของพวกเขามองไปที่ซุนเฉิงเขม็ง มีทั้งความระแวดระวังและความจริงจังผสมปนเปกันอยู่
“ออลสปาร์ค? คุณเฟรนซี ฉันจำได้ว่าคุณเคยบอกว่าดาวของคุณอยู่ไกลจากโลกของเรามาก แล้วทำไมวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของคุณถึงปรากฏที่นี่บนโลกนี้?”
อาจเพราะเขามีชื่อเสียงในฐานะประธานาธิบดีผู้กอบกู้ประเทศด้วยการใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี เปลี่ยนจากประเทศที่พินาศและเสียหายให้กลายเป็นมหาอำนาจระดับโลกวลาดิเมียร์จึงกล้าท้าทายสหรัฐอเมริกาซ้ำแล้วซ้ำอีกในเวทีระหว่างประเทศ
ทว่า คนอย่างเขากลับตกใจภาพเสมือนที่ซุนเฉิงได้ฉายออกมา อ
ดวงตาของซุนเฉิงเผยรอยยิ้มจางๆ แต่เขาก็ไม่พลาดที่จะตำหนิออโต้บอตส์ เขาส่ายหัวตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ข้าไม่แน่ใจ แต่มันอาจเกี่ยวข้องกับออโต้บอตส์ กองทัพดีเซปติคอนของเราเอาชนะออโต้บอตส์ในสงครามกลางเมืองทำให้ ออโต้บอตส์ที่พ่ายแพ้ส่วนใหญ่กระจัดกระจายและหนีเข้าไปในจักรวาล ดังนั้นข้าจึงนำผู้ใต้บังคับบัญชาติดตามรอยของออฟติมัสไพร์มผู้นำออโต้บอตส์ไปจนถึงโลก!”
หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่วลาดิเมียร์อีกครั้ง “เราอยู่บนโลกมาครึ่งปีแล้ว หลังจากการตรวจสอบ เราสามารถยืนยันได้ว่าออโต้บอตส์มาถึงโลกอย่างน้อยหลายทศวรรษก่อนหน้าเรา พวกมันร่วมมือกับประเทศที่เรียกว่าสหรัฐอเมริกาบนโลกของพวกเจ้า และเริ่มสร้างและเสริมกำลังพวกมันโดยใช้ทรัพยากรของโลก ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเราจะสามารถเอาชนะเหล่าออโต้บอตส์และทีมสหรัฐได้ถึงสามครั้งในการต่อสู้ที่ทูซอน ลาสเวกัส และเหตุการณ์ปะทะที่โคโลราโดเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ทหารของข้าก็ต้องสูญเสียอย่างหนักเช่นกัน”
"ดังนั้นวันนี้ ข้าจึงมาที่นี่ด้วยความจริงใจ ข้าเต็มใจที่จะมอบเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ให้แก่เจ้า ซึ่งจะสามารถช่วยให้รัสเซียกลับมาครองความเป็นใหญ่เหนือโลกใบนี้ได้อีกครั้ง แต่ในทางกลับกัน เราต้องการพลังงานจำนวนมาก โลหะต่างๆและแร่ธาตุที่หายาก... จะยอมรับความปรารถนาดีของเราหรือไม่ ประธานาธิบดีแห่งรัสเซียเอ๋ย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับทางเลือกของเจ้า!"
เมื่อเขาพูดถึงการช่วยให้รัสเซียกลับมามีอำนาจเหนือโลก ใบหน้าของวลาดิเมียร์ก็ดูมีปฏิกิริยาเล็กน้อย
แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยกล่าวในที่สาธารณะว่า "ใครก็ตามที่ไม่คิดถึงสหภาพโซเวียตล้วนไร้หัวใจ ใครก็ตามที่อยากกลับไปสู่สหภาพโซเวียตก็ไร้สมอง" แต่ในฐานะผู้นำทางการเมืองที่ใฝ่ฝันจะนำรัสเซียกลับสู่จุดสูงสุดของโลก วลาดิเมียร์ย่อมไม่เคยลืมความรุ่งโรจน์ของสหภาพโซเวียต
คําพูดของซุนเฉิงดูเหมือนจะทำให้วลาดิเมียร์เปลี่ยนความคิดทันที
ขณะที่เขากําลังจะถามว่าจะให้ความร่วมมืออย่างไร ทันใดนั้นก็มีเสียงรองเท้าบูททหารอยู่นอกคฤหาสน์
วลาดิเมียร์รู้ได้เลยว่าเหตุการณ์ในทําเนียบประธานาธิบดีคงจะดึงดูดความสนใจจากโลกภายนอก ทางหน่วยรักษาความปลอดภัยก็กําลังจัดระเบียบการตอบโต้
สายตาของเขากวาดไปยังยักษ์จักรกลที่อยู่ตรงหน้าเขา อีกฝ่ายดูเหมือนจะอยู่คนเดียว สิ่งนี้ทำให้เขาผู้ซึ่งมีความภูมิใจอย่างยิ่งในแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียกำลังเกิดความคิดใหม่ๆ ขึ้นมาในใจ
คำพูดที่เกือบจะหลุดออกมาจากปากได้หยุดชะงักไปในทันที ดวงตาของเขาเริ่มสั่นไหว
วลาดิเมียร์มั่นใจว่าหากกองทัพรัสเซียสามารถทำลายหรือแม้กระทั่งจับสิ่งมีชีวิตนอกโลกนี้ได้ ด้วยรากฐานทางอุตสาหกรรมการทหารของรัสเซีย เขาคงจะได้รับประโยชน์มากมายจากจักรกลตรงหน้านี้แน่
แต่มันจะง่ายดายอย่างนั้นจริงหรือ?
บางทีอาจไม่มีใครสังเกตเห็น แต่รอยยิ้มของซุนเฉิงคล้ายกำลังยกกว้างขึ้น
หลังจากเข้าไปในคฤหาสน์ประธานาธิบดี เขาก็ปล่อยอุปกรณ์สอดแนมขนาดเล็กหลายสิบชิ้นครอบคลุมเครมลินทั้งหมด
ในเวลาเดียวกัน แกนหลักของเขากำลังทำงานเต็มที่ ฟังก์ชันการสแกนได้ป้อนข้อมูลแบบเรียลไทม์จากโลกภายนอกให้เขาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่เสียงรองเท้าทหารจะดังมาถึงหู ซุนเฉิงก็สังเกตเห็นแล้วว่ากองกำลังทหารชั้นยอดกว่าร้อยนายที่ติดอาวุธครบมือกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้เขา
เขารู้ดีว่าภายนอกมี ปืนกลหนัก ระเบิด ไรเฟิล เครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังและขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศแบบพกพามากมายกำลังคอยเล็งมาที่เขา
แต่มันจะใช้กับเขาได้งั้นเหรอ?
เขาหันกลับไปมองดวงตาที่สั่นไหวของวลาดิเมียร์อีกครั้ง ร่องรอยแห่งการเยาะเย้ยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซุนเฉิง
เขาพูดอย่างช้าๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นชา "กองกำลังทหารทั่วไปของโลกมนุษย์ไม่มีความหมายอะไรในสายตาของข้า เห็นได้ชัดว่าข้าลืมเตือนเจ้าไป ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย ต่อหน้าผู้บัญชาการที่ครอบครองสะพานมิติ เจ้าไม่มีทางคาดคิดได้หรอกว่าแม้มีแค่คนๆ เดียวอยู่ตรงหน้าเจ้า ข้าก็สามารถเรียกกองทัพทั้งหมดมาได้ทุกเมื่อ!"
ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของเขา ซุนเฉิงไม่แม้แต่จะมองไปยังกระสุนที่พุ่งมาจากด้านหลัง เขาโบกมือครั้งหนึ่ง
ในวินาทีต่อมา หุ่นยนต์ต่อสู้รุ่นใหม่ติดอาวุธครบมือสี่ตัวก็ปรากฏตัวขึ้นจากอากาศเบื้องหลังเขา ทำให้ห้องโถงที่คับแคบอยู่แล้วรู้สึกแออัดยิ่งขึ้นไปอีก
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเรียกหุ่นยนต์ต่อสู้มาที่นี่ได้มากกว่านี้ แต่พวกมันก็ยังสามารถสร้างกำแพงเหล็กกั้นตัวซุนเฉิงเอาไว้
ทันทีที่เขาออกคำสั่งกับแกนของเขา หุ่นยนต์ต่อสู้ทั้งสี่ก็ยกอาวุธขึ้นพร้อมกันเล็งปืนไปที่ช่องว่างในกำแพงข้างหน้า ในเวลาเดียวกัน ปืนใหญ่พลาสม่าที่ติดตั้งบนบ่าของพวกมันก็เริ่มชาร์จพลังงาน
จากนั้นซุนเฉิงมองลงไปที่วลาดิเมียร์ด้วยสายตาเย็นชาอย่างที่สุด
"ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย จักรวาลอาจจะมีอารยธรรมแห่งใดแห่งหนึ่งที่สามารถเอาชนะพวกเราดีเซปติคอนได้ แต่โลกของเจ้าไม่ใช่หนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน ดังนั้นทางเลือกระหว่างสงครามและความร่วมมือขึ้นอยู่กับเจ้า... "
ใบหน้าของวลาดิเมียร์เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมและมืดมนอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้า เขาก็ตัดสินใจได้ในที่สุด
เขาตบบ่าเหล่าบอดี้การ์ดที่ล้อมรอบเขา ซึ่งทุกคนกำลังปกป้องเขาอย่างแน่นหนา เขาเลือกเดินออกไปหาซุนเฉิง
"คุณเฟรนซี่..."
ในขณะที่สายตาของเขากวาดไปทั่วซุนเฉิงและหุ่นยนต์ต่อสู้ทั้งสี่ที่ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังอีกฝ่าย วลาดิเมียร์ก็สูดหายใจเข้าลึกๆและยื่นมือออกไปหาซุนเฉิง "ขอให้ความร่วมมือของเราราบรื่น!"