บทที่ 20 เดิมพัน
บทที่ 20 เดิมพัน
"เกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณเนี่ย?!" โรบินกระโดดออกจากกองไฟเมื่อเห็นภาพตรงหน้า มีรอยฟกช้ำมากมายทั่วใบหน้าของทั้งสอง ตาขวาของซีซาร์บวม และแขนซ้ายของธีโอห้อยอยู่ในรูปร่างแปลกๆ และมีเลือดจำนวนมากไหลออกมาจากนิ้วของเขา
"คุณคิดว่ายังไงล่ะ" ซีซาร์โยนง้าวที่หักไปด้านข้างแล้วไปเอาน้ำและผ้าพันแผลมารักษาตัวเอง ขณะที่โรบินรีบเปิดแขนที่ห้อยต่องแต่งของธีโอเพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติ...
ไหล่ของเขาหลุดและมีรอยบาดทั่วแขนตั้งแต่ไหล่จนถึงนิ้ว..
“พวกเขาใช้ง้าวของฉันทำรอยแผลพวกนั้น” ซีซาร์ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้าง ๆ กล่าวแล้วเริ่มเอาสำลีเปียกมาซับที่ดวงตา
โรบินรู้ดีว่าเขาหมายถึงใคร มันต้องเป็นกลุ่มวัยรุ่นยึดบ้าน 208 ไปจากพวกเขา และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาพวกนั้นก็คุกคามพวกเขาทุกครั้งที่มีโอกาส ยิ่งพวกเขาเงียบมากเท่าไร พวกนั้นก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ธีโอมาร่วมกับพวกเขา มันกลายเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นเขาสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งและมีรอยช้ำบนใบหน้าทุกครั้งที่ออกไปซื้อเสบียงหรือเชื้อเพลิง สำหรับการรังแกทาสนั้นง่ายกว่าการรังแกนักเรียนสองคนที่มีตรารับรอง แต่โดยรวมแล้วทั้งสามคนกลายเป็นความบันเทิงของกลุ่มคนนี้สัยไม่ดีพวกนั้นไปแล้ว
แต่เนื่องจากความอ่อนแอของพวกเขา โรบินจึงแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไร เขาแค่เพิ่มหินพลังงานของธีโอเพื่อใช้พลังงานของพวกมันเพื่อรักษาตัวเขา ในขณะที่ซีซาร์กัดฟันและฝึกฝนให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซีซาร์ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้และกำลังทำแผลนั้นรู้สึกถึงเจตนาฆ่าอันรุนแรงที่มาจากโรบินเป็นครั้งแรกในชีวิต มันน่าตกใจมากจนทำให้ขนตามร่างกายของเขาลุกชันขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพราะเขารู้จักโรบินแค่ตอนที่เขาแก่ สงบ และหมกมุ่นอยู่กับการเรียนรู้ เท่านั้น แต่ตอนนี้เขาจำได้แล้ว.. ชายคนนี้อาศัยอยู่ท่ามกลางสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนมานานกว่าศตวรรษ
“ไอ้สารเลวพวกนั้น! พวกมันมากเกินไปแล้ว!! ถ้าปลอยไว้ต่อไปพวกมันจะทำได้ถึงไหนอีกล่ะ ฆ่ากันให้ตายงั้นหรอ” โรบินตะโกน จากนั้นจึงเตะประตูและมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านหลังถัดไปที่มีเครื่องหมาย *208* อยู่
เมื่อเขาเข้าใกล้ประตู เขาก็ไม่ไดัหยุดแต่อย่างใด เขาโบกมือแล้วเผาประตูในทันที
เขาเดินฝ่าควันและกองไฟเข้าพร้อมตะโกนว่า “ออกไปซะ ไอ้พวกเวร!”
“ไอ้สารเลว แกอยากตายงั้นหรอ!” รีมัส หัวหน้ากลุ่มซึ่งกำลังนั่งกอดหญิงสาวอยู่บนตักของตนตะโกนสวน เขารู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็รีบตั้งสติไว้ เขาโยนหญิงสาวไปด้านข้างแล้วรีบวิ่งไปหาโรบินเพื่อตบจะเขา แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงโรบินตะโกนว่า “แตะฉันสิ” แล้วฉันจะรายงานเรื่องแกให้เลดี้มิลลา แบรดลีย์รู้!”
ฝ่ามือของรีมัสหยุดลงก่อนจะแตะใบหน้าของโรบิน “พูดบ้าอะไรของแก! ไอ้สวะอย่างแกจะรู้จักกับเธอได้ยังไง เธอจะมาสนใจแกได้ยังไง”
แม้จะพูดไปเช่นนั้นแต่หัวใจของรีมัสกลับเต้นแรง หากเลดี้มิลลา แบรดลีย์เป็นผู้เสนอให้โรบินและน้องชายของเขาเข้ามาที่นี่ได้ การมีอยู่ของพวกเขาซึ่งอ่อนแอมากแต่ได้เข้ามาอยู่ในที่แห่งนี้ก็จะสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที
" เขากำลังโกหกแน่ๆ!"
“ถ้าเขารู้จักเลดี้มิลลาจริง ไม่สิ ถ้าเขารู้จักใครสักคนจริง เขาก็คงจะขอความช่วยเหลือไปตั้งนานแล้ว”
“ใช่แล้ว เลดี้มิลลาถูกกำหนดให้เป็นปราชญ์ แล้วเธอจะรู้จักชาวนายากจนอย่างพวกมันได้ยังไง”
เมื่อถึงจุดนี้ โรบินก็เอื้อมมือไปจับคอเสื้อรีมัสไว้ “บางทีฉันอาจจะโกหก แกอยากลองพิสูจน์มั้ยล่ะ ถ้าแกกล้าแตะต้องฉัน ซีซาร์ หรือธีโออีกครั้งฉันจะรายงานเรื่องแกทันที แล้วฉันดูว่ามิลล่าจะทำอะไรกับแกหลังจากที่เธอสัญญากับฉันว่าฉันจะอยู่อย่างปลอดภัยในสถาบันนี้!”
“ฉันอุตส่าห์เงียบเพราะไม่อยากขอความช่วยเหลืออะไรอีก...แต่แกกำลังเล่นอยู่กับความอดทนของฉันวันแล้ววันเล่า… แกชอบเล่นมากงั้นหรอ เอาล่ะ ฉันจะเล่นกับแกเอง...มาเดิมพันกันมั้ยล่ะ” โรบินพูดและเริ่มสงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อย
“เดิมพัน.. เดิมพันอะไรวะ” รีมัสผลักโรบินแล้วถาม แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจถึงภัยคุกคามของโรบิน แต่เรื่องของมิลลา แบรดลีย์ผู้โด่งดังทำให้เขาต้องคิดให้ลึกซึ้งเกี่ยวกับตัวเลือกของเขา นอกจากนี้การที่ได้เห็นประตูหายไปในทันทีและกลายเป็นขี้เถ้ายังคงติดอยู่ในใจของเขา 'ดูเหมือนว่าฉันจะไปเล่นงานคนที่ไม่ควรยุ่งด้วยแล้วสินะ..'
“หนึ่งปีต่อจากนี้ ฉันจะส่งซีซาร์น้องชายของฉันมาท้าทายพวกแกทุกคนอย่างเป็นทางการในเวทีของสถาบัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาในเวทีนี้ฉันจะไม่รายงานเรื่องพวกแก แต่แน่นอนว่าใครก็ตามในพวกแกที่เข้าร่วม หากแพ้ก็จะต้องให้ค่าตอบแทนบางอย่างกับพวกเรา...
แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น... ไปให้พ้นหน้าของพวกเราซะ!" คำพูดสุดท้ายของโรบินส่งความสั่นสะท้านไปที่หลังของรีมัสและพรรคพวกของเขา.. พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะ ชื่อของเลดี้มิลลาหรือการปรากฏตัวของเด็กผู้เกรี้ยวกราดคนนี้กันแน่.. แต่พวกเขาตัดสินใจว่ามันเป็นเพราะอิทธิพลของเลดี้มิลลาอย่างแน่นอน พวกเขาไม่มีทางที่จะยอมรับว่าเด็กที่มีพลังเพียงระดับที่สามจะข่มเหงพวกเขาจนอยู่หมัดได้แบบนี้
"ฉันเห็นด้วย" ทันทีที่คำพูดสองคำนี้ออกมาจากปากของรีมัส โรบินก็พยักหน้าแล้วเดินออกมาจากบ้าน พร้อมลากซีซาร์และธีโอกลับไปและปล่อยให้อันธพาลทั้งกลุ่มเงียบไปเป็นเวลานาน
จนกระทั่งมีคนพูดด้วยความโกรธว่า "ซีซาร์คนนั้นยังอยู่ในระดับที่สี่เอง เขาคิดจริงหรอว่าเด็กคนนั้นจะไปถึงระดับที่สามารถเอาชนะเราทุกคนได้ภายในหนึ่งปีน่ะ เขาคิดว่าเขาเป็นพระเจ้า..หรือคิดว่าเราไร้ประโยชน์กันวะ"
“หึหึ ถ้าเขาต้องการฆ่าน้องชายของเขาขนาดนั้นแล้วเราจะไปคัดค้านทำไมล่ะ” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งหัวเราะ
นี่เป็นภารกิจฆ่าตัวตายในสายตาของพวกเขาจริงๆ ผู้ที่นั่งอยู่ที่นี่ล้วนเป็นขุนนางที่มีศิลปะการต่อสู้อันทรงพลังจากครอบครัวของพวกเขา ผู้ที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มของพวกเขาอยู่ที่ระดับหกและผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือรีมัสซึ่งอยู่ที่ระดับสิบมานานกว่าหนึ่งปีและกำลังศึกษากฎเพื่อสร้างเสาหลักของเขา!
แต่รีมัสไม่ได้ร่วมหัวเราะด้วย เขาเพียงแค่กลับมานั่งที่เดิมอย่างเงียบๆ .. พยายามคิดหาทางหลีกเลี่ยงความโกรธของเลดี้มิลล่า แบรดลีย์หลังจากที่เขาจะสังหารเด็กคนนั้นในสนามประลอง
….
โรบินเข้าไปในบ้านและนั่งสมาธิอยู่ในกองไฟโดยหลับตา ใครก็ตามที่เห็นเขาในตอนนี้คงไม่สังเกตเห็นสิ่งใดเลย แต่ซีซาร์ซึ่งอยู่กับเขามานานแล้วย่อมรู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิด.." แต่นี่มันไม่หุนหันพลันแล่นสักหน่อยเหรอ ในหนึ่งปีฉันจะทำอะไรได้บ้างเนี่ย
โรบินลืมตาขึ้นและมองซีซาร์อย่างจริงจัง "เชื่อฉันเถอะ.... ฉันจะทำให้แกแข็งแกร่งพอที่จะเอาง้าวที่หักของแกยัดตูดพวกมันทั้งหมดได้!"