บทที่ 19 : คัมภีร์เตาหลอมโลหิต!
บทที่ 19 : คัมภีร์เตาหลอมโลหิต!
แน่นอนว่าผู้ที่พูดคือคัมภีร์เตาหลอมโลหิต!
[โอ้ มีสมาชิกใหม่ด้วยแฮะ!]
[ยินดีต้อนรับนะ!]
วิชาฝึกปราณขั้นพื้นฐานกล่าวทักทายอย่างยินดี
การที่เลื่อนระดับเป็นระดับสีเหลือง และยังทำให้ขอบเขตการบ่มเพาะพลังของหลินเสวียนทะลุถึงขั้นที่สาม
ทำให้วิชาฝึกปราณขั้นพื้นฐานรู้สึกภูมิใจในตัวเองอีกครั้ง!
[สาธุ!]
วิชาระฆังทองคำอมตะสวดมนต์แล้วกล่าวว่า
[ท่านผู้มาใหม่, ท่านพอจะมีวิธีที่ทำให้ข้าพเจ้าได้อาบโอสถบ้างไหม?]
[เรื่องแค่นี้เอง!]
คัมภีร์เตาหลอมโลหิตเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชา
[ของแค่มีสมุนไพร การทำโอสถก็จะเป็นเรื่องง่ายดาย]
[ยิ่งถ้ามีเลือดของสัตว์อสูรหายาก….ผลลัพธ์มันก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก!]
[เเละแน่นอนว่าถ้าเป็นเลือดของผู้ฝึกยุทธ์ล่ะก็ จุ๊ๆๆ…]
คำพูดของคัมภีร์เตาหลอมโลหิตชั่งเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
[สาธุ!]
[บาปกรรม, บาปกรรม….เราจะใช้เลือดของผู้ฝึกยุทธ์ได้อย่างไร]
คำพูดของคัมภีร์เตาหลอมโลหิต ทำให้วิชาระฆังทองคำอมตะรีบกล่าวห้ามปราม
[เด็กใหม่…แกนี่พูดมากเหลือเกินนะ!]
วิชาดาบคลั่งสามวิถีดูเหมือนจะมีท่าทีเป็นศัตรูกับคัมภีร์เตาหลอมโลหิต
หนึ่งเย่อหยิ่ง!....หนึ่งชั่วร้าย!
ไม่เเปลกที่ทั้งคู่จะตั้งเเง่ใส่กัน
แต่ลึกๆแล้วดูเหมือนทั้งคู่จะเป็นวิชาที่ชอบเอาเเต่ใจไม่ต่างกัน…พวกเขาราวกับเข็มที่จ้องจะทิ่มแทงกันอยู่ตลอดเวลา
[มีอะไรไม่พอใจรึไง?]
แม้ว่าคัมภีร์เตาหลอมโลหิตจะเป็นเพียงระดับพื้นฐาน
แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิชาดาบคลั่งสามวิถีระดับสีเหลือง…มันก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย
[ยอดเยี่ยม, แกประสบความสำเร็จในการดึงดูดความสนใจจากข้าแล้ว!]
วิชาดาบคลั่งสามวิถีกล่าวอย่างเย็นชา
[เหอะ…พูดเหมือนข้าจะกลัวแกงั้นแหละ!]
[รอให้นายท่านของข้าหาเพลิงโอสถมาให้ข้าหลอมรวมก่อนเถอะ, รับรองว่าข้าแซงแกได้ในพริบตาเเน่ๆ!]
คัมภีร์เตาหลอมโลหิตไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อพูดถึงหลินเสวียน มันก็เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงประจบสอพลอทันที!
ดูเหมือนว่า…คัมภีร์เตาหลอมโลหิตจะเป็นพวกอยู่เป็นสุดๆ
"การเลื่อนระดับของเจ้า ต้องการเพลิงโอสถ?"
หัวใจของหลินเสวียนเต้นแรง!
หลินเสวียนจดจำเนื้อในคัมภีร์เตาหลอมโลหิตได้เเล้ว, ดังนั้นเขาจึงรู้จักเพลิงโอสถเป็นอย่างดี
เพลิงโอสถคือเปลวไฟพิเศษที่ผู้ฝึกยุทธ์ใช้ในการปรุงโอสถ
เพลิงโอสถที่แตกต่างกันจะมีผลต่อการปรุงโอสถที่แตกต่างกัน
เเถมมีเพลิงโอสถบางชนิดก็มีพลังมหาศาล…พวกนี้สามารถใช้ในการต่อสู้ได้เลย!
[ใช่แล้ว!!]
[นายท่านผู้ทรงพลังเเละเก่งกาจของข้า…ท่านคงสามารถหาเพลิงโอสถมาให้ข้าได้ใช่ไหม?]
คัมภีร์เตาหลอมโลหิตพูดด้วยน้ำเสียงประจบสอพลอ
"ตกลง ข้าจะหามาให้เจ้าเอง!"
หลินเสวียนยิ้มรับ
เขาไม่ได้รังเกียจบุคลิกแบบนี้ของคัมภีร์เตาหลอมโลหิต
"เพลิงโอสถหายาก, แต่โอสถสำหรับการอาบนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไร"
หลินเสวียนครุ่นคิดแล้วพึมพำ
การจะได้สิ่งของอย่างเพลิงโอสถนั้นมันขึ้นอยู่กับโชคชะตา…ถือเป็นสิ่งที่หายากมาก
แต่การอาบโอสถนั้นไม่เหมือนกัน
ถ้ามีสมุนไพรเพียงพอ หลินเสวียนก็สามารถปรุงโอสถสำหรับอาบเองได้
ก่อนหน้านี้, หลินเสวียนได้เห็นความแข็งแกร่งในการป้องกันของวิชาระฆังทองคำอมตะมาแล้ว
แม้แต่ฝ่ามือที่รุนแรงที่สุดของพระวัยกลางคนก็ไม่สามารถทำลายการป้องกันของวิชาระฆังทองคำอมตะได้
ยิ่งไปกว่านั้น พระวัยกลางคนยังถูกพลังสะท้อนจนต้องกระเด็นออกไป!
เเละนั่นคือช่วงก่อน…ตอนนี้ร่ายกายของหลินเสวียนแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้นเเล้ว
ร่างกายของเขาไปถึงระดับผิวทองแดงและกระดูกเหล็ก
ความสามารถในการป้องกันก็น่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้านี้มาก
เเต่ถ้าหากแข็งแกร่งขึ้นไปอีกได้ ก็จะเป็นเรื่องดีกว่า
เมื่อพูดถึงสมุนไพร…หลินเสวียนก็นึกถึงลู่จื่อเยว่ขึ้นมาทันที!
หนึ่งในวิธีหาเงินของลู่จื่อเยว่ ก็คือการรวบรวมสมุนไพรสำหรับผู้อาวุโสฝ่ายนอก
เเถมดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเหมาะกับลู่จื่อเยว่มากที่สุด
เมื่อคิดได้แบบนั้น หลินเสวียนก็ตรงไปที่ที่พักของลู่จื่อเยว่ทันที และบังเอิญเจอกับลู่จื่อเยว่ที่กำลังแต่งตัวเตรียมออกไปพอดี…
"ศิษย์พี่ลู่!" หลินเสวียนทักทายลู่จื่อเยว่อย่างรวดเร็ว
"ศิษย์น้องหลิน?"
ลู่จื่อเยว่ถึงกับงุนงง
ตอนนี้เขามองหลินเสวียนด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก
เรื่องที่หลินเสวียนสัมผัสพลังปราณได้ภายในสามวัน…ได้แพร่กระจายไปทั่วศิษย์สายนอกแล้ว
ตอนนี้, เมื่อได้พบกับหลินเสวียนอีกครั้ง…ลู่จื่อเยว่ก็รู้สึกทั้งดีใจ และอิจฉาปะปนกันไป
ลู่จื่อเยว่เข้าสำนักมาหนึ่งปี เขาถึงจะเริ่มสัมผัสพลังปราณได้
เขาจึงถือได้ว่าเป็นชนชั้นล่างของศิษย์ฝ่ายนอกเลยทีเดียว
แต่หลินเสวียนกลับใช้เวลาเพียงสามวันเท่านั้น…ก็สัมผัสพลังปราณได้แล้ว
เรื่องนี้ช่างน่าเหลือเชื่อมาก!
เเละอีกไม่นานหลินเสวียนก็จะได้เข้าเป็นศิษย์สายในอย่างเเน่นอน
ด้วยพรสวรรค์ที่หลินเสวียนแสดงออกมา…ฐานะในอนาคตของเขาย่อมเหนือกว่าลู่จื่อเยว่อย่างมาก
เดิมทีลู่จื่อเยว่คิดว่าทั้งสองคงจะไม่ได้ข้องเกี่ยวกันมากนักในอนาคต
แต่ไม่คิดเลยว่า หลินเสวียนจะมาหาเขาถึงที่ตั้งแต่เช้าตรู่!
"ศิษย์พี่ลู่ กำลังจะลงเขาหรือ?"
หลินเสวียนไม่ได้แสดงท่าทีที่แตกต่างจากปกติเลยสักนิด
"ใช่แล้ว!"
"ข้ากำลังจะลงเขา!"
"เมื่อวานข้าเพิ่งส่งสมุนไพรให้ผู้อาวุโสฝ่ายนอกไป, วันนี้ได้รับภารกิจต้องไปซื้อสมุนไพรอีกชุดหนึ่ง"
"เเล้วข้าจะถือโอกาสนี้หาคนซื้อคัมภีร์วิชาระฆังทองคำอมตะฉบับไม่สมบูรณ์ไปด้วยเลย"
เมื่อลู่จื่อเยว่เห็นว่าท่าทีของหลินเสวียนไม่เปลี่ยนไป, เขาก็พูดคุยด้วยท่าทีกระตือรือร้นทันที
"แบบนี้ก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่"
หลินเสวียนพูดด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
"หืมมม…ศิษย์น้องอยากให้ข้าช่วยอะไรหรือ?"
ลู่จื่อเยว่วางห่อที่ถืออยู่ในมือลง…เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเยว่ไม่มีแหวนมิติ
"อืม!"
"พอดีข้าพึ่งฝึกวิชาระฆังทองคำอมตะสำเร็จ, ข้สเลยอยากซื้อสมุนไพรไปอาบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของวิชา" หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม
"เเย่จัง…ตอนนี้ข้าไม่มีสมุนไพรติดตัวเลย" ลู่จื่อเยว่ขมวดคิ้ว
"ศิษย์น้อง ถ้าอย่างนั้นเอาอย่างนี้ดีไหม?"
"ข้าจะพาเจ้าไปพบกับผู้อาวุโสฝ่ายนอกท่านหนึ่ง!"
"สมุนไพรที่เจ้าต้องการ ผู้อาวุโสต้องมีแน่ๆ" ลู่จื่อเยว่กล่าว
"ข้าเป็นแค่ศิษย์ฝึกหัด จะได้พบกับผู้อาวุโสฝ่ายนอกได้อย่างไร?"
หลินเสวียนตกตะลึงเล็กน้อย
"เมื่อวานคงไม่ได้ แต่ถ้าวันนี้ล่ะก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!"
ลู่จื่อเยว่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
"มันเกี่ยวข้องกับที่ข้าสัมผัสพลังปราณได้เมื่อวานนี้หรือเปล่า?"
"ใช่แล้ว!"
"ศิษย์น้องหลิน เจ้าสามารถสัมผัสพลังปราณได้ภายในสามวัน…ต่อไปมันต้องมีคนมาชักชวนเจ้าเข้ากลุ่มมากมายแน่ๆ"
"แม้ว่าเจ้าจะยังไม่ได้เข้าฝ่ายใน แต่ผู้อาวุโสฝ่ายนอกก็คงจะให้เกียรติเจ้าอยู่บ้าง"
ลู่จื่อเยว่กล่าว
"แค่สัมผัสพลังปราณได้ ก็มีอิทธิพลขนาดนั้นเลยหรือ?"
หลินเสวียนประหลาดใจเล็กน้อย
การสัมผัสพลังปราณได้ มันก็แค่ช่วงเริ่มต้นเท่านั้น
"ศิษย์น้องหลิน เจ้ายังไม่รู้อะไร!"
"ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสฝ่ายนอกส่วนใหญ่ก็แค่ขอบเขตก่อกำเนิดเเก่นเเท้เท่านั้น"
"พวกที่เป็นผู้อาวุโสฝ่ายนอก ชีวิตนี้ของพวกเขาคงไม่มีศักยภาพอะไรอีกแล้ว….พูดตรงๆก็คือหมดอนาคตแล้วล่ะ"
"ถ้าพวกเขายังอยู่ในสำนักเเละอยากจะมีชีวิตที่สุขสบายต่อไป…เเค่พึ่งตัวเองอย่างเดียวคงไม่ได้"
ลู่จื่อเยว่พูดด้วยน้ำเสียงต่ำ
"หมายความว่า, พวกเขาต้องพึ่งลูกศิษย์อย่างนั้นหรือ?"
หลินเสวียนพึมพำออกมา
"ถูกต้อง!"
"แท้จริงแล้ว, ผู้อาวุโสฝ่ายนอกทุกคน ต่างก็มีคนหนุนหลังอยู่ในฝ่ายใน!"
"และทุกครั้งที่ปรากฏตัวศิษย์ที่มีศักยภาพในการเข้าสู่ฝ่ายใน, ผู้อาวุโสเหล่านี้ก็จะพยายามชักชวนเข้ากลุ่มตัวเอง…ตราบใดที่ยังอยู่ในกฎ"
"ไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสฝ่ายนอกเท่านั้น แม้แต่ศิษย์ฝ่ายนอกหลายคนก็จะพยายามชักชวนเหล่าศิษย์อัจฉริยะเช่นกัน!"
"และศิษย์น้องหลิน เจ้าคือคนที่ทุกคนต้องการอย่างไม่ต้องสงสัย!"
……………….