ตอนที่แล้วบทที่ 18 : ผิวทองแดงเเละกระดูกเหล็ก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 20​ : บัตรเชิญ!

บทที่ 19​ : คัมภีร์​เตา​หลอม​โลหิต!


บทที่ 19​ : คัมภีร์​เตา​หลอม​โลหิต!

แน่นอนว่าผู้ที่พูดคือคัมภีร์เตาหลอมโลหิต!

[โอ้ มีสมาชิกใหม่ด้วยแฮะ!]​

[ยินดีต้อนรับนะ!]​

วิชาฝึกปราณขั้นพื้นฐานกล่าวทักทายอย่างยินดี

การที่เลื่อนระดับเป็นระดับสีเหลือง และยังทำให้ขอบเขตการบ่มเพาะพลังของหลินเสวียนทะลุถึงขั้นที่สาม

ทำให้วิชาฝึกปราณขั้นพื้นฐานรู้สึกภูมิใจในตัวเองอีกครั้ง!

[สาธุ!]​

วิชาระฆังทองคำอมตะสวดมนต์แล้วกล่าวว่า

[ท่านผู้มาใหม่, ท่านพอจะมีวิธีที่ทำให้ข้าพเจ้าได้อาบโอสถบ้างไหม?]​

[เรื่องแค่นี้เอง!]​

คัมภีร์เตาหลอมโลหิตเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชา

[ของแค่มีสมุนไพร การทำโอสถก็จะเป็นเรื่องง่ายดาย]​

[ยิ่งถ้ามีเลือดของสัตว์อสูรหายาก….ผลลัพธ์มันก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก!]

[เเละแน่นอนว่าถ้าเป็นเลือดของผู้ฝึกยุทธ​์ล่ะก็ จุ๊ๆๆ…]​

คำพูดของคัมภีร์เตาหลอมโลหิตชั่งเต็มไปด้วยความชั่วร้าย

[สาธุ!]​

[บาปกรรม, บาปกรรม​….เราจะใช้เลือดของผู้ฝึกยุทธ​์ได้อย่างไร]​

คำพูดของคัมภีร์เตาหลอมโลหิต ทำให้วิชาระฆังทองคำอมตะรีบกล่าวห้ามปราม​

[เด็กใหม่…แกนี่พูดมากเหลือเกินนะ!]​

วิชาดาบคลั่งสามวิถีดูเหมือนจะมีท่าทีเป็นศัตรูกับคัมภีร์เตาหลอมโลหิต

หนึ่งเย่อหยิ่ง!....หนึ่งชั่วร้าย!

ไม่เเปลกที่ทั้งคู่จะตั้งเเง่ใส่กัน

แต่ลึกๆแล้วดูเหมือนทั้งคู่จะเป็นวิชาที่ชอบเอาเเต่ใจ​ไม่ต่างกัน…พวกเขาราวกับเข็มที่จ้องจะทิ่มแทงกันอยู่ตลอดเวลา​

[มีอะไรไม่พอใจรึไง?]​

แม้ว่าคัมภีร์เตาหลอมโลหิตจะเป็นเพียงระดับพื้นฐาน

แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิชาดาบคลั่งสามวิถีระดับ​สีเหลือง…มันก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย

[ยอดเยี่ยม, แกประสบความสำเร็จในการดึงดูดความสนใจจากข้าแล้ว!]​

วิชาดาบคลั่งสามวิถีกล่าวอย่างเย็นชา

[เหอะ…พูดเหมือนข้าจะกลัวแกงั้นแหละ!]​

[รอให้นายท่านของข้าหาเพลิงโอสถมาให้ข้าหลอมรวมก่อนเถอะ, รับรองว่าข้าแซงแกได้ในพริบตาเเน่ๆ!]​

คัมภีร์เตาหลอมโลหิตไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย

แต่เมื่อพูดถึงหลินเสวียน มันก็เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงประจบสอพลอทันที!

ดูเหมือนว่า…คัมภีร์เตาหลอมโลหิตจะเป็นพวกอยู่เป็นสุดๆ

"การเลื่อนระดับของเจ้า ต้องการเพลิงโอสถ?"

หัวใจของหลินเสวียนเต้นแรง!

หลินเสวียนจดจำเนื้อในคัมภีร์เตาหลอมโลหิตได้เเล้ว, ดังนั้นเขาจึงรู้จักเพลิงโอสถเป็นอย่างดี

เพลิงโอสถคือเปลวไฟพิเศษที่ผู้ฝึกยุทธ​์ใช้ในการปรุงโอสถ

เพลิงโอสถที่แตกต่างกันจะมีผลต่อการปรุงโอสถที่แตกต่างกัน

เเถมมีเพลิงโอสถบางชนิดก็มีพลังมหาศาล…พวกนี้สามารถ​ใช้ในการต่อสู้ได้เลย!

[ใช่แล้ว!!]​

[นายท่านผู้ทรงพลังเเละเก่งกาจ​ของข้า…ท่านคงสามารถ​หาเพลิงโอสถมาให้ข้าได้ใช่ไหม?]​

คัมภีร์เตาหลอมโลหิตพูดด้วยน้ำเสียงประจบสอพลอ

"ตกลง ข้าจะหามาให้เจ้าเอง!"

หลินเสวียนยิ้มรับ

เขาไม่ได้รังเกียจบุคลิกแบบนี้ของคัมภีร์เตาหลอมโลหิต

"เพลิงโอสถหายาก, แต่โอสถสำหรับการอาบนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไร"

หลินเสวียนครุ่นคิดแล้วพึมพำ​

การจะได้สิ่งของอย่างเพลิงโอสถนั้นมันขึ้นอยู่กับโชคชะตา…ถือเป็นสิ่งที่หายากมาก

แต่การอาบโอสถนั้นไม่เหมือนกัน

ถ้ามีสมุนไพรเพียงพอ หลินเสวียนก็สามารถปรุงโอสถ​สำหรับ​อาบเองได้

ก่อนหน้า​นี้, หลินเสวียนได้เห็นความแข็งแกร่งในการป้องกันของวิชาระฆังทองคำอมตะมาแล้ว

แม้แต่ฝ่ามือที่รุนแรงที่สุดของพระวัยกลางคน​ก็ไม่สามารถทำลายการป้องกันของวิชาระฆังทองคำอมตะได้

ยิ่งไปกว่านั้น พระวัยกลางคน​ยังถูกพลังสะท้อน​จนต้องกระเด็นออกไป!

เเละนั่นคือช่วงก่อน…ตอนนี้ร่ายกายของหลินเสวียนแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น​เเล้ว

ร่างกายของเขาไปถึงระดับผิวทองแดงและกระดูกเหล็ก

ความสามารถในการป้องกันก็น่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้า​นี้มาก

เเต่ถ้าหากแข็งแกร่งขึ้นไปอีกได้ ก็จะเป็นเรื่องดีกว่า

เมื่อพูดถึงสมุนไพร…หลินเสวียนก็นึกถึงลู่จื่อเยว่ขึ้นมาทันที​!

หนึ่งในวิธีหาเงินของลู่จื่อเยว่ ก็คือการรวบรวมสมุนไพรสำหรับผู้อาวุโสฝ่ายนอก

เเถมดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเหมาะกับลู่จื่อเยว่มากที่สุด

เมื่อคิดได้แบบนั้น หลินเสวียนก็ตรงไปที่ที่พักของลู่จื่อเยว่ทันที และบังเอิญเจอกับลู่จื่อเยว่ที่กำลังแต่งตัวเตรียมออกไปพอดี…

"ศิษย์พี่ลู่!" หลินเสวียนทักทายลู่จื่อเยว่อย่างรวดเร็ว​

"ศิษย์น้องหลิน?"

ลู่จื่อเยว่ถึงกับงุนงง

ตอนนี้เขามองหลินเสวียนด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก

เรื่องที่หลินเสวียนสัมผัสพลังปราณได้ภายในสามวัน…ได้แพร่กระจายไปทั่วศิษย์สายนอกแล้ว

ตอนนี้,​ เมื่อได้พบกับหลินเสวียนอีกครั้ง…ลู่จื่อเยว่ก็รู้สึกทั้งดีใจ และอิจฉาปะปนกันไป

ลู่จื่อเยว่เข้าสำนักมาหนึ่งปี เขาถึงจะเริ่มสัมผัสพลังปราณได้

เขาจึงถือได้ว่าเป็นชนชั้นล่างของศิษย์ฝ่ายนอกเลยทีเดีย​ว

แต่หลินเสวียนกลับใช้เวลาเพียงสามวันเท่านั้น…ก็สัมผัสพลังปราณได้แล้ว

เรื่องนี้ช่างน่าเหลือเชื่อมาก!

เเละอีกไม่นานหลินเสวียนก็จะได้เข้าเป็นศิษย์สายในอย่างเเน่นอน

ด้วยพรสวรรค์ที่หลินเสวียนแสดงออกมา…ฐานะในอนาคต​ของเขาย่อมเหนือกว่าลู่จื่อเยว่อย่างมาก

เดิมทีลู่จื่อเยว่คิดว่าทั้งสองคงจะไม่ได้ข้องเกี่ยวกันมากนักในอนาคต

แต่ไม่คิดเลยว่า หลินเสวียนจะมาหาเขาถึงที่ตั้งแต่เช้าตรู่!

"ศิษย์พี่ลู่ กำลังจะลงเขาหรือ?"

หลินเสวียนไม่ได้แสดงท่าทีที่แตกต่างจากปกติเลยสักนิด​

"ใช่แล้ว!"

"ข้ากำลังจะลงเขา!"

"เมื่อวานข้าเพิ่งส่งสมุนไพรให้ผู้อาวุโสฝ่ายนอกไป, วันนี้ได้รับภารกิจต้องไปซื้อสมุนไพรอีกชุดหนึ่ง"

"เเล้วข้าจะถือโอกาสนี้หาคนซื้อคัมภีร์วิชาระฆังทองคำอมตะฉบับไม่สมบูรณ์ไปด้วยเลย"

เมื่อ​ลู่จื่อเยว่เห็นว่าท่าทีของหลินเสวียนไม่เปลี่ยนไป, เขาก็พูดคุยด้วยท่าทีกระตือรือร้นทันที​

"แบบนี้ก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่"

หลินเสวียนพูดด้วยความผิดหวังเล็กน้อย

"หืมมม…ศิษย์น้องอยากให้ข้าช่วยอะไรหรือ?"

ลู่จื่อเยว่วางห่อที่ถืออยู่ในมือลง…เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเยว่ไม่มีแหวนมิติ

"อืม!"

"พอดีข้าพึ่งฝึกวิชาระฆังทองคำอมตะสำเร็จ, ข้สเลยอยากซื้อสมุนไพรไปอาบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของวิชา" หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม

"เเย่จัง…ตอนนี้ข้าไม่มีสมุนไพรติดตัวเลย" ลู่จื่อเยว่ขมวดคิ้ว

"ศิษย์น้อง​ ถ้าอย่างนั้นเอาอย่าง​นี้ดีไหม?"

"ข้าจะพาเจ้าไปพบกับผู้อาวุโสฝ่ายนอกท่านหนึ่ง!"

"สมุนไพรที่เจ้าต้องการ ผู้​อาวุโส​ต้องมีแน่ๆ" ลู่จื่อเยว่กล่าว

"ข้าเป็นแค่ศิษย์ฝึกหัด จะได้พบกับผู้อาวุโสฝ่ายนอกได้อย่างไร?"

หลินเสวียนตกตะลึง​เล็กน้อย

"เมื่อวานคงไม่ได้ แต่ถ้าวันนี้ล่ะก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!"

ลู่จื่อเยว่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่น​ใจ

"มันเกี่ยวข้องกับที่ข้าสัมผัสพลังปราณได้เมื่อวานนี้หรือเปล่า​?"

"ใช่แล้ว!"

"ศิษย์น้องหลิน เจ้าสามารถสัมผัสพลังปราณได้ภายในสามวัน…ต่อไปมันต้องมีคนมาชักชวนเจ้าเข้ากลุ่มมากมายแน่ๆ"

"แม้ว่าเจ้าจะยังไม่ได้เข้าฝ่ายใน แต่ผู้อาวุโสฝ่ายนอกก็คงจะให้เกียรติเจ้าอยู่บ้าง"

ลู่จื่อเยว่กล่าว

"แค่สัมผัสพลังปราณได้ ก็มีอิทธิพลขนาดนั้นเลยหรือ?"

หลินเสวียนประหลาดใจเล็กน้อย

การสัมผัสพลังปราณได้ มันก็แค่ช่วงเริ่มต้นเท่านั้น

"ศิษย์น้องหลิน เจ้ายังไม่รู้อะไร!"

"ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสฝ่ายนอกส่วนใหญ่ก็แค่ขอบเขต​ก่อกำเนิดเเก่นเเท้เท่านั้น​"

"พวกที่เป็นผู้อาวุโสฝ่ายนอก ชีวิตนี้ของพวกเขา​คงไม่มีศักยภาพอะไรอีกแล้ว….พูดตรงๆก็คือหมดอนาคตแล้วล่ะ"

"ถ้าพวกเขายังอยู่ในสำนักเเละอยากจะมีชีวิตที่สุขสบายต่อไป…เเค่พึ่งตัวเองอย่างเดียวคงไม่ได้"

ลู่จื่อเยว่พูดด้วยน้ำเสียงต่ำ

"หมายความว่า, พวกเขาต้องพึ่งลูกศิษย์อย่างนั้นหรือ?"

หลินเสวียนพึมพำ​ออกมา

"ถูกต้อง​!"

"แท้จริงแล้ว, ผู้อาวุโสฝ่ายนอกทุกคน ต่างก็มีคนหนุนหลังอยู่ในฝ่ายใน!"

"และทุกครั้งที่ปรากฏตัวศิษย์ที่มีศักยภาพในการเข้าสู่ฝ่ายใน, ผู้อาวุโสเหล่านี้ก็จะพยายามชักชวนเข้ากลุ่มตัวเอง…ตราบใดที่ยังอยู่ในกฎ"

"ไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสฝ่ายนอกเท่านั้น แม้แต่ศิษย์ฝ่ายนอกหลายคนก็จะพยายามชักชวนเหล่าศิษย์​อัจฉริยะ​เช่นกัน!"

"และศิษย์น้องหลิน เจ้าคือคนที่ทุกคนต้องการ​อย่างไม่ต้องสงสัย!"

……………….

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด